(ไฟล์ "เสียงวรสาร" โดย วัดแม่พระกุหลาบทิพย์ กรุงเทพฯ)

2 1ดังนั้นa เราจึงต้องสนใจเป็นพิเศษยิ่งขึ้นต่อคำสอนที่ได้ยินมา เพื่อเราจะได้ไม่ออกนอกทาง 2ถ้าพระวาจาที่ทูตสวรรค์bนำมาพิสูจน์แล้วว่ามีผลบังคับ จนทุกคนที่ล่วงละเมิดและไม่เชื่อต้องถูกลงโทษอย่างสาสม 3เราจะหนีพ้นจากการถูกลงโทษได้อย่างไร ถ้าเราเพิกเฉยไม่สนใจความรอดพ้นที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศความรอดพ้นนี้ตั้งแต่แรก และผู้ที่ได้ฟังก็รับรองถ่ายทอดต่อมาให้เรา 4ขณะที่พระเจ้าทรงแสดงเครื่องหมาย ปาฏิหาริย์ และการอัศจรรย์ต่างๆ เป็นพยานยืนยัน และประทานพระพรของพระจิตเจ้าจัดสรรให้ตามที่พอพระทัย

ผู้ช่วยให้รอดพ้นคือพระคริสตเจ้า มิใช่ทูตสวรรค์

5พระเจ้ามิได้ทรงมอบโลกในอนาคตที่เราพูดถึงนั้นไว้ใต้อำนาจบรรดาทูตสวรรค์ 6มีผู้กล่าวยืนยันในพระคัมภีร์ตอนหนึ่งว่า

มนุษย์เป็นใครเล่า พระองค์จึงทรงระลึกถึง

และบุตรของมนุษย์เป็นใครเล่า พระองค์จึงทรงเอาพระทัยใส่

7พระองค์ทรงทำให้เขาต่ำกว่าทูตสวรรค์เพียงเล็กน้อย

พระองค์ประทานสิริรุ่งโรจน์และเกียรติยศให้เป็นมงกุฎ

8ทรงมอบทุกอย่างไว้ใต้เท้าของเขา

การมอบทุกอย่างไว้ใต้อำนาจนั้น พระองค์มิได้ทรงละสิ่งใดที่ไม่อยู่ใต้อำนาจของเขาไว้เลย ขณะนี้เรายังไม่เห็นว่าทุกสิ่งอยู่ใต้อำนาจของเขาc 9แต่เราก็เห็นว่า พระเยซูเจ้าผู้ทรงถูกลดฐานะลงต่ำกว่าทูตสวรรค์อยู่ชั่วขณะหนึ่ง ทรงได้รับสิริรุ่งโรจน์และเกียรติยศเป็นมงกุฎ เพราะทรงยอมรับความตายd ดังนี้ โดยอาศัยพระหรรษทานของพระเจ้าe พระองค์ทรงลิ้มรสความตายเพื่อมนุษย์ทุกคน

10พระเจ้าผู้ทรงสร้างและทรงค้ำจุนทุกสิ่ง มีพระประสงค์จะนำบุตรจำนวนมากเข้ามารับพระสิริรุ่งโรจน์ จึงเป็นการเหมาะสมแล้วที่พระองค์จะทรงทำให้ผู้ที่นำมนุษย์ให้รอดพ้นfนั้นสมบูรณ์โดยผ่านการทนทุกข์ทรมาน 11เพราะทั้งผู้ประทานความศักดิ์สิทธิ์และผู้รับความศักดิ์สิทธิ์ต่างก็มาจากแหล่งเดียวกันg พระองค์จึงไม่ทรงอายที่จะเรียกคนเหล่านั้นว่าพี่น้อง 12โดยตรัสว่า “ข้าพเจ้าจะประกาศพระนามพระองค์กับพี่น้องของข้าพเจ้า จะถวายสดุดีพระองค์ในชุมนุมของประชากร” และตรัสอีกว่า 13ข้าพเจ้าจะวางใจในพระองค์ ข้าพเจ้าและบรรดาบุตรที่พระเจ้าได้ประทานอยู่ที่นี่

14บุตรทุกคนมีเลือดเนื้อร่วมกันฉันใด พระองค์ก็ทรงมีเลือดเนื้อร่วมกับมนุษย์ทุกคนด้วยฉันนั้น เพื่อว่าโดยการสิ้นพระชนม์ พระองค์จะทรงทำลายมารhผู้มีอำนาจเหนือความตายลงได้ 15เพื่อทรงปลดปล่อยผู้ตกเป็นทาสอยู่ตลอดชีวิตเพราะความกลัวตายให้เป็นอิสระได้i 16โดยแท้จริงแล้ว พระองค์มิได้เอาพระทัยใส่บรรดาทูตสวรรค์ แต่เอาพระทัยใส่เชื้อสายของอับราฮัม 17จึงจำเป็นที่พระองค์จะต้องทรงเป็นเหมือนกับบรรดาพี่น้องทุกประการ เพื่อพระองค์จะทรงเป็นมหาสมณะที่เพียบพร้อมด้วยพระกรุณาและทรงน่าเชื่อถือในการติดต่อกับพระเจ้า ไถ่โทษชดเชยบาปของประชากรได้ 18ในฐานะที่พระองค์ทรงรับการทรมานและทรงผ่านการผจญมาแล้ว พระองค์จึงทรงช่วยเหลือผู้ที่ถูกผจญได้ด้วย

 

2 a ถ้าพระเจ้าตรัสกับเราโดยทางพระบุตรซึ่งสูงกว่าทูตสวรรค์ และทรงช่วยเราให้รอดพ้น เราจะไม่สนใจต่อการกระทำของพระองค์ได้หรือ

b พระเจ้าได้ทรงประกาศธรรมบัญญัติโดยใช้ทูตสวรรค์เป็นสื่อกลาง (ดู กท 3:19 เชิงอรรถ l) และทรงกำหนดบทลงโทษที่รุนแรงไว้ด้วย

c คริสตชนในสมัยแรกถูกสบประมาทและเบียดเบียน รอคอยพระอาณาจักรของพระเจ้ามาถึงแผ่นดินนี้ (2 ปต 3:4) แม้ว่าพระคริสตเจ้าจะได้รับพระสิริรุ่งโรจน์อยู่แล้ว พระอาณาจักรของพระองค์บนแผ่นดินนี้ยังต้องดำเนินไปในกาลเวลา จนกว่าพระองค์จะทรงพิชิตศัตรูทั้งหลายก่อน (1:13) แล้วจึงจะทรงได้รับชัยชนะขั้นสุดท้ายอย่างสมบูรณ์ (1 คร 15:25; อฟ 1:21-22; ฟป 3:20-21)

d พระคริสตเจ้าได้รับพระสิริรุ่งโรจน์เพราะพระองค์ได้รับทรมานนั่นเอง ชัยชนะของพระองค์รับรองว่าการสิ้นพระชนม์ของพระองค์มีผลในการช่วยให้รอดพ้น

e “พระหรรษทานของพระเจ้า” ยังมีต้นฉบับจำนวนหนึ่งอ่านว่า “ปราศจากพระเจ้า” ซึ่งอาจเป็นคำอธิบายเสริมเข้ามาเพื่อเน้นว่า พระผู้ไถ่ทรงรับทรมานได้เฉพาะในสภาพมนุษย์เท่านั้น มิใช่ในธรรมชาติพระเจ้า หรือยังอาจเป็นการกล่าวพาดพิงถึงการร้องของพระเยซูเจ้าบนไม้กางเขน (มธ 27:46) หรืออาจจะหมายความว่า พระคริสตเจ้าสิ้นพระชนม์เพื่อมนุษย์ทุกคน ไม่ใช่สำหรับพระเจ้า (เทียบ 1 คร 15:27)

f พระคริสตเจ้าได้สิ้นพระชนม์และทรงทำให้พระประสงค์ของพระเจ้าสำเร็จไป พระองค์จึงทรงเป็นพระผู้ไถ่โดยสมบูรณ์ นำมนุษย์เข้าไปรับพระสิริรุ่งโรจน์ของพระเจ้า (2:17-18; 4:15; 5:2-3) คำว่า ทำให้สมบูรณ์ นี้มีใช้บ่อยมากในจดหมายถึงชาวฮีบรู เพื่อหมายถึงผลต่างๆ ของพระราชกิจของพระคริสตเจ้าที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับพระเจ้า (11:40 เชิงอรรถ i)

g จากแหล่งเดียวกัน อาจเข้าใจได้หลายความหมาย เช่น พระเจ้าองค์เดียวกัน” “จากอาดัมคนเดียวกัน หรือ ธรรมชาติมนุษย์ร่วมกัน ผู้เขียนจดหมายต้องการเน้นความสัมพันธ์ระหว่างพระคริสตเจ้ากับมวลมนุษย์ จึงเป็น เลือดเนื้อเชื้อไขเดียวกัน (ข้อ 14) ซึ่งพระบุตรของพระเจ้าทรงรับเอามาเป็นของพระองค์ ความคิดนี้ปูทางไว้สำหรับความคิดหลักเรื่องพระคริสตเจ้าทรงเป็นมหาสมณะของมวลมนุษย์ (ข้อ 17)

h บาปและความตายมีความสัมพันธ์กันเพราะทั้งสองมาจากมารหรือปีศาจ อาณาจักรของมารขัดสู้กับพระอาณาจักรของพระคริสตเจ้า

i โดยการกลับคืนพระชนมชีพของพระองค์ ซึ่งเป็นหลักประกันแก่ผู้มีความเชื่อว่าพวกเขาจะได้กลับคืนชีพเช่นเดียวกัน (รม 8:11 เชิงอรรถ g)