“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันจันทร์ที่ 19 กันยายน 2016

สัปดาห์ที่ 24 เทศกาลธรรมดา

สภษ 3:27-35…………
27ถ้าลูกมีอำนาจจะทำได้
อย่าปฏิเสธความดีแก่ผู้ที่ต้องการ
28ถ้าลูกมีสิ่งของที่เพื่อนบ้านขอ
อย่าพูดกับเขาว่า “กลับไปก่อนเถิด พรุ่งนี้กลับมาแล้วฉันจะให้”


29อย่าคิดแผนร้ายต่อเพื่อนบ้าน
ที่อยู่ใกล้ลูกและไว้วางใจลูก
30อย่าทะเลาะวิวาทกับผู้ใดอย่างไร้เหตุผล
ถ้าเขาไม่ได้ทำร้ายลูก
31อย่าอิจฉาคนที่ใช้ความรุนแรง
อย่าเลียนแบบความประพฤติของเขาเลย
32เพราะพระยาห์เวห์ทรงรังเกียจคนตลบตะแลง
มิตรภาพของพระองค์อยู่กับคนซื่อตรง
33คำสาปแช่งของพระยาห์เวห์อยู่เหนือบ้านของคนชั่วร้าย
พระองค์ทรงอวยพระพรที่อาศัยของผู้ชอบธรรม
34พระองค์ทรงเย้ยหยันคนที่เย้ยหยันผู้อื่น
แต่ทรงพระกรุณาผู้ถ่อมตน
35ผู้มีปรีชาจะได้เกียรติยศเป็นมรดก
คนโง่จะได้รับความอัปยศ

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง
• สัปดาห์ที่ 25 เทศกาลธรรมดา...
o เราได้อ่านจดหมายของนักบุญเปาโลมาหลายสัปดาห์ วันนี้จู่ๆเมือนการกลับหลังหันไปอ่านพระคัมภีร์พันธสัญญาเดิมครับ...
o พ่ออยากจะบอกว่า พระศาสนจักรมีวิธีหล่อเลี้ยงเรา ดูและเรา สอนเราด้วยพระวาจาของพระเจ้าจริงๆ นี่คือเสน่ห์และพลังของพระศาสนจักรคาทอลิก...

• เพราะว่า ทั่วโลก ทั่วโลกจริงๆ ณ ที่ๆมีคริสตชนคาทอลิก ถ้าเอาจำนวนมาอ้างก็บอกว่าพันล้านคน เราคริสตชนคาทอลิกทั่วโลกอ่านพระคัมภีร์ตอนเดียวกันทั่วโลก ทุกวัน ทุกมิสซา ทุกวันอาทิตย์ และทุกวันธรรมดา ทั่วโลกจริงๆทุกภาษาที่มีคริสตชนคาทอลิกครับ
o นี่เป็นเคลื่อนพลังชีวิตแห่งพระวาจาและปรีชาญาณของพระศาสนจักรคาทอลิกที่จัดไว้ และเป็นความอ่อนน้อม ยอมรับ ที่จะรับคำสอนของพระวาจา และเป็นการ “ก้าวเดินด้วยความเป็นหนึ่งเดียวกัน” ของคริสตชนคาทอลิกอย่างไม่น่าเชื่อจริงๆ แต่ต้องเชื่อ เพราะนี่คือธรรมประเพณีแห่งความเป็นหนึ่งเดียวของคำว่า “คาทอลิก” เลยทีเดียวครับ...

• พี่น้องครับ ช่วงนี้เราหันมาอ่านพระคัมภีร์หนังสือสุภาษิต... พระคัมภีร์ฮีบรูต้นฉบับใช้ชื่อว่า מִ֭שְׁלֵי שְׁלֹמֹ֣ה Míshlê Shlomoh อ่านว่า “มิชเลย์ เชอโลโมห์” แปลว่า “สุภาษิตของซาโลมอน” (Proverbs) แปลเป็นภาษากรีก เรียกว่า "Παροιμίαι" อ่านว่า “ปารอยมีอัย”

• จากวันนี้ไปเราคงอ่านสิ่งที่เรียกว่า “ปรีชาญาณ” ที่สอนให้เราเจริญชีวิตฉลาดเฉลียวที่สุด คือ เจริญชีวิตแบบคนที่มีความเชื่อในพระเจ้านะครับ... ค่อยๆติดตามกันไปครับ

• หนังสือสุภาษิต คือ อันทีจริงไม่ต้องการคำอธิบายใดๆ เป็นพิเศษ เพราะมีความชัดในตนเอง มีพลังพอที่จะทำให้ผู้อ่านได้สัมผัสถึงคำสอนที่ล้ำค่าของการดำเนินชีวิตอย่างมี “ปรีชาญาณ”...

• วรรณกรรมพระคัมภีร์สุภาษิตสอนเราอย่างตรงไปตรงมา ชัดเจน

• พ่อคิดเสมอว่า
o ภาพลักษณ์หรือภาพปรากฏของการเป็นคริสตชนที่แท้จริงคืออะไร
o อะไรหนอคือภาพปรากฏที่ทำให้ครสิตชนเป็นคริสตชนจริงๆ
o อะไรคือสาระที่เห็นได้ของการเป็นคนที่มีพระเจ้า
o คนที่มีพระเจ้าแล้ว มีศรัทธาในพระเจ้าแล้วต้องมีหน้าตาท่าทีอย่างไรหนอ...

• พ่อเคยคิดและไตร่ตรองจริงๆ ว่า คริสตชนเราที่ได้อ่านพระคัมภีร์หนังสือสุภาษิตแต่ละตอน โดยเฉพาะวันนี้ตอนนี้ที่เราได้อ่านแล้ว เราน่าจะเป็นอย่างไรหนอ...
o พอเชื่อว่าถึงเวลาที่เราต้องอ่านพระคัมภีร์สุภาษิตนี้แล้ว และเราต้องมามองดูความจริงของชีวิตของเราอย่างตรงไปตรงมาจำทุกถ้อยคำในหนังสือสุภาษิตนี้
o น่าสนใจจริงๆ มากๆ ถ้าเราจะถอดประเด็นของคำสอนออกมากเป็นข้อคิดที่กระชับอย่างนี้ครับ... คือ พ่อจะขอตัดคัดเอาเฉพาะสิ่งที่ไม่ควรปฏิบัติ คือสั่งห้าม... “อย่า” สำหรับคนที่มีพระเจ้า คนที่มีปรีชาญาณของพระเจ้าอยู่ หรือคนที่มีศรัทธาในพระเจ้า.... มีประเด็นต่างๆ ที่คัดออกมาได้ดังนี้ครับ..
o อ่านดีๆนะครับ พ่ออ่านแล้วพ่อสัมผัสได้จริงๆถึงความสุขในหัวใจ และชีวิตของเรา สุภาษิตใช้คำอ่อนโยนมาก... “ถ้าลูกมีอำนาจจะทำได้....” อ่านแล้วรู้สึกดีจริงๆครับ ดู หกประเด็นต่อไปนี้ที่พ่อคัดออกมาสิครับ...
1. อย่าปฏิเสธความดีแก่ผู้ที่ต้องการ
2. อย่าพูดกับเขาว่า “กลับไปก่อนเถิด พรุ่งนี้กลับมาแล้วฉันจะให้”
3. อย่าคิดแผนร้ายต่อเพื่อนบ้าน
4. อย่าทะเลาะวิวาทกับผู้ใดอย่างไร้เหตุผล
5. อย่าอิจฉาคนที่ใช้ความรุนแรง
6. อย่าเลียนแบบความประพฤติของเขาเลย

• พี่น้องที่รักครับ... พ่อเรียกแบบนี้มาตลอดเคยสังเกตไหม “พี่น้องที่รัก” เฉพาะสองข้อแรกของพระคัมภีร์สุภาษิตวันนี้ พ่ออ่านพ่อก็ใจแทบจะละลายแล้ว ข้อ 27-28 ครับ
o “ถ้าลูกมีอำนาจจะทำได้ อย่าปฏิเสธความดีแก่ผู้ที่ต้องการ”
o “ถ้าลูกมีสิ่งของที่เพื่อนบ้านขอ อย่าพูดกับเขาว่า “กลับไปก่อนเถิด พรุ่งนี้กลับมาแล้วฉันจะให้””

• พ่อเขียนบทเทศน์นี้ในความรู้สึกลึกในหัวใจจริงๆ ... “ถ้าลูกทำได้... อย่าปฏิเสธความดีแก่ผู้ที่ต้องการ...”
o พระคำของพระเจ้า พระวาจาจากสุภาษิตวันนี้ไม่รู้ทำไม... ขณะที่นั่งเขียนอยู่นี้มันช่างเสียดแทงใจพ่อจริงๆ พ่อเองรู้สึกอยากให้ อยากให้ให้หมดสิ่งที่พ่อทำได้ อยากรักมากขึ้น อยากให้ อยากแบ่งปัน
o พ่อคิดถึงหญิงหม้ายคนนั้นในพระวิหาร ในสายตาพระเยซู นางให้ได้แม้ “เงินเหรียญทองแดงทั้งหมดสองเหรียญ” ที่นางมีเพื่อชีวิตของนาง นางได้ใส่ตู้ถวายในพระวิหาร ถวายให้กับพระเจ้า... ในสายพระเนตรของพระเยซูเจา มันช่างต่างจาก “เศษเงินเหลือใช้มากมาย” ของเศรษฐีจริงๆ

• พี่น้องที่รัก พ่อไม่เข้าใจหรอกว่าทำไมตอนเด็กๆ พ่อต้องท่องจำให้ได้ ต้องท่องบัญญัติของพระเจ้า และต้องท่องบัญญัติของพระศาสนจักร

• ทำไมพ่อต้องถูกสอนให้ท่องจำให้ขึ้นใจซึ่งกฎระเบียบต่างๆ หลายประการ ยากจะอธิบาย

• แต่ที่แน่ๆ นับจากวัยเด็ก พ่อมีเสียงมโนธรรมที่ได้รับการอบรมหล่อหลอมเสมอมาจนกลายเป็นบุคลิกของพ่อเอง และเชื่อว่าเป็นบุคลิกของพวกเราคริสตชนทุกคนจริงๆ
o เรารู้ว่า เราต้องหนีความชั่ว
o เราผู้เป็นคริสตชนเราต้องไม่กระทำความชั่วร้ายนานาชนิด
o เราต้องเป็นคนดี...ต้องดี ไม่ดีไม่ได้..

• ผลกระทบจากการที่พ่อได้เกิดมาและได้เป็นคริสตชนเป็นแบบนี้นี่เอง คือ เราต้องมีชีวิตที่ “ดี”

• เมื่ออ่านหนังสือสุภาษิตวันนี้ พ่อได้เห็นความจริงชัดเจนว่า
o พระคัมภีร์นี้ช่างเป็นคำสอนที่ชัด ตรง ดี จริง สำหรับชีวิตของเราเพื่อให้เราได้สามารถเจริญชีวิตประกาศอัตลักษณ์แท้จริงของเราคือ “การเจริญชีวิตอย่างมีปรีชาญาณแท้ เปี่ยมด้วยความดีของพระเจ้าอย่างเป็นรูปธรรมในชีวิตของเราเสมอ” อ่านบทอ่านจากหนังสือสุภาษิตนี้นะครับ และจะเสริมพลังแห่งชีวิตคริสตชนของเราอย่างดีที่สุดครับ

• ถ้าพ่อเองกับพี่น้องทีรักนี้ พ่อได้เรียกตัวเองว่า “พ่อ” เสมอๆ และสัตบุรุษก็เป็นลูกที่เรียกพ่อว่า “พ่อ” ได้อย่างมีความสุขและเรียกกันได้อย่างสนิทใจจริงๆ ถ้าเป็นเช่นนี้....

• พี่น้องที่รัก “พ่อ... พ่อ...” พ่ออยากจะใช้คำของสุภาษิตประโยคแรกของบทอ่านวันนี้มากกล่าวกับสัตบุรุษทุกท่าน ขอพูดด้วยคำของพระวาจาตอนนี้จริงๆว่า
o ลูกที่รัก... ลูกๆที่รักครับ.... “ถ้าลูกมีอำนาจจะทำได้ อย่าปฏิเสธความดีแก่ผู้ที่ต้องการ”
o ลูกรัก เมื่อเราเป็นคริสตชน เมื่อเราได้รับศีลล้างบาปและได้เป็นลูกพระเจ้า “อย่าปฏิเสธที่จะเป็นคนดีเด็ดขาด และอย่าปฏิเสธที่จะเป็นคริสตชนที่ดีตลอดไป เสมอไป”
o ความดีความเมตตากรุณา การแบ่งปัน คือ อำนาจของความรัก
o ความรักในฐานะคริสตชนของเราทุกคน จะต้องเป็นพลังก่อให้เกิดความดีในชีวิตของเราตลอดไป

o ลูกๆที่รัก โลกปัจจุบันต้องการลูกๆ คริสตชนซึ่งเป็นลูกน่ารักของพระเจ้า คือ
1. โลกปัจจุบันต้องการลูกเพื่อเป็นแสงสว่างแห่งความดีตลอดไป
2. โลกปัจจุบันต้องการลูกเพื่อเป็นเกลือดองโลก และเป็นแสงสว่างส่องทางความจริงและชีวิต ดังนั้น
3. ในเมื่อเรามีอำนาจของพระเจ้า และอำนาจของพระเจ้าคืออำนาจแห่งความรักและความเมตตา ขอให้เราอย่าได้ปฏิเสธความดี ความรักและการแบ่งปันด้วยความรักเลย ถ้าลูกสามารถจะทำได้ อย่าปฏิเสธเลยนะครับ
4. ขอพระเจ้าอวยพรเสมอไป อ่านพระวาจานะครับ... ขอให้เราได้ฉลาดอย่าได้ขาดความฉลาดหรือปรีชาญาณซึ่งเป็นความรักตลอดไปในชีวิตของเราเลย... ขอพระเจ้าอวยพรครับ ซ้ำอีกทีจากหนังสือสุภาษิตครับ “ถ้าลูกมีอำนาจจะทำได้ อย่าปฏิเสธความดีแก่ผู้ที่ต้องการ”

 

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก