“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

คำพยากรณ์เกี่ยวกับพระวิหารa

66 1พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ว่า

                    “สวรรค์เป็นบัลลังก์ของเรา

แผ่นดินเป็นแท่นวางเท้าของเรา

บ้านที่ท่านทั้งหลายคิดจะสร้างให้เรานั้นอยู่ที่ไหน

สถานที่ซึ่งท่านจะให้เราพำนักอยู่ที่ไหน

            2ทุกสิ่งเหล่านี้เป็นผลงานจากมือของเรา

สิ่งเหล่านี้เป็นของเราb พระยาห์เวห์ตรัส

แต่เราจะมองผู้ที่ถ่อมตนและมีใจสำนึกผิด

และฟังคำพูดของเราด้วยความยำเกรง”

                3“บางคนฆ่าโคถวายบูชาแล้วฆ่าคนc

บางคนฆ่าลูกแกะถวายบูชาแล้วหักคอสุนัข

บางคนถวายธัญบูชาแล้วถวายเลือดหมู

บางคนเผากำยานถวายบูชาแล้วกราบไหว้รูปเคารพ

คนเหล่านี้ต่างเลือกทางของตน

                    และมีความสุขใจในการกระทำน่าสะอิดสะเอียนของตน

                4เช่นเดียวกัน เราจะเลือกภัยพิบัติdมาให้เขา

จะนำสิ่งที่เขากลัวมาให้

เพราะเมื่อเราเรียก ก็ไม่มีผู้ใดตอบ

เมื่อเราพูด ก็ไม่มีผู้ใดฟัง

เขาทำสิ่งที่เราเห็นว่าชั่วร้าย

เลือกสิ่งที่เราไม่พอใจ”

 พระเจ้าจะทรงพิพากษาลงโทษกรุงเยรูซาเล็มe

            5ท่านทั้งหลายที่เคารพยำเกรงพระวาจาของพระยาห์เวห์

จงฟังพระวาจาเถิด

บรรดาพี่น้องที่เกลียดชังท่าน

และผลักไสท่านเพราะนามของเรา พูดว่า

“ขอพระยาห์เวห์ทรงแสดงพระสิริรุ่งโรจน์f

แล้วเราจะได้เห็นความยินดีของท่าน”

แต่เขาเหล่านั้นจะต้องอับอาย

                6ฟังซิ เสียงอึกทึกจากในเมือง

เสียงจากพระวิหาร

เป็นพระสุรเสียงของพระยาห์เวห์

ที่ตอบโต้ศัตรูของพระองค์

                7ก่อนที่นางจะเจ็บครรภ์ นางก็คลอดบุตรแล้ว

ก่อนที่ความเจ็บปวดจะมาถึง นางก็ให้กำเนิดบุตรชายคนหนึ่งแล้วg

                8ใครเคยได้ยินเรื่องเช่นนี้บ้าง

ใครเคยได้เห็นสิ่งเหล่านี้บ้าง

แผ่นดินหนึ่งจะเกิดขึ้นภายในวันเดียวหรือ

ชนชาติหนึ่งจะคลอดมาในครู่เดียวหรือ

แต่เมื่อศิโยนเจ็บครรภ์

เธอก็คลอดบุตรทั้งหลายทันที

                9“เราเปิดครรภ์แล้ว จะไม่ให้คลอดหรือ” พระยาห์เวห์ตรัส

“เราทำให้คลอด แล้วจะปิดครรภ์หรือ”

พระเจ้าของท่านตรัส

                10ท่านทั้งหลายจงยินดีกับกรุงเยรูซาเล็ม

                    ท่านทั้งหลายที่รักกรุงเยรูซาเล็ม จงชื่นชมกับกรุงนี้เถิด

          ท่านทั้งหลายที่เคยไว้ทุกข์ให้กรุงเยรูซาเล็ม

                    จงร่วมยินดีกับกรุงนี้ด้วยความชื่นบานเถิด

          11ท่านจะได้รับการปลอบโยนอย่างเต็มเปี่ยมจากกรุงเยรูซาเล็ม

                    ทารกมีความยินดีเมื่อดูดนมจากทรวงอกของมารดาฉันใด

          ท่านทั้งหลายก็จะมีความยินดีจากความอุดมสมบูรณ์ของกรุงนี้ฉันนั้น

          12เพราะพระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ว่า

                    “ดูซิ เราจะบันดาลให้สันติสุขหลั่งไหลมาสู่กรุงนี้เหมือนแม่น้ำ

          จะนำความมั่งคั่งของนานาชาติมายังกรุงนี้เหมือนสายน้ำที่กำลังล้นฝั่ง

          กรุงนี้จะอุ้มท่านทั้งหลายไว้ ให้ท่านดูดนม และหยอกล้อท่านบนตัก

          13มารดาปลอบโยนบุตรฉันใด

                    เราก็จะปลอบโยนท่านทั้งหลายฉันนั้น

          ท่านจะได้รับการปลอบโยนในกรุงเยรูซาเล็ม

          14ท่านทั้งหลายจะเห็น และใจของท่านจะโลดเต้นยินดี

                    กระดูกของท่านจะสดชื่นขึ้นเหมือนหญ้าอ่อน

พระยาห์เวห์จะทรงแสดงพระอานุภาพแก่ผู้รับใช้พระองค์

แต่จะทรงพระพิโรธต่อบรรดาศัตรู     

                15เพราะดูซิ พระยาห์เวห์จะเสด็จมาด้วยไฟ

รถศึกของพระองค์เป็นเหมือนลมพายุหมุน

เพื่อปล่อยความกริ้วจัดของพระองค์

และนำไฟมาเผาผลาญตามที่ทรงขู่ไว้

                16เพราะพระยาห์เวห์จะทรงพิพากษามนุษย์ทุกคนด้วยไฟ

                    และด้วยพระแสงดาบ

          ผู้ที่พระยาห์เวห์จะทรงสังหารจะมีจำนวนมาก

                17ผู้ทำตนเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์

และชำระตนเพื่อเข้าไปในสวนh

ติดตามผู้ที่อยู่ตรงกลาง

กินเนื้อหมู กินสิ่งน่าสะอิดสะเอียน และกินหนู

จะพินาศพร้อมกัน”i

พระยาห์เวห์ตรัส

 

คำปราศรัยเกี่ยวกับยุคสุดท้ายj

            18พระยาห์เวห์ตรัสว่า “เรารู้การกระทำและความคิดของเขาทั้งหลาย เราจะมารวบรวมชนทุกชาติทุกภาษา เขาเหล่านั้นจะมาและเห็นสิริรุ่งโรจน์ของเรา 19เราจะให้เครื่องหมายแก่เขา จะส่งผู้รอดชีวิตkในหมู่เขาไปยังชนชาติต่างๆ คือ ทารชิช พูต ลูด เมเชค ทูบัล และยาวานl ไปยังเกาะและแผ่นดินชายทะเลที่อยู่ห่างไกลซึ่งยังไม่เคยได้ยินผู้ใดกล่าวถึงเรา และไม่เคยเห็นสิริรุ่งโรจน์ของเรา เขาจะประกาศสิริรุ่งโรจน์ของเราแก่นานาชาติ 20เขาจะนำพี่น้องทุกคนของท่านทั้งหลายจากชนทุกชาติมาเป็นเครื่องบูชาถวายแด่พระยาห์เวห์ เขาจะขี่ม้า ขึ้นรถศึก นั่งเสลี่ยง ขี่ล่อ ขี่อูฐโหนกเดียว มายังกรุงเยรูซาเล็ม ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของเรา เช่นเดียวกับที่ชาวอิสราเอลนำธัญบูชาใส่ภาชนะไร้มลทินมายังพระวิหารของพระยาห์เวห์ พระยาห์เวห์ตรัส 21และเราจะนำเขาบางคนมาเป็นสมณะ และเป็นชนเลวี”m พระยาห์เวห์ตรัส              

22“ท้องฟ้าใหม่และแผ่นดินใหม่ที่เราจะสร้างดำรงอยู่ต่อหน้าเราตลอดไปฉันใด เชื้อสายและชื่อของท่านทั้งหลายก็จะดำรงอยู่ฉันนั้น” พระยาห์เวห์ตรัส

23“ทุกวันขึ้นหนึ่งค่ำ

และทุกวันสับบาโต

มนุษย์ทุกคนจะมากราบนมัสการต่อหน้าเรา”

พระยาห์เวห์ตรัส

24“เมื่อเขาจะออกไปจากพระวิหาร

เขาจะเห็นศพของคนที่เป็นกบฏต่อเรา

เพราะหนอนของคนเหล่านี้จะไม่ตาย

ไฟของเขาจะไม่ดับ

เขาจะเป็นสิ่งน่าสะอิดสะเอียนแก่มนุษย์ทุกคน”n

 

66 a คำประกาศพระวาจาตอนนี้ไม่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับบริบท เป็นการกล่าวประณามพระวิหารซึ่งเพิ่งเริ่มสร้างขึ้นใหม่หลังจากที่ชาวยิวกลับมาจากการถูกเนรเทศไปที่กรุงบาบิโลน ดังที่ประกาศกนาธันเคยกล่าวประณามไว้ในรัชสมัยของกษัตริย์ดาวิด (2 ซมอ 7:5-7) และที่สเทเฟนก็จะได้กล่าวประณามใน กจ 7:48 ฯลฯ โดยอ้างข้อความตอนนี้ด้วย ข้อความตอนนี้ไม่ยอมรับการปฏิบัติศาสนกิจในรูปแบบที่ให้ความสำคัญแก่เรื่องวัตถุมากเกินไป แต่สนับสนุนการปฏิบัติศาสนกิจที่เน้นความสำคัญเรื่องทางจิตใจของบรรดา “ผู้ยากจน” (ข้อ 2ข; ดู ศฟย 2:3 เชิงอรรถ d)

b “เป็นของเรา” ตามต้นฉบับภาษากรีกและซีเรียค ต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า “ได้เป็นขึ้นมา”

c ข้อความตอนนี้นำศาสนพิธีที่ถูกต้องสี่ประการ (การถวายโค ถวายลูกแกะ ถวายธัญบูชา และถวายกำยาน) มาเทียบกับศาสนพิธีที่ไม่ถูกต้องของชาวคานาอัน คือ การฆ่ามนุษย์เป็นบูชายัญ การฆ่าสุนัข กินเนื้อสุกร และกราบไหว้รูปเคารพ ไม่มีการกล่าวประณามศาสนพิธีทางการอย่างรุนแรงเช่นนี้ที่ใดอื่นอีกแล้วในพันธสัญญาเดิม ความหมายของข้อนี้คือ “ผู้ที่ประกอบศาสนพิธีที่ถูกต้องก็ยังประกอบศาสนพิธีของชาวคานาอันด้วย” ดังนั้น ข้อความนี้จึงเป็นการกล่าวโทษการปฏิบัติศาสนพิธีอย่างปนเปกันในกลุ่มชนเหมือนกับที่กล่าวถึงในข้อ 17 และใน 65:3-5

d “ภัยพิบัติ” ตัวบทไม่ชัดเจน คำที่ใช้ที่นี่เหมือนกับคำที่ใช้ใน 3:4 (ที่นั่นเราแปลว่า “เด็กเกเร”) (ดู 3:4 เชิงอรรถ b) ต้นฉบับภาษากรีกแปลคำนี้ว่า “การเยาะเย้ย” ซึ่งเข้ากับบริบทนี้ได้ดี แต่ผู้แปลสมัยปัจจุบันมักจะแปลว่า “หายนะ” หรือ “ภัยพิบัติ” มากกว่า

e ข้อความตอนนี้คงเป็นข้อความต่อเนื่องมาจากคำวิวรณ์ในบทที่ 65 แต่เพิ่มความคิดใหม่เข้ามา ซึ่งแสดงว่าประชากรของพระเจ้ามีความหวัง

f “แสดงพระสิริรุ่งโรจน์” ตามต้นฉบับภาษากรีก ต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า “ได้รับพระสิริรุ่งโรจน์”

g “การเจ็บครรภ์และคลอดบุตร” เป็นภาพพจน์แสดงถึงการมาถึงโดยฉับพลันอย่างน่าอัศจรรย์ของ “โลกใหม่” (เทียบ 26:17-18) ที่ใช้ภาพพจน์ของการเจ็บครรภ์และคลอดบุตรเช่นเดียวกัน แต่ในความหมายไม่เหมือนกัน

h ข้อ 17 นี้อยู่นอกบริบท และบางทีน่าจะถูกนำไปรวมกับ 65:3-5 เพราะกล่าวพาดพิงถึงศาสนพิธีลึกลับซึ่งมีประธานในพิธีเป็นสมณะชาย (หรือหญิง ถ้าอ่านตาม qere และ 1QIsa) (เทียบ อสค 8:11) ข้อความคล้ายกันเช่นนี้แสดงว่าเราอาจอธิบายความหมายของตัวบทได้โดยไม่ต้องนำเข้าไปเกี่ยวข้องกับรหัสยลัทธิของพวกเฮลเลนิสต์ในสมัยหลัง

i “สิ่งน่าสะอิดสะเอียน” (เทียบ ลนต 7:21; 11:10-42) ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องแก้ตัวบทให้เป็น “งู” (ดู ปฐก 1:20)

j ข้อ 18-24 อาจถูกเสริมเข้ามาเป็นข้อสรุปของบทที่ 40-66 หรือของหนังสืออิสยาห์ทั้ง 66 บท ข้อความทั้งหมดนี้แต่เดิมดูเหมือนจะเป็นคำประพันธ์ แต่ได้ถูกเปลี่ยนแปลงแก้ไขโดยเพิ่มรายชื่อของชนชาติต่างๆ ในข้อ 19 และรายชื่อของพาหนะต่างๆ ในข้อ 20 นานาชาติจะกลับใจและนำชาวยิวที่กระจัดกระจายไปในต่างแดนกลับมาที่กรุงเยรูซาเล็มเป็นของถวายแด่พระเจ้า อย่างไรก็ตาม อิสราเอลคือผู้รับพระสัญญาของพระเจ้า ไม่มีที่ใดอื่นอีกในพันธสัญญาเดิมที่ความคิดเป็นสากลว่ามนุษย์ทุกชาติจะได้รับความรอดพ้น และความคิดที่จำกัดว่าอิสราเอลเท่านั้นเป็นประชากรพิเศษของพระยาห์เวห์ ถูกนำมาเรียงไว้ใกล้เคียงกันเช่นนี้

k “ผู้รอดชีวิต” ของนานาชาติ (เทียบ 45:20-25) คือผู้ที่กลับใจมานับถือพระยาห์เวห์ ซึ่งถูกส่งไปประกาศสอนความเชื่อแก่ดินแดนที่อยู่ไกลโพ้นของโลก น่าสังเกตว่า “ธรรมทูต” รุ่นแรกนี้ แท้จริงแล้วก็คือผู้กลับใจมาจากต่างศาสนาด้วย

l รายชื่อชนชาติเหล่านี้เป็นข้อความที่เสริมเข้ามาในภายหลัง โดยยืมมาจาก อสค 27:10-13 ชนชาติเหล่านี้คือชนชาติใดบ้างน่าจะกล่าวได้ดังนี้ “ทารชิช” คือสเปน “พูต” (ตามต้นฉบับภาษากรีก ต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า “พูล”) คือแคว้นลิเบีย “ลูด” คือแคว้นลีเดีย “เมเช็ค” (ตามต้นฉบับภาษากรีก ต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า “ผู้ยิงธนู”) คือแคว้นฟรีเจีย “ทูบัล” คือแคว้นซีลีเซีย “ยาวาน” คือชาวไอโอเนียน หรือชาวกรีกโดยทั่วไป

m ผู้กลับใจบางคนจะได้รับอนุญาตให้ปฏิบัติศาสนบริการ เป็นข้อสังเกตที่มีใจเปิดกว้างเหมือนในข้อ 19

n ตรงข้ามกับการที่ผู้เลื่อมใสต่อพระยาห์เวห์จะถวายสักการะแด่พระองค์ตลอดไป (ข้อ 22-23) ข้อ 24 ที่ตามมาจะกล่าวถึงการลงโทษไม่รู้จักจบสิ้นที่บรรดาศัตรูของพระองค์จะได้รับ แทนที่จะอ่านตอนจบของหนังสือที่มีคำเตือนน่ากลัวเช่นนี้ ชาวยิวตามศาลาธรรมจึงมีธรรมเนียมที่จะอ่านตอนจบโดยซ้ำพระสัญญาในข้อ 23 อีกครั้งหนึ่ง

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก