(ไฟล์ "เสียงวรสาร" โดย วัดแม่พระกุหลาบทิพย์ กรุงเทพฯ)

พระเจ้าประทานความรอดพ้นในองค์พระคริสตเจ้า

2 1ท่านทั้งหลายตายแล้วเพราะการล่วงละเมิดและเพราะบาป 2ครั้งหนึ่งท่านเคยดำเนินชีวิตตามโลกียวิสัย อยู่ใต้อำนาจเทพนิกรเจ้าผู้ปกครองชั้นบรรยากาศa คือจิตที่ทำงานอยู่ในมนุษย์ที่ไม่ยอมเชื่อฟัง 3เราbทุกคนก็เคยประพฤติเช่นนี้ในอดีต ปล่อยตนตามราคตัณหา ปฏิบัติตนตามความต้องการและความคิดโดยธรรมชาติฝ่ายต่ำ เราจึงน่าจะถูกพระเจ้าลงโทษเช่นเดียวกับคนอื่น 4แต่พระเจ้าทรงเปี่ยมด้วยพระเมตตา ทรงสำแดงความรักยิ่งใหญ่ต่อเรา 5เมื่อเราตายไปแล้วcเพราะการล่วงละเมิด พระองค์ก็ทรงบันดาลให้เรากลับมีชีวิตกับพระคริสตเจ้าd ท่านได้รับความรอดพ้นก็เพราะพระหรรษทาน 6พระเจ้าโปรดให้เรากลับคืนชีพพร้อมกับพระคริสตเยซูe โปรดให้เรามีที่นั่งในสวรรค์พร้อมกับพระคริสตเจ้า 7เพื่อจะทรงแสดงพระหรรษทานอุดมเหลือล้นของพระองค์แก่มนุษย์ทุกยุคสมัยในอนาคต โดยทรงพระกรุณาต่อเราในพระคริสตเยซู 8ท่านได้รับความรอดพ้นเพราะพระหรรษทานอาศัยความเชื่อ ความรอดพ้นนี้มิได้มาจากท่าน แต่เป็นของประทานจากพระเจ้า 9มิได้มาจากการกระทำใดๆ ของท่าน เพื่อมิให้ใครโอ้อวดตนได้ 10เราเป็นผลงานของพระองค์ ถูกสร้างมาในพระคริสตเยซูเพื่อให้ประกอบกิจการดี ซึ่งพระเจ้าทรงกำหนดไว้ล่วงหน้าให้เราปฏิบัติ

การรวมเป็นหนึ่งเดียวในพระคริสตเจ้า

11จงระลึกว่า ในอดีต ท่านทั้งหลายfเคยเป็นคนต่างศาสนาโดยกำเนิด พวกที่เรียกตนเองว่าเข้าสุหนัตตามพิธีภายนอก เรียกท่านว่าเป็นพวกไม่ได้เข้าสุหนัต 12จงระลึกเถิดว่า เวลานั้น ท่านอยู่ห่างจากพระคริสตเจ้าg ถูกกีดกันมิให้เป็นประชากรอิสราเอล เป็นคนต่างด้าว ไม่มีส่วนในพันธสัญญาที่ทรงสัญญาไว้h อยู่ในโลกนี้โดยไม่มีความหวังiและไม่มีพระเจ้าj 13แต่บัดนี้ในองค์พระคริสตเยซู ท่านทั้งหลายซึ่งในอดีตเคยอยู่ห่างไกลได้เข้ามาอยู่ใกล้ เดชะพระโลหิตของพระคริสตเจ้าk 14พระองค์คือสันติของเรา ทรงกระทำให้ทั้งสองฝ่ายเป็นหนึ่งเดียวl โดยทรงรับสภาพมนุษย์ ทรงทำลายการเป็นศัตรูกันซึ่งเป็นเหมือนกำแพงที่แบ่งแยก 15ทรงล้มเลิกธรรมบัญญัติพร้อมกับข้อบังคับและข้อห้ามต่างๆm เพื่อสร้างสันติ ทำให้ทั้งสองฝ่ายกลับเป็นมนุษย์คนใหม่คนเดียวnในพระองค์ 16โดยทางไม้กางเขนทรงทำให้ทั้งสองฝ่ายกลับคืนดีกับพระเจ้า รวมเป็นกายเดียวo และทรงขจัดการเป็นศัตรูกัน เดชะพระองค์ 17พระองค์เสด็จมาpประกาศสันติเป็นข่าวดีสำหรับท่านทั้งหลายที่อยู่ห่างไกล และประกาศสันติเป็นข่าวดีสำหรับผู้ที่อยู่ใกล้ 18เดชะพระองค์เราทั้งสองฝ่ายจึงเข้าไปเฝ้าพระบิดาเจ้าได้ในพระจิตเจ้าองค์เดียวกันq

19ท่านrจึงไม่เป็นคนต่างด้าวหรือผู้มาขออาศัยอีกต่อไป แต่เป็นเพื่อนร่วมชาติกับบรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ เป็นสมาชิกในครอบครัวของพระเจ้า 20ถูกสร้างขึ้นเป็นอาคารโดยมีบรรดาอัครสาวกและประกาศกsเป็นรากฐาน มีพระคริสตเยซูทรงเป็นศิลาหัวมุม 21พระคริสตเจ้าทรงทำให้อาคารทุกส่วนtต่อกันสนิท เจริญขึ้นเป็นพระวิหารศักดิ์สิทธิ์เพื่อองค์พระผู้เป็นเจ้า 22ในพระคริสตเจ้า ท่านทั้งหลายก็เช่นเดียวกันกำลังถูกก่อสร้างร่วมกันขึ้นเป็นที่ประทับของพระเจ้า เดชะพระจิตเจ้า

 

2 a ชั้นบรรยากาศเป็นสถานที่อยู่ระหว่างสวรรค์และแผ่นดิน ถือว่าเป็นที่พำนักของปีศาจและซาตานเจ้านายของมัน

b เปาโลเขียนในฐานะที่เป็นชาวยิวคนหนึ่ง

c คำว่า “เรา” ในที่นี้หมายความรวมทั้งคนต่างศาสนา (ดู ข้อ 1-2) และชาวยิว (ข้อ 3)

d “กับพระคริสตเจ้า” บางสำนวนก็ว่า “ในองค์พระคริสตเจ้า” “เพราะพระหรรษทาน” บางสำนวน (Vulgata) ก็ว่า “เพราะพระหรรษทานของพระองค์”

e ในที่นี้เปาโลใช้รูปกริยาอดีตกาลเหมือนกับในจดหมายถึงชาวโคโลสี (2:12; 3:1-4) เพื่อแสดงว่า การกลับคืนชีพและชัยชนะของบรรดาคริสตชนในสวรรค์เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วในขณะนี้ แต่ในจดหมายถึงชาวโรม (6:3-11; 8:11, 17ฯ) เปาโลใช้กริยาในรูปอนาคตกาลเพื่อแสดงว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นในอนาคต การพูดถึงเหตุการณ์ที่จะต้องเกิดขึ้นในยุคสุดท้ายราวกับว่าเป็นเหตุการณ์ปัจจุบัน เป็นลักษณะพิเศษของจดหมายต่างๆ ที่เปาโลเขียนขณะที่ท่านถูกจองจำ

f ณ ที่นี้การที่เปาโลพูดถึงสภาพในอดีต เป็นการพูดถึงสภาพในอดีตของมนุษยชาติทั่วไป มิได้เจาะจงเพียงแต่ผู้ที่ท่านเขียนจดหมายถึงเท่านั้น

g นั่นคือ ท่านมิได้มีพระผู้ไถ่

h หมายถึง พันธสัญญาที่พระเจ้าทรงกระทำต่อเนื่องเป็นระยะๆ กับอับราฮัม อิสอัค ยาโคบ โมเสส ดาวิด (ดู ปฐก 12:1 เชิงอรรถ a; 15:1 เชิงอรรถ a; อพย 19:1 เชิงอรรถ a; ลนต 26:42,45; 2 มคบ 8:15; ปชญ 18:22; บสร 44:45; รม 9:4) ซึ่งล้วนแต่พูดถึงเรื่องพระสัญญาที่พระเมสสิยาห์จะนำความรอดพ้นมาให้

i หมายถึง ความหวังในพระเมสสิยาห์ ซึ่งจนกระทั่งเวลานี้จำกัดอยู่ในชนชาติอิสราเอล (1:12)

j บรรดาชนต่างชาตินับถือเทพเจ้าจำนวนมาก แต่ไม่มีสักองค์ที่เป็นพระเจ้าเที่ยงแท้ (1 คร 8:5ฯ)

k การที่พระคริสตเจ้าทรงถูกตรึงกางเขนทำให้ทั้งชาวยิวและคนต่างชาติเข้ามารวมกัน (ข้อ 14-15) และทำให้ทั้งสองฝ่ายคืนดีกับพระบิดา (ข้อ 16-18)

l การแบ่งแยกนี้ คือ กำแพงที่แยกชาวยิวจากคนต่างชาติในบริเวณพระวิหาร (เทียบ กจ 21:28ฯ)

m ธรรมบัญญัติของโมเสสทำให้ชาวยิวมีฐานะพิเศษแยกจากคนต่างชาติ พระเยซูเจ้าได้ทรงลบล้างธรรมบัญญัตินี้อย่างสมบูรณ์ตลอดไปโดยการสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน (คส 2:14 เชิงอรรถ l)

n มนุษย์คนใหม่ผู้นี้คือต้นแบบของมนุษยชาติใหม่ที่พระเจ้าทรงสร้างสรรค์ขึ้นใหม่ (2 คร 5:17 เชิงอรรถ i) ในองค์พระคริสตเจ้า อาดัมคนใหม่ (1 คร 15:45) เมื่อมนุษยชาติที่สืบมาจากอาดัมคนแรกและเสื่อมไปเพราะบาปได้สิ้นสุดลงแล้วในการที่พระคริสตเจ้าทรงถูกตรึงกางเขน (รม 5:12ฯ; 8:3; 1 คร 15:21) บัดนี้อาดัมคนใหม่ได้ถูกสร้างขึ้นในความชอบธรรมและความศักดิ์สิทธิ์แห่งความจริง (4:24) อาดัมใหม่ผู้นี้ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน เพราะในพระองค์ท่านนี้ การแบ่งแยกระหว่างชนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งกับมนุษยชาติจะไม่มีอีกต่อไป (กท 3:27ฯ; คส 3:10ฯ)

o คำว่า “กายเดียว” นี้หมายความถึงพระวรกายจริงๆ ของพระเยซูเจ้า ซึ่งถวายเป็นบูชาบนไม้กางเขน (คส 1:22 เชิงอรรถ j) และยังหมายถึงพระกายทิพย์ของพระองค์ คือพระศาสนจักรซึ่งทุกคนเมื่อเข้ามาคืนดีกับพระเจ้าแล้วต่างก็ทำหน้าที่ส่วนของตนในพระกายทิพย์นี้ (1 คร 12:12 เชิงอรรถ i, j)

p โดยทางคณะอัครสาวกที่ประกาศข่าวดีเรื่องความรอดพ้นอันบันดาลสันติสุขในพระนามของพระคริสตเจ้า

q จิตที่บันดาลชีวิตให้แก่ร่างกายเดียวนี้ (กล่าวคือ พระกายทิพย์ของพระคริสตเจ้าผู้ทรงเป็นหนึ่งเดียวกับพระศาสนจักร) ก็คือพระจิตเจ้านั่นเอง ให้สังเกตว่าโครงสร้างที่กล่าวถึงพระตรีเอกภาพในตอนนี้จะพบได้อีกในข้อ 22

r เปาโลแทรกข้อความในข้อ 14-18 (กล่าวถึงพระคริสตเจ้าทรงรวมคนต่างชาติกับชาวยิว) ระหว่างการบรรยายถึงสภาพของคนต่างชาติก่อนการกลับใจ (ข้อ 11-13) และหลังการกลับใจ (ข้อ 19-22)

s ประกาศกในพันธสัญญาใหม่ (เทียบ 3:5; 4:11; กจ 11:27 เชิงอรรถ m) และบรรดาอัครสาวกล้วนเป็นพยานบุคคลที่ได้รับการเปิดเผยให้รู้ถึงแผนการของพระเจ้าเป็นพวกแรกและเป็นกลุ่มบุคคลแรกที่ประกาศข่าวดีนี้ (เทียบ มธ 10:41; 23:34; ลก 11:49) นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้เรากล่าวว่าท่านเหล่านี้เป็นรากฐานของพระศาสนจักรเช่นเดียวกับองค์พระคริสตเจ้า (1 คร 3:10ฯ)

t “ทุกส่วน” สำเนาโบราณบางฉบับว่า “ทั้งหมด