“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันจันทร์ที่ 22 กันยายน 2014
สัปดาห์ที่ 25 เทศกาลธรรมดา

(พระวาจาวันนี้ประโยคแรกงัยครับที่พ่อบอกว่ากระแทกใจพ่ออยู๋นานเมื่อวันศุกร์ที่นั่งเตรียม
-----------------------------------------------------------------------------------
สภษ 3:27 "ถ้าลูกมีอำนาจทำได้... อย่าปฏิเสธความดีแก่ผู้ที่ต้องการ"
-----------------------------------------------------------------------------------

 

สภษ 3:27-35…………

 

27ถ้าลูกมีอำนาจจะทำได้
อย่าปฏิเสธความดีแก่ผู้ที่ต้องการ
28ถ้าลูกมีสิ่งของที่เพื่อนบ้านขอ
อย่าพูดกับเขาว่า “กลับไปก่อนเถิด พรุ่งนี้กลับมาแล้วฉันจะให้”


29อย่าคิดแผนร้ายต่อเพื่อนบ้าน
ที่อยู่ใกล้ลูกและไว้วางใจลูก
30อย่าทะเลาะวิวาทกับผู้ใดอย่างไร้เหตุผล
ถ้าเขาไม่ได้ทำร้ายลูก
31อย่าอิจฉาคนที่ใช้ความรุนแรง
อย่าเลียนแบบความประพฤติของเขาเลย
32เพราะพระยาห์เวห์ทรงรังเกียจคนตลบตะแลง
มิตรภาพของพระองค์อยู่กับคนซื่อตรง
33คำสาปแช่งของพระยาห์เวห์อยู่เหนือบ้านของคนชั่วร้าย
พระองค์ทรงอวยพระพรที่อาศัยของผู้ชอบธรรม
34พระองค์ทรงเย้ยหยันคนที่เย้ยหยันผู้อื่น
แต่ทรงพระกรุณาผู้ถ่อมตน
35ผู้มีปรีชาจะได้เกียรติยศเป็นมรดก
คนโง่จะได้รับความอัปยศ

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง

• สัปดาห์ที่ 25 เทศกาลธรรมดา... เราได้อ่านจดหมายของนักบุญเปาโลมาหลายสัปดาห์ วันนี้จู่ๆเมือนการกลับหลังหันไปอ่านพระคัมภีร์พันธสัญญาเดิมครับ... พ่ออยากจะบอกว่า พระศาสนจักรมีวิธีหล่อเลี้ยงเรา ดูและเรา สอนเราด้วยพระวาจาของพระเจ้าจริงๆ นี่คือเสน่ห์และพลังของพระศาสนจักรคาทอลิก...

• เพราะว่า ทั่วโลก ทั่วโลกจริงๆ ณ ที่ๆ มีคริสตชนคาทอลิก ถ้าเอาจำนวนมาอ้างก็บอกว่าพันล้านคน เราคริสตชนคาทอลิกทั่วโลกอ่านพระคัมภีร์ตอนเดียวกันทั่วโลก ทุกวัน ทุกมิสซา ทุกวันอาทิตย์ และทุกวันธรรมดา ทั่วโลกจริงๆทุกภาษาที่มีคริสตชนคาทอลิกครับ

• นี่เป็นเคลื่อนพลังชีวิตแห่งพระวาจาและปรีชาญาณของพระศาสนจักรคาทอลิกที่จัดไว้ และเป็นความอ่อนน้อม ยอมรับ ที่จะรับคำสอนของพระวาจา และเป็นการ “ก้าวเดินด้วยความเป็นหนึ่งเดียวกัน” ของคริสตชนคาทอลิกอย่างไม่น่าเชื่อจริงๆ แต่ต้องเชื่อ เพราะนี่คือธรรมประเพณีแห่งความเป็นหนึ่งเดียวของคำว่า “คาทอลิก” เลยทีเดียวครับ...

• พี่น้องครับ ช่วงนี้เราหันมาอ่านพระคัมภีร์หนังสือสุภาษิต... พระคัมภีร์ฮีบรูต้นฉบับใช้ชื่อว่า מִ֭שְׁלֵי שְׁלֹמֹ֣ה Míshlê Shlomoh อ่านว่า “มิชเล เชโลโมห์” แปลว่า “สุภาษิตของซาโลมอน” (Proverbs) แปลเป็นภาษากรีก เรียกว่า "Παροιμίαι" อ่านว่า “ปารอยมีอัย”

• จากวันนี้ไปเราคงอ่านสิ่งที่เรียกว่า “ปรีชาญาณ” ที่สอนให้เราเจริญชีวิตฉลาดเฉลียวที่สุด คือ เจริญชีวิตแบบคนที่มีความเชื่อในพระเจ้านะครับ... ค่อยๆติดตามกันไปครับ

 

• หนังสือสุภาษิต คือ อันทีจริงไม่ต้องการคำอธิบายใดๆ เป็นพิเศษ เพราะมีความชัดในตนเอง มีพลังพอที่จะทำให้ผู้อ่านได้สัมผัสถึงคำสอนที่ล้ำค่าของการดำเนินชีวิตอย่างมี “ปรีชาญาณ”...

• วรรณกรรมพระคัมภีร์สุภาษิตสอนเราอย่างตรงไปตรงมา ชัดเจน

• พ่อคิดเสมอว่า
o ภาพลักษณ์หรือภาพปรากฏของการเป็นคริสตชนที่แท้จริงคืออะไร
o อะไรหนอคือภาพปรากฏที่ทำให้ครสิตชนเป็นคริสตชนจริงๆ
o อะไรคือสาระที่เห็นได้ของการเป็นคนที่มีพระเจ้า
o คนที่มีพระเจ้าแล้ว มีศรัทธาในพระเจ้าแล้วต้องมีหน้าตาท่าทีอย่างไรหนอ...

• พ่อเคยคิดและไตร่ตรองจริงๆ ว่า คริสตชนเราที่ได้อ่านพระคัมภีร์หนังสือสุภาษิตแต่ละตอน โดยเฉพาะวันนี้ตอนนี้ที่เราได้อ่านแล้ว เราน่าจะเป็นอย่างไรหนอ...

• พอเชื่อว่าถึงเวลาที่เราต้องอ่านพระคัมภีร์สุภาษิตนี้แล้ว และเราต้องมามองดูความจริงของชีวิตของเราอย่างตรงไปตรงมาจำทุกถ้อยคำในหนังสือสุภาษิตนี้

• น่าสนใจจริงๆ มากๆ ถ้าเราจะถอดประเด็นของคำสอนออกมากเป็นข้อคิดที่กระชับอย่างนี้ครับ... คือ พ่อจะขอตัดคัดเอาเฉพาะสิ่งที่ไม่ควรปฏิบัติ คือสั่งห้าม... “อย่า” สำหรับคนที่มีพระเจ้า คนที่มีปรีชาญาณของพระเจ้าอยู่ หรือคนที่มีศรัทธาในพระเจ้า.... มีประเด็นต่างๆ ที่คัดออกมาได้ดังนี้ครับ.. อ่านดีๆนะครับ พ่ออ่านแล้วพ่อสัมผัสได้จริงๆถึง ความสุขในหัวใจ และชีวิตของเรา สุภาษิตใช้คำอ่อนโยนมาก... “ถ้าลูกมีอำนาจจะทำได้....” อ่านแล้วรู้สึกดีจริงๆครับ ดู หกประเด็นต่อไปนี้ที่พ่อคัดออกมาสิครับ...
1. อย่าปฏิเสธความดีแก่ผู้ที่ต้องการ
2. อย่าพูดกับเขาว่า “กลับไปก่อนเถิด พรุ่งนี้กลับมาแล้วฉันจะให้”
3. อย่าคิดแผนร้ายต่อเพื่อนบ้าน
4. อย่าทะเลาะวิวาทกับผู้ใดอย่างไร้เหตุผล
5. อย่าอิจฉาคนที่ใช้ความรุนแรง
6. อย่าเลียนแบบความประพฤติของเขาเลย

 

• พี่น้องที่รักครับ... พ่อเรียกแบบนี้มาตลอดเคยสังเกตไหม “พี่น้องที่รัก” เฉพาะสองข้อแรกของพระคัมภีร์สุภาษิตวันนี้ พ่ออ่านพ่อก็ใจแทบจะละลายแล้ว ข้อ 27-28 ครับ
o “ถ้าลูกมีอำนาจจะทำได้ อย่าปฏิเสธความดีแก่ผู้ที่ต้องการ”
o “ถ้าลูกมีสิ่งของที่เพื่อนบ้านขอ อย่าพูดกับเขาว่า “กลับไปก่อนเถิด พรุ่งนี้กลับมาแล้วฉันจะให้””

• พ่อเขียนบทเทศน์นี้ในความรู้สึกลึกในหัวใจจริงๆ ... “ถ้าลูกทำได้... อย่าปฏิเสธความดีแก่ผู้ที่ต้องการ...”
o พระคำของพระเจ้า พระวาจาจากสุภาษิตวันนี้ไม่รู้ทำไม... ขณะที่นั่งเขียนอยู่นี้มันช่างเสียดแทงใจพ่อจริงๆ พ่อเองรู้สึกอยากให้ อยากให้ให้หมดสิ่งที่พ่อทำได้ อยากรักมากขึ้น อยากให้ อยากแบ่งปัน
o พ่อคิดถึงหญิงหม้ายคนนั้นในพระวิหาร ในสายตาพระเยซู นางให้ได้แม้ “เงินเหรียญทองแดงทั้งหมดสองเหรียญ” ที่นางมีเพื่อชีวิตของนาง นางได้ใส่ตู้ถวายในพระวิหาร ถวายให้กับพระเจ้า... ในสายพระเนตรของพระเยซูเจา มันช่างต่างจาก “เศษเงินเหลือใช้มากมาย” ของเศรษฐีจริงๆ

• พี่น้องที่รัก พ่อไม่เข้าใจหรอกว่าทำไมตอนเด็กๆ พ่อต้องท่องจำให้ได้ ต้องท้องบัญญัติของพระเจ้า และต้องท่องบัญญัติของพระศาสนจักร

• ทำไมพ่อต้องถูกสอนให้ท่องจำให้ขึ้นใจซึ่งกฎระเบียบต่างๆ หลายประการ ยากจะอธิบาย

• แต่ที่แน่ๆ นับจากวัยเด็ก พ่อมีเสียงมโนธรรมที่ได้รับการอบรมหล่อหลอมเสมอมาจนกลายเป็นบุคลิกของพ่อเอง และเชื่อว่าเป็นบุคลิกของพวกเราคริสตชนทุกคนจริงๆ
o เรารู้ว่า เราต้องหนีความชั่ว
o เราผู้เป็นคริสตชนเราต้องไม่กระทำความชั่วร้ายนานาชนิด
o เราต้องเป็นคนดี...ต้องดี ไม่ดีไม่ได้..

• ผลกระทบจากการที่พ่อได้เกิดมาและได้เป็นคริสตชนเป็นแบบนี้นี่เอง คือ เราต้องมีชีวิตที่ “ดี”

• เมื่ออ่านหนังสือสุภาษิตวันนี้ พ่อได้เห็นความจริงชัดเจนว่า พระคัมภีร์นี้ช่างเป็นคำสอนที่ชัด ตรง ดี จริง สำหรับชีวิตของเราเพื่อให้เราได้สามารถเจริญชีวิตประกาศอัตลักษณ์แท้จริงของเราคือ “การเจริญชีวิตอย่างมีปรีชาญาณแท้ เปี่ยมด้วยความดีของพระเจ้าอย่างเป็นรูปธรรมในชีวิตของเราเสมอ” อ่านบทอ่านจากหนังสือสุภาษิตนี้นะครับ และจะเสริมพลังแห่งชีวิตคริสตชนของเราอย่างดีที่สุดครับ

• ถ้าพ่อเองกับพี่น้องทีรักนี้ พ่อได้เรียกตัวเองว่าพ่อเสมอๆ และสัตบุรุษก็เป็นลูกที่เรียกพ่อว่าพ่อได้อย่างมีความสุขและเรียกกันได้อย่างสนิทใจจริงๆ ถ้าเป็นเช่นนี้....

• พี่น้องที่รัก พ่อ... พ่อ... พ่ออยากจะใช้คำของสุภาษิตประโยคแรกของบทอ่านวันนี้มากกล่าวกับสัตบุรุษทุกท่าน ขอพูดด้วยคำของพระวาจาตอนนี้จริงๆว่า
o ลูกที่รัก... ลูกๆที่รักครับ.... “ถ้าลูกมีอำนาจจะทำได้ อย่าปฏิเสธความดีแก่ผู้ที่ต้องการ”
o ลูกรัก เมื่อเราเป็นคริสตชน เมื่อเราได้รับศีลล้างบาปและได้เป็นลูกพระเจ้า “อย่าปฏิเสธที่จะเป็นคนดีเด็ดขาด และอย่าปฏิเสธที่จะเป็นคริสตชนที่ดีตลอดไป เสมอไป”
o ความดีความเมตตากรุณา การแบ่งปัน คือ อำนาจของความรัก
o ความรักในฐานะคริสตชนของเราทุกคน จะต้องเป็นพลังก่อให้เกิดความดีในชีวิตของเราตลอดไป
o ลูกๆที่รัก โลกปัจจุบันต้องการลูกๆ คริสตชนซึ่งเป็นลูกน่ารักของพระเจ้า คือ
1. โลกปัจจุบันต้องการลูกเพื่อเป็นแสงสว่างแห่งความดีตลอดไป
2. โลกปัจจุบันต้องการลูกเพื่อเป็นเกลือดองโลก และเป็นแสงสว่างส่องทางความจริงและชีวิต ดังนั้น
3. ในเมื่อเรามีอำนาจของพระเจ้า และอำนาจของพระเจ้าคืออำนาจแห่งความรักและความเมตตา ขอให้เราอย่าได้ปฏิเสธความดี ความรักและการแบ่งปันด้วยความรักเลย ถ้าลูกสามารถจะทำได้ อย่าปฏิเสธเลยนะครับ
4. ขอพระเจ้าอวยพรเสมอไป อ่านพระวาจานะครับ... ขอให้เราได้ฉลาดอย่าได้ขาดความฉลาดหรือปรีชาญาณซึ่งเป็นความรักตลอดไปในชีวิตของเราเลย... ขอพระเจ้าอวยพรครับ ซ้ำอีกทีจากหนังสือสุภาษิตครับ “ถ้าลูกมีอำนาจจะทำได้ อย่าปฏิเสธความดีแก่ผู้ที่ต้องการ”

 

 

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก