“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

คำพยากรณ์ต่อไปเรื่องการโจมตี

6 1ชนเผ่าเบนยามินเอ๋ย จงรีบหนีออกไป

จากกรุงเยรูซาเล็ม

จงเป่าแตรเขาสัตว์ที่เมืองเทโคอา

และยกธงขึ้นเหนือเมืองเบธฮักเคเรมa

เพราะเหตุร้ายโผล่ขึ้นมาจากทิศเหนือ

เป็นหายนะยิ่งใหญ่

2แม้ธิดาแห่งศิโยนจะงดงามและนุ่มนวล

เราก็จะทำลายเธอ

3บรรดาผู้เลี้ยงแกะพร้อมกับฝูงแกะจะมาต่อสู้กับเธอ

เขาจะตั้งกระโจมไว้โดยรอบ

ต่างจะหากินส่วนของตน

4“จงเตรียมทำสงครามศักดิ์สิทธิ์กับเธอb

จงลุกขึ้น เข้าโจมตีในเวลาเที่ยงวัน”

“วิบัติจงเกิดแก่พวกเรา วันกำลังจะหมดลง

เงาของเวลาเย็นกำลังทอดยาวออกไป”

5“จงลุกขึ้น ให้เราเข้าโจมตีในเวลากลางคืน

และทำลายวังทั้งหลายของเธอเสีย”

6เพราะพระยาห์เวห์จอมจักรวาลตรัสดังนี้ว่า

“จงโค่นต้นไม้ของเธอลง

จงก่อเชิงเทินไว้ต่อหน้ากรุงเยรูซาเล็ม

นี่คือเมืองที่จะต้องถูกลงโทษc

ภายในเธอไม่มีอะไรนอกจากการเบียดเบียนข่มเหง

7บ่อรักษาน้ำไว้ให้เย็นอยู่ฉันใด

เธอก็รักษาความชั่วให้สดอยู่เสมอฉันนั้น

ในเธอมีแต่การกล่าวถึงความรุนแรงและการทำลาย

เราเห็นมีแต่ความเจ็บปวดและบาดแผลอยู่ตลอดเวลา

8กรุงเยรูซาเล็มเอ๋ย จงยอมรับคำตักเตือนเถิด

เพื่อเราจะไม่พรากไปจากเจ้า

ทำให้เจ้าเป็นที่ถูกทิ้งร้าง

เป็นแผ่นดินที่ไม่มีผู้คนอาศัย”

9พระยาห์เวห์จอมจักรวาลตรัสดังนี้ว่า

“เขาทั้งหลายจะเก็บชนอิสราเอลที่รอดชีวิตd

ให้หมดสิ้นเหมือนเก็บผลองุ่นอีกจนหมด

เหมือนคนเก็บผลองุ่นกลับมา

เก็บผลที่เหลือตามกิ่งอีกครั้งหนึ่ง”

10ข้าพเจ้าจะพูดและให้คำตักเตือนeแก่ผู้ใด

เพื่อเขาจะได้ฟัง

ดูซิ หูของเขาทั้งหลายยังอุดตันอยู่

เขาฟังไม่ได้ยิน

ดูซิ พระวาจาพระยาห์เวห์เป็นสิ่งที่เขาดูหมิ่น

เขาไม่อยากฟัง

11ดังนั้น ข้าพเจ้าจึงโกรธเขาเหมือนกับที่พระยาห์เวห์ทรงพระพิโรธ

ข้าพเจ้าควบคุมความโกรธนี้ไว้ไม่ไหวแล้ว

“จงเทความโกรธนี้ลงเหนือบรรดาเด็กตามถนน

และเหนือชายหนุ่มที่ชุมนุมกัน

ทั้งชายและหญิงก็จะต้องถูกจับเป็นเชลย

ทั้งคนชราและคนแก่หง่อม

12บ้านของเขาจะต้องตกเป็นของคนอื่น                      

รวมทั้งไร่นาและภรรยาของเขาด้วย

เพราะเราจะเหยียดมือออกต่อสู้กับผู้อาศัยในแผ่นดินนี้”

พระยาห์เวห์ตรัส

13“เพราะทุกคนโลภอยากได้กำไร

ตั้งแต่คนต่ำต้อยที่สุดจนถึงคนใหญ่โตที่สุด

ทั้งประกาศกและสมณะ

ทุกคนล้วนฉ้อโกง

14เขาทั้งหลายรักษาบาดแผลของประชากรของเราเพียงเล็กน้อย

พูดว่า ‘สันติภาพ สันติภาพ’

แต่โดยแท้จริงแล้วไม่มีสันติภาพเลยf

15เขาควรจะละอายเพราะกิจการน่าสะอิดสะเอียนของตน

แต่เขาไม่ละอายเลย

เขาไม่รู้จักแม้แต่จะอาย

เพราะเหตุนี้ เขาจะล้มลงเช่นเดียวกับผู้อื่น

เมื่อเราจะลงโทษเขา เขาจะล้มคว่ำ”

พระยาห์เวห์ตรัส

16พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ว่า

“ท่านทั้งหลายจงไปยืนที่ถนนและมองให้ดี

และสืบถามทางเดินในอดีตg

ทางดีอยู่ที่ไหน ก็จงเดินตามทางนั้น

ดังนี้ จิตใจของท่านจะได้พักผ่อน

แต่เขาทั้งหลายตอบว่า ‘เราจะไม่เดินตามทางนั้น’

17เราวางยามไว้คอยดูแลท่าน

สั่งว่า ‘จงฟังเสียงแตรเขาสัตว์’

แต่เขาทั้งหลายตอบว่า ‘เราจะไม่สนใจฟัง’

18ดังนั้น นานาชาติเอ๋ย จงฟังเถิด

ที่ประชุมเอ๋ย จงรู้เถิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นแก่เขา

19แผ่นดินเอ๋ย จงฟังเถิด

ดูซิ เรากำลังนำเหตุร้ายมาให้ประชากรนี้

เป็นผลของแผนการของเขา

เพราะเขาไม่สนใจฟังถ้อยคำของเรา

และปฏิเสธไม่ยอมรับธรรมบัญญัติของเรา

20ทำไมท่านทั้งหลายจึงนำกำยานจากเมืองเชบาh

และนำอ้อยหอมจากแดนไกลมาถวายเราเล่า

เครื่องเผาบูชาของท่านไม่เป็นที่พอใจของเรา

เราไม่ชอบสักการบูชาของท่าน”

21พระยาห์เวห์จึงตรัสดังนี้ว่า

“ดูซิ เราจะวางเครื่องกีดขวางไว้ให้ประชากรนี้สะดุดล้ม

ทั้งบิดาและบุตรจะสะดุดล้มที่เครื่องกีดขวางนี้

ทั้งเพื่อนบ้านและมิตรสหายจะพินาศ”

22พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ว่า

“ดูซิ ประชาชนชาติหนึ่งกำลังมาจากแผ่นดินทางเหนือ

ชนชาติใหญ่ชาติหนึ่งกำลังยกพลมาจากปลายแผ่นดิน

23เขาถือคันธนูและหอก

เป็นคนโหดร้ายไม่มีเมตตา

มีเสียงเหมือนเสียงทะเลกำเริบ

เขาขี่ม้าเป็นขบวนเหมือนคนคนเดียว

พร้อมที่จะออกศึกมาโจมตีเธอ

ธิดาแห่งศิโยนเอ๋ย”

24พวกเราได้ยินข่าวเรื่องนี้

มือของเราก็อ่อนเปลี้ย

ความทุกข์จับพวกเราไว้

เป็นความเจ็บเหมือนสตรีกำลังคลอดบุตร

25อย่าออกไปในทุ่งนา

อย่าเดินบนถนน

เพราะศัตรูมีดาบ

ความหวาดกลัวอยู่โดยรอบ

26ธิดาประชากรของเราเอ๋ย จงสวมผ้ากระสอบ

และกลิ้งตัวอยู่ในกองขี้เถ้า

จงไว้ทุกข์เหมือนไว้ทุกข์ให้บุตรชายคนเดียว

จงคร่ำครวญอย่างขมขื่นเถิด

เพราะผู้ทำลายจะมาจู่โจมพวกเราโดยฉับพลัน

27“เราแต่งตั้งท่านให้เป็นผู้ทดสอบประชากรของเราi

เพื่อท่านจะได้รู้และทดสอบความประพฤติของเขา

28เขาทุกคนเป็นกบฏดื้อรั้น

เที่ยวใส่ความทั่วไป

หน้าด้านเหมือนทองสัมฤทธิ์และเหล็กj

ทุกคนประพฤติเลวทราม

29สูบลมเป่าอย่างแรง

ตะกั่วก็ถูกไฟเผาแยกออกไปk

แต่ขี้แร่จะถูกถลุงมากสักเพียงใด

ก็ไม่ถูกกำจัดออกไปเลย

30คนเหล่านี้ได้ชื่อว่า ‘ขี้เงิน’

เพราะพระยาห์เวห์ทรงทอดทิ้งเขาแล้ว”  

 

6 a ชนเผ่าเบนยามินที่อาศัยอยู่ทางเหนือของแคว้นยูดาห์อาจถูกคิดเหมือนกับว่าได้เข้ามาอาศัยหลบภัยอยู่ในกรุงเยรูซาเล็ม *** “เทโคอา” เป็นบ้านเกิดของประกาศกอาโมส อยู่ห่างจากเมืองเบธเลเฮมไปทางใต้ราว 8 กิโลเมตร *** เราไม่รู้ว่าเมือง “เบธฮักเคเรม” (เทียบ นหม 3:14) อยู่ที่ไหน อาจเป็นเมืองเดียวกันกับรามาห์ราเฮล ซึ่งอยู่ทางใต้ของกรุงเยรูซาเล็ม ห่างออกไปราว 5 กิโลเมตร

b “ทำสงครามศักดิ์สิทธิ์” แปลตามตัวอักษรว่า “ทำให้สงครามศักดิ์สิทธิ์” คนในสมัยโบราณมักคิดว่าการทำสงครามเป็นหน้าที่ศักดิ์สิทธิ์ (ดู 22:7 ด้วย) แต่แม้จะใช้คำนี้ สงครามนี้มีจุดหมายตรงข้ามกันกับ “สงครามศักดิ์สิทธิ์” ที่พระยาห์เวห์ทรงสู้รบเพื่อประชากรของพระองค์ (ดู ฉธบ 1:30; 20:4; อสย 31:4) หรืออย่างน้อยทรงต่อสู้กับศัตรูของประชากร (อสย 13:3-4) สำหรับประกาศกเยเรมีย์ สงครามไม่ใช่กิจกรรมทางศาสนาอีกต่อไป เพราะพระยาห์เวห์ทรงทอดทิ้งกำลังทัพของอิสราเอลที่พระองค์ทรงตัดสินพระทัยจะลงโทษแล้ว (เทียบ 21:5; 34:22)

c “ถูกลงโทษ” แปลตามตัวอักษรว่า “ถูกเยี่ยม”(จากพระเจ้า) การที่พระเจ้าเสด็จมาเยี่ยมอาจเป็นการเสด็จมาช่วยให้รอดพ้น (15:15; อพย 3:16; ลก 1:68) หรืออาจเป็นการเสด็จมาเพื่อลงโทษ (ยรม 6:15; 8:12; 9:24 เทียบ อสย 10:3)

d “อิสราเอลที่รอดชีวิต” ที่ตรงนี้ เช่นเดียวกับใน 8:3 วลีนี้มีความหมายธรรมดาทั่วไป ยังไม่เป็นสำนวนที่มีความหมายเฉพาะเหมือนใน 23:3; 31:7 (ที่ภาษาอังกฤษจะใช้คำว่า “remnant”) ซึ่งหมายถึงชาวอิสราเอลผู้ซื่อสัตย์ที่พระเจ้าทรงช่วยให้รอดชีวิตเพื่อจะได้รับพระพรในอนาคต (ดู อสย 4:3 เชิงอรรถ c)

e ประกาศกเยเรมีย์ได้รับคำสั่งให้รวบรวมบางคนที่ยินดีจะเชื่อฟังตน จึงพูดในข้อ 10-11ก ว่า “ไม่มีผู้ใดสนใจฟัง” พระดำรัสตอบของพระเจ้าจะตามมาหลังจากนั้น

f “สันติภาพ...” เป็นการกล่าวพาดพิงถึงคำสัญญามุสาของประกาศกเทียม (4:10; 14:13; 23:16-17; 28:8-9) ที่ประกาศกเยเรมีย์จะทำให้เป็นศัตรูตัวฉกรรจ์กับตนโดยกล่าวทำนายถึงหายนะที่จะเกิดขึ้น บรรดาประกาศกเทียมกล่าวทำนายถึง “สันติภาพ” (shalom) ซึ่งมีความหมายไม่เพียงแต่การไม่มีอันตรายจากภายนอก (ซึ่งประชาชนในสมัยของเยเรมีย์มีความกังวลใจมาก) แต่ยังหมายถึงสภาพความสุขในอุดมการณ์ที่แต่ละคนและชาติจะรุ่งเรืองโดยมีความสัมพันธ์อันดีกับพระเจ้าและมีความสมานฉันท์กันในสังคม นั่นคือหมายถึง “สันติภาพ” ในยุคของพระเมสสิยาห์ (ดู อสย 11:6 เชิงอรรถ e)

g “ทางเดินในอดีต” บางครั้งหมายถึงการดำเนินชีวิตในบาปของบรรพบุรุษ (โยบ 22:15) บางครั้ง เช่นที่นี่ หมายถึงการดำเนินชีวิตของผู้ที่ซื่อสัตย์ต่อพระเจ้า (เทียบ 18:15; สดด 139:14)

h “เชบา” หรือ “ซาบา” (1 พกษ 10:1 เชิงอรรถ a)

i “ประชากรของเรา” ต้นฉบับภาษาฮีบรูเสริมว่า “เหมือนเมืองป้อม” ซึ่งเป็นถ้อยคำเดียวกันกับใน 1:18

j “หน้าด้านเหมือนทองสัมฤทธิ์และเหล็ก” แปลตามตัวอักษรว่า “เป็นทองสัมฤทธิ์และเหล็ก”

k เป็นอุปมาเปรียบเทียบกับการถลุงโลหะ ที่ตรงนี้พูดถึงการถลุงแร่เงินโดยเฉพาะ ซึ่งเงินและตะกั่วถูกแยกออกจากกัน แต่เมื่ออิสราเอลถูกหลอมในเบ้า ก็ไม่มีโลหะบริสุทธิ์ใดถูกแยกออกมาเลย

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก