“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันพฤหัสบดีที่ 12 กุมภาพันธ์ 2015
สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลธรรมดา
มก 7:24-30…

24พระองค์เสด็จออกจากที่นั่น เข้าไปในเขตเมืองไทระและเสด็จเข้าในบ้านหลังหนึ่ง ไม่ทรงต้องการให้ผู้ใดรู้ แต่ทรงซ่อนพระองค์ไม่ได้ 25ทันใดนั้น หญิงคนหนึ่งมีบุตรหญิงถูกปีศาจสิงได้ยินพูดถึงพระองค์ ก็มากราบพระบาท 26นางไม่ใช่ชาวยิวเป็นชาวซีโรฟีนีเซียโดยกำเนิด นางทูลอ้อนวอนพระองค์ให้ทรงขับไล่ปีศาจออกจากบุตรหญิง 27พระองค์ตรัสกับนางว่า “ให้ลูกๆ กินอิ่มเสียก่อน เพราะไม่สมควรที่จะเอาอาหารของลูกมาโยนให้ลูกสุนัขกิน” 28หญิงนั้นทูลตอบว่า “ถูกแล้ว พระเจ้าข้า แต่ลูกสุนัขที่อยู่ใต้โต๊ะก็ยังได้กินเศษอาหารของลูกๆ” 29พระองค์จึงตรัสกับนางว่า “เพราะถ้อยคำนี้ จงไปเถิด ปีศาจออกจากลูกสาวของเธอแล้ว” 30เมื่อกลับมาถึงบ้าน นางก็พบลูกนอนอยู่บนเตียง ปีศาจออกไปแล้ว

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง

• สมัยพ่อเป็นเด็ก พ่อได้ฟังเรื่องหญิงเชื้อสายซีโรฟีนีเซียคนนี้มาขอร้องพระเยซูให้รักษาลูก ของนางจากอาการปีศาจสิง และพระเยซูเจ้าตอบประโยคที่ฟังคลาสสิกในวันนี้ “ให้ลูกๆ กินอิ่มเสียก่อน เพราะไม่สมควรที่จะเอาอาหารของลูกมาโยนให้ลูกสุนัขกิน” พ่อฟังดูแล้วพ่อแปลกใจ พระองค์เสด็จเข้าไปในเขตเมืองของคนต่างชาติด้วย.. แล้วหญิงต่างชาติคนนี้ก็เข้ามากราบพระบาททูลขอด้วยความเชื่อ ตอนเด็กๆพ่อฟังพระวาจาตอนนี้ พ่อว่าพระเยซูเจ้า “แรงอ่ะ” พระองค์พูดแรงมาก พระองค์มองว่าหญิงชาวซีโรฟีนีเซียคนนี้เป็นเหมือนลูกสุนัขเลยหรือ เอางั่นเลยหรือครับ พ่อเคยฟังแล้วก็รู้สึกมากๆนะครับ พระองค์ดูถูกนางหรอว่านางเป็นเหมือนลูกสุนัขที่มาขาอาหารเศษจากโต๊ะของลูก


• พระเยซูเจ้ามองบรรดาชาวยิวเป็นดังลูกที่ต้องได้กินอิ่มก่อน และถ้ามีเหลือก็โยนให้คนต่างชาติ ต่างเชื่อสายจากชาวยิวหรือ... แรงจัง พระองค์ทำไมตรัสไม่ค่อยน่ารักเอาเสียเลย...พ่อเคยคิดแบบนี้จริงๆ ครับ

• แต่เมื่อพ่อได้มีโอกาสศึกษาพระคัมภีร์ แบบวรรณกรรมของพระคัมภีร์มากขึ้น เข้าใจพระคัมภีร์มากขึ้น พ่อพบกว่า ไม่เลย พระองค์ไม่ได้ลังเกียจคนต่างชาติเลย แต่พระองค์เสด็จมาเพื่อทุกคนที่เชื่อในพระองค์ต่างหาก พระองค์ยินดีและทรงเป็นทุกอย่างสำหรับทุกคน ขอเพียงประการเดียวขอให้คนเหล่านั้นเชื่อในพระองค์

• เรื่องราวตอนนี้ต้องตีความดีๆครับ

o เราอ่านพระวรสารนักบุญมาระโกมาหลายวันต่อกัน เราพบว่า พวกชาวยิว พวกฟาริสีจำนวนมาก “เป็นชาวยิวแท้ๆ” ได้ฟังพระเยซูเจ้ามาตลอด แต่ไม่เคยเชื่อ และหาเรื่องจับผิดพระองค์ ใจหยาบกระด้างและไม่ยอมรับพระองค์ ไม่น่ารัก ไม่ฟัง ไม่เชื่อ เอาจริงๆ และพระองค์เพิ่งตำหนิว่าพวกเขา “หน้าซื่อใจคด” สุด... เรียกว่า เป็นลูกที่น่าเบื่อไม่รู้คุณค่าของอาหารหรือขนมปังที่พระเจ้าทรงเตรียมให้ พร้อมสรรพ กลับไม่รู้บุญคุณ ไม่ตอบรับด้วยความเชื่อและรู้คุณ

o หญิงเชื้อสายซีโรฟีนีเซียคนนี้...นางในสายตาชาวยิวถูกมองว่าเป็นคนต่างชาติ เป็นดังสุนัขด้วยซ้ำเพราะห่างไกลจากพระเจ้า เป็นเลือดผสมของชาติที่เป็นศัตรูกับชาวยิว แต่นางกลับมาหาพระเยซูเจ้า เข้ามากราบ ขอความช่วยเหลือ เพราะนาง “เชื่อในพระองค์”

o พระดำรัสของพระเยซูเจ้า “ให้ลูกๆ กินอิ่มเสียก่อน เพราะไม่สมควรที่จะเอาอาหารของลูกมาโยนให้ลูกสุนัขกิน” ภาษาตรงนี้มีลักษณะที่เป็นภาษาพูดเกินความจริง Hyperbole เน้นย้ำว่าคนต่างชาติที่ไม่ใช่ยิวนั้นที่ชาวยิวและฟาริสีถือว่าเป็นดังสุนัข เป็นภาษาที่มีลักษณะสองประการที่พ่อจับประเด็นค้นพบ

1. ภาษาพูดเกินความจริง Hyperbole เพื่อให้น้ำหนักมากๆกับความจริง ที่น่างแสนถ่อมตนยอมรับความต่ำต้อย แต่นางเชื่อในพระเยซูเจ้าสุดจิตใจ

2. ภาษานี้เป็นการทดสอบความเชื่อของนาง และเป็นการตบหน้าสอนชาวฟาริสีเป็นนับว่าเป็นลูกๆของพระเจ้า ที่ควรอิ่มในความเชื่อเมื่อได้ฟังพระเยซู แต่กลับสงสัย ขอเครื่องหมาย และท้าทายพระเยซูตลอดเวลา (เราอ่านเรืองนี้มาก่อนหน้านี้ต่อเนื่อง)

o สรุปได้สวยงามที่สุด “ความเชื่อในพระเยซูของหญิงชาวซีโรฟีนีเซีย” กลายเป็นการตบหน้าเตือนสติบรรดาชาวยิวและฟาริสีที่ควรจะเชื่อแต่กลับไม่ได้ เชื่อเอาเสียเลย มีแต่สงสัย ขอเครื่องหมาย และท้าทายพระเยซูอยู่เรื่อย

o คำตอบของพระเยซูต่อความถ่อมตน และเชื่อสุดในพระองค์ทั้งๆที่นางเป็นคนต่างชาติ... “หญิงนั้นทูลตอบว่า “ถูกแล้ว พระเจ้าข้า แต่ลูกสุนัขที่อยู่ใต้โต๊ะก็ยังได้กินเศษอาหารของลูกๆ” พระองค์จึงตรัสกับนางว่า “เพราะถ้อยคำนี้ จงไปเถิด ปีศาจออกจากลูกสาวของเธอแล้ว””

o เพราะเห็นแก่ถ้อยคำนี้ “ถูกแล้ว พระเจ้าข้า แต่ลูกสุนัขที่อยู่ใต้โต๊ะก็ยังได้กินเศษอาหารของลูกๆ” คือถ้อยคำที่นางยอมรับว่านางเป็นคนต่างชาติ และชาวยิวเองก็มองพวกเขาเป็นดังสุนัขไม่ใช่ลูก แต่นาง “เชื่อในพระเยซูเจ้า (มากกว่าชาวยิวและฟาริสี)” พระองค์จึงทรงรักษาลูกของนางขับไล่ปีศาจ โดยไม่ต้องทำอะไรเลย เพียงเพราะถ้อยคำของนาง ความเชื่อของนางก็เกินพอ...

o พี่น้องที่รัก พ่อเข้าใจแล้ว พระองค์ไม่ได้ดูถูกนางเลย แต่พระวรสารใช้ภาษาเกินความจริงหน่อย แรงหน่อย อันที่จริงไม่ใช่เพื่อตำหนินางหรือดูถูกนางแต่อย่างใด ตรงกันข้าม พระวรสารเล่าเรื่องนี้ เป็นประกาศความเชื่ออันลึกซึ้ง พร้อมกับความถ่อมตนของนางจริงๆ ที่จะสอนบรรดาชาวยิว และแน่นอน สอนพวกเราที่ได้ชื่อว่าเป็นลูกของพระเจ้าโดยทางศีลล้างบาป พ่อคิดว่า
1. ไม่ใช่ศีลล้างบาปที่ทำให้เราถือใบศีลล้างบาปและประกาศว่าสวรรค์เป็นของเรา เพราะเราเป็นคริสตชนแล้วเท่านั้น แต่พ่อเชื่อว่าต้องเป็นเพราะว่าเราได้เชื่อในพระองค์สุดจิตใจ เชื่อในพระวาจาของพระองค์และดำเนินชีวิตตามคำสอนของพระองค์มากกว่า

2. ไม่ใช่เป็นคริสตชนแล้วเราจะเหนือคนอื่นด้วยความเชื่อว่าเรามีความรอด เรามีความจริง แต่พ่อคิดว่า เราต้องถ่อมตน ต้องร้องขอความช่วยเหลือจากพระเจ้าเสมอ และเราต้องมีศรัทธาในพระองค์มากขึ้นทุกวัน และแบ่งปันความเชื่อ ความรักนี้ไปยังเพื่อนพี่น้องของเรา โดยเฉพาะพี่น้องต่างศาสนาด้วยการเป็นตัวอย่างดีไม่ใช่ความเหนือกว่าแบบน่า สมเพช
3. พี่น้องที่รัก เราต้องไม่เป็นลูกพระเจ้าแบบฟาริสีนะครับ คือ หวังแต่ว่าพระเจ้าเป็นของเรา เราเป็นของพระเจ้า แต่ชีวิตของเราไม่ได้ใกล้ชิดศรัทธาในพระองค์เลย
4. พ่อสรุปแบบเบาๆ หยิกๆหยอกๆนิดจากพระวรสารเรื่องนี้ พ่อคิดว่าพ่อขอเป็นลูกสุนัขที่แสนรักนายและกินเศษอาหารที่นายให้อย่างรู้คุณ น่าจะดีกว่าเป็นลูกนายที่ไม่เคยรู้จักอิ่มและไม่เคยรู้คุณแต่กลับทรยศบิดาตน อยู่ร่ำไปจนนำไปสู่การประหารชีวิตพระบุตรของพระบิดาบนไม้กางเขน

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก