“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

ชาวอิสราเอลเดินทางจากคาเดชถึงแม่น้ำอารโนนa

2 1ต่อมาเมื่อพระยาห์เวห์ทรงบัญชา เราจึงหันกลับ ออกเดินทางผ่านถิ่นทุรกันดาร มุ่งไปสู่ทะเลต้นกก เราเดินทางเร่ร่อนรอบภูเขาเสอีร์bเป็นเวลาหลายวัน 2แล้วพระยาห์เวห์ตรัสแก่ข้าพเจ้าว่า 3“ท่านทั้งหลายได้เดินทางเร่ร่อนรอบภูเขานี้มานานพอแล้ว จงเลี้ยวไปทางเหนือ 4จงสั่งประชาชนว่า ท่านทั้งหลายกำลังเดินทางผ่านดินแดนของบุตรหลานเอซาวพี่น้องของท่าน ผู้อาศัยอยู่แถบภูเขาเสอีร์ เขาทั้งหลายจะกลัวท่าน แต่ท่านจงระวังให้ดี 5อย่าทำสงครามกับเขา เพราะเราไม่ได้ยกแผ่นดินของเขาให้ท่านแม้แต่คืบเดียว เรามอบดินแดนแถบภูเขาเสอีร์ให้เป็นมรดกของเอซาวc 6ท่านจะจ่ายเงินซื้ออาหารที่จะกิน และซื้อน้ำที่จะดื่มจากเขาได้ 7พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงอวยพรทุกสิ่งที่ท่านทำ พระองค์ทรงดูแลท่านเมื่อเร่ร่อนผ่านถิ่นทุรกันดารกว้างใหญ่ไพศาลนี้ พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านสถิตกับท่านตลอดสี่สิบปี ท่านไม่ขาดแคลนสิ่งใดเลย”

8เราจึงผ่านแผ่นดินของพี่น้องของเรา คือบุตรหลานของเอซาว ซึ่งอาศัยอยู่ในแถบภูเขาเสอีร์ และตามหุบเขาอาราบาห์ จากเมืองเอลัท และเอซีโอนเกเบอร์ แล้วจึงเลี้ยวกลับเดินทางมุ่งไปยังถิ่นทุรกันดารโมอับ 9พระยาห์เวห์ตรัสแก่ข้าพเจ้าว่า “อย่ารบกวนโมอับ และอย่าทำสงครามกับเขา เพราะเราไม่ได้ยกแผ่นดินของเขาให้ท่านยึดครองแม้แต่น้อย เราได้มอบเมืองอาร์ให้เป็นมรดกแก่บุตรหลานของโลท” 10ก่อนหน้านั้นชาวเอมิมเคยอาศัยอยู่ที่นั่น เป็นชนชาติใหญ่มีจำนวนมาก รูปร่างสูงใหญ่เหมือนบุตรของยักษ์อานาค 11ทุกคนเรียกชนที่มีรูปร่างเหมือนยักษ์อานาคนี้ว่าชาวเรฟาอิม แต่ชาวโมอับเรียกเขาว่าชาวเอมิม 12แต่ก่อนชนชาวโฮรีdเคยอาศัยอยู่ในแถบภูเขาเสอีร์ด้วย แต่บุตรหลานของเอซาวขับไล่เขาออกไป ทำลายล้างจนหมดสิ้น แล้วตั้งหลักแหล่งอยู่ที่นั่นแทน เหมือนในเวลาต่อมา ชาวอิสราเอลเข้ายึดครองแผ่นดินที่พระยาห์เวห์ทรงมอบเป็นมรดกแก่เขา

13บัดนี้ ท่านทั้งหลายจงลุกขึ้นและข้ามห้วยเศเรดไปเถิด เราจึงข้ามห้วยเศเรด 14การเดินทางของเราจากคาเดชบารเนอาจนถึงข้ามห้วยเศเรดใช้เวลาสามสิบแปดปี จนกระทั่งคนในรุ่นนั้นที่ทำสงครามได้ต้องตายจากไปจนหมดสิ้นดังที่พระยาห์เวห์ทรงปฏิญาณไว้ 15พระหัตถ์พระยาห์เวห์ได้สู้กับเขา พระองค์ทรงทำลายเขาจนหมดสิ้นไปจากค่าย

16เมื่อคนรุ่นนั้นที่ทำสงครามได้สิ้นชีวิตไปแล้ว 17พระยาห์เวห์ตรัสแก่ข้าพเจ้าว่า 18“วันนี้ท่านทั้งหลายต้องข้ามพรมแดนโมอับไปทางเมืองอาร์ 19แล้วเข้าเผชิญหน้ากับชาวอัมโมนe อย่ารบกวนเขา และอย่าทำสงครามกับเขา เพราะเราไม่ได้ยกแผ่นดินของชาวอัมโมนให้ท่านยึดครองแม้แต่น้อย เราได้มอบแผ่นดินนี้ให้เป็นมรดกแก่บุตรหลานของโลทแล้ว” 20แผ่นดินนี้ทุกคนเรียกกันว่าแผ่นดินของชาวเรฟาอิม เพราะชาวเรฟาอิมเคยอาศัยอยู่ที่นั่น แต่ชาวอัมโมนเรียกเขาว่าชาวศัมซุมมิม 21คนเหล่านี้เป็นชนชาติใหญ่ มีจำนวนมาก รูปร่างสูงใหญ่เหมือนบุตรของยักษ์อานาค แต่พระยาห์เวห์ทรงทำลายเขา ให้ชาวอัมโมนขับไล่เขาออกไป และตั้งหลักแหล่งอาศัยอยู่ที่นั่นแทน 22พระยาห์เวห์ทรงทำเช่นเดียวกันกับบรรดาบุตรหลานของเอซาวซึ่งอาศัยอยู่แถบภูเขาเสอีร์ พระองค์ทรงทำลายชาวโฮรี ให้ชาวเอโดมขับไล่เขาออกไป และตั้งหลักแหล่งอาศัยอยู่ที่นั่นแทนมาจนบัดนี้ 23ชาวครีตfซึ่งมาจากเกาะครีตทำลายชาวอัฟวิม ซึ่งอาศัยตามหมู่บ้านทางทิศใต้ไปจนถึงเมืองกาซา แล้วเข้าตั้งหลักแหล่งอาศัยอยู่ที่นั่นแทน

24“ท่านทั้งหลายจงลุกขึ้น ออกเดินทางข้ามแม่น้ำอารโนนไปเถิด ดูซิ เราจะมอบกษัตริย์สิโหนชาวอาโมไรต์ ซึ่งเป็นกษัตริย์แห่งเมืองเฮชโบนให้อยู่ในอำนาจของท่าน พร้อมกับแผ่นดินของเขาด้วย จงยกพลเข้าโจมตีและยึดครองแผ่นดินของเขาเถิด 25วันนี้ เราจะทำให้ประชากรทั้งหลายใต้ท้องฟ้าตระหนกตกใจกลัวท่าน ทุกคนที่ได้ยินชื่อของท่านจะตระหนกตกใจกลัวจนตัวสั่น”

 

ชาวอิสราเอลยึดครองแผ่นดินของกษัตริย์สิโหนg

26แล้วข้าพเจ้าส่งผู้ถือสารจากถิ่นทุรกันดารเคเดโมทhไปเฝ้ากษัตริย์สิโหนแห่งเมืองเฮชโบน พร้อมกับข้อเสนอสันติภาพว่า 27“ขอให้ข้าพเจ้าผ่านแผ่นดินของพระองค์ไปเถิด ข้าพเจ้าจะเดินไปตามถนนใหญ่โดยไม่เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวา 28ข้าพเจ้าจะจ่ายเงินซื้ออาหารกินและซื้อน้ำดื่ม ขอเพียงแต่ทรงอนุญาตให้เดินทางผ่านไป 29เหมือนกับที่บุตรหลานของเอซาวที่อาศัยอยู่แถบภูเขาเสอีร์และชาวโมอับที่อาศัยอยู่ในเมืองอาร์เคยอนุญาต จนกว่าข้าพเจ้าจะข้ามแม่น้ำจอร์แดนเข้าไปยังแผ่นดินที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของเราทรงมอบให้เรา”

30แต่กษัตริย์สิโหนแห่งเมืองเฮชโบนไม่ทรงอนุญาตให้เราผ่านแผ่นดินของพระองค์ พระยาห์เวห์พระเจ้าของเราทรงบันดาลให้กษัตริย์สิโหนมีพระทัยแข็งกระด้างดื้อดึง และทรงมอบกษัตริย์องค์นี้ไว้ในอำนาจของท่าน ดังที่ยังเป็นอยู่จนทุกวันนี้ 31พระยาห์เวห์ตรัสแก่ข้าพเจ้าว่า “ดูซิ เรากำลังจะยกกษัตริย์สิโหนและแผ่นดินของเขาให้แก่ท่าน จงยกพลเข้าโจมตีและยึดครองแผ่นดินของเขาเถิด” 32กษัตริย์สิโหนทรงยกพลทั้งหมดออกมาสู้รบกับพวกเราที่เมืองยาฮาซ 33พระยาห์เวห์พระเจ้าของเราทรงมอบกษัตริย์สิโหนไว้ในอำนาจของเรา เราประหารชีวิตพระองค์พร้อมกับพระโอรสและไพร่พลทั้งหมด 34เวลาเดียวกันนั้น เราเข้ายึดและทำลายเมืองทุกเมือง ประหารชีวิตผู้อาศัยทุกคน ไม่ว่าชาย หญิง หรือเด็ก เราไม่ปล่อยให้ผู้ใดรอดชีวิตเลย 35เรานำไปเพียงฝูงสัตว์และของที่ปล้นได้ในเมืองที่เราเข้ายึด 36พระยาห์เวห์พระเจ้าของเราทรงบันดาลให้เรายึดเมืองทุกเมือง ตั้งแต่เมืองอาโรเออร์ ซึ่งอยู่บนฝั่งแม่น้ำอารโนน ตลอดจนเมืองที่อยู่ในหุบเขานั้นไปจนถึงแคว้นกิเลอาด ไม่มีเมืองใดต้านทานกำลังของเราได้ 37แต่ท่านไม่ได้เข้าไปใกล้แผ่นดินของชาวอัมโมน หรือดินแดนชายฝั่งแม่น้ำยับบอก หรือเมืองแถบภูเขา หรือสถานที่ต่างๆ ตามที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของเราทรงบัญชาไว้

 

2 a ทั้ง ฉธบ และ กดว 14:25 ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลกล่าวว่า ชาวอิสราเอลออกเดินทางจากคาเดชมุ่งสู่ทะเลต้นกกโดยตรง แต่ ฉธบ ให้รายละเอียดมากกว่าโดยบอกเส้นทางผ่านถิ่นทุรกันดารไปยังแคว้นโมอับและอัมโมน ในเวลาที่เขียนตอนนี้ ชาวเอโดมตั้งหลักแหล่งทางตะวันตกของหุบเขาอาราบาห์กินอาณาเขตไปถึงอ่าวอาคาบา (ทะเลต้นกก) อยู่แล้ว ดังนั้น เรื่องที่ชาวเอโดมไม่ยอมให้ชาวอิสราเอลผ่านดินแดนของตนนั้น (กดว 20:14-21) จึงเล่าไม่ได้อีกแล้ว แต่เล่าว่าชาวอิสราเอลจะผ่านดินแดนของชาวเอโดม โดยไม่แตะต้องสิ่งใด ในทำนองเดียวกัน จะเล่าว่า ชาวอิสราเอลจะไม่ยึดครองแผ่นดินที่เป็นของชาวโมอับหรือชาวอัมโมน เพราะแหล่งข้อมูลโบราณไม่พูดถึงชนสองพวกนี้ ชาวอิสราเอลเดินทางอ้อมแผ่นดินโมอับ โดยผ่านถิ่นทุรกันดาร แต่ไม่ได้ไปถึงแผ่นดินของชาวอัมโมน (ดู 2:19 เชิงอรรถ e) ความคิดทางเทววิทยาที่ว่าแผ่นดินแห่งพระสัญญาเป็นของประทานจากพระเจ้านั้น (1:6-8; ดู 1:5 เชิงอรรถ b) ถูกนำมารวมกับความคิดที่กว้างกว่าว่า พระเจ้าประทานแผ่นดินให้แก่ชนชาติต่างๆ เอโดม โมอับและอัมโมนมีความสัมพันธ์กับอิสราเอล จะมีแผ่นดินเป็นมรดก (ดู 2:5 เชิงอรรถ c) แต่พระเจ้าจะทรงมอบแผ่นดินของกษัตริย์สิโหน ซึ่งเป็นของชาวอาโมไรต์ให้แก่อิสราเอล (ข้อ 24)

b ชื่อเสอีร์มักจะพบควบคู่กับชื่อเอโดมบ่อยๆ (ดู ปฐก 32:4; กดว 24:18; วนฉ 5:4) หมายถึง ดินแดนของเอซาว/เอโดม (ปฐก 33:14; 36:8) ดินแดนนี้แต่เดิมตั้งอยู่ทางตะวันออกของหุบเขาอาราบาห์ แต่ในบทนี้ เช่นเดียวกันกับใน ยชว 11:7; 12:7 “ภูเขาเสอีร์” ตั้งอยู่ใกล้กับเมืองคาเดช ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากเมืองโฮร์มาห์เท่าใดนัก (ดู 1:44) รายละเอียดนี้สะท้อนสถานการณ์ในสมัยของผู้เขียน ชาวเอโดมได้ข้ามหุบเขาอาราบาห์มาทางตะวันตกแล้ว (ดู กดว 20:22 เชิงอรรถ f) เมื่ออาณาจักรยูดาห์ล่มสลาย (587 ก่อน ค.ศ.) ชาวเอโดมจะรุกขึ้นไปจนถึงเมืองเฮโบรน และบริเวณนี้ทั้งหมดได้ชื่อว่าแคว้นอิดูเมอา (1 มคบ 5:3 เชิงอรรถ b; มก 3:8)

c เช่นเดียวกับที่พระยาห์เวห์ทรงจัดให้ชาวอิสราเอลเข้าอาศัยในแผ่นดินของชนชาติอื่น พระองค์ก็ทรงจัดให้ทั้งชาวเอโดมซึ่งสืบเชื้อสายมาจากอับราฮัม (ปฐก 36) ทั้งชาวโมอับและอัมโมน (ข้อ 9 และ 19) ซึ่งสืบเชื้อสายมาจากโลท (ปฐก 19:30ฯ) เข้าตั้งหลักแหล่งอาศัยอยู่ในดินแดนที่เคยเป็นของชนชาติอื่นมาก่อนด้วย ชื่อของชนชาติดั้งเดิมนั้นมีบันทึกไว้ใน ฉธบ 2:10-12, 20ฯ

d ชาวโฮรีในที่นี้ไม่น่าจะเป็นชนพวกเดียวกันกับชาวเฮอรี ซึ่งเอกสารที่ใช้อักขระรูปลิ่มบันทึกไว้ ชาวเฮอรีเข้ามาตั้งหลักแหล่งในแผ่นดินปาเลสไตน์ประมาณปี 1500 ก่อนคริสตศักราชเท่านั้น และมีจำนวนน้อยมาก จึงสูญเสียเอกลักษณ์ของตนในไม่ช้า เรายังพบหลักฐานของชาวเฮอรีนี้ในชื่อเมืองบางแห่งทางตะวันตกของแม่น้ำจอร์แดน แต่ไม่มีเลยทางฟากตะวันออก ส่วนชื่อ “ชาวโฮรี” คงจะเป็นเพียงชื่อปลอมของผู้ที่อาศัยในดินแดนของเอโดม เสอีร์ (ดู ปฐก 36:20) เพราะคำนี้มีรากศัพท์เหมือนกับคำว่า huru ซึ่งชาวอียิปต์ใช้เรียกผู้อาศัยในปาเลสไตน์ในช่วงเวลาที่ชาวอิสราเอลมาตั้งหลักแหล่งที่นั่น

e ดินแดนของชาวอัมโมนตั้งอยู่เหนือดินแดนของกษัตริย์สิโหน ทางต้นน้ำของแม่น้ำยับบอก (ดู 3:16; กดว 21:24) แม้ว่าพระคัมภีร์ตอนนี้จะเน้นย้ำว่าชาวอิสราเอลเป็นพี่น้องกับชาวอัมโมน (ดู ข้อ 37) ชนชาติทั้งสองนี้จะสู้รบกันในสมัยของผู้วินิจฉัย (วนฉ 10:7ฯ) และโดยเฉพาะในสมัยของกษัตริย์ดาวิด (2 ซมอ 10:6ฯ; 11) ต่อมาชาวอัมโมนจะแผ่อำนาจเข้ายึดดินแดนของเผ่ากาด (ดู ยรม 49:1) และเอกสารดั้งเดิมเบื้องหลัง ฉธบ มองชาวอัมโมนเป็นอริกับชาวอิสราเอล (ดู ฉธบ 23:4)

f “ชาวครีต” นี้หมายถึง ชาวฟีลิสเตียซึ่งอพยพมาจากเกาะครีตหรือจากที่อื่นในอาเซียน้อย (ดู ยชว 13:2 เชิงอรรถ b)

g ฉธบ เล่าเรื่องชาวอิสราเอลยึดครองแผ่นดินของกษัตริย์สิโหนตามเอกสารโบราณ เหตุการณ์นี้ได้เกิดขึ้นจริงๆ ส่วนเรื่องกษัตริย์โอกที่จะเล่าต่อไปนั้น เป็นเพียงตำนานโบราณที่เล่ากันเท่านั้น

h บางคนแปลว่า “จากถิ่นทุรกันดารทางทิศตะวันออก”

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก