“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)


(ไฟล์ "เสียงวรสาร" โดย วัดแม่พระกุหลาบทิพย์ กรุงเทพฯ)

13 1แม้ข้าพเจ้าพูดภาษาของมนุษย์และของทูตสวรรค์ได้ ถ้าไม่มีความรักa ข้าพเจ้าก็เป็นแต่เพียงฉาบหรือฉิ่งที่ส่งเสียงอึกทึก 2แม้ข้าพเจ้าจะประกาศพระวาจา เข้าใจธรรมล้ำลึกทุกข้อและมีความรู้ทุกอย่าง หรือมีความเชื่อพอที่จะเคลื่อนภูเขาได้ ถ้าไม่มีความรัก ข้าพเจ้าก็ไม่มีความสำคัญแต่อย่างใด 3แม้ข้าพเจ้าจะแจกจ่ายทรัพย์สินทั้งปวงให้แก่คนยากจน หรือยอมมอบตนเองให้นำไปเผาไฟb ถ้าไม่มีความรัก ข้าพเจ้าก็มิได้รับประโยชน์ใด

4ความรักย่อมอดทนc มีใจเอื้อเฟื้อ ไม่อิจฉา ไม่โอ้อวดตนเอง ไม่จองหอง 5ไม่หยาบคาย ไม่เห็นแก่ตัว ความรักไม่ฉุนเฉียว ไม่จดจำความผิดที่ได้รับ 6ไม่ยินดีในความชั่ว แต่ร่วมยินดีในความถูกต้อง 7ความรักให้อภัยทุกอย่าง เชื่อทุกอย่าง หวังทุกอย่าง อดทนทุกอย่าง

8ความรักไม่มีสิ้นสุดd แม้การประกาศพระวาจาจะถูกยกเลิก แม้การพูดภาษาที่ไม่มีใครเข้าใจจะยุติ แม้ความรู้จะหมดสิ้น 9เพราะเรารู้อย่างไม่สมบูรณ์ และประกาศพระวาจาอย่างไม่สมบูรณ์ 10แต่เมื่อสิ่งที่สมบูรณ์มาถึง ความไม่สมบูรณ์จะสูญสิ้นไป 11เมื่อข้าพเจ้ายังเป็นเด็ก ข้าพเจ้าก็พูดจาเหมือนเด็กๆ คิดเหมือนเด็กๆ ใช้เหตุผลเหมือนเด็กๆ แต่เมื่อข้าพเจ้าเป็นผู้ใหญ่ ข้าพเจ้าก็เลิกประพฤติเหมือนเด็ก 12ในเวลานี้ เราเห็นพระเจ้าเพียงรางๆ เหมือนเห็นในกระจกเงา แต่เมื่อถึงเวลานั้น เราจะเห็นพระองค์เหมือนพระองค์ทรงอยู่ต่อหน้าเรา เวลานี้ ข้าพเจ้ารู้อย่างไม่สมบูรณ์ แต่เมื่อถึงเวลานั้น ข้าพเจ้าจะรู้แจ้งเหมือนที่พระองค์ทรงรู้จักข้าพเจ้า

13ขณะนี้ยังมีความเชื่อ ความหวังและความรักอยู่ทั้งสามประการe แต่ที่ยิ่งใหญ่กว่าสิ่งใดทั้งหมดคือ ความรัก

 

13 a ความรัก (agape) ไม่มีลักษณะของการเป็นเจ้าของ และไม่ใช่ความปรารถนาที่จะได้รับความพึงพอใจ แต่ความรักต้องการทำให้ผู้อื่นพอใจ ความรักสูงสุดคือความรักที่พระเจ้าทรงมีต่อเรา (1 ยน 4:19) ซึ่งทำให้พระองค์ประทานพระบุตร เพื่อทำให้คนบาปกลับคืนดีกับพระองค์ (รม 5:8; 8:32-39; 2 คร 5:18-21; อฟ 2:4-7; ดู ยน 3:16ฯ; 1 ยน 4:9-10) ทำให้เขาไม่เป็นเพียงแต่ผู้ที่พระเจ้าทรงเลือกสรรเท่านั้น (อฟ 1:4) แต่ยังเป็นบุตรของพระเจ้าด้วย (1 ยน 3:1) ความรักนี้ถือว่าเป็นความรักของพระเจ้า (พระบิดา) (รม 5:5; 8:39; 2 คร 13:11, 13; ฟป 2:1; 2 ธส 2:16; เทียบ 1 ยน 2:15) เนื่องจากความรักเป็นสิ่งเดียวกับพระธรรมชาติของพระเจ้า (1 ยน 4:7ฯ, 16) จึงพบได้ในพระบุตรด้วย (รม 8:35, 37, 39; 2 คร 5:14; อฟ 3:19; 1 ทธ 1:14; 2 ทธ 1:13) ดังนั้น พระบุตรจึงทรงรักพระบิดาดังที่พระบิดาทรงรักพระบุตร (อฟ 1:6; คส 1:13; เทียบ ยน 3:35; 10:17; 14:31) พระบิดาทรงรักเราฉันใด พระบุตรก็ทรงรักมนุษยชาติฉันนั้น (ยน 13:1, 34; 14:21 15:9) พระบุตรถูกส่งมาช่วยมนุษยชาติให้รอดพ้น (2 คร 5:14ฯ; กท 2:20; อฟ 5:2, 25; 1 ทธ 1:14ฯ; เทียบ ยน 15:13; 1 ยน 3:16; วว 1:5) พระจิตเจ้าได้ประทานความรักเดียวกันนี้ (รม 15:30; คส 1:8) แก่คริสตชน (รม 5:5; เทียบ กท 5:22) การรักทั้งเพื่อนมนุษย์และศัตรู (มธ 5:43-48//) ไม่เป็นเพียงผลตามมาที่จำเป็นจากความรักของพระเจ้าต่อเราเท่านั้น แต่ในความเป็นจริง ยังพิสูจน์อีกว่า พระเจ้าทรงรักเรา (1 ยน 3:17; 4:20ฯ) และยังเป็นบทบัญญัติใหม่ที่พระคริสตเจ้าได้ทรงกำหนดไว้ (ยน 13:34ฯ; 15:12, 17; 1 ยน 3:23; ฯลฯ) และเป็นบทบัญญัติที่บรรดาสาวกได้เน้นอยู่เสมอ (รม 13:8; กท 5:13ฯ; อฟ 1:15; ฟป 2:2ฯ; คส 1:4; 1 ธส 3:12; 2 ธส 1:3; ฟม 5-7; เทียบ ยก 2:8; 1 ปต 1:22; 2:17; 4:8; 1 ยน 2:10; 3:10ฯ, 14; ฯลฯ) เปาโลรักคริสตชนในพระศาสนจักรต่างๆ ที่ท่านได้จัดตั้งขึ้นเช่นนี้แหละ (2 คร 2:4; 12:15; ฯลฯ) และคริสตชนเหล่านี้ก็รักเปาโลเช่นเดียวกัน (คส 1:18; 1 ธส 3:6; ฯลฯ) ความรักเรียกร้องความจริงใจ ความถ่อมตน ความไม่เห็นแก่ตัวและการยอมอุทิศตน (ข้อ 4-7; รม 12:9ฯ; 2 คร 6:6; ฟป 2:2ฯ) การรับใช้ (กท 5:13 เทียบ ฮบ 6:10) การช่วยเหลือกันและกัน (อฟ 4:2 เทียบ รม 14:15; 2 คร 2:7ฯ) ความรักปรากฏในความประพฤติ (2 คร 8:8-11, 24 เทียบ 1 ยน 3:18) และการที่เราเชื่อฟังพระบัญชาขององค์พระผู้เป็นเจ้า (ยน 14:15; 1 ยน 5:2ฯ; ฯลฯ) และทำให้ความเชื่อของเราบังเกิดผล (กท 5:6 เทียบ ฮบ 10:24) ความรักทำให้คริสตชนรวมเป็นหนึ่งเดียวกันในหมู่คณะ (คส 3:14; เทียบ 2 ปต 1:7) และ “ปกคลุมบาปจำนวนมาก” (1 ปต 4:8; เทียบ ลก 7:47) เนื่องจากความรักต่อพี่น้องมาจากความรักต่อพระเจ้า แรงจูงใจของความรักจึงไม่ใช่ความกลัว (รม 8:28-39 เทียบ 1 ยน 4:17ฯ) เราไม่สามารถรักผู้อื่นได้ถ้าไม่รู้ความจริง (อฟ 4:15-16; เทียบ 2 ธส 2:10) และการรู้ความจริงนี้เองทำให้เราตัดสินผิดถูกได้ (ฟป 1:9) และทำให้เราเข้าใจธรรมล้ำลึกเรื่องพระเจ้าเดชะพระจิตเจ้า (คส 2:2; เทียบ 1 ยน 4:7) และเข้าใจความรักของพระคริสตเจ้า ซึ่งไม่มีวิธีอื่นจะเข้าใจได้ (อฟ 3:17-19; เทียบ 1 คร 8:1-3; 13:8-12)

            เนื่องจากพระคริสตเจ้า (อฟ 3:17) และพระตรีเอกภาพ (2 คร 13:13 เชิงอรรถ e เทียบ ยน 14:15-23; 1 ยน 4:12) ประทับอยู่ในวิญญาณซึ่งมีความรักนี้ ความรักนี้จึงหล่อเลี้ยงคุณธรรมทางเทววิทยา (ดู รม 1:16 เชิงอรรถ h; 5:2 เชิงอรรถ c) ในบุคคลที่มีความรักเป็นลักษณะเด่น (1 คร 13:3) ความรักเป็นคุณธรรมเดียวที่คงอยู่ชั่วนิรันดร (ข้อ 8) และจะสมบูรณ์เมื่อเราจะเห็นพระเจ้าแล้วเท่านั้น (ข้อ 12 เทียบ 1 ยน 3:2) เมื่อนั้นแหละพระเจ้าจะประทานพระคุณต่างๆ ที่พระองค์ได้ทรงสัญญาไว้ให้แก่ผู้ที่พระองค์ทรงรัก (1 คร 2:9; รม 8:28; อฟ 6:24; 2 ทธ 4:8; เทียบ ยก 1:12; 2:5)

b บางฉบับว่า “ยอมมอบตนเองเพื่อโอ้อวด”

c ในข้อ 4-7 เปาโลอธิบายลักษณะของความรักแบบคริสตชนโดยใช้กริยาวลีสิบห้าคำ เพื่อเน้นการกระทำของผู้มีความรัก

d เมื่อความรู้ของเราเรื่องพระเจ้าซึ่งเวลานี้ยังไม่สมบูรณ์ (ข้อ 11) และยังไม่เป็นความรู้โดยตรง (ข้อ 12) จะหมดไปเมื่อเราจะเห็นพระเจ้าโดยตรง แล้วความรักจะยังอยู่เหมือนดังที่เคยเป็นในชีวิตนี้

e การกล่าวถึงคุณธรรมทางเทววิทยาทั้งสามประการนี้ร่วมกัน พบเป็นครั้งแรกใน 1 ธส 1:3 และอาจจะใช้กันอยู่แล้วก่อนสมัยของเปาโล เปาโลพูดถึงคุณธรรมทั้งสามนี้ร่วมกันบ่อยครั้งในจดหมายของท่าน แม้จะเรียงลำดับต่างกันก็ตาม (13:7, 13; รม 5:1-5; 12:6-12; กท 5:5ฯ; อฟ 1:15-18; 4:2-5; คส 1:4-5; 1 ธส 5:8; 1 ทธ 6:11; ทต 2:2; เทียบ ฮบ 6:10-12; 10:22-24; 1 ปต 1:3-9, 21ฯ) เปาโลพูดถึงความเชื่อและความรักร่วมกันใน 1 ธส 3:6; 2 ธส 1:3; ฟม 5 พูดถึงความเชื่อและความเข้มแข็งร่วมกันใน 2 ธส 1:4; พูดถึงความรักและความเข้มแข็งร่วมกันใน 2 ธส 3:5; เทียบ 2 คร 13:13

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก