“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)


(ไฟล์ "เสียงวรสาร" โดย วัดแม่พระกุหลาบทิพย์ กรุงเทพฯ)

เปาโลเดินทางไปกรุงเยรูซาเล็ม

21 1เมื่อถึงเวลาจะจากกัน เราก็ออกเรือแล่นตรงไปยังเกาะโขส วันรุ่งขึ้นก็ไปถึงเกาะโรดส์ แล้วไปถึงเมืองปาทาราa 2เราพบเรือลำหนึ่งกำลังข้ามไปยังแคว้นฟีนีเซีย จึงลงเรือลำนั้นออกทะเล 3เราเห็นเกาะไซปรัส แต่ก็แล่นเรือผ่านไปทางทิศใต้ของเกาะตรงไปยังแคว้นซีเรีย มาถึงเมืองไทระเพราะเรือต้องขนถ่ายสินค้าที่นั่น 4เราไปเยี่ยมบรรดาศิษย์ พักอยู่ที่นั่นเป็นเวลาเจ็ดวัน พระจิตเจ้าทรงดลใจเขาเหล่านั้นให้บอกbเปาโลมิให้ขึ้นไปยังกรุงเยรูซาเล็ม 5เมื่อครบเจ็ดวัน เราก็ออกเดินทางต่อไป บรรดาศิษย์ทุกคนพร้อมด้วยภรรยาและบุตรไปส่งเราถึงนอกเมือง เราคุกเข่าอธิษฐานภาวนาร่วมกันที่ชายหาด 6และอำลากัน เราลงเรือ และเขาเหล่านั้นก็กลับไปบ้านของตน

7จากเมืองไทระเราไปถึงเมืองทอเลเมอิส การเดินทางทางเรือของเราจึงสิ้นสุด เราทักทายบรรดาพี่น้องและพักอยู่กับเขาหนึ่งวัน 8วันรุ่งขึ้นเราออกเดินทางไปถึงเมืองซีซารียา เข้าไปในบ้านของฟีลิปผู้ประกาศข่าวดี ซึ่งเป็นหนึ่งในสังฆานุกรทั้งเจ็ดและพักอยู่กับเขา 9เขามีบุตรหญิงสี่คน ทั้งสี่คนนี้ยังไม่แต่งงานและมีพระพรการทำนาย

10เราพักอยู่ที่นั่นหลายวัน ระหว่างนั้นประกาศกคนหนึ่งชื่ออากาบัสลงมาจากแคว้นยูเดีย 11เขามาพบเรา ใช้ที่คาดเอวของเปาโลมัดมือและเท้าของตนcพูดว่า “พระจิตเจ้าตรัสว่า ‘ชาวยิวที่กรุงเยรูซาเล็มจะมัดเจ้าของที่คาดเอวนี้อย่างนี้ และจะมอบเขาในมือของคนต่างศาสนา’”d

12เมื่อได้ฟังเช่นนี้ เราและประชาชนที่นั่นอ้อนวอนเปาโลมิให้เดินทางขึ้นไปยังกรุงเยรูซาเล็ม 13แต่เปาโลตอบว่า “ทำไมท่านจึงร้องไห้และทำให้ข้าพเจ้าเสียใจและผิดหวังมาก ข้าพเจ้าไม่เพียงแต่พร้อมที่จะถูกจองจำเท่านั้น แต่ยังพร้อมที่จะตายในกรุงเยรูซาเล็มเพื่อพระนามพระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้าอีกด้วย” 14เมื่อเปาโลไม่ยอมเปลี่ยนใจ เราก็เลิกรบเร้า พูดว่า “ขอให้เป็นไปตามพระประสงค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าเถิด”

เปาโลเดินทางถึงกรุงเยรูซาเล็ม

15หลังจากนั้นไม่กี่วัน เราก็เตรียมตัวและขึ้นไปยังกรุงเยรูซาเล็ม 16ศิษย์บางคนจากเมืองซีซารียาร่วมเดินทางไปกับเรา และพาเราไปพักที่บ้านeของชาวเกาะไซปรัสคนหนึ่งซึ่งเป็นศิษย์รุ่นแรกๆ ชื่อมนาสัน

17เมื่อเรามาถึงกรุงเยรูซาเล็ม บรรดาพี่น้องต้อนรับเราด้วยความยินดี 18วันรุ่งขึ้น เปาโลและเราfไปพบยากอบ บรรดาผู้อาวุโสทุกคนอยู่ที่นั่นด้วย 19เปาโลทักทายเขาเหล่านั้นและเล่าทุกสิ่งอย่างละเอียดที่พระเจ้าทรงกระทำกับคนต่างศาสนาโดยงานศาสนบริการของตน

20ทุกคนได้ฟังก็ถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า แล้วพูดกับเปาโลว่า “น้องเอ๋ย ท่านเห็นแล้วว่า ชาวยิวนับพันนับหมื่นคนมีความเชื่อและปฏิบัติตามธรรมบัญญัติอย่างเคร่งครัด”g 21เขาได้ยินคนกล่าวว่า ท่านสอนชาวยิวที่อาศัยอยู่ในหมู่คนต่างศาสนาให้ละทิ้งธรรมบัญญัติของโมเสสh โดยสอนว่าไม่ต้องให้ลูกiเข้าสุหนัตและไม่ต้องปฏิบัติตามธรรมประเพณี 22เราควรจะทำอย่างไรดี ชาวยิวจะต้องรู้แน่ว่าท่านมาที่นี่แล้วj 23ดังนั้น จงทำตามที่เราบอกเถิด ที่นี่เรามีชายสี่คนที่จะต้องแก้บน 24จงพาคนเหล่านี้ไปร่วมพิธีชำระตนพร้อมกัน จงออกค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้เขาเพื่อทำพิธีโกนผมk แล้วทุกคนจะรู้ว่าข่าวลือที่เขาได้ยินเกี่ยวกับท่านนั้นไม่เป็นความจริง แต่ท่านยังดำเนินชีวิตปฏิบัติตามธรรมบัญญัติ 25ส่วนคนต่างศาสนาที่มีความเชื่อ เราได้ส่งจดหมายแจ้งคำตัดสินของเราlให้เขารู้ว่า เขาต้องงดเว้นการกินเนื้อสัตว์ที่ถวายแก่รูปเคารพแล้ว ต้องงดเว้นการกินเลือด งดเว้นการกินเนื้อสัตว์ที่ถูกรัดคอ และงดเว้นการแต่งงานที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย”

26วันรุ่งขึ้น เปาโลพาชายเหล่านั้นไปทำพิธีชำระตนพร้อมกัน แล้วเข้าไปในพระวิหาร เพื่อแจ้งว่าวันชำระตนจะครบกำหนดเมื่อใด เพราะในวันนั้นแต่ละคนจะต้องถวายเครื่องบูชาm

เปาโลถูกจับกุม

27เมื่อใกล้ครบเจ็ดวัน ชาวยิวบางคนจากแคว้นอาเซียเห็นเปาโลในพระวิหาร จึงยุยงประชาชนและจับกุมเปาโล 28ตะโกนว่า “ชาวอิสราเอลทั้งหลายจงมาช่วยกัน ชายผู้นี้คือผู้เทศน์สอนทุกคนในทุกสถานที่ ต่อต้านประชากรอิสราเอล ต่อต้านธรรมบัญญัติและต่อต้านสถานที่ศักดิ์สิทธิ์นี้nด้วย เขายังนำชาวกรีกบางคนเข้าไปในบริเวณพระวิหาร และทำให้สถานที่ศักดิ์สิทธิ์นี้เป็นมลทิน” 29เขาเหล่านั้นกล่าวเช่นนี้ เพราะเคยเห็นโตรฟีมัสชาวเอเฟซัสอยู่กับเปาโลในเมือง จึงคิดว่าเปาโลนำโตรฟีมัสเข้าไปในบริเวณพระวิหารด้วย

30เกิดความวุ่นวายขึ้นทั่วเมือง ประชาชนวิ่งมาจากทุกแห่ง จับกุมและลากเปาโลออกจากบริเวณพระวิหารแล้วปิดประตูทันที 31ขณะที่ประชาชนกำลังพยายามจะฆ่าเปาโล มีคนไปส่งข่าวแก่ผู้บัญชาการกองพันของทัพโรมันoว่า ทั่วทั้งกรุงเยรูซาเล็มกำลังวุ่นวาย 32เขาจึงนำทหารกลุ่มหนึ่งพร้อมกับนายร้อยวิ่งไปยังบรรดาผู้ก่อการจลาจลทันที เมื่อคนเหล่านั้นเห็นผู้บัญชาการกองพันและบรรดาทหาร ก็หยุดทุบตีเปาโล

33ผู้บัญชาการกองพันเข้ามาจับกุมเปาโล สั่งให้ล่ามด้วยโซ่สองเส้น แล้วถามประชาชนว่าเปาโลเป็นใครและทำอะไร 34แต่ประชาชนต่างตะโกนตอบคนละอย่าง ผู้บัญชาการกองพันไม่อาจรู้ความจริงอะไรได้เพราะความวุ่นวาย จึงสั่งให้นำเปาโลไปยังค่ายทหาร 35เมื่อเปาโลมาถึงขั้นบันไดของค่าย ประชาชนเบียดเสียดและผลักดันกันเข้ามาอย่างรุนแรงจนบรรดาทหารต้องแบกเปาโลขึ้นไป 36ประชาชนจำนวนมากติดตามไปพลางร้องตะโกนว่า “ฆ่ามัน”

37ขณะที่บรรดาทหารกำลังนำตัวเปาโลเข้าไปในค่าย เปาโลพูดกับผู้บัญชาการกองพันว่า “ข้าพเจ้าขอพูดกับท่านได้ไหม”

ผู้บัญชาการกองพันถามว่า “ท่านพูดภาษากรีกหรือ 38ท่านไม่ใช่ชาวอียิปต์ที่เมื่อไม่นานมานี้ก่อการกบฏและนำโจรสี่พันคนpออกไปในถิ่นทุรกันดารหรือ”

39เปาโลตอบว่า “ข้าพเจ้าเป็นชาวยิว เกิดที่เมืองทาร์ซัสซึ่งเป็นเมืองสำคัญในแคว้นซีลีเซีย  โปรดอนุญาตให้ข้าพเจ้าพูดกับประชาชนเถิด”

40เมื่อได้รับอนุญาตจากผู้บัญชาการกองพันแล้ว เปาโลยืนที่ขั้นบันไดและโบกมือให้ประชาชนสงบลง ประชาชนก็เงียบ เปาโลจึงพูดกับเขาเป็นภาษาฮีบรูqว่า

 

21 a สำเนาโบราณบางฉบับเสริมว่า “และมีรา”

b พระจิตเจ้ามิได้ทรงห้ามเปาโลโดยตรงมิให้ขึ้นไปยังกรุงเยรูซาเล็ม แต่ทรงเปิดเผยให้บรรดาศิษย์ทราบถึงชะตากรรมของเปาโลเท่านั้น บรรดาศิษย์มีความรักต่อเปาโลจึงห้ามมิให้เขาขึ้นไป

c เป็นการพยากรณ์โดยใช้ท่าทาง (ภาษาใบ้) ดังที่บรรดาประกาศกในอดีตเคยใช้ (ดู ยรม 18:1 เชิงอรรถ a)

d คำทำนายนี้มีรายละเอียดไม่ตรงนักกับการเล่าเรื่องเปาโลถูกจับกุม (ดู 21:31-33; 28:17) แต่คล้ายกันมากกว่ากับคำทำนายของพระเยซูเจ้าเรื่องพระทรมานใน ลก 18:31-34 (เทียบ ฟป 3:10; คส 1:24)

e สำเนาโบราณบางฉบับเสริมว่า บ้านของมนาสันอยู่ครึ่งทางระหว่างเมืองซีซารียากับกรุงเยรูซาเล็ม

f ข้อนี้จบการเล่าเรื่องโดยใช้สรรพนามบุรุษที่หนึ่งตอนที่สาม เราจะพบการเล่าแบบนี้ใน 27:1 (ดู 16:10 เชิงอรรถ g; 28:16)

g การที่คริสตชนชาวยิวยังปฏิบัติตามธรรมบัญญัติอย่างเคร่งครัด ดู 11:2; 15:1, 5; กท 2:12; 5:1ฯ

h การที่เปาโลสอนว่ามนุษย์รับความชอบธรรมอาศัยความเชื่อเท่านั้น (ดู รม 1:16 เชิงอรรถ h; 3:22 เชิงอรรถ h) หมายความว่า ธรรมบัญญัติของโมเสสไม่ได้ทำให้ชาวยิวได้เปรียบเหนือกว่าคนต่างศาสนาอีกต่อไป เปาโลวางหลักการนี้เพื่อให้คนต่างศาสนาที่กลับใจเป็นอิสระไม่ต้องปฏิบัติตามธรรมบัญญัติของโมเสส (ดู กท 2:11ฯ) มิใช่เพื่อชักชวนชาวยิวผู้เลื่อมใสให้เลิกปฏิบัติ

i ดู รม 2:25-29; 4:9-12; 1 คร 7:17-20

j สำเนาโบราณบางฉบับว่า “เขาต้องได้ยินว่าท่านมาที่นี่แล้ว”

k ผู้บนบานเป็นนาศีร์จะพ้นจากสภาพเช่นนี้ได้ก็ต้องถวายเครื่องบูชาราคาแพง (กดว 6:14-15)

l สำเนาโบราณบางฉบับว่า “สำหรับคนต่างศาสนาที่มีความเชื่อ เขาไม่มีอะไรจะบอกท่าน ส่วนเราได้ส่งจดหมายแจ้งการตัดสินของเราให้เขารู้ว่า เขาไม่ต้องปฏิบัติอะไร นอกจากงดเว้นการกินเนื้อสัตว์ที่ถวายแก่รูปเคารพแล้ว งดเว้นจากการกินเลือด และงดเว้นจากการแต่งงานที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย”

m ต้นฉบับคลุมเครือ เราอาจสันนิษฐานว่าก่อนที่จะถวายเครื่องบูชาแก้บน พ้นจากสภาพเป็นนาศีร์นั้น ผู้แก้บนจะต้องทำพิธีชำระตนเป็นเวลาเจ็ดวัน แต่เราไม่มีข้อมูลอื่นในเรื่องนี้

n เทียบ ข้อกล่าวหาสเทเฟน (6:11-14) และพระเยซูเจ้า (มธ 26:61; 27:40)

o กองทหารรักษาการณ์ชาวโรมันมีจำนวนประมาณ 600 คน ตั้งค่ายอยู่ในป้อมอันโตเนีย ติดกับบริเวณพระวิหารด้านตะวันตกเฉียงเหนือ

p “โจร” หมายถึง พวกชาตินิยมหัวรุนแรงที่ได้กบฏต่อการปกครองของชาวโรมัน โยเซฟุสกล่าวถึงการกบฏครั้งนี้

q หมายถึง ภาษาอาราเมอิก เพราะชาวยิวไม่ใช้ภาษาฮีบรูอีกในชีวิตประจำวันหลังกลับจากเนรเทศแล้ว (538 ก่อน ค.ศ.)

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก