“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)


(ไฟล์ "เสียงวรสาร" โดย วัดแม่พระกุหลาบทิพย์ กรุงเทพฯ)

V. พระทรมานและการกลับคืนพระชนมชีพ

 

การวางแผนกำจัดพระเยซูเจ้า

          14 1สองวันก่อนจะถึงวันปัสกาและเทศกาลกินขนมปังไร้เชื้อ บรรดาหัวหน้าสมณะและธรรมาจารย์คิดหาอุบายจับกุมพระเยซูเจ้า เพื่อจะได้ประหารชีวิตพระองค์ 2เขาพูดกันว่า “อย่าทำในวันฉลองเลย มิฉะนั้น ประชาชนจะก่อการจลาจล”

การเจิมที่เบธานี

          3พระองค์ประทับอยู่ที่หมู่บ้านเบธานี ในบ้านของซีโมนที่เคยเป็นโรคเรื้อน ขณะที่กำลังประทับที่โต๊ะอาหาร หญิงคนหนึ่งถือขวดหินขาวบรรจุน้ำมันหอมสมุนไพรบริสุทธิ์a ราคาแพงเข้ามา นางทุบขวดหินขาวแตก และเทน้ำมันหอมลงบนพระเศียรของพระองค์ 4บางคนพูดกันอย่างไม่พอใจว่า “ทำไมจึงทำให้น้ำมันหอมเสียไปเปล่าๆ 5น้ำมันหอมนี้อาจจะขายได้เงินมากกว่าสามร้อยเหรียญ แล้วเอาเงินไปให้คนยากจน” เขาเหล่านั้นบ่นว่านาง 6พระเยซูเจ้าจึงตรัสว่า “ปล่อยนางเถิด ทำให้นางยุ่งยากใจทำไม นางได้ทำกิจการดีต่อเราb 7ท่านจะมีคนยากจนอยู่กับท่านเสมอ ท่านจะทำดีต่อเขาเมื่อไรก็ได้ แต่ท่านจะไม่มีเราอยู่กับท่านเสมอไป 8นางได้ทำสิ่งที่นางทำได้แล้ว นางชโลมกายของเราล่วงหน้าก่อนจะถึงเวลาฝังศพ 9เราบอกความจริงกับท่านทั้งหลายว่า ที่ใดในโลกที่มีการประกาศข่าวดี จะมีการกล่าวถึงสิ่งที่นางได้ทำเพื่อเป็นการระลึกถึงนาง”

ยูดาสทรยศต่อพระเยซูเจ้า

          10ยูดาสอิสคาริโอท หนึ่งในบรรดาอัครสาวกสิบสองคน ไปพบบรรดาหัวหน้าสมณะเพื่อจะมอบพระเยซูเจ้า 11เมื่อเขาเหล่านั้นได้ยินดังนี้ก็ดีใจและสัญญาจะให้เงินแก่ยูดาส ยูดาสจึงหาโอกาสที่จะมอบพระองค์

การเตรียมงานเลี้ยงปัสกา

          12วันแรกของเทศกาลกินขนมปังไร้เชื้อ เมื่อเขาฆ่าลูกแกะปัสกา บรรดาศิษย์ทูลถามพระเยซูเจ้าว่า “พระองค์มีพระประสงค์ให้เราจัดเตรียมcการเลี้ยงปัสกาที่ไหน” 13พระองค์จึงทรงใช้ศิษย์สองคนไป สั่งเขาว่า “จงเข้าไปในกรุง แล้วจะพบชายคนหนึ่งกำลังเดินแบกหม้อน้ำอยู่ จงตามเขาไป 14เขาเข้าไปที่ไหน จงถามเจ้าของบ้านว่า ‘พระอาจารย์ถามว่า ห้องที่เราจะกินปัสกากับบรรดาศิษย์นั้นอยู่ที่ไหน’ 15เขาจะชี้ให้ท่านเห็นห้องใหญ่ชั้นบนปูพรมไว้เรียบร้อย จงจัดเตรียมปัสกาไว้สำหรับพวกเราที่นั่นแหละ” 16ศิษย์ทั้งสองคนออกเดินทางเข้าไปในกรุง พบสิ่งต่างๆ ดังที่พระองค์ทรงบอกไว้ จึงจัดเตรียมปัสกา

พระเยซูเจ้าทรงทำนายถึงการทรยศของยูดาส

          17ครั้นถึงเวลาค่ำ พระองค์เสด็จมาพร้อมกับบรรดาอัครสาวกสิบสองคน 18ขณะที่ทุกคนนั่งที่โต๊ะและกินอาหารพร้อมกับพระเยซูเจ้าอยู่นั้น พระองค์ตรัสว่า “เราบอกความจริงกับท่านทั้งหลายว่า คนหนึ่งในที่นี้จะทรยศต่อเรา คนทรยศกำลังกินอาหารกับเรา” 19บรรดาอัครสาวกรู้สึกเศร้าใจ ทูลถามพระองค์ทีละคนว่า “ใช่ข้าพเจ้าหรือไม่” 20พระองค์ตรัสว่า “เป็นคนหนึ่งในสิบสองคนนี้ คือคนที่กำลังจิ้มอาหารในชามเดียวกันกับเรา 21เพราะบุตรแห่งมนุษย์กำลังจะจากไปตามที่เขียนเกี่ยวกับพระองค์ไว้ในพระคัมภีร์ วิบัติจงเกิดแก่คนที่ทรยศต่อบุตรแห่งมนุษย์ ถ้าเขาไม่ได้เกิดมาจะดีกว่า”

พระเยซูเจ้าทรงตั้งศีลมหาสนิท

          22ขณะที่ทุกคนกำลังกินอาหารอยู่นั้น พระองค์ทรงหยิบขนมปัง ตรัสถวายพระพร ทรงบิขนมปัง ประทานให้เขาเหล่านั้น ตรัสว่า “จงรับเถิด นี่เป็นกายของเรา” 23แล้วพระองค์ทรงหยิบถ้วย ตรัสขอบพระคุณ ประทานให้เขาและทุกคนดื่มจากถ้วยนั้น 24พระองค์ตรัสกับเขาว่า “นี่เป็นโลหิตของเรา โลหิตแห่งพันธสัญญาที่หลั่งออกเพื่อคนจำนวนมาก 25เราบอกความจริงกับท่านทั้งหลายว่า เราจะไม่ดื่มน้ำจากผลองุ่นใด จนกว่าจะถึงวันที่เราจะดื่มเหล้าองุ่นใหม่ในพระอาณาจักรของพระเจ้า”

พระเยซูเจ้าทรงทำนายว่าเปโตรจะปฏิเสธพระองค์

          26เมื่อขับร้องเพลงสดุดีแล้ว ทุกคนออกจากห้องเพื่อไปยังภูเขามะกอกเทศ 27พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาว่า “ท่านทุกคนจะทอดทิ้งเรา เพราะมีเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่าเราจะตีผู้เลี้ยงแกะและแกะจะกระจัดกระจายไป 28แต่เมื่อเรากลับคืนชีพแล้ว เราจะไปยังแคว้นกาลิลีก่อนหน้าท่าน” 29เปโตรทูลว่า “แม้ว่าทุกคนจะทอดทิ้งพระองค์ ข้าพเจ้าก็จะไม่ทอดทิ้งพระองค์เลย” 30พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “เราบอกความจริงกับท่านว่า คืนนี้ก่อนไก่จะขันสองครั้ง ท่านจะปฏิเสธเราสามครั้ง” 31แต่เปโตรทูลย้ำว่า “ถึงแม้ข้าพเจ้าจะต้องตายพร้อมกับพระองค์ ข้าพเจ้าก็จะไม่ปฏิเสธพระองค์เลย” อัครสาวกทุกคนก็พูดเหมือนกัน

ในสวนเกทเสมนี

          32พระเยซูเจ้าเสด็จมาพร้อมกับบรรดาศิษย์ถึงสถานที่แห่งหนึ่งชื่อ “เกทเสมนี” พระองค์ตรัสกับเขาว่า “จงนั่งอยู่ที่นี่ ขณะที่เราไปอธิษฐานภาวนา” 33แล้วทรงพาเปโตร ยากอบ และยอห์นไปกับพระองค์ 34พระองค์ทรงเริ่มรู้สึกหวาดกลัวและเศร้าพระทัยอย่างยิ่ง จึงตรัสกับเขาทั้งสามคนว่า “ใจเราเป็นทุกข์แทบสิ้นชีวิต จงอยู่ที่นี่และตื่นเฝ้าเถิด” 35แล้วทรงพระดำเนินไปข้างหน้าอีกเล็กน้อย ทรงทรุดลงกับพื้นดิน ทรงอธิษฐานภาวนาเพื่อให้เวลานั้นผ่านพ้นพระองค์ไป ถ้าเป็นไปได้ 36พระองค์ทูลว่า “อับบา พระบิดาเจ้าข้าd พระองค์ทรงกระทำทุกสิ่งได้ โปรดทรงเอาถ้วยนี้ไปจากข้าพเจ้าเถิด อย่าให้เป็นไปตามใจข้าพเจ้า แต่ให้เป็นไปตามพระประสงค์ของพระองค์เถิด” 37พระองค์เสด็จกลับมา พบศิษย์ทั้งสามคนกำลังหลับ จึงตรัสกับเปโตรว่า “ซีโมน ท่านหลับหรือ ท่านตื่นเฝ้าสักหนึ่งชั่วโมงไม่ได้หรือ 38จงตื่นเฝ้าและอธิษฐานภาวนาเพื่อจะไม่เข้าสู่การผจญ จิตใจพร้อมแล้วก็จริง แต่เนื้อหนังอ่อนกำลัง” 39แล้วพระองค์เสด็จไปอธิษฐานภาวนาอีกครั้งหนึ่ง ทรงกล่าวถ้อยคำเดียวกัน 40ครั้นเสด็จกลับมาก็ทรงพบเขาหลับอยู่อีก เพราะลืมตาไม่ขึ้น และเขาไม่รู้จะทูลตอบพระองค์อย่างไร 41เมื่อเสด็จกลับมาครั้งที่สาม พระองค์ตรัสกับเขาว่า “บัดนี้ท่านหลับต่อไปและพักผ่อนได้ พอเถอะ เวลาที่บุตรแห่งมนุษย์จะต้องถูกมอบไว้ในมือของคนบาปมาถึงแล้ว 42จงลุกขึ้น ไปกันเถิด ผู้ทรยศมาแล้ว”

พระเยซูเจ้าทรงถูกจับกุม

          43ขณะที่พระเยซูเจ้ากำลังตรัสอยู่นั้น ยูดาส หนึ่งในบรรดาอัครสาวกสิบสองคน มาถึงพร้อมกับคนจำนวนหนึ่ง ถือดาบและไม้ตะบองเป็นอาวุธ บรรดาหัวหน้าสมณะ ธรรมาจารย์และผู้อาวุโสส่งคนเหล่านี้มา 44ผู้ทรยศให้สัญญาณกับคนเหล่านี้ว่า “เราจูบผู้ใด ก็เป็นคนนั้นแหละ จงจับกุมเขาไว้แล้วคุมตัวเขาไปอย่างแน่นหนาเถิด” 45เมื่อ
ยูดาสมาถึง ก็ตรงเข้าไปหาพระองค์ ทูลว่า “พระอาจารย์เจ้าข้า” แล้วจูบพระองค์ 46คนเหล่านั้นต่างกรูกันเข้ามาจับกุมพระองค์ 47คนที่ยืนอยู่ที่นั่นคนหนึ่งชักดาบฟันผู้รับใช้คนหนึ่งของมหาสมณะ ใบหูขาด

          48พระเยซูเจ้าตรัสถามคนเหล่านั้นว่า “ท่านทั้งหลายถือดาบ ถือตะบองมาจับเราราวกับเราเป็นโจรเทียวหรือ 49เราอยู่กับท่านทุกวัน สั่งสอนในบริเวณพระวิหาร ท่านก็ไม่ได้มาจับเรา แต่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพื่อให้พระคัมภีร์เป็นความจริง” 50ศิษย์ทุกคนทิ้งพระองค์ แล้วหนีไป 51ชายหนุ่มคนหนึ่งห่มผ้าป่านผืนเดียวตามพระองค์ไป คนเหล่านั้นพยายามจับเขา 52แต่เขาสลัดผ้าป่านนั้นทิ้ง แล้ววิ่งหนีไปแต่ตัวเท่านั้นe

พระเยซูเจ้าทรงถูกพิจารณาคดีในสภาซันเฮดริน

          53บรรดาผู้ที่จับกุมพระเยซูเจ้านำพระองค์ไปยังบ้านของมหาสมณะ บรรดาหัวหน้าสมณะ ผู้อาวุโสและธรรมาจารย์ทุกคนชุมนุมกันที่นั่น 54ส่วนเปโตรติดตามพระองค์ไปห่างๆ จนเข้าถึงภายในลานบ้านของมหาสมณะ และนั่งผิงไฟอยู่กับบรรดาผู้รับใช้ 55บรรดาหัวหน้าสมณะและสมาชิกสภาซันเฮดรินทุกคนพยายามหาพยานเพื่อกล่าวหาพระเยซูเจ้า และประหารชีวิตพระองค์ แต่เขาหาพยานไม่ได้ 56พยานเท็จหลายคนปรักปรำพระองค์ แต่คำให้การของเขาไม่ตรงกัน 57บางคนลุกขึ้นให้การเท็จปรักปรำพระองค์ว่า 58“เราได้ยินเขาพูดว่า ‘ฉันจะทำลายวิหารที่สร้างด้วยมือมนุษย์นี้ และภายในสามวัน จะสร้างขึ้นใหม่อีกหลังหนึ่ง ซึ่งไม่ได้สร้างขึ้นด้วยมือมนุษย์’” 59แม้กระทั่งเรื่องนี้ คำให้การของพยานก็ไม่ตรงกัน 60มหาสมณะจึงลุกขึ้นยืนกลางที่ชุมนุม ถามพระเยซูเจ้าว่า “ท่านไม่ตอบอะไรหรือ พยานเหล่านี้ตั้งข้อกล่าวหาอะไรปรักปรำท่าน”f 61แต่พระองค์ทรงนิ่ง มิได้ตรัสตอบแต่ประการใด มหาสมณะจึงถามพระองค์อีกว่า “ท่านเป็นพระคริสต์ พระบุตรของพระผู้ควรรับการถวายพระพรหรือ”g 62พระเยซูเจ้าตรัสว่า “เราเป็น และท่านทั้งหลายจะเห็นบุตรแห่งมนุษย์ประทับนั่ง ณ เบื้องขวาของพระผู้ทรงอานุภาพ และจะเสด็จมาพร้อมกับหมู่เมฆบนท้องฟ้า 63มหาสมณะจึงฉีกเสื้อของตน แล้วกล่าวว่า “เราจะต้องการพยานอะไรอีก 64ท่านทั้งหลายต่างได้ยินเขาพูดดูหมิ่นพระเจ้าแล้ว ท่านคิดเห็นอย่างไร” เขาทุกคนตัดสินว่า พระองค์ควรรับโทษถึงตาย 65บางคนถ่มน้ำลายรดพระองค์ ใช้ผ้าปิดพระพักตร์ ชกต่อยพระองค์ และพูดว่า “จงทายซิ”h บรรดาผู้รับใช้ก็ตบตีพระองค์ด้วย

เปโตรปฏิเสธพระเยซูเจ้า

          66ขณะที่เปโตรอยู่ที่ลานข้างล่าง หญิงรับใช้คนหนึ่งของมหาสมณะมาที่นั่น 67เมื่อเห็นเปโตรกำลังนั่งผิงไฟอยู่ ก็จ้องมองเขาและพูดว่า “ท่านอยู่กับเยซู ชาวนาซาเร็ธด้วย” 68แต่เปโตรปฏิเสธว่า “ฉันไม่รู้ และไม่เข้าใจว่าท่านพูดเรื่องอะไร” แล้วจึงเดินไปที่ทางเข้า ไก่ก็ขันi 69หญิงรับใช้ยังคงเห็นเปโตรจึงบอกคนที่ยืนอยู่ที่นั่นว่า “คนนี้เป็นคนหนึ่งในพวกของเขาด้วย” 70แต่เปโตรปฏิเสธอีก ต่อมาไม่นาน คนที่ยืนอยู่ที่นั่นกล่าวกับเปโตรว่า “ท่านเป็นคนหนึ่งในพวกเขาแน่ๆ เพราะท่านเป็นชาวกาลิลี” 71แต่เปโตรเริ่มสบถสาบานอย่างแข็งขันว่า “ข้าพเจ้าไม่รู้จักคนที่ท่านกำลังพูดถึง” 72ทันใดนั้นไก่ก็ขันเป็นครั้งที่สอง เปโตรจึงระลึกถึงคำที่พระเยซูเจ้าตรัสไว้แก่ตนว่า “ก่อนไก่จะขันสองครั้ง ท่านจะปฏิเสธเราสามครั้ง” แล้วเขาก็ร้องไห้

 

14 a เช่นเดียวกับ ยน 12:3 มก บอกชนิดของน้ำมันหอม ภาษากรีกว่า “nardos” (โกฐิชฎามังสี) ซึ่งเป็นสารสกัดจากสมุนไพรชนิดหนึ่ง มก แต่ผู้เดียวให้ข้อสังเกตว่า หญิงคนนั้นบิขวดหินขาวแตกเพื่อเทน้ำมันหอมได้สะดวกและรวดเร็ว แสดงถึงความใจกว้างของนาง

b “กิจการดี” อาจเป็นศัพท์เฉพาะตามธรรมประเพณีของชาวยิว หมายถึงเมตตากิจซึ่งคิดกันว่าดีกว่าการทำบุญให้ทาน แต่อาจจะหมายถึง “กิจการดีงาม” โดยทั่วไปก็ได้

c มธ เล่าว่าพระเยซูเจ้าทรงใช้ศิษย์ไปบอกเจ้าของบ้านที่พระองค์ทรงต้องการจะไปกินเลี้ยงปัสกา แต่ มก เล่าว่าศิษย์ทั้งสองคนจะเห็นเครื่องหมายที่นำไปยังห้องที่จะพบว่าเตรียมพร้อมแล้ว การเล่าเรื่องเหตุการณ์เช่นนี้ต้องการแสดงว่าพระเยซูเจ้าทรงมีความรู้ล่วงหน้าเหมือนกับเรื่องที่เล่าใน 1 ซมอ 10:2-5 น่าสังเกตอีกว่า โครงสร้างการเล่าเรื่องนี้คล้ายกันมากกับเรื่องการเตรียมเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็มของพระเยซูเจ้าในฐานะที่เป็นพระเมสสิยาห์ (มก 11:1-6)

d “อับบา” เป็นคำภาษาอาราเมอิก แปลว่า “พ่อจ๋า” พระเยซูเจ้าทรงใช้คำนี้เพื่อแสดงความสนิทสนมที่พระบุตรทรงมีต่อพระบิดา (เทียบ มธ 11:25-26//; ยน 3:35; 5:19-20; 8:28-29) ต่อมาคริสตชนก็ใช้คำนี้ด้วย (รม 8:15; กท 4:6) เพราะองค์พระจิตเจ้า (รม 5:5 เชิงอรรถ e) ทำให้เขาเป็นบุตรของพระเจ้า (มธ 6:9; 17:25 เชิงอรรถ i; ลก 11:2)

e รายละเอียดนี้มีเฉพาะใน มก เท่านั้น นักพระคัมภีร์บางคนอธิบายว่า ชายหนุ่มคนนี้คือมาระโกผู้นิพนธ์พระวรสารเอง

f ที่นี่ และใน มธ 26:62 บางคนแปลว่า “ท่านไม่ตอบอะไรในข้อหาที่พยานเหล่านี้ตั้งมาปรักปรำท่านเลยหรือ”

g “พระผู้ควรได้รับการถวายพร” (เทียบ “พระผู้ทรงอานุภาพ” ข้อ 62) เป็นคำที่ใช้แทนการออกพระนาม “พระยาห์เวห์” โดยตรง ธรรมเนียมของชาวยิวจะไม่ออกพระนามพระยาห์เวห์เลย

h “ถ่มน้ำลายรดพระองค์ ใช้ผ้าปิดพระพักตร์” เป็นข้อความในต้นฉบับส่วนใหญ่ สำเนาโบราณบางฉบับ เช่น D, Vet.Lat (a, f) ย่อข้อความเหลือเพียง “ถ่มน้ำลายรดพระพักตร์” “จงทายซิ” สำเนาโบราณบางฉบับเสริมว่า “ใครเป็นคนตีท่าน” เพื่อให้เหมือนกับข้อความใน มธ 26:68 และ ลก 22:64

i เสียงไก่ขันครั้งแรกไม่ทำให้เปโตรรู้สึกตัว และการออกไปข้างนอกซึ่งเกิดขึ้นพร้อมกันเป็นเรื่องแปลกและทำให้คิดว่าการเล่าที่มีอยู่เดิมน่าจะมีการปฏิเสธพร้อมกับไก่ขันเพียงครั้งเดียว แล้วเปโตรจึงออกไปข้างนอก เป็นไปได้ว่าการนำเรื่องนี้มารวมกับอีกสองสำนวนซึ่งเล่าเรื่องเดียวกัน ได้ทำให้มีการปฏิเสธสามครั้ง (14:30//, 72//, ดู ยน 13:38; 21:15-17) มธ และ ลก ทำให้การรวมธรรมประเพณีต่างกันนี้เข้ากันอย่างราบรื่นกว่าโดยตัดเรื่องไก่ขันครั้งแรกออก (ลก ยังตัดการที่เปโตรออกไปข้างนอกอีกด้วย) ใน ยน การปฏิเสธครั้งแรก (18:17) แยกออกจากการปฏิเสธอีกสองครั้ง (18:25-27)

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก