(ไฟล์ "เสียงวรสาร" โดย วัดแม่พระกุหลาบทิพย์ กรุงเทพฯ)

ผู้สอนผิด

4 1พระจิตเจ้าตรัสไว้อย่างชัดเจนว่า ในยุคสุดท้ายa บางคนจะละทิ้งความเชื่อ และเปลี่ยนไปสนใจจิตที่หลอกลวงและสนใจคำสอนของปีศาจ 2สนใจคำสอนของคนโกหกเจ้าเล่ห์ ซึ่งมโนธรรมของเขาถูกมารร้ายตอกตราไว้แล้วb 3พวกเขาห้ามแต่งงานและห้ามกินอาหารบางชนิด แต่พระเจ้าทรงสร้างอาหารเหล่านี้ให้ผู้ที่เชื่อและรู้ความจริงได้บริโภคด้วยความสำนึกในพระคุณc 4ทุกสิ่งที่พระเจ้าทรงสร้างเป็นสิ่งที่ดี และเราไม่ควรตัดสิ่งใดออกไป แต่ต้องรับด้วยความสำนึกในพระคุณ 5พระวาจาของพระเจ้าและการอธิษฐานทำให้สิ่งนั้นศักดิ์สิทธิ์ 6ถ้าท่านให้คำแนะนำเหล่านี้แก่พี่น้อง ท่านก็จะเป็นผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ของพระคริสตเยซู ได้รับการหล่อเลี้ยงจากคำสอนที่มาจากความเชื่อและหลักคำสอนที่ดีซึ่งท่านติดตามมาโดยตลอด 7อย่าสนใจฟังนิทานไร้สาระที่ไม่เกี่ยวกับพระเจ้า แต่จงฝึกฝนตนให้เคารพเลื่อมใสพระเจ้าd 8การฝึกร่างกายมีประโยชน์อยู่บ้าง แต่ความเคารพเลื่อมใสพระเจ้านั้นมีประโยชน์สำหรับทุกสิ่ง เพราะมีพระสัญญาทั้งสำหรับชีวิตในโลกนี้และชีวิตในโลกหน้า 9นี่เป็นคำพูดที่เชื่อถือได้ และควรที่ทุกคนจะยอมรับ 10พวกเราตรากตรำทำงานและต่อสู้ก็เพื่อสิ่งนี้ เราได้มอบความหวังไว้ในพระเจ้าผู้ทรงชีวิต และพระองค์ทรงเป็นพระผู้ไถ่ของมนุษย์ทุกคน โดยเฉพาะของผู้ที่มีความเชื่อ 11ท่านจงกำชับและสั่งสอนเรื่องเหล่านี้เถิด

12อย่าให้ใครดูหมิ่นท่านเพราะความเป็นคนหนุ่ม แต่จงเป็นแบบอย่างแก่ผู้มีความเชื่อทุกคนด้วยคำพูดและความประพฤติ ด้วยความรัก ความเชื่อ และความบริสุทธิ์ของท่าน 13จงเอาใจใส่อ่านพระคัมภีร์ให้ประชาชนฟัง จงตักเตือนและสั่งสอนพวกเขาจนกว่าข้าพเจ้าจะมาถึง 14จงอย่าละเลยพระพรพิเศษที่มีอยู่ในท่าน พระพรซึ่งเป็นของประทานให้ท่านเมื่อมีการประกาศพระวาจาเลือกสรรท่านและบรรดาผู้อาวุโสได้ปกมือเหนือท่านe 15จงเอาใจใส่และอุทิศตนในเรื่องเหล่านี้ เพื่อให้ทุกคนแลเห็นความก้าวหน้าของท่าน 16จงดูแลทั้งตนเองและคำสั่งสอน จงมั่นคงต่อไปในเรื่องดังกล่าว เพราะเมื่อทำเช่นนี้ ท่านจะช่วยทั้งตนเองและผู้ที่ฟังท่านให้รอดพ้น

 

4 a เกี่ยวกับวิกฤตการณ์ที่จะเป็นลักษณะของ “ยุคสุดท้าย” (ดู 2 ธส 2:3-12; 2 ทธ 3:1; 4:3-4; 2 ปต 3:3; ยด 18 ดู มธ 24:6ฯ//; กจ 20:29-30) เนื่องจากว่า “ยุคสุดท้าย” ได้เริ่มต้นแล้ว (รม 3:26 เชิงอรรถ m) เราจึงมีชีวิตอยู่ในยุคสุดท้ายนี้อันเป็นยุคของวิกฤตการณ์ด้วย (1 คร 7:26; อฟ 5:6; 6:13; ยก 5:3; 1 ยน 2:18; 4:1,3; 2 ยน 7)

b นั่นคือ ถูกตอกตราเหมือนกับทาสที่หลบหนี และนำมาตีตราด้วยการนาบเหล็กร้อนลงไป

c ลัทธิไญยนิยมสอนว่าการแต่งงานเป็นสิ่งชั่วร้าย แต่กฎระเบียบเรื่องอาหารเป็นข้อกำหนดของชาวยิวโดยเฉพาะ (ดู คส 2:16-23)

d คำว่า “เคารพเลื่อมใสพระเจ้า” มีใช้ 10 ครั้งในกลุ่มจดหมายเรื่องการอภิบาล( 2:2; 3:16; 4:7, 8; 6:3, 5, 6, 11; 2 ทธ 3:12; ทต 2:12) เป็นคำที่สรุปรวมท่าทีของคริสตชนไว้ทั้งหมด เกี่ยวโยงกับความรู้ของความเชื่อซึ่งเป็นแกนกลางชีวิตร่วมกันในพระคริสตเยซู คำนี้ยังหมายถึงความจงรักภักดี และความจริงจังในเรื่องที่เกี่ยวกับพระเจ้าอีกด้วย

e บางคนแปลว่า “การปกมือเพื่อรับหน้าที่ผู้อาวุโส” “การปกมือ” นี้อาจเป็นพิธีสำหรับการให้พรหรือพระคุณพิเศษ (ฮบ 6:2) หรืออาจจะเป็นท่าทางที่ใช้ในการอวยพร (มธ 19:15) หรือรักษาโรค (มธ 9:18//; มก 6:5; 7:32; 8:23-25; 16:18; ลก 4:40; 13:13; กจ 9:12,17; 28:8) หรือประทานพระจิตเจ้าแก่ผู้ที่เพิ่งรับศีลล้างบาป (กจ 1:5 เชิงอรรถ f) หรืออาจเป็นพิธีสำหรับการถวายบุคคลหนึ่งเข้ารับหน้าที่ทางการในพระศาสนจักร (กจ 6:6; 13:3) เช่นที่พูดถึงในข้อนี้ และใน 1 ทธ 5:22 เชิงอรรถ h; 2 ทธ 1:6 ตั้งแต่วันที่เขาได้รับการปกมือเหนือศีรษะ ทิโมธีได้รับพระคุณพิเศษอย่างถาวร (charism=พระพรพิเศษ) ซึ่งเจิมถวายเขาให้เข้ารับตำแหน่งหน้าที่ ส่วนเรื่องบทบาทของประกาศก ดู 1:18