“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

ง. กษัตริย์ซาโลมอนไม่ทรงซื่อสัตย์ต่อพระยาห์เวห์

 

มเหสีของกษัตริย์ซาโลมอน

11 1กษัตริย์ซาโลมอนทรงรักหญิงต่างชาติหลายคน นอกจากพระธิดาของกษัตริย์ฟาโรห์แล้ว พระองค์ยังทรงรักหญิงชาวโมอับ ชาวอัมโมน ชาวเอโดม ชาวไซดอนและชาวฮิตไทต์ 2ซึ่งเป็นหญิงจากชนชาติที่พระยาห์เวห์เคยตรัสกับชาวอิสราเอลไว้ว่า “ท่านทั้งหลายต้องไม่แต่งงานกับชนชาติเหล่านี้ เพราะนางจะทำให้ใจของท่านหันไปหาเทพเจ้าของนาง” แต่กษัตริย์ซาโลมอนทรงผูกพันกับเทพเจ้าเพราะหลงรักนาง 3พระองค์ทรงมีเจ้าหญิงเป็นมเหสีเจ็ดร้อยองค์ และยังมีพระสนมอีกสามร้อยคน หญิงเหล่านี้ทำให้พระทัยของพระองค์หันเหไปจากพระยาห์เวห์a 4เมื่อกษัตริย์ซาโลมอนทรงพระชราแล้ว หญิงเหล่านี้ทำให้พระทัยของพระองค์หันเหไปนมัสการเทพเจ้าของชนต่างชาติ พระทัยของพระองค์ไม่ซื่อสัตย์ต่อพระยาห์เวห์ พระเจ้าของพระองค์ ต่างจากพระทัยของกษัตริย์ดาวิดพระบิดา 5กษัตริย์ซาโลมอนนมัสการเทพีอาเชราห์ของชาวไซดอน และเทพเจ้ามิลโคมที่น่าสะอิดสะเอียนของชาวอัมโมน 6กษัตริย์ซาโลมอนทรงกระทำสิ่งชั่วร้ายเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์ ไม่ซื่อสัตย์ต่อพระยาห์เวห์อย่างเต็มที่ ต่างจากกษัตริย์ดาวิดพระบิดา 7บนภูเขาทางตะวันออกของกรุงเยรูซาเล็ม กษัตริย์ซาโลมอนทรงสร้างสักการสถานบนที่สูงถวายแด่เทพเจ้าเคโมชที่น่าสะอิดสะเอียนของชาวโมอับ และทรงสร้างสักการสถานถวายแด่เทพเจ้ามิลโคมที่น่าสะอิดสะเอียนของชาวอัมโมนb 8พระองค์ยังทรงสร้างสักการสถานให้หญิงต่างชาติทุกคนของพระองค์เผากำยานและถวายบูชาแด่เทพเจ้าของตน

9พระยาห์เวห์ทรงพระพิโรธต่อกษัตริย์ซาโลมอน เพราะพระทัยของกษัตริย์หันเหไปจากพระยาห์เวห์ พระเจ้าแห่งอิสราเอล ผู้ทรงสำแดงพระองค์สองครั้งแก่กษัตริย์ 10และทรงบัญชามิให้นมัสการเทพเจ้า แต่กษัตริย์มิได้ทรงปฏิบัติตามพระบัญชาของพระยาห์เวห์ 11พระยาห์เวห์จึงตรัสแก่กษัตริย์ซาโลมอนว่า “ท่านได้ปฏิบัติเช่นนี้ ไม่ได้รักษาพันธสัญญาและข้อกำหนดซึ่งเราสั่งท่านไว้ เราจึงจะฉีกอาณาจักรไปจากท่านและให้แก่ผู้รับใช้คนหนึ่งของท่าน 12แต่เพราะเห็นแก่ดาวิดบิดาของท่าน เราจะไม่ทำดังนี้ในชีวิตของท่าน แต่เราจะฉีกอาณาจักรไปจากมือบุตรของท่าน 13ถึงกระนั้น เราจะไม่ฉีกอาณาจักรทั้งหมดไปจากเขา แต่จะเหลือเผ่าหนึ่งไว้ให้เขา เพราะเห็นแก่ดาวิดผู้รับใช้ของเรา และเพราะเห็นแก่กรุงเยรูซาเล็มซึ่งเราเลือกไว้ c

 

ศัตรูของกษัตริย์ซาโลมอน

14พระยาห์เวห์ทรงบันดาลให้ฮาดัด ซึ่งมาจากราชวงศ์กษัตริย์เอโดม เป็นปฏิปักษ์ต่อกษัตริย์ซาโลมอน 15นานมาแล้ว เมื่อกษัตริย์ดาวิดทรงรบชนะชาวเอโดม โยอาบผู้บัญชาการกองทัพไปฝังผู้ตายและฆ่าชายชาวเอโดมทุกคน 16โยอาบกับกองทัพอิสราเอลอยู่ที่นั่นหกเดือน จนได้ฆ่าชายชาวเอโดมทุกคน 17แต่ฮาดัดกับชาวเอโดมบางคนซึ่งเป็นผู้รับใช้บิดาของเขาหนีรอดไปอยู่ที่อียิปต์ เวลานั้นฮาดัดยังเป็นเด็ก 18คนเหล่านี้ออกเดินทางจากแคว้นมีเดียนไปถึงแคว้นปาราน สมทบกับคนชาวปารานมุ่งไปอียิปต์ เข้าเฝ้าฟาโรห์กษัตริย์แห่งอียิปต์ ผู้พระราชทานที่ดินและบ้านเรือนให้ฮาดัด พร้อมกับจัดหาอาหารให้ด้วย 19กษัตริย์ฟาโรห์โปรดปรานฮาดัดมาก ประทานพระขนิษฐาของมเหสีให้เป็นภรรยาของเขา มเหสีองค์นี้คือพระราชินีทาเปเนสd 20พระขนิษฐาของพระราชินีทาเปเนสให้กำเนิดบุตรชายชื่อเกนูบัท ซี่งพระราชินีทาเปเนสทรงรับไปเลี้ยงe ในพระราชวังของกษัตริย์ฟาโรห์ เกนูบัทอยู่กับพระโอรสของกษัตริย์ฟาโรห์ในพระราชวัง 21เมื่อฮาดัดซึ่งอยู่ที่อียิปต์รู้ว่ากษัตริย์ดาวิดสิ้นพระชนม์แล้ว และโยอาบผู้บัญชาการกองทัพก็ตายแล้วด้วย เขาจึงทูลกษัตริย์ฟาโรห์ว่า “โปรดทรงอนุญาตให้ข้าพเจ้ากลับไปแผ่นดินของข้าพเจ้าเถิด” 22กษัตริย์ฟาโรห์ทรงถามว่า “ทำไมเล่า เมื่ออยู่กับเราที่นี่ท่านขาดสิ่งใดหรือ จึงอยากกลับไปแผ่นดินของท่าน” ฮาดัดทูลตอบว่า “ข้าพเจ้าไม่ขาดสิ่งใดเลย แต่โปรดทรงอนุญาตให้ข้าพเจ้ากลับไปเถิด”

23พระเจ้าทรงบันดาลให้เรโซนบุตรของเอลียาดาเป็นปฏิปักษ์ต่อกษัตริย์ซาโลมอนด้วย เรโซนผู้นี้หลบหนีไปจากเจ้านายของตนคือฮาดัดเอเซอร์ กษัตริย์แห่งโศบาห์ 24เมื่อกษัตริย์ดาวิดทรงฆ่าชาวอารัมแล้ว เรโซนรวบรวมผู้คนและตั้งตนเป็นหัวหน้ากองโจร เรโซนกับพวกไปที่กรุงดามัสกัส ตั้งหลักแหล่งอยู่ที่นั่น แล้วเรโซนก็เป็นกษัตริย์ปกครองกรุงดามัสกัส 25เรโซนเป็นศัตรูกับชาวอิสราเอลตลอดรัชสมัยกษัตริย์ซาโลมอน เพิ่มผลร้ายที่ฮาดัดเคยกระทำ ตลอดเวลาที่เป็นกษัตริย์แห่งอารัมf เรโซนเป็นศัตรูกับชาวอิสราเอล

 

เยโรโบอัมเป็นกบฏ

26เยโรโบอัม บุตรของเนบัท ชาวเอฟราอิมจากเมืองเศเรดาห์ มีมารดาเป็นหญิงม่ายชื่อเศรุวาห์ เขาเป็นข้าราชการของกษัตริย์ซาโลมอน ได้ก่อการกบฏต่อกษัตริย์ 27เพราะเหตุผลดังนี้

กษัตริย์ซาโลมอนกำลังทรงถมดินสร้างมิลโลเชื่อมกำแพงนครของกษัตริย์ดาวิดพระบิดา 28เยโรโบอัมเป็นชายหนุ่มที่มีความสามารถ เมื่อกษัตริย์ซาโลมอนทรงเห็นเขาทำงาน ก็ทรงแต่งตั้งเขาเป็นผู้ควบคุมการเกณฑ์แรงงานจากเผ่าโยเซฟ 29วันหนึ่ง เยโรโบอัมเดินทางออกจากกรุงเยรูซาเล็ม ประกาศกคนหนึ่งชื่ออาคิยาห์ชาวชิโลห์มาพบเขากลางทาง มีเพียงเขาสองคนในทุ่งนา อาคิยาห์สวมเสื้อคลุมตัวใหม่ 30เขาถอดเสื้อคลุมตัวนั้นออกมาฉีกเป็นสิบสองชิ้นg 31แล้วพูดกับเยโรโบอัมว่า “ท่านจงเอาไปสิบชิ้นเถิด เพราะพระยาห์เวห์ พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสว่า ‘เราจะฉีกอาณาจักรไปจากมือของซาโลมอนแล้วมอบให้ท่านสิบเผ่า 32เขาจะมีเหลือเพียงเผ่าเดียว เพราะเห็นแก่ดาวิดผู้รับใช้ของเรา และเพราะเห็นแก่กรุงเยรูซาเล็มเมืองที่เราเลือกไว้เป็นของเราจากทุกเผ่าของอิสราเอล 33เราจะทำดังนี้เพราะเขาทิ้งhเราไปนมัสการเทพีอาเชราห์ของชาวไซดอน นมัสการเทพเจ้าเคโมชของชาวโมอับ และเทพเจ้ามิลโคมของชาวอัมโมน เขาไม่ได้เดินตามวิถีทางของเรา ไม่ทำสิ่งที่ถูกต้องในสายตาของเรา ไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดและข้อวินิจฉัยของเรา ต่างจากดาวิดบิดาของเขา 34แต่เราจะไม่เอาอาณาจักรทั้งหมดไปจากมือของเขา เราจะให้เขามีอำนาจปกครองตราบเท่าที่เขายังมีชีวิต เพราะเห็นแก่ดาวิดผู้รับใช้ของเราซึ่งเราเลือกไว้ ดาวิดได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติและข้อกำหนดของเรา 35แต่เราจะเอาอาณาจักรจากมือบุตรของเขาไปมอบให้ท่านสิบเผ่า 36เราจะให้บุตรของเขาปกครองเผ่าเดียว เพื่อดาวิดผู้รับใช้ของเราจะได้มีราชวงศ์iคงอยู่ตลอดไปต่อหน้าเราที่กรุงเยรูซาเล็ม เมืองที่เราเลือกไว้เป็นที่ประทับสำหรับนามของเรา 37เราจะตั้งท่านเป็นกษัตริย์ปกครองทั่วดินแดนที่ท่านต้องการ และท่านจะเป็นกษัตริย์ปกครองอิสราเอล 38ถ้าท่านเชื่อฟังคำสั่งของเราทุกประการและเดินตามวิถีทางของเรา โดยทำสิ่งที่ถูกต้องในสายตาของเรา และปฏิบัติตามข้อกำหนดและบทบัญญัติ ดังที่ดาวิดผู้รับใช้ของเราเคยกระทำ เราจะอยู่กับท่าน เราจะสร้างราชวงศ์มั่นคงให้ท่านดังที่ได้สร้างให้ดาวิด เราจะมอบอิสราเอลให้ท่าน 39เราจะทำให้ลูกหลานของดาวิดตกต่ำเพราะเหตุนี้ แต่จะไม่ตลอดไป’”

40กษัตริย์ซาโลมอนทรงพยายามฆ่าเยโรโบอัม แต่เขาก็หนีไปอียิปต์ ไปหาชิชัก กษัตริย์อียิปต์และอยู่ในอียิปต์จนกระทั่งกษัตริย์ซาโลมอนสิ้นพระชนม์

 

กษัตริย์ซาโลมอนสิ้นพระชนม์

41เหตุการณ์ในรัชสมัยกษัตริย์ซาโลมอน ทั้งงานและพระปรีชาของพระองค์ ล้วนมีบันทึกไว้ในพระราชพงศาวดารของกษัตริย์ซาโลมอนj 42ซาโลมอนทรงเป็นกษัตริย์ปกครองอิสราเอลทั้งหมดอยู่ที่กรุงเยรูซาเล็มเป็นเวลาสี่สิบปี 43กษัตริย์ซาโลมอนสิ้นพระชนม์และทรงถูกฝังไว้ในนครของกษัตริย์ดาวิดพระบิดา เรโหโบอัมพระโอรสทรงเป็นกษัตริย์สืบต่อจากพระองค์

 

11 a “หญิงเหล่านี้....พระยาห์เวห์” ต้นฉบับภาษากรีกละประโยคนี้เพราะมีกล่าวซ้ำในข้อ 4

b “มิลโคม” ตามต้นฉบับภาษากรีก ต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า “โมเลค” มิลโคมเป็นเทพเจ้าประจำชาติของชาวอัมโมน (2 ซมอ 12:30; ยรม 49:1, 3) เคโมชเป็นเทพเจ้าของชาวโมอับ (กดว 21:29; ยรม 48:46)

c การสมรสของกษัตริย์ซาโลมอนกับหญิงต่างชาติเป็นการสมรสเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง สักการสถานถวายแด่พระอื่นเป็นการสร้างเพื่อประโยชน์ทั้งของภรรยาและของพ่อค้าต่างด้าว การมีสักการสถานของพระอื่นในอิสราเอลเช่นนี้เป็นอันตรายต่อความเชื่อในพระยาห์เวห์ ผู้เขียนตัดสินสถานการณ์นี้ตามมาตรการของสำนักเฉลยธรรมบัญญัติ กล่าวคือพระเจ้าทรงลงโทษการสร้างสักการสถานของพระอื่นเช่นนี้โดยทรงให้มีศัตรูทั้งจากภายนอก (ข้อ 14) และภายใน (ข้อ 26ฯ)

d “ทาเปเนส” ไม่ใช่นามเฉพาะ แต่เป็นตำแหน่ง “อัครมเหสี” ของอียิปต์ซึ่งเทียบเท่าตำแหน่ง Gebirah

e “เลี้ยง” ตามต้นฉบับภาษากรีก ต้นฉบับภาษาฮีบรูใช้คำว่า “เลี้ยงจนอดนม”

f ดามัสกัสเคยอยู่ใต้ปกครองของกษัตริย์ดาวิด (2 ซมอ 8:6) ต่อมาได้แยกตัวเป็นอิสระและเป็นศัตรูสำคัญของอิสราเอล

g การกระทำเป็นสัญลักษณ์ของประกาศกไม่เพียงแต่มีความหมาย แต่ยังมีผลตามมาจริงๆ ด้วย (ดู ยรม 18:1 เชิงอรรถ a) ประกาศกอาคิยาห์ฉีกเสื้อคลุมของตนเป็นสิบสองชิ้นหมายถึงอิสราเอลทั้งสิบสองเผ่า สิบชิ้นที่เยโรโบอัมได้รับหมายถึงสิบเผ่าทางเหนือ (ดู 2 ซมอ 19:44) สองชิ้นที่เหลือให้ผู้สืบตำแหน่งต่อจากกษัตริย์ซาโลมอนหมายถึงเผ่ายูดาห์เพียงเผ่าเดียว เพราะเผ่าสิเมโอนถูกกลืนเข้ากับเผ่ายูดาห์แล้ว (ยชว 19:1)

h “เขาทิ้ง” กริยาทุกคำในข้อนี้ในต้นฉบับภาษาฮีบรูเป็นพหูพจน์ แต่เราแปลเป็นเอกพจน์ตามสำนวนแปลโบราณต่าง ๆ

i “ราชวงศ์” แปลตามตัวอักษรว่า “ตะเกียง” ที่จุดอยู่ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของราชวงศ์ที่ดำรงอยู่ตลอดไป

j “พระราชพงศาวดารของกษัตริย์ซาโลมอน” เป็นหนังสือที่สูญหายไปแล้ว อาจเป็นแหล่งข้อมูลโบราณที่ผู้เขียนใช้ในการเรียบเรียงบทที่ 3-11

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก