“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันศุกร์ที่ 31 ตุลาคม 2014
สัปดาห์ที่ 30 เทศกาลธรรมดา
ฟป 1:1-11
1จากเปาโลและทิโมธี ผู้รับใช้พระคริสตเยซู
ถึงผู้ศักดิ์สิทธิ์ในพระคริสตเยซูทุกคนซึ่งอยู่ที่เมืองฟิลิปปี รวมทั้งผู้ปกครองดูแล และสังฆานุกร
2ขอพระหรรษทานและสันติสุขจากพระเจ้าพระบิดาของเรา และจากพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้า สถิตอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด
3ข้าพเจ้าขอบพระคุณพระเจ้าของข้าพเจ้าทุกครั้งที่ระลึกถึงท่าน 4ในการอธิษฐานภาวนาทุกครั้งข้าพเจ้าวอนขอพระพรเพื่อทุกท่านด้วยความชื่นชม เสมอ

5เพราะท่านทั้งหลายร่วมมือประกาศข่าวดี ตั้งแต่วันแรก จนกระทั่งบัดนี้ 6ข้าพเจ้ามั่นใจว่าพระเจ้าผู้ทรงเริ่มกิจการดีนี้ในท่านแล้ว จะทรงกระทำต่อไปให้สำเร็จบริบูรณ์จนถึงวันของพระคริสตเยซู 7ข้าพเจ้ารู้สึกเช่นนี้เกี่ยวกับท่านทั้งหลายก็เหมาะสมแล้ว เพราะข้าพเจ้ามีท่านอยู่ในใจ ท่านทั้งหลายได้รับส่วนในพระหรรษทานร่วมกับข้าพเจ้า ทั้งเมื่อข้าพเจ้าถูกจองจำ และเมื่อข้าพเจ้าทำงานปกป้องให้การประกาศข่าวดีมั่นคงอยู่ได้ 8พระเจ้าทรงเป็นพยานให้ข้าพเจ้าได้ว่า ข้าพเจ้ารักและเอ็นดูท่านเพียงใดในความรักของพระคริสตเยซู 9ข้าพเจ้าอธิษฐานภาวนาขอให้ความรักของท่านทวียิ่งขึ้น ทำให้เกิดความรู้และวิจารณญาณทุกเรื่อง 10ท่านจะแยกได้ว่า สิ่งใดดีเยี่ยม จะได้เป็นผู้บริสุทธิ์ปราศจากคำตำหนิจนถึงวันของพระคริสตเจ้า 11จะได้บริบูรณ์ด้วยผลแห่งความชอบธรรมซึ่งจะเกิดขึ้นโดยทางพระเยซูคริสตเจ้า เพื่อพระสิริรุ่งโรจน์และการสรรเสริญพระเจ้า


อรรถาธิบายและไตร่ตรอง

• อ่านคำขึ้นต้นบทจดหมายถึงชาวฟิลิปปีวันนี้แล้วพ่อเองได้พบหลายประเด็นที่ เห็นไม่ใช่เพียงคำสอนของเปาโล แต่พ่อได้เห็นหัวใจ เห็นชีวิตและความรู้สึกคิดของเปาโล ซึ่งตัวท่านได้กลายเป็นข่าวดี เห็นได้ชัด เลียนแบบได้อย่างไม่ต้องสงสัย... น่าคิดจริงๆ พ่ออ่านแล้วอ่านอีก พ่อชอบจริงๆครับ... คนที่ได้พบพระคริสตเจ้าจริงๆ ต้องเป็นแบบนี้ให้ได้นะครับ.... เรามาเก็บประเด็นกันอีกครั้งหนึ่งครับ...
1. ข้าพเจ้าขอบพระคุณพระเจ้าของข้าพเจ้าทุกครั้งที่ระลึกถึงท่าน 
2. ในการอธิษฐานภาวนาทุกครั้งข้าพเจ้าวอนขอพระพรเพื่อทุกท่านด้วยความชื่นชมเสมอ 
3. ข้าพเจ้ามั่นใจว่าพระเจ้าผู้ทรงเริ่มกิจการดีนี้ในท่านแล้ว จะทรงกระทำต่อไปให้สำเร็จบริบูรณ์จนถึงวันของพระคริสตเยซู 
4. ข้าพเจ้ามีท่านอยู่ในใจ ท่านทั้งหลายได้รับส่วนในพระหรรษทานร่วมกับข้าพเจ้า 
5. ข้าพเจ้ารักและเอ็นดูท่านเพียงใดในความรักของพระคริสตเยซู 
6. ข้าพเจ้าอธิษฐานภาวนาขอให้ความรักของท่านทวียิ่งขึ้น ทำให้เกิดความรู้และวิจารณญาณทุกเรื่อง ท่านจะแยกได้ว่า สิ่งใดดีเยี่ยม จะได้เป็นผู้บริสุทธิ์ปราศจากคำตำหนิจนถึงวันของพระคริสตเจ้า 


• พ่ออยากจะบอกว่าที่ที่รักครับ พิจารณาดูท่านนักบุญเปาโลสิครับว่าเป็นอย่างไร เปาโลคนเดิมที่เคยเคียดแค้นข่มขู่คุกคามคริสตชน กลายเป็นคนแบบนี้ได้อย่างไร น่ารักชะมัดเลยจริง พระคริสตเจ้าทำ การได้พบพระองค์ การได้เชื่อในพระองค์ ทำให้เป็นโลเปลี่ยนไปอย่างนี้เชียวหรือ... น่ารัก อบอุ่น อ่อนโยน เมตตา และรักคนอื่นจริงๆ


• พี่น้องที่รักครับ... เราคริสตชน เราได้พบปะพระคริสตเจ้า โดยทางศีลล้างบาป โดยทางศีลมหาสนิทและศีลกำลัง และทางพระวาจา การอธิษฐานภาวนาเช่นเดียวกัน พ่อคิดว่า พวกเรา พวกเราทุกคน คริสตชนลูกที่รักของพระคริสตเจ้าครับ... เก็บเกี่ยวพระพรแห่งความเชื่อ และจงดำเนินชีวิตเหมือนเปาโลนะครับ พี่น้องคิดว่าการเป็นคริสตชนที่ดีที่น่ารักควรเป็นเช่นไร... จับประเด็นจากคำสอนของเปาโลในจดหมายที่คำขึ้นต้นจดหมายถึงชาวฟิลิปปีที่เรา ได้อ่านวันนี้ดีๆสิครับ....

o ขอบคุณพระเจ้าและระลึกถึงเพื่อนพี่น้องเสมอ... พี่น้องที่รักครับ ความรักต่อพระคริสตเจ้าต้องทำให้เรา “ระลึกถึงผู้อื่นเสมอครับ” คิดถึงตัวเองให้น้อยลง เห็นแก่ตัวให้น้อยลงหรือให้หมดไป คนที่น่ารักจะคิดถึงคนอื่นๆเสมอจริงๆ... พ่อเองก็ต้องเขียนแบบนี้ เทศน์แบบนี้ทุกวัน เขียนแบบนี้มาหลายปีแล้ว... ทุกวันขณะเขียนได้คิดถึงพี่น้องที่รัก ได้คิดถึงสังคม โลก และคิดถึงคนที่ยากไร้ด้อยโอกาส ฯลฯ พี่น้องครับ... การได้คิดถึงคนอื่น ได้ระลึกถึงคนอื่น... พ่อเชื่อว่านี่คือ “คุณภาพ” ของความเป็นคริสตชนของเราทุกคนนะครับ พี่น้องครับ... คิดถึงพ่อแม่พี่น้องผู้อาวุโสหรือชราภาพ คนที่รักเรา และคนที่เรารัก หรือแม้แต่คนที่ไม่รักเราหรือเราไม่รัก... คิดถึง ระลึกถึง ปรารถนาดีนะครับ... มีความสุขมากครับ คริสตชนแทนจริงๆ ต้อง “ระลึกถึงเสมอ” พระเยซูเจ้าตรัสสั่ง “จงทำดังนี้ เพื่อเป็นที่ระลึกถึงเรา”....

o “ในการอธิษฐานภาวนาทุกครั้งข้าพเจ้าวอนขอพระพรเพื่อทุกท่านด้วยความชื่นชม เสมอ” พี่น้องที่รักครับ อธิษฐานภาวนากันบ่อยไหม กระทำเป็นประจำไหม การภาวนาคือการยกจิตใจขึ้นทูลหาพระเจ้า จิตใจของคนที่มีความเชื่อ เปาโลภาวนาเพื่อคนอื่นๆ เสมอ พ่อคิดว่า พวกเราคริสตชนต้องสร้างวัฒนธรรมแห่งการภาวนาเพื่อกันและกัน คิดถึงกันในคำภาวนา ด้วยความปรารถนาดี อย่าลืมสวดภาวนาเพื่อกันและกันนะครับ... นี่คือนิสัยดี คือบุคลิกดีของเราคริสตชน...

o พระเจ้าทรงเริ่มกิจการดีในตัวเราทุกคน....พี่น้องที่รัก เปาโลมั่นใจในการเริ่มต้นกิจการดีของพระเจ้าในตัวเพื่อนพี่น้องทุกคน... เราคริสตชนทุกคน พ่อเชื่อว่าเราต้องมั่นใจในกันและกัน มั่นใจในกิจการดีที่พระเจ้าทรงเริ่มไว้ในตัวเรา... เชื่อไหมว่า ศีลล้างบาป ชีวิตพระเจ้าในชีวิตเราทุกคน คือ “กิจการดีและคุณค่า” เราจะต้องไม่มองข้ามกันและกัน ไม่ทำลายคุณค่าหรือการหมิ่นดูถูกกันด้วยสายตาหรือสายใจ... เราต้องให้เกียรติกันและกันนะครับ... สำหรับพ่อ พ่อคิดว่า บาปหนักประการหนึ่งคือการมองข้าม มองแบบดูถูกหรือความเกลียดชัง เพราะนั่นคือการขาดความรักครับ ดังนั้น มั่นใจในกันและกันมากๆนะครับ รักพระเจ้าในกันและกันมากๆครับ
o “ข้าพเจ้ามีท่านอยู่ในใจ” เปาโลเขียนถ้อยคำนี้ “น่ารักมาก” มีท่านในใจ... พี่น้องที่รักครับ มีกันและกันในใจเสมอเสมอนะครับ เปิดหัวใจต้อนรับกันและกัน มีที่ว่างให้เพื่อนพี่น้องเสมอ โดยเฉพาะบรรดาคนยากจนครับ.. เปิดใจต้อนรับพวกเขาเสมอ อย่าได้ “ปิดใจกีดกันจากใจ” ต่อกันเลยนะครับ...

o “ข้าพเจ้ารักและเอ็นดูท่าน”... โอประโยคนี้พอไม่อยากอธิบายเพราะชัดมากแล้ว รัก รัก รัก กันมากๆ นะครับ เห็นความน่ารักของกันและกัน ไม่มีใครไม่น่ารักหรอกครับ มีบ้างแน่ๆ ให้ความสำคัญแก่กันและรักเอ็นดูกันเสมอ... ตรงนี้แหละที่จะทำให้เราคริสตชนน่ารักและอ่อนโยนมากๆครับ “เอ็นดู” ทำให้คนอื่นๆ เป็น “ที่รัก” ของเรา เรารักเขา อ่อนโยนต่อเขา เมตตาสงสารเขา มีความอดทนต่อเขา... ถึงเวลาเอ็นดูกันมากๆละครับ
o อธิษฐานภาวนาของให้ความรักนั้นทวียิ่งขึ้น จงเห็นแก่ความดีของกันและกัน ช่วยเหลือกันให้เติบโตในความดีมากๆนะครับ เพื่อให้รักกันมากขึ้น เสริมกำลังกันให้เข้มแข็ง ให้ได้เห็นคุณค่า ความดี ความจริง ความยอดเยี่ยม และได้รู้ว่า เราควรเจริญชีวิตที่ดีอย่างไร....

• พี่น้องที่รักครับ ... บทจดหมายถึงชาวฟิลิปปีที่เราได้เริ่มอ่านวันนี้ คำขึ้นต้นของจดหมายทำให้เราได้เรียนรู้จักความน่ารัก ความอ่อนโยน และได้เรียนรู้ตัวตนหรือชีวิตที่เปลี่ยนไปของท่านนักบุญเปาโลจริงๆนะครับ จากคนที่เคยเคียดแค้นจริงๆ ทำร้ายคริสตชนเพราะความเกลียดชังหนทางของพระคริสตเจ้า ท่านได้กลับใจ ได้กลายเป็นคนอ่อนโยนเหลือเกิน พ่อคิดว่าถึงเวลาละครับที่เราคริสตชนต้องกลับใจ ต้องอ่อนโยนและเปลี่ยนแปลงกันจริงๆละครับ

• พ่อได้ร่างเอกสารประกอบสมัชชาฯ 2015 พ่อได้ยกร่างคำสอนเรื่องการกลับใจได้ไว้... พ่อคิดว่าหลายท่านคงไม่ได้อ่านทั้งหมด ดังนั้นวันนี้พ่อขอคัดมาให้อ่านสรุปนิดหนึ่งครับ
o “การประกาศข่าวดีใหม่เริ่มต้นที่การกลับใจ” (metanoia) ตัวอย่างอันล้ำเลิศของท่านนักบุญเปาโลบนถนนไปเมืองดามัสกัส (ดู กจ 9, 22, 26) ท่านได้พบกับพระคริสตเจ้าและท่านได้กลับใจ เพราะเหตุนั้นท่านได้เป็นตัวอย่างของการกลับใจจนกลายเป็นพลังแห่งการประกาศ ข่าวดีใหม่แท้จริง 

o จากเดิมที่เป็นศัตรูกับคริสตชนท่านกลับใจและกลับกลายเป็นผู้ประกาศพระคริสต เจ้าแม้ต้องแลกด้วยชีวิต นักบุญเปาโลได้กลายเป็นอัครสาวกผู้ทรงพลังที่สุดในการประกาศข่าวดีแบบใหม่ ด้วยความยินดีใหม่ ด้วยความสดชื่นเสมอ

o ดังนั้นสำหรับเราคริสตชนหลังจากได้ “พบพระเยซูคริสตเจ้า” ทุกอย่างในชีวิตคริสตชนนั้น “จำเป็น” ต้องเปลี่ยนแปลงไปหมดด้วยการกลับใจ (metanoia) เช่นกัน การกลับใจนี้คือข้อเรียกร้องของพระเยซูเจ้าเอง (เทียบ มก 1:15) ณ จุดของการกลับใจนั้น เรียกร้องให้เราคริสตชนได้พิจารณาชีวิตและพันธกิจของตนในมิติใหม่ทั้งหมด ประกาศชีวิตใหม่ในพระคริสตเจ้า (เทียบ 2ปต 1:4)

o ชีวิตคริสตชนที่ได้รับการฟื้นฟูขึ้นใหม่ อาศัยการพบปะพระคริสตเจ้าและการกลับใจ เป็นบ่อเกิดเพื่อการเปลี่ยนแปลง ถ่ายทอดความเชื่อและชีวิตใหม่สู่สังคมรอบข้าง อาศัยพระวาจาและศีลมหาสนิทเป็นบ่อเกิดแห่งชีวิตและพระพร ทำให้คริสตชนเองก่อนอื่นได้รับการเปลี่ยนแปลงจิตใจใหม่ และทุกคนจำเป็นต้องรับการเปลี่ยนแปลงนั้นก่อนเพื่อให้เรามีจิตหนึ่งใจเดียว กับพระคริสตเจ้า ทั้งนี้โดยอาศัยองค์พระจิตเจ้า

o ผลที่ตามมาแน่นอนคือความเป็นพี่น้องของคริสตชน การดำเนินชีวิตเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เป็นชุมชนศิษย์พระคริสต์ เป็น “พลังและอาวุธแห่งการประกาศข่าวดี” เป็นความสดชื่นและใหม่เสมอ เปลี่ยนแปลงชีวิตของเราก่อน (Transformation) ด้วยการกลับใจซึ่งจำเป็น และเป็นเสียงเรียกร้องของบรรดาประกาศกเสมอมา (เทียบ ยรม 3:6ff; เทียบ อสค 36:24-36)

o “เพราะฉะนั้นท่านจงเป็นทุกข์กลับใจและหันมาหาพระเจ้าเถิด เพื่อบาปของท่านจะได้รับการอภัย” (กจ 3:19) การกลับใจจำเป็นและหลีกเลี่ยงไม่ได้สำหรับคริสตชน (Paenitemini) การกลับใจหรือการได้พบพระคริสตเจ้าจริงๆ เช่นนี้นั้นสามารถเป็นบ่อเกิดและจุดสูงสุดของการได้เป็นคริสตชน ดังนั้น เราต้องยอมรับความจริงและพลังของการกลับใจจริงๆเท่านั้น การกลับใจอย่างลึกซึ้งและต่อเนื่องเป็นสิ่งจำเป็นที่ขาดไม่ได้ (sine qua non) พระสันตะปาปากิตติคุณเบเนดิกต์ที่ 16 เรียกขานการกลับใจนี้ว่าเป็นเหตุผลจำเป็นเพื่อเป็นคริสตชน (Fundamental datum of Christian existence) สรุปได้ว่า “ถ้าไม่มีการกลับใจก็ไม่ได้เป็นคริสตชน” นั่นเอง 

o การกลับใจนี้แท้จริงแล้ว คือ การเปิดหัวใจคิดไตร่ตรองแบบใหม่ที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิมที่เคยเป็น และเป็นการตัดสินใจเปลี่ยนจากเดิมที่เคยเป็นและไม่ขอกลับไปเป็นแบบเดิมอีก หมายความว่า จำเป็นที่คริสตชนจะต้องพบพระคริสตเจ้ามากขึ้นกว่าที่เคย ต้องรู้จักพระองค์ในพระวาจาและศีลศักดิ์สิทธิ์และการอธิษฐานภาวนาลึกซึ้งมาก ขึ้น และจากนั้นจึงเปิดขอบฟ้าใหม่ของชีวิตความเชื่อออกไปสู่การพบกับพี่น้องรอบ ข้าง โดยเฉพาะบรรดาผู้ยากไร้ชายขอบสังคมมากกว่าที่เคย เพราะในบรรดาคนยากไร้คือโอกาสดีที่สุดสำหรับยุคปัจจุบัน และการได้พบกับพวกเขานั้นคือการได้พบพระคริสตเจ้าแท้จริง (เทียบ มธ 25:40 และเทียบ Address in Guatemala by Pope John Paul II) พระสันตะปาปาฟรังซิสก็ได้ทรงเน้นเรื่องนี้เช่นกัน (เทียบ EG 198)

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก