“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)


(ไฟล์ "เสียงวรสาร" โดย วัดแม่พระกุหลาบทิพย์ กรุงเทพฯ)

VI. อาณาจักรสวรรค์อยู่ใกล้แล้ว

 . เรื่องเล่า

คำถามเรื่องการหย่าร้าง

          19 1เมื่อพระเยซูเจ้าตรัสเรื่องนี้จบแล้ว จึงเสด็จออกจากแคว้นกาลิลีเข้าไปในแคว้นยูเดีย อีกฟากหนึ่งของแม่น้ำจอร์แดน 2ประชาชนจำนวนมากติดตามพระองค์ พระองค์ทรงรักษาผู้ป่วยที่นั่น

          3ชาวฟาริสีบางคนเข้ามาเพื่อจับผิดพระองค์ ทูลถามว่า “เป็นการถูกต้องหรือไม่ ที่ชายจะหย่าร้างกับภรรยาเนื่องด้วยเหตุใดก็ตาม”

          4พระองค์ทรงตอบว่า “ท่านไม่ได้อ่านพระคัมภีร์หรือว่าเมื่อแรกนั้นพระผู้สร้างทรงสร้างมนุษย์ให้เป็นชายและหญิง 5และตรัสว่า ดังนี้ ชายจะละบิดามารดาไปสนิทอยู่กับภรรยาของตนและชายหญิงจะเป็นเนื้อเดียวกัน

          6เขาจึงไม่เป็นสองอีกต่อไป แต่เป็นเนื้อเดียวกัน ดังนั้น สิ่งที่พระเจ้าทรงรวมกันไว้ มนุษย์อย่าได้แยกเลย”a

          7ชาวฟาริสีจึงทูลถามว่า “แล้วทำไมโมเสสจึงสั่งให้ชายทำหนังสือหย่าร้าง แล้วหย่าร้างได้” 8พระองค์ตรัสว่า “เพราะใจดื้อแข็งกระด้างของท่าน โมเสสจึงยอมอนุญาตให้หย่าร้างได้ แต่เมื่อแรกเริ่มนั้น หาเป็นเช่นนี้ไม่

          9เราบอกท่านทั้งหลายว่า ผู้ใดหย่าร้างภรรยาและแต่งงานกับอีกคนหนึ่ง เขาก็ทำผิดประเวณี เว้นแต่ในกรณีแต่งงานไม่ถูกต้อง”b

การสมัครใจไม่แต่งงาน

          10บรรดาศิษย์ทูลพระองค์ว่า “ถ้าสภาพของสามีกับภรรยาเป็นเช่นนี้ ก็ไม่ควรจะแต่งงานเลย” 11พระองค์ตรัสว่า “ไม่ใช่ทุกคนเข้าใจคำสอนนี้ คนที่เข้าใจคือคนที่พระเจ้าประทานให้ 12เพราะว่า บางคนเป็นขันทีตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา บางคนถูกมนุษย์ทำให้เป็นขันที และบางคนทำตนเป็นขันทีเพราะเห็นแก่อาณาจักรสวรรค์c ผู้ที่เข้าใจได้ ก็จงเข้าใจเถิด”

พระเยซูเจ้าและเด็กเล็กๆ

          13ขณะนั้น มีผู้นำเด็กเล็กๆ มาให้พระองค์ทรงปกพระหัตถ์อวยพร แต่บรรดาศิษย์กลับดุว่าคนเหล่านั้น 14พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาว่า “ปล่อยให้เด็กเล็กๆ มาหาเราเถิด อย่าห้ามเลย เพราะอาณาจักรสวรรค์เป็นของคนที่เหมือนเด็กเหล่านี้” 15พระองค์ทรงปกพระหัตถ์ให้เด็กเหล่านั้น แล้วจึงเสด็จไปจากที่นั่น

เศรษฐีหนุ่ม

          16ชายคนหนึ่งมาเฝ้าพระองค์ทูลถามว่า “พระอาจารย์d ข้าพเจ้าต้องทำความดีอะไรเพื่อจะมีชีวิตนิรันดร” 17พระองค์ตรัสกับเขาว่า “เหตุใดจึงถามเราถึงความดี ผู้ทรงความดีมีแต่ผู้เดียวเท่านั้นe ถ้าท่านอยากเข้าสู่ชีวิตนิรันดร ก็จงปฏิบัติตามบทบัญญัติเถิด” 18เขาทูลถามว่า “บทบัญญัติข้อใด” พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “อย่าฆ่าคน อย่าล่วงประเวณี อย่าลักขโมย อย่าเป็นพยานเท็จ 19จงนับถือบิดามารดา จงรักผู้อื่นเหมือนรักตนเอง” 20ชายหนุ่มผู้นั้นทูลถามว่า “ข้าพเจ้าปฏิบัติตามบทบัญญัติเหล่านี้ทุกข้อแล้วf ยังขาดอะไรอีกหรือ” 21พระเยซูเจ้าตรัสตอบเขาว่า “ถ้าท่านอยากเป็นคนดีอย่างสมบูรณ์g จงไปขายทุกสิ่งที่มี มอบเงินให้คนยากจน และท่านจะมีขุมทรัพย์ในสวรรค์ แล้วจงติดตามเรามาเถิด” 22เมื่อได้ยินพระวาจานี้ ชายหนุ่มผู้นั้นจากไปด้วยความทุกข์ เพราะเขามีทรัพย์สมบัติจำนวนมาก

อันตรายจากทรัพย์สมบัติ

          23พระเยซูเจ้าตรัสแก่บรรดาศิษย์ว่า

          “เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า คนมั่งมีจะเข้าสู่อาณาจักรสวรรค์ได้ยาก 24เราบอกท่านอีกว่า อูฐจะลอดรูเข็ม ยังง่ายกว่าคนมั่งมีเข้าสู่อาณาจักรสวรรค์” 25เมื่อบรรดาศิษย์ได้ยินเช่นนี้ ต่างรู้สึกประหลาดใจมาก จึงทูลถามว่า “แล้วดังนี้ ใครเล่าจะรอดพ้นได้” 26พระเยซูเจ้าทอดพระเนตรบรรดาศิษย์ แล้วตรัสว่า “สำหรับมนุษย์เป็นไปไม่ได้ แต่สำหรับพระเจ้า ทุกอย่างเป็นไปได้”

รางวัลของการสละทุกสิ่ง

          27เปโตรจึงทูลถามว่า “ข้าพเจ้าทั้งหลายสละทุกสิ่งและติดตามพระองค์แล้ว จะได้อะไรบ้าง” 28พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ในโลกใหม่h เมื่อบุตรแห่งมนุษย์จะประทับเหนือพระที่นั่งอันรุ่งโรจน์ ท่านทั้งหลายที่ติดตามเรา ก็จะนั่งบนบัลลังก์ทั้งสิบสองบัลลังก์ เพื่อพิพากษาiตระกูลอิสราเอลทั้งสิบสองตระกูลด้วย 29และผู้ใดที่สละบ้านเรือน พี่น้องชายหญิง บิดามารดา บุตรj ไร่นาเพราะเห็นแก่เรา ก็จะได้รับตอบแทนร้อยเท่า และจะได้รับชีวิตนิรันดรเป็นมรดกด้วย

          30หลายคนที่เป็นกลุ่มแรกจะกลับเป็นกลุ่มสุดท้าย และกลุ่มสุดท้ายจะกลับเป็นกลุ่มแรก”

 

19 a เป็นการยืนยันโดยไม่มีข้อยกเว้นว่าการสมรสจะเพิกถอนมิได้

b มก 10:11ฯ; ลก 16:18 และ 1 คร 7:10ฯ ห้ามมิให้หย่าร้างในทุกกรณี มธ เท่านั้นบอกว่าพระเยซูเจ้าทรงยกเว้นให้หย่าร้างได้ในกรณีที่แต่งงานไม่ถูกต้อง อาจเป็นเพราะว่าชาวยิวในสมัยนั้นถกเถียงกันว่าจะหย่าร้างกันได้หรือไม่ พวกรับบีในสมัยนั้นถกเถียงกันระหว่าง Hillei กับ Shammai ว่า มีเหตุใดบ้างที่ทำให้การหย่าร้างถูกต้อง สำหรับ Shammai เหตุผลประการเดียวที่จะหย่าร้างได้คือ เมื่อภรรยามีชู้ ส่วน Hillel สอนว่าเหตุผลใดๆ ไม่ว่าทำให้การหย่าร้างได้เสมอ (เทียบ ข้อ 3) ปัญหาของชาวยิวที่กลับใจมาเป็นคริสตชนทำให้ มธ เพิ่มข้อยกเว้นนี้ลงไปด้วย คล้ายกับข้อกำหนดการประชุมที่กรุงเยรูซาเล็มใน กจ 15:23-29 คำว่า “porneia” ในที่นี้น่าจะหมายถึงการแต่งงานไม่ถูกต้องมากกว่าการเป็นชู้อย่างที่ชาวออร์โธดอกซ์และโปรเตสแตนท์เข้าใจ เพราะในภาษากรีกมีคำ “moicheia” ซึ่งหมายถึงการเป็นชู้โดยตรง ในที่นี้ ดูเหมือนคำว่า “porneia” น่าจะแปลคำภาษาฮีบรูว่า “zenut” (ค้าประเวณี) ซึ่งในวรรณกรรมของพวกรับบี หมายถึงการแต่งงานไม่ถูกต้องระหว่างญาติสนิทซึ่งธรรมบัญญัติห้ามไว้ (ลนต 18) การแต่งงานเช่นนี้คนต่างศาสนาถือว่าถูกต้อง แต่เมื่อเขากลับใจมาเป็นคริสตชนในแวดวงชาวยิว การแต่งงานเช่นนี้ถือว่าไม่ถูกต้อง จึงมีข้อแนะนำให้คู่สมรสดังกล่าวเลิกกัน เพราะว่าไม่เป็นการแต่งงานที่แท้จริง บางคนคิดว่าข้อยกเว้นนี้หมายถึงการอนุญาตให้คู่สมรสแยกกันอยู่ แต่ห้ามมิให้แต่งงานใหม่ จึงมิใช่การหย่าร้างแท้จริง แต่การแยกกันอยู่โดยไม่แต่งงานใหม่เช่นนี้ไม่เป็นที่รู้จักในแวดวงของชาวยิวสมัยนั้น ถึงกระนั้น บางครั้งพระเยซูเจ้าอาจทรงเรียกร้องแนวปฏิบัติใหม่ได้เช่นกัน และ 1 คร 7:11 หมายถึงการแยกกันเช่นนี้

c พระเยซูเจ้าทรงเชื้อเชิญให้ละเว้นการแต่งงานตลอดไป เป็นการแสดงถึงการอุทิศตนโดยสมบูรณ์เพื่อพระอาณาจักรของพระเจ้า

d สำเนาโบราณบางฉบับว่า “พระอาจารย์ผู้ทรงความดี” (ดู มก และ ลก)

e หมายถึง พระเจ้า (ใน มก ลก และ มธ ภาษาละตินมีคำว่า “พระเจ้า” อยู่ด้วย) สำเนาโบราณบางฉบับยกข้อความจาก มก และ ลก ว่า “ทำไมเรียกเราว่าผู้ทรงความดี ไม่มีใครทรงความดีนอกจากพระเจ้าเท่านั้น”

f สำเนาโบราณบางฉบับเพิ่ม “ตั้งแต่เป็นเด็กแล้ว” (ดู มก และ ลก)

g พระเยซูเจ้ามิได้ทรงตั้งคณะใหม่ที่เป็น “ศิษย์ที่ดีพร้อม” อยู่เหนือคริสตชนธรรมดา ความดีอย่างสมบูรณ์นี้มีความหมายถึงระบบใหม่ซึ่งเรียกร้องความดีอย่างสมบูรณ์สูงกว่าระบบเดิม (ดู 5:17 เชิงอรรถ h) ทุกคนได้รับเรียกมาในระบบนี้เท่าเทียมกัน (ดู 5:48) กระนั้นก็ดี เพื่อจะก่อตั้งพระอาณาจักร พระเยซูเจ้าทรงต้องการผู้ร่วมงานเต็มเวลา ดังนั้น จึงทรงเรียกร้องให้คนเหล่านี้สละชีวิตครอบครัว (18:12) และทรัพย์สมบัติ (8:19-20)

h “โลกใหม่” หมายถึงการฟื้นฟูทุกสิ่งขึ้นใหม่ในยุคพระเมสสิยาห์ ซึ่งจะปรากฏแจ้งเมื่อสิ้นพิภพ แต่เป็นความจริงแล้วในด้านจิตใจ เมื่อพระคริสตเจ้าทรงกลับคืนพระชนมชีพจากบรรดาผู้ตาย และทรงเป็น “องค์พระผู้เป็นเจ้า” ในพระศาสนจักร

i “พิพากษา” มีความหมายเท่ากับ “ปกครอง” ในพันธสัญญาเดิม “สิบสองตระกูล” หมายถึงอิสราเอลใหม่ คือ พระศาสนจักร

j สำเนาโบราณบางฉบับเสริมคำว่า “ภรรยา”

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก