“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

หนังสือสุภาษิต

 

ชื่อและจุดประสงค์ของหนังสือ

1 1สุภาษิตของซาโลมอนกษัตริย์แห่งอิสราเอล พระโอรสของกษัตริย์ดาวิด

2สุภาษิตเหล่านี้เขียนไว้

เพื่อให้รู้จักปรีชาญาณและมีระเบียบ

เพื่อเข้าใจถ้อยคำที่มีความหมายลึกซึ้ง

3เพื่อรับคำสั่งสอนให้ประพฤติตนอย่างเฉลียวฉลาด

รู้จักความชอบธรรม ความยุติธรรม และความเที่ยงตรง

4เพื่อให้คนขาดสติมีไหวพริบ

ให้เยาวชนมีความรู้และรู้จักคิด

5ผู้มีปรีชาฟังแล้วจะมีความรู้เพิ่มขึ้น

ผู้มีความรู้อยู่แล้วจะได้แนะนำผู้อื่นต่อไป

6จะได้เข้าใจสุภาษิตและอุปมา

เข้าใจคำพังเพยและปริศนาของผู้มีปรีชา

7ความยำเกรงพระยาห์เวห์เป็นจุดเริ่มของความรู้a

คนโง่ย่อมดูหมิ่นปรีชาญาณและการสั่งสอน

I. อารัมภบท

คำยกย่องชมเชยปรีชาญาณ

 

ผู้มีปรีชาสอนให้หลีกเลี่ยงเพื่อนไม่ดี

8ลูกเอ๋ย จงฟังคำตักเตือนของพ่อ

อย่าดูหมิ่นคำสั่งสอนจากแม่ของลูก

9เพราะคำสอนเหล่านี้เป็นเหมือนมงกุฎประดับศีรษะ

เป็นสร้อยประดับคอของลูก

10ลูกเอ๋ย ถ้าคนบาปชักชวนลูกให้ทำผิด

ก็อย่าทำตามเขา

11ถ้าเขาพูดว่า “มากับพวกเราเถิด เราจงคอยหลั่งเลือดคร่าชีวิต

เราจงซุ่มดักทำร้ายผู้บริสุทธิ์เล่นกันเถิด

12เราจงกลืนเขาทั้งเป็นอย่างแดนผู้ตาย

กลืนเขาทั้งตัวอย่างคนที่ลงไปในขุมลึก

13เราจะพบของประเสริฐทุกอย่าง

เราจะนำของที่ริบได้มาไว้ในบ้านของเราให้เต็ม

14จงมาจับสลากร่วมกับเราเถิด

เราจะมีถุงเงินถุงเดียวกัน”

15ลูกเอ๋ย อย่าไปเดินในหนทางเดียวกับเขาเลย

จงยับยั้งเท้าของลูกให้ห่างจากวิถีทางของเขา

16เพราะเท้าของเขากำลังวิ่งไปสู่ความชั่วร้าย

เขารีบเร่งไปหลั่งเลือดคร่าชีวิตb

17การขึงตาข่ายไว้ให้นกเห็น

ย่อมไร้ประโยชน์c

18แต่คนเหล่านี้คอยหลั่งเลือดของตน

เขาซุ่มดักชีวิตของตนเอง

19ชะตากรรมของผู้ที่คิดแต่จะปล้นผู้อื่นก็เป็นเช่นนี้

การปล้นย่อมคร่าชีวิตของผู้ปล้นนั้นเอง

 

ปรีชาญาณพูดเตือนผู้เบาปัญญา

20ปรีชาญาณร้องตะโกนอยู่ที่ถนนd

เปล่งเสียงดังeที่ลานสาธารณะ

21ร้องเรียกจากยอดกำแพงเมืองf

ตะโกนสอนอยู่ที่ประตูเมืองว่า

22“คนขาดสติเอ๋ย ท่านจะรักความไม่เดียงสาไปอีกนานเท่าใด

คนเย้ยหยันผู้อื่นจะยินดีเย้ยหยันผู้อื่นไปอีกนานเท่าใด

คนโง่จะเกลียดความรู้ไปอีกนานเท่าใด

23จงหันมาสนใจคำตักเตือนของดิฉันเถิด

ดูซิ ดิฉันจะถ่ายทอดความคิดของดิฉันให้ท่าน

ดิฉันจะบอกให้ท่านรู้ถ้อยคำของดิฉัน

24เพราะดิฉันเรียกท่านแล้ว

แต่ท่านปฏิเสธไม่ยอมฟัง

ดิฉันกวักมือเรียกท่านแล้ว

แต่ไม่มีผู้ใดสนใจ

25ท่านไม่ยอมรับรู้คำแนะนำ

และไม่ยอมฟังคำตักเตือนของดิฉันเลย

26ดิฉันก็จะหัวเราะเยาะเย้ยเคราะห์ร้ายของท่านเช่นเดียวกัน

จะเย้ยหยันเมื่อท่านต้องเผชิญความหวาดกลัว

27เมื่อความหวาดกลัวโถมใส่ท่านเหมือนพายุ

เมื่อเคราะห์ร้ายมาถึงอย่างลมบ้าหมู

เมื่อความทุกข์และความกังวลใจมาจู่โจมท่าน

28เวลานั้นเขาทั้งหลายจะเรียก แต่ดิฉันจะไม่ตอบ

เขาจะแสวงหา แต่จะไม่พบดิฉัน

29เพราะเขาเกลียดความรู้

และไม่เลือกความยำเกรงพระยาห์เวห์

30เขาไม่ยอมรับคำแนะนำของดิฉัน

กลับดูหมิ่นคำตักเตือนทั้งหมด

31เขาจะกินผลความประพฤติของตน

จะอิ่มด้วยกลอุบายของตนเอง

32การหลงทางของคนขาดสติจะฆ่าเขา

ความพึงพอใจของคนโง่จะทำลายเขา

33แต่ผู้ฟังดิฉันจะมีชีวิตอยู่อย่างปลอดภัย

เขาจะอยู่อย่างสงบสุข ไม่ต้องกลัวความชั่วร้ายใดๆ”

 

1 a วลีในพระคัมภีร์ที่ว่า “ความยำเกรงพระยาห์เวห์” (ดู อพย 20:20 เชิงอรรถ i; ฉธบ 6:2 เชิงอรรถ a) มีความหมายถึงสภาพจิตใจคล้ายๆ กับที่เราเรียกว่า “การนับถือศาสนา” หรือ “ความเลื่อมใสศรัทธาต่อพระเจ้า” ซึ่งเป็นทั้งจุดเริ่มต้น (9:10; 15:33; โยบ 28:28; สดด 111:10; บสร 1:18-20) และเป็นจุดยอด (บสร 1:18; 19:20; 25:10-11; 40:26-27) ของปรีชาญาณที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับศาสนา ส่งเสริมให้มีความสัมพันธ์เป็นส่วนตัวกับพระเจ้าที่ทรงกระทำพันธสัญญากับมนุษย์ ในความสัมพันธ์เช่นนี้ ความยำเกรงและความรัก ความเชื่อฟังและความไว้วางใจ นับได้ว่าเป็นสิ่งเดียวกัน (ดู สดด 25:12-14; 112:1; 128:1; ปญจ 12:13; บสร 1:27-28; 2:7-9, 15-18 ฯลฯ)

b เราไม่พบข้อ 16 นี้ในต้นฉบับคัดลอกภาษากรีกฉบับที่ดีที่สุด นักวิชาการส่วนมากคิดว่าข้อนี้ผู้คัดลอกได้เสริมเข้ามาจาก อสย 59:7

c “การขึงตาข่ายไว้ให้นกเห็นย่อมไร้ประโยชน์” ความหมายของข้อนี้เข้าใจได้ไม่ยาก นกย่อมไม่เข้ามาติดตาข่ายที่นายพรานวางไว้ ถ้ามันแลเห็นตาข่ายนั้น ดังนั้น เยาวชนจึงรับคำเตือนว่าอันตรายที่เป็นเสมือนหลุมพรางของชีวิตอยู่ที่ใด เขาจะได้หลีกเลี่ยงอันตรายนั้น

d “อยู่ที่ถนน” แปลตามต้นฉบับภาษากรีก ต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า “ข้างนอก”

e “เปล่งเสียงดัง” เช่นเดียวกับบรรดาประกาศก (ดู ยรม 5:1; 7:2) ปรีชาญาณซึ่งมีลักษณะเป็นเสมือน “สตรี” คนหนึ่ง (ดู 8:22 เชิงอรรถ f) เดินไปตามถนนในเมือง รอพบชาวเมืองเพื่อสอนทุกคนให้เลิกเป็นคนเบาปัญญาที่รู้สึกผิดๆ ว่าตนปลอดภัย (ดู อมส 6:1; 9:10; ศฟย 1:12)

f “จากยอดกำแพงเมือง” แปลตามต้นฉบับภาษากรีก ต้นฉบับภาษาฮีบรูไม่ชัดเจน

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก