“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)


(ไฟล์ "เสียงวรสาร" โดย วัดแม่พระกุหลาบทิพย์ กรุงเทพฯ)

เปาโลป้องกันตนเอง

11 1ขอให้ท่านอดทนต่อความโง่เขลาของข้าพเจ้าสักเล็กน้อย แต่ความจริงท่านก็อดทนอยู่แล้วa 2ข้าพเจ้าหวงแหนท่านทั้งหลายอย่างที่พระเจ้าทรงหวงแหน เพราะข้าพเจ้าหมั้นท่านไว้กับชายคนเดียว เพื่อถวายประดุจพรหมจารีบริสุทธิ์แด่พระคริสตเจ้าb 3แต่ข้าพเจ้าเกรงว่างูหลอกลวงนางเอวาด้วยกลอุบายของมันฉันใด ความคิดของท่านอาจถูกหลอกลวงให้หันไปจากความซื่อสัตย์และบริสุทธิ์cต่อพระคริสตเจ้าฉันนั้น 4เพราะถ้าผู้ใดมาประกาศพระเยซูเจ้าอีกองค์หนึ่งdแตกต่างไปจากองค์ที่เราได้ประกาศ หรือถ้าท่านได้รับพระจิตเจ้าอีกองค์หนึ่งซึ่งต่างไปจากองค์ที่ท่านได้รับ หรือรับข่าวดีแตกต่างไปจากข่าวดีที่ท่านได้รับ ท่านก็ยอมรับได้อย่างง่ายดาย 5ข้าพเจ้าคิดว่า ตนเองไม่ด้อยไปกว่าบรรดาอัครสาวกชั้นพิเศษเหล่านั้นแม้แต่น้อยe 6แม้ข้าพเจ้าจะพูดไม่เก่ง ข้าพเจ้าก็มีความรู้ดี เราแสดงความจริงข้อนี้ให้เป็นที่ประจักษ์แจ้งแก่ท่านทั้งหลายแล้วในทุกกรณีf

7เมื่อข้าพเจ้าประกาศข่าวดีของพระเจ้าแก่ท่านทั้งหลายโดยไม่คิดค่าจ้าง ข้าพเจ้าทำผิดหรือที่ถ่อมตนเพื่อยกย่องท่าน 8ข้าพเจ้าปล้นพระศาสนจักรอื่นๆ ยอมรับค่าจ้างจากเขาเพื่อมารับใช้ท่าน 9เมื่อข้าพเจ้าอยู่กับท่านทั้งหลายและมีความจำเป็นต้องใช้จ่าย ข้าพเจ้าไม่เคยเป็นภาระให้ผู้ใด เพราะบรรดาพี่น้องที่มาจากแคว้นมาซิโดเนียจุนเจือข้าพเจ้าตามความต้องการ ข้าพเจ้าพยายามที่จะไม่เป็นภาระแก่ท่านในทุกๆ เรื่อง และจะพยายามทำเช่นนี้ต่อไป 10ความจริงของพระคริสตเจ้าอยู่ในข้าพเจ้าแน่นอนฉันใด จะไม่มีผู้ใดห้ามข้าพเจ้ามิให้โอ้อวดตนเองในเรื่องนี้ในดินแดนแคว้นอาคายาได้ฉันนั้น 11เพราะเหตุใด เพราะข้าพเจ้ามิได้รักท่านกระนั้นหรือ พระเจ้าทรงทราบดีว่าข้าพเจ้ารักท่าน 12ข้าพเจ้าทำเช่นนี้และจะทำต่อไป เพื่อตัดโอกาสผู้ที่ต้องการโอ้อวดแสดงตนว่าเท่าเทียมกับเราg 13คนเหล่านี้เป็นอัครสาวกปลอม เป็นผู้ทำงานหลอกลวงที่ปลอมตนเป็นอัครสาวกของพระคริสตเจ้า 14ไม่ต้องแปลกใจ ซาตานก็ยังปลอมเป็นทูตแห่งแสงสว่างได้ 15จึงไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด ถ้าคนใช้ของมันจะปลอมเป็นผู้รับใช้ความชอบธรรม จุดจบของเขาจะเป็นไปตามกิจการที่เขาทำ

16ข้าพเจ้าขอพูดซ้ำอีกครั้งหนึ่งว่าh อย่าให้ใครคิดว่าข้าพเจ้าโง่เขลา แต่ถ้าท่านคิดเช่นนั้น ก็จงรับข้าพเจ้าเหมือนกับรับคนโง่เขลาคนหนึ่งเถิด เพื่อข้าพเจ้าจะโอ้อวดบ้างสักเล็กน้อย 17สิ่งที่ข้าพเจ้ากำลังจะพูดนี้ ข้าพเจ้ามิได้พูดตามพระประสงค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้า แต่เป็นการพูดอย่างคนโง่เขลาด้วยความมั่นใจว่า ข้าพเจ้ามีเหตุผลที่จะโอ้อวด 18เมื่อหลายคนโอ้อวดตามธรรมชาติของมนุษย์ ข้าพเจ้าก็จะโอ้อวดด้วย 19ทั้งๆ ที่เป็นคนฉลาด ท่านก็ยังเต็มใจอดทนคนโง่เขลา 20ท่านอดทนผู้ทำให้ท่านเป็นทาส อดทนผู้กินแรงท่าน อดทนผู้เอาเปรียบท่าน อดทนผู้ยกตนข่มท่าน อดทนผู้ตบหน้าท่าน 21ข้าพเจ้าพูดด้วยความอับอายว่า เราช่างอ่อนแอยิ่งนักi

ไม่ว่าเขาเหล่านั้นจะกล้าโอ้อวดเรื่องใด ข้าพเจ้าพูดอย่างคนโง่เขลาว่า ข้าพเจ้าก็กล้าโอ้อวดด้วยj 22เขาเป็นชาวฮีบรูหรือ ข้าพเจ้าก็เป็นเหมือนกัน เขาเป็นชาวอิสราเอลหรือ ข้าพเจ้าก็เป็นเช่นเดียวกัน เขาเป็นเชื้อสายของอับราฮัมหรือ ข้าพเจ้าก็เป็นด้วย 23เขาเป็นผู้รับใช้ของพระคริสตเจ้าหรือ ข้าพเจ้าพูดอย่างคนเสียสติว่า ข้าพเจ้าเป็นมากกว่าเขาเสียอีก ข้าพเจ้าลำบากตรากตรำมากกว่าเขา ถูกจองจำมากกว่าเขา ถูกโบยตีมากกว่าเขาจนนับครั้งไม่ถ้วน ต้องเผชิญกับความตายหลายครั้ง 24ข้าพเจ้าถูกชาวยิวลงแส้ห้าครั้ง ครั้งละสามสิบเก้าที 25ข้าพเจ้าถูกชาวโรมันเฆี่ยนตีสามครั้ง ถูกขว้างด้วยหินหนึ่งครั้ง เรืออับปางสามครั้ง ลอยคออยู่กลางทะเลหนึ่งคืนกับหนึ่งวัน 26ข้าพเจ้าต้องเดินทางเสมอ ต้องเผชิญอันตรายในแม่น้ำ อันตรายจากโจรผู้ร้าย อันตรายจากเพื่อนร่วมชาติ อันตรายจากคนต่างชาติ อันตรายในเมือง อันตรายในถิ่นทุรกันดาร อันตรายในทะเล อันตรายจากพี่น้องทรยศ 27ข้าพเจ้าต้องทำงานเหน็ดเหนื่อยลำบากตรากตรำ อดนอนบ่อยๆ ต้องหิวกระหาย ต้องอดอาหารหลายครั้ง ต้องทนหนาว ไม่มีเสื้อผ้าสวมใส่ 28นอกจากสิ่งเหล่านี้แล้ว ข้าพเจ้ายังถูกบีบคั้นทุกวัน นั่นคือเป็นห่วงพระศาสนจักรทุกแห่ง 29ใครบ้างอ่อนแอ และข้าพเจ้ามิได้อ่อนแอด้วย ใครบ้างถูกชักนำให้ทำบาป และข้าพเจ้าไม่เป็นทุกข์ด้วย

30ถ้าจำเป็นจะต้องโอ้อวด ข้าพเจ้าจะโอ้อวดในเรื่องที่แสดงถึงความอ่อนแอของข้าพเจ้า 31พระเจ้าและพระบิดาของพระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้า ขอพระองค์ทรงรับพระพรตลอดนิรันดร ทรงทราบว่าข้าพเจ้าไม่พูดเท็จ 32ที่เมืองดามัสกัส ผู้ว่าราชการของกษัตริย์อาเรทัสสั่งให้ทหารยามล้อมเมืองดามัสกัสเพื่อจับกุมข้าพเจ้า 33แต่เขาจับข้าพเจ้าใส่เข่งหย่อนลงมาจากหน้าต่างของกำแพงเมือง ข้าพเจ้าจึงหลุดพ้นจากอำนาจของเขา

 

11 a หรือบางทีอาจแปลได้ว่า "ขอให้อดทนต่อไปสักหน่อยเถิด" ดู 5:13 เชิงอรรถ e; 11:17; 12:11 เรื่องความโง่เขลาของเปาโล

b เปาโลเพื่อนของเจ้าบ่าวนำตัวเจ้าสาวมามอบให้กับเจ้าบ่าว ตั้งแต่ประกาศกโฮเชยาเป็นต้นมาความรักของพระยาห์เวห์ต่อประชากรของพระองค์เปรียบได้กับความรักที่สามีมีต่อภรรยา (อพย 16:23; อสย 49:14-21; 50:1; 54:1-10; 62:4-5; ยรม 2:1-7; 3; 31:22; 51:5) พันธสัญญาใหม่ใช้ภาพเปรียบเทียบเช่นเดียวกัน (มธ 22:2ฯ; 25:1ฯ; ยน 3:28-29; อฟ 5:25-33; วว 19:7; 21:2)

c บางฉบับละ "และความบริสุทธิ์"

d คงจะหมายถึง พระเยซูเจ้า พิจารณาลักษณะที่ทรงพระชนม์อยู่ในโลกนี้ (5:16 เชิงอรรถ g) มากกว่าจะเน้นถึงองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงกลับคืนพระชนมชีพ ในฐานะประมุขของสิ่งสร้างใหม่ (5:17 เชิงอรรถ h) ประโยคนี้อาจเข้าใจได้อีกว่าเป็นการสมมติ ถ้าหากว่าสิ่งนี้เกิดขึ้น ท่านคงจะยอมรับ อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ดูเหมือนจะยังไม่วิกฤตเท่ากับสถานการณ์ใน กท 1:6-9 แต่อาจจะร้ายแรงขึ้นได้

e "อัครสาวกชั้นพิเศษ" หรือ "อภิอัครสาวก" คำนี้จะพบได้อีกใน 12:11 ซึ่งมีความหมายตรงข้ามกับอัครสาวกแท้ และอัครสาวกชั้นพิเศษเหล่านี้ยังถูกเรียกว่า "อัครสาวกปลอม" ใน 11:13 เปาโลใช้คำนี้เป็นการประชด และมิได้หมายถึงบรรดาอัครสาวกสิบสององค์ ซึ่งเปาโลได้ยอมรับโดยปริยายว่ามีอำนาจเหนือตัวท่าน (กท 1:17; 2:9) ในสมัยที่เปาโลเขียนจดหมายนี้ ผู้ที่ได้ชื่อว่าอัครสาวกมีมากกว่าอัครสาวกสิบสององค์ (1 คร 15:7 เชิงอรรถ g) เปาโลอาจจะหมายถึงคนที่อ้างว่าตนมีตำแหน่งนี้โดยไม่มีสิทธิก็ได้

f หรือ "ทุกวิถีทาง"

g "อัครสาวกชั้นพิเศษ" ซึ่งกล่าวโจมตีเปาโล (ข้อ 5) คงไม่กล้าอวดตัวแข่งกับเปาโลในเรื่องความเสียสละ ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของงานประกาศข่าวดีของเปาโล

h เปาโลพูดซ้ำขอให้ชาวโครินธ์อดทนต่อความโง่เขลาของตน (เทียบ 11:1) จนถึงเวลานี้เปาโลเขียนโดยใช้อารมณ์จนลืมพูดว่าท่านโง่เขลาอย่างไร บัดนี้เปาโลจะอธิบายว่าความโง่เขลาของท่านซึ่งพูดซ้ำหลายครั้ง (11:1, 17, 19, 21, 23; 12:11) ไม่ใช่ความเสียสติ (11:16; 12:6) แต่เป็นการโอ้อวดตามมาตรฐานของมนุษย์เท่านั้น (11:18) เช่นเรื่องเชื้อชาติ (11:22) การทำงานและความทุกข์ทรมานที่ได้รับ (11:23-26) ความสาละวนประจำวันสำหรับพระศาสนจักรต่างๆ (11:28) เปาโลจะเพิ่มเติมการโอ้อวดอีกข้อหนึ่งเรื่องการเปิดเผยที่ได้รับจากพระคริสตเจ้า (12:1-5) การโอ้อวดเช่นนี้เป็นการเผชิญหน้ากับฝ่ายตรงข้ามที่โอ้อวดเช่นเดียวกัน แต่การโอ้อวดแท้จริงของเปาโลคือความอ่อนแอของท่าน (11:30; 12:5, 9) เพราะความอ่อนแอนี้เองเรียกร้องให้พระคริสตเจ้าทรงแสดงพลังของพระองค์ (12:9) และพิสูจน์ให้เห็นว่าพลังในงานประกาศข่าวดีของท่านไม่ได้มาจากตนเอง แต่มาจากพระเจ้า (4:7 เชิงอรรถ c)

i อาจจะแปลได้อีกว่า "ข้าพเจ้าพูดเพื่อให้ท่านอับอาย"

j เมื่อเปาโลจำเป็นต้องตอบโต้ฝ่ายตรงข้าม ท่านมักยกเอาอดีตที่เคยปฏิบัติลัทธิยิวอย่างเคร่งครัดมาอ้างดังเช่น ณ ที่นี้ (รม 11:1; กท 1:13-14; ฟป 3:4-6 เทียบ กจ 22:3ฯ; 26:4-5)

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก