“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันอังคารที่ 3 ตุลาคม 2017
สัปดาห์ที่ 26 เทศกาลธรรมดา
ลก 9:51-56
       เวลาที่พระเยซูเจ้าจะต้องทรงจากโลกนี้ไป ใกล้เข้ามาแล้ว พระองค์ทรงตั้งพระทัยแน่วแน่จะเสด็จไปกรุงเยรูซาเล็ม 52และทรงส่งผู้นำสารไปล่วงหน้า คนเหล่านี้ออกเดินทางและเข้าไปในหมู่บ้านแห่งหนึ่งของชาวสะมาเรียเพื่อเตรียมรับเสด็จพระองค์ 53แต่ประชาชนที่นั่นไม่ยอมรับเสด็จเพราะพระองค์กำลังเสด็จไปกรุงเยรูซาเล็ม 54เมื่อยากอบและยอห์นศิษย์ของพระองค์เห็นดังนี้ก็ทูลพระองค์ว่า “พระเจ้าข้า พระองค์ทรงพระประสงค์ให้เราเรียกไฟจากฟ้าลงมาเผาผลาญคนเหล่านี้หรือไม่” 55พระเยซูเจ้าทรงหันไปตำหนิศิษย์ทั้งสองคน 56แล้วทรงพระดำเนินต่อไปยังหมู่บ้านอื่นพร้อมกับบรรดาศิษย์

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง
• ถ้าเราอ่านพระคัมภีร์ดีๆ ในการเดินทางจากกาลิลีไปเยรูซาเล็ม เพื่อไปรับพระทรมาน เราจะพบว่า พระเยซูเจ้าทรงมีพระทัยมุ่งมั่นอย่างมากที่จะเดินทางไป มุ่งมั่นจะไปรับพระทรมาน เพื่ออะไร... คำตอบ
o เพื่อทำตามพระประสงค์ของพระบิดา ที่ทรงรักโลกอย่างมากถึงกับมอบพระบุตรแต่เพียงพระองค์เดียว เพื่อทุกคนที่เชื่อในพระบุตรจะมีชีวิตนิรันดร เป็นแผนการณ์แห่งความรักของพระเจ้าเสมอ พระบิดาพอพระทัยจะสร้างทุกสิ่งขึ้นใหม่ โดยทาง “พระวจนาตถ์” พระวาจา คือ พระเยซู เหมือนเมื่อทรงสร้างในครั้งแรกด้วยพระวาจา แต่ต้องขาดลงเพราะความไม่เชื่อฟังพระวาจา โดยมนุษย์ บัดนี้โดยพระเยซู พระองค์ทรงเป็นมนุษย์แท้และทรงเป็นพระเจ้าแท้ พระองค์ทรงยอมรับเอากาย พระองค์จะยอมเชื่อฟัง จนได้ชื่อว่าเป็น “อาดัมใหม่” ที่ยอมเชื่อฟังจนถึงที่สุดเพื่อประสงค์ของพระบิดาเจ้าจะสำเร็จและเป็นไป
o เพื่อชดเชยบาปของมวลมนุษย์ การหลั่งเลือดเพื่อชดเชยบาป เป็นธรรมเนียมแห่งกรถวายบูชาชดเชยบาป พระเยซูทรงทราบว่าพระองค์จะต้องสิ้นพระชนม์ แต่เราเห็นจากพระวรสารว่า พระองค์ทรงมุ่งมั่นในพระทัยจะก้าวไป.... “เวลาที่พระเยซูเจ้าจะต้องทรงจากโลกนี้ไป ใกล้เข้ามาแล้ว พระองค์ทรงตั้งพระทัยแน่วแน่จะเสด็จไปกรุงเยรูซาเล็ม”
o ทรงเบิกทางเดิน เพื่อผ่านไปสู่พระทรมาน ผ่านหมู่บ้านชาวสะมาเรีย ประหนึ่งว่า พวกเขาด้วยต้องได้รับการกอบกู้ พวกเขาด้วยควรได้ตอนรับพระองค์ดังเช่นชาวเยรูซาเล็มที่จะร้อง “โฮซานนา” แต่หาได้เป็นเช่นนั้นไม่เพราะชาวสะมาเรียไม่ต้องการต้อนรับพระองค์ ไม่ต้องการ ไม่ยอมรับ ไม่ให้เกียรติพระองค์

• ดูเหมือนบรรดาศิษย์ คือ ยากอบและยอห์นจะโกรธมา ถึงขนาดแสดอำนาจ “เมื่อยากอบและยอห์นศิษย์ของพระองค์เห็นดังนี้ก็ทูลพระองค์ว่า “พระเจ้าข้า พระองค์ทรงพระประสงค์ให้เราเรียกไฟจากฟ้าลงมาเผาผลาญคนเหล่านี้หรือไม่””
o สองคนถูกดุ คำถามคือทำไม...คำตอบคือ พระเยซูไม่เคยบังคับให้ใครต้องเชื่อหรือยอมรับพระองค์ เพราะพระองค์กระทำกิจการดี สอน เสด็จผ่านไป ใครก็ตามที่ได้สัมผัส และได้เชื่อด้วยใจอิสระ... จะได้รับความรอด พระวรสารนักบุญยอห์นยืนยันว่า “สำหรับผู้ที่เชื่อ พระองค์ประทานอำนาจให้เขาเป็นบุตรของพระเจ้า” (ยน 1:12)
o ประการต่อมา... พระองค์ไม่มีความรุนแรง ไม่เคยใช้อำนาจสูงสุดที่มีเพื่อประกาศความรุนแรง พระองค์เป็นบุคคลแห่งพระวาจา แห่งความอ่อนโยน ถ่อมตน ไม่เคยใช้อำนาจใด้ๆ มากไปกว่า “การให้อภัย”
o ศิษยสองคนดูจะมั่นใจเกินไปขนาดที่จะเรียกไฟจากฟ้า พวกเขาทำได้ไหม ได้แน่ๆเพราะถ้ามีพระเยซู แต่ได้ทำไหม ไม่มีทาง พระองค์พระองค์เป็นตรงกันข้าม “ผู้ที่แบกภาระหนักจงมาหาเราเถิด... เพราะเรามีใจสุภาพอ่อนโยนและถ่อมตน

• พี่น้องที่รัก พระวาจาของพระเจ้าวันนี้น่าจะเตือนเรา ให้เรามุ่งมั่นในพันธกิจแห่งความรักในฐานะคริสตชน มุ่งมั่นกระทำความดี เมตตา ความรัก และสร้างสันติ และที่สำคัญขอให้เราเป็นบุคคลแห่งความอ่อนโยนโดยปราศจากความรุนแรงใด ดังเช่นพระเยซูด้วยเทอญ

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก