“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

15 1ผู้เคารพยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทำเช่นนี้

                    ผู้ที่ยึดธรรมบัญญัติมั่นไว้aจะได้รับปรีชาญาณ

          2ปรีชาญาณจะมาพบเขาดุจมารดา

                    จะต้อนรับเขาเสมือนเจ้าสาวพรหมจารี

          3จะให้เขามีความรอบรู้เสมือนเป็นอาหารเลี้ยงชีวิต

                    ให้เขามีปรีชาญาณเป็นเสมือนน้ำดับความกระหาย

          4เขาจะยึดปรีชาญาณเป็นเครื่องค้ำจุนและจะไม่ล้ม

                    เขาจะไว้ใจปรีชาญาณและจะไม่ต้องอับอาย

          5ปรีชาญาณจะเชิดชูเขาให้สูงเหนือเพื่อนบ้าน

                    จะให้เขากล้าพูดในที่ประชุม

          6เขาจะพบความยินดี และความสุขเป็นเสมือนมงกุฎ

                    จะรับชื่อเสียงยั่งยืนเป็นมรดก

          7คนโง่จะไม่ได้รับปรีชาญาณ

                    คนบาปก็จะไม่เห็นปรีชาญาณเลย

          8ปรีชาญาณจะอยู่ห่างไกลคนเย่อหยิ่ง

                    คนมุสาจะไม่คิดถึงปรีชาญาณ

          9คำสรรเสริญไม่เหมาะกับปากคนบาป

                    เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้ามิได้ประทานให้

          10ผู้มีปรีชาเท่านั้นสรรเสริญปรีชาญาณได้

                    องค์พระผู้เป็นเจ้าเท่านั้นทรงดลใจเขาให้ทำเช่นนี้

มนุษย์มีอิสระเสรี

            11อย่าพูดว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงทำให้ฉันผิดพลาด”

                    เพราะพระองค์ไม่ทรงกระทำbสิ่งที่ทรงเกลียด

          12อย่าพูดว่า “พระองค์ทรงนำฉันให้หลงทาง”

                    เพราะคนบาปไม่มีประโยชน์อะไรสำหรับพระองค์

          13องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเกลียดทุกสิ่งที่น่ารังเกียจ

                    และผู้ยำเกรงพระองค์ก็เกลียดสิ่งนั้นด้วย

          14พระองค์ทรงเนรมิตมนุษย์แต่แรกเริ่ม

                    ทรงปล่อยให้เขาตัดสินใจด้วยตนเองc

          15ถ้าท่านต้องการ ท่านก็ปฏิบัติตามบทบัญญัติได้

                    ท่านจะซื่อสัตย์ต่อพระองค์หรือไม่ขึ้นอยู่กับท่าน

          16พระองค์ทรงวางน้ำกับไฟไว้ต่อหน้าท่าน

                    ท่านต้องการสิ่งใดก็จงยื่นมือหยิบด้วยตนเอง

          17ทั้งชีวิตและความตายอยู่ต่อหน้ามนุษย์

                    เขาเลือกสิ่งใดก็จะได้รับสิ่งนั้น

          18พระปรีชาญาณขององค์พระผู้เป็นเจ้ายิ่งใหญ่

                    พระองค์ทรงสรรพานุภาพและทรงเห็นทุกสิ่ง

          19พระองค์ทอดพระเนตรเห็นผู้ยำเกรงพระองค์

                    ทรงรู้กิจการทุกอย่างของมนุษย์

          20พระองค์ไม่ทรงบัญชาผู้ใดให้เป็นคนอธรรม

                    พระองค์ไม่ทรงอนุญาตให้ผู้ใดทำบาป

 

15 a “ผู้ที่ยึดธรรมบัญญัติมั่นไว้” น่าจะหมายถึงบรรดาธรรมาจารย์ ยรม 2:8 กล่าวว่าบุคคลสำคัญในสังคมชาวยิวมี 4 กลุ่ม คือ บรรดาสมณะ ธรรมาจารย์ เจ้านายและประกาศก บรรดา “ธรรมาจารย์” จะมีบทบาทสำคัญในยุคหลังกลับจากการเนรเทศที่กรุงบาบิโลน (ดู อสร 7:6 เชิงอรรถ c)

b “พระองค์ไม่ทรงกระทำ” แปลตามต้นฉบับภาษาฮีบรูและสำเนาโบราณภาษากรีกฉบับหนึ่ง ต้นฉบับภาษากรีกว่า “จงอย่าทำ”

c “ตัดสินใจด้วยตนเอง” ข้อความนี้มักถูกยกมาอ้างเพื่อสนับสนุนคำสอนเรื่องมนุษย์มีอิสระเสรีในการเลือกทำดีทำชั่ว

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก