เพลงสดุดีที่ 1[1]

ทางสองแพร่ง

          สดด บทนี้อยู่ในประเภท “ปรีชาญาณ” เป็นบทนำของหนังสือเพลงสดุดีทั้งเล่ม แสดงให้เห็นว่าเรามีทางเลือกได้ 2 ทาง ทางหนึ่งคือการปฏิบัติตามธรรมบัญญัติของพระเจ้า ซึ่งนำไปสู่ชีวิตและความสุข อีกทางหนึ่งก็คือทางของความอธรรมที่นำไปสู่หายนะ พันธสัญญาเดิมมักกล่าวถึงทางเลือกทั้งสองนี้ซึ่งมนุษย์ทุกคนต้องเผชิญและตัดสินใจ (ฉธบ 30:15; ยรม 21:8-9; สภษ 4:18) ในภาษาของพันธสัญญาใหม่ พระเยซูเจ้าจะตรัสถึง “การเข้าประตูแคบหรือเข้าประตูกว้าง” (มธ 7:13-14) ซึ่งหมายความว่าเราจะเลือกอยู่ข้างพระคริสตเจ้าหรืออยู่ตรงข้ามกับพระองค์ (มธ 12:30)

1ผู้ชอบธรรมย่อมเป็นสุข

               เขาไม่เดินตามคำแนะนำของคนชั่ว

       ไม่ยืนในทางของคนบาป

               ไม่นั่งร่วมกับคนชอบเยาะเย้ยผู้อื่น

2แต่ชื่นชมในธรรมบัญญัติของพระยาห์เวห์

               ท่องบ่น[2]ธรรมบัญญัติของพระองค์ทั้งวันทั้งคืน

       3เขาเป็นเหมือนต้นไม้ปลูกไว้ริมลำธาร

               ออกผลตามฤดูกาล ใบเขียวสดไม่เหี่ยวแห้ง

       เขาคิดจะทำการใดก็สำเร็จทุกประการ

       4ส่วนคนชั่วไม่เป็นเช่นนั้นเลย[3]

               เขาเป็นเหมือนแกลบซึ่งลมพัดกระจัดกระจายไป

       5คนชั่วจะถูกตัดสินลงโทษในการพิพากษา[4]

               คนบาปจะถูกขจัดไปจากที่ชุมนุมของผู้ชอบธรรม

       6พระยาห์เวห์ทรงคุ้มครองทางของผู้ชอบธรรม

               แต่ทางของคนชั่วจะพินาศ

 

1 [1] สดด 1 และ 2 ทำหน้าที่เป็นคำนำให้กับหนังสือเพลงสดุดีทั้งเล่ม เพราะสรุปหลักคำสอนทางศีลธรรมและความเข้าใจเรื่องพระเมสสิยาห์ไว้เป็นอย่างดี สดด 1 ชี้ให้เห็นความแตกต่างระหว่างวิถีชีวิตของคนดีกับของคนชั่ว สรรเสริญธรรมบัญญัติอันเป็นหนทางถูกต้องนำไปสู่ความสุข (ดู 19:7-14 และ 119)

[2] “ท่องบ่น” คำฮีบรูหมายถึงการอ่านพึมพำเพื่อการรำพึงภาวนา (63:6; 77:12; 143:5) ตรงข้ามกับการส่งเสียงดังร้องหาพระเจ้าในยามคับขัน (3:4; 5:2)

[3] ต้นฉบับภาษากรีกซ้ำ “ไม่เป็นเช่นนั้นเลย”

[4] สำนวนภาษาฮีบรูชวนให้คิดถึงการพิพากษาประมวลพร้อมในวันสุดท้าย แต่คำแปลภาษากรีกหมายถึงการพิพากษาของพระเจ้าต่อกิจการประจำวันของเรา