“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันอังคารที่ 9 สิงหาคม 2016

สัปดาห์ที่ 19 เทศกาลธรรมดา

อสค 2:8-3:4…………….
       แต่ท่าน บุตรแห่งมนุษย์เอ๋ย จงฟังสิ่งที่เราพูดกับท่าน อย่าเป็นคนกบฏเหมือนพงศ์พันธุ์กบฏ จงอ้าปากและกินสิ่งที่เรากำลังจะให้ท่าน” 9เมื่อข้าพเจ้ามองดูก็เห็นพระหัตถ์เหยียดออกมาหาข้าพเจ้า พระหัตถ์นั้นถือหนังสือม้วนหนึ่ง 10พระองค์ทรงคลี่หนังสือม้วนนั้นออกต่อหน้าข้าพเจ้า มีอักษรเขียนอยู่ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง มีบทคร่ำครวญ คำไว้ทุกข์ และคำวิบัติเขียนอยู่ในม้วนหนังสือนั้น


1พระองค์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า “บุตรแห่งมนุษย์เอ๋ย จงกินสิ่งที่ท่านเห็น จงกินหนังสือม้วนนี้ แล้วจงไปพูดกับพงศ์พันธุ์อิสราเอลเถิด” 2ข้าพเจ้าจึงอ้าปาก พระองค์ก็ประทานหนังสือม้วนนั้นให้ข้าพเจ้ากิน 3แล้วตรัสว่า “บุตรแห่งมนุษย์เอ๋ย จงกินหนังสือม้วนนี้ซึ่งเราให้ท่าน จงกินให้อิ่ม” ข้าพเจ้าจึงกินหนังสือม้วนนั้น ซึ่งมีรสหวานเหมือนน้ำผึ้งในปากของข้าพเจ้า
4แล้วพระองค์ตรัสกับข้าพเจ้าอีกว่า “บุตรแห่งมนุษย์เอ๋ย จงไปพบพงศ์พันธุ์อิสราเอล และประกาศถ้อยคำของเราแก่เขา 5เราไม่ได้ส่งท่านไปพบชนชาติที่พูดภาษาต่างด้าวและภาษาที่ยาก แต่ให้ไปพบพงศ์พันธุ์อิสราเอล 6ไม่ใช่ให้ไปพบประชากรหลายชาติที่พูดภาษาต่างด้าวและภาษายากที่ท่านไม่เข้าใจคำพูด ถ้าเราส่งท่านไปพบคนเช่นนี้ เขาคงจะฟังท่าน 7แต่พงศ์พันธุ์อิสราเอลจะไม่ยอมฟังท่าน เพราะเขาไม่ยอมฟังเรา พงศ์พันธุ์อิสราเอลทั้งหมดเป็นคนหัวแข็งและจิตใจดื้อดึง 8แต่บัดนี้ เราทำให้หน้าของท่านด้านเหมือนหน้าของเขา และทำให้หน้าผากของท่านแข็งกระด้างเหมือนหน้าผากของเขา 9เราทำให้หน้าผากของท่านแข็งเหมือนเพชรที่แข็งกว่าหินเหล็กไฟ อย่ากลัวเขาเลย อย่าตกใจเมื่อเห็นหน้าเขา เพราะเขาเป็นพงศ์พันธุ์กบฏ”

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง

• พระเจ้าตรัสวันนี้แรงจริงๆ “แต่บัดนี้
o เราทำให้หน้าของท่านด้านเหมือนหน้าของเขา และ
o ทำให้หน้าผากของท่านแข็งกระด้างเหมือนหน้าผากของเขา
o เราทำให้หน้าผากของท่านแข็งเหมือนเพชรที่แข็งกว่าหินเหล็กไฟ
o อย่ากลัวเขาเลย อย่าตกใจเมื่อเห็นหน้าเขา เพราะเขาเป็นพงศ์พันธุ์กบฏ

• ประชดประชัน และเรียกร้องประกาศกให้ออกไปประกาศ กินถ้อยคำของพระเจ้าไปและไปประกาศ เพราะพวกเขาด้านขนาด... หน้าทนนักใช่ไหม... ดังนั้น เราจะทำให้หน้าของท่านด้านสู้เช่นกัน... โอโหแรงจริงๆ...

• “หนามยอกต้องเอาหนามบ่ง หน้าด้านก็ต้องด้านกันหน่อย”
o ภาษาพระคัมภีร์ ประกาศกเอเสเคียลวันนี้ขึ้นต้นดูแปลกๆ
o แต่พ่อยากจะใช้คำของพระคัมภีร์วันนี้ขึ้นมาจั่วหัวครับ “แต่บัดนี้ เราทำให้หน้าของท่านด้านเหมือนหน้าของเขา และทำให้หน้าผากของท่านแข็งกระด้างเหมือนหน้าผากของเขา 9เราทำให้หน้าผากของท่านแข็งเหมือนเพชรที่แข็งกว่าหินเหล็กไฟ อย่ากลัวเขาเลย อย่าตกใจเมื่อเห็นหน้าเขา เพราะเขาเป็นพงศ์พันธุ์กบฏ” (อสค 3:8-9)
o ข้อความนี้ไม่ได้อยู่ในบทอ่านในมิสซาวันนี้เพราะเขาตัดให้สั้นลง แต่พ่อคัดจากพระคัมภีร์มาเพิ่มเติม นำมาให้อ่านต่ออีกสามสี่ข้อ เพื่อให้เห็นความสุดๆกับความรักของพระเจ้า
o พระองค์ใช้ประกาศกเอเสเคียลไปหาประชากรของพระองค์ พระองค์รักเขาเหลือเกิน แต่พวกเขาก็ดื้อดึงดันด้านด้นเหลือเกิน ไม่ยอมฟังเสียงของพระเจ้าที่รักเขา ไม่ยอมสำนึกจนกลายเป็นลูกหน้าด้านของพระเจ้า
o แต่สุดๆเลยครับ ดูเหมือนว่า ประกาศกเอเสเคียลต้องรับหน้าที่เป็นประกาศกและพระเจ้าต้องการให้ประกาศกของพระองค์ “ด้านกว่า หัวแข็งกว่า สู้ และหน้าผ้าของเอเสเคียลต้องด้านแข็งเหมือนหินเหล็กไฟ เพื่อสู้กับความดื้อด้านของประชากรของพระเจ้า สู้กับอิสราเอลที่พระเจ้ารักและต้องการให้พวกเขากลับใจจริงๆ”.....

• พ่อคิดถึงอะไรทราบไหมครับ.... พ่อคิดถึงวันแม่ พ่อคิดถึงคนที่เป็นแม่ ในบรรยากาศวันแม่ที่งดงามที่กำลังจะมาถึง หลายที่ก็เตรียมจัดงานวันแม่กันแล้ว และก็เริ่มกันแล้วด้วย...
o พ่อ....คิดถึงภาพน่ารักของมารดาให้นมบุตร
o พระเจ้าเสนอพระองค์เปรียบเทียบด้วยภาษาในพระคัมภีร์ ตั้งแต่สมัยหนังสือปัญจบรรพ พระเจ้า พระยาห์เวห์ทรงเปรียบเป็นดังมารดาที่อุ้มบุตรที่รักเอฟราอิมหรืออิสราเอลไว้ในอ้อมอก ปกป้อง ให้การเลี้ยงดู ไม่อายที่จะเลี้ยงดู
o ปกติผู้หญิงจะต้องปกปิดร่างกาย และต้องปกปิดทรวงอกของตนแน่นอน (ยกเว้นปัจจุบันที่ดูเหมือนจะเกินๆเลยๆ ไม่ค่อยจะอายกันเลย....)
o แต่พ่อชอบภาพที่น่ารักที่ดูงดงามที่สุด คือ มารดา “แม่”
o คือเมื่อหญิงที่มีบุตรเล็กๆ อุ้มไว้ที่ทรวงอกของตน ปกติคนที่เป็นแม่จะไม่อายเลยถ้าต้องอุ้มลูกและให้ลูกดูดนมจากอกของแม่ จากความรักของแม่
o แม่ไม่อายที่จะนั่งและเลี้ยงดูลูก ลูกจะได้รับความอบอุ่น กลิ่นอายของน้ำนมแห่งความรัก และได้รับการกอดสัมผัสสุดแสนอิ่มสุขและอบอุ่นจากทรวงอกของมารดาที่รัก
o ภาพของมารดาให้นมบุตร ไม่ใช่ภาพที่น่าอายและไม่เคยเป็นภาพที่น่าอายเลยแต่เป็นภาพที่สวยงามและเต็มไปด้วยความรัก คงไม่มีใครจะว่ามารดาผู้ให้นมบุตรว่าหน้าไม่อาย ทำได้อย่างไร เพราะอันที่จริงนี่คือธรรมชาติที่สวยงามที่สุดของชีวิต
o ลูกน้อยหลับตาสนิทดูดนมแม่ในความอบอุ่นและในความรัก แบบนี้ที่เรียกว่าอิ่มอุ่นอบอวนไปด้วยความรักจริงๆ แม่ไม่มีวันอายเลยที่จะทำทุกอย่างเพื่อลูก....

• สังคมปัจจุบันก็นะ “ทิ้งกันง่ายๆ” แม่ทิ้งลูกหรือลูกทิ้งพ่อแม่มีมากเหลือเกิน.... โดดเดี่ยวเดียวดาย ไร้คนดูแล
o เมื่อวันก่อนพ่อนั่งรถกับสามเณรเขาถามพ่อเรียบๆ “พ่อครับ พ่อกลัวเหงา กลัวโดดเดี่ยวไหมครับ ในบั้นปลายของชีวิต....”
o อืม...น่าคิดนะครับ.... คนเราทุกคนต้องการความรัก ต้องการคนที่รักและดูแล... แต่ก็นะเราเลือกชีวิตแบบนี้พ่อตอบเขาว่า... “ลูก เราทุกคนต้องเหงาและโดดเดี่ยวที่สุดในบั้นปลาย เพราะเมื่อเราต้องจากโลกนี้ไป... เราก็หลับตาลงคนเดียว ทุกคนต้องเผชิญความจริงนี้เหมือนกัน... แต่ถ้าเราเชื่อว่าเรารักและเราได้รักพี่น้อง เราได้รับใช้คริสตชนจริงๆ เราก็คงอยู่ได้อย่างโดดเดี่ยวแต่ไม่เดียวดายหรอกครับ” (Alone but not Lonely)
o พ่อมีความเชื่ออยู่อย่างจากประสบการณ์ เวลาเรานอนหลับสนิท เวลานั้นก็เป็นเวลาที่มีความสุขที่สุด... วันสุดท้ายเมื่อต้องหลับสนิทนิรันดร์และอยู่ในสภาพนิรันดร์กับพระเจ้า ที่เราไม่มีวันเข้าใจได้หมดถึงความสุข สงบนิรันดร.. ดังนั้น ในยามสุดท้าย เราทุกคน คงจะมีความสุขกับพระเจ้านิรันดรแน่ๆ

• กลับมาที่เรื่องสังคมบ้านเมืองของเรา
o สังคมปัจจุบันลูกทิ้งพ่อแม่ไม่ต้องกล่าวถึงเพราะมีมากอยู่แล้ว
o แต่พ่อแม่ทิ้งลูกนี่สิ... ยิ่งที่ยิ่งเยอะ พ่อแม่ทำลายลูกตั้งแต่อยู่ในครรภ์ก็มากเหลือเกิน....
o สังคมทอดทิ้งผู้ยากไร้ไว้ใต้อิทธิพลของคนที่หัวแข็ง หน้าด้าน หน้าทน ก็มากเหลือเกิน คนที่มีอำนาจหน้าที่ทางสังคมหัวแข็ง ดื้อด้านต่อความจริงและความดีก็เยอะเหลือเกิน.... เราจะทำอย่างไร.... เราจะปล่อยไปกระนั้นโดยไม่ตระหนัก ไม่ทำอะไรเลยหรือ หรือเราจะปล่อยให้การคุกคาม
o การทำร้ายทำลายเชิงนโยบายทางสังคมการเมือง การะกระทำที่ดูดีแต่แฝงด้วยฆาตกรรมอำพรางเราจะปล่อยให้เป็นต่อไปกระนั้นหรือ...
o สังคมปัจจุบันยิ่งที่ยิ่งเดียวดายสำหรับผู้ยากไร้ ผู้รอโอกาส คนชายขอบสังคม...
o เราจะไม่เป็นประกาศกหรือ เราจะเข้าสู่จุดปลอดภัยของเรา เก็บตัวเงียบเข้าเซฟโซน ของเราคนเดียว หรือของครอบครัวเรา ของชุมชนวัดเราเท่านั้นได้อย่างไร

• สังคมต้องการ “ประกาศกแท้” พระเจ้าทรงต้องการให้เรากล้ากลืนกินหนังสือม้วนที่บรรจุพระวาจาแห่งความจริงและความรักของพระเจ้า พ่อเชื่อว่าพระองค์ต้องการให้ริมฝีปาก จิตใจ และตัวเราทั้งตัวได้รับการชำระเพื่อเป็นประกาศก เพื่อให้เราเป็นประกาศที่ประกาศ “ความจริง” ต่อสังคม เราต้องกล้ากระทบกระทุ้งมโนธรรมสังคมปัจจุบันที่แสนจะดื้อ ด้าน ทน จุดไม่ระเบิดแล้ว (ด้านสุด) เพื่อเราจะได้ประกาศและต่อสู่กับความเท็จและความคดเคี้ยวในจิตใจของสังคมและโลกทุกรูปแบบ

• พันธกิจนี้ งานนี้อายไม่ได้เพราะความรัก เพราะเป็นพันธกิจแห่งความรักของพระเจ้าที่ประทานให้เราคริสตชนเป็นประกาศกแห่งความรัก
o เปรียบเหมือนแม่ที่รักลูกและให้ลูกกินนมจากทรงอกแห่งความรัก และไม่ดูไม่น่าอายแต่น่ารักเป็นที่สุดต่างหากมิใช่หรือ ใครคิดว่าแม่ให้นมบุตรเป็นเรื่องน่าอายก็คงไร้สติและความคิดที่ดีกันเต็มที่...
o พี่น้องที่รัก พระเจ้ารักโลกเหลือเกิน พระองค์ไม่มีวันปล่อยให้โลก สังคม และเราไหลไปอย่างไร้สำนึกและการเปลี่ยนแปลง... พระเจ้าต้องการเราคริสตชนทุกคนได้เป็นประกาศกเหมือนเอเสเคียลในสังคมยุคสมัยของเรา
o บางทีเราต้อง “หนามยอกเอาหนามบ่ง ด้านมาต้องด้านไปมากกว่า ด้านสู้ ด้านสวนกระแส” หน้าผากหน้าเหมือนเพชรหัวใจเหมือนทองคำแห่งความรักต่อพระเจ้าและรักต่อความจริง...
o เลวมาใช่ไหมอย่างนี้ต้องเจอกับดีไปสุดๆ เพื่อสู้ เสื่อมเสียมาใช่ไหม เราต้องสร้างเสริมไปสุดๆ คดโกงมาใช่ไหม เราต้องตรงไปสุดเช่นกัน...

• สังคมปัจจุบันของเราบ่อยครั้งไม่อายกันแล้วในเรื่องที่ควรอาย แต่กลับอายที่จะกระทำความดี อายประกาศความรักแท้

• ไม่อายกันแล้วที่จะใช้อิทธิพลและโกงกิน และลอยหน้าลอยตาเป็นใหญ่เดินกร่างอย่างไรสำนึกและศีลธรรมจรรยา... ไม่อายแล้วที่จะกระทำเรื่องน่าอายจริงๆ ตอนนี้หงอๆกันไปเยอะเพราะไม่มีโอกาสทางการเมืองที่จะ “เล่น” การเมือง ก็ดีเหมือนกันหงอยกันไปบ้างเพราะแสวงอำนาจกันมากจนย่ำแย่...

• ดังนั้น ทางสู้ทางเดียวสำหรับเราคริสตชนคนจริงๆ ประกาศกจริงๆ คนมีศาสนาและความเชื่อมีศรัทธาจริงๆ คือ ไม่อายอีกต่อไปที่จะกระทำความดี มุ่งมั่น (ด้าน) ที่จะกระทำสิ่งที่ถูก พ่ออาจใช้คำแปลก แต่อย่างที่บอก “ความรักแท้ ความจริงแท้ ไม่กลัว ไม่อาย แต่งดงามและมีศักดิ์ศรีต่างหากครับ”

• อ่านประกาศกเอเสเคียลวันนี้ โดยเฉพาะส่วนเติมจากมิสซาที่พ่อคัดมาเพิ่ม (2: 5-9) พ่อไม่อยากให้ผ่านไปจริงๆ ครับ อ่านนะครับ และช่วยกันเป็น “ประกาศกแท้” เป็น “ลูกแท้จริงพระเจ้าองค์ความรักและความจริง” ให้มากขึ้นนะครับ

• พี่น้องครับ อย่าอายที่จะกระทำความดี อย่าเขินที่จะต้องด้านสู้เพื่อความจริงและความดี ในการยืนยันความจริงและความรัก ความรักไม่อายหรอกครับ ไม่มีแม่คนไหนอายที่จะแสดงความรักต่อลูกๆหรอกครับ

• อ่านพระคัมภีร์เอเสเคียลแล้วเราจะเห็นว่าพระเจ้าก็ไม่ยอมจริงๆ ที่จะให้ประชากรของพระองค์ประชากรที่แสนจะด้านดื้อดึงดันเด้งไปเด้งมามั่วมัวเมาหลงเหลิงเจิ้งเจิ่นไป พระองค์ส่งประกาศกไปหา และสั่งประกาศกให้ด้านสู้และให้ทนทานด้านยิ่งกว่าในการยืนยันความรักและความจริงของพระองค์.....

• ขอพระเจ้าอวยพรครับ....รักแท้ย่อมอดทนเสมอครับและกระทำคุณให้นะครับ ความรักแท้งดงามและมีศักดิ์ศรีไม่มีอะไรต้องน่าอาย ความรักแท้ไม่มีวันสร้างความเสียหายแน่นอนครับ...

 

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก