“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

57 1ผู้ชอบธรรมตาย

ก็ไม่มีผู้ใดสนใจ

ผู้เลื่อมใสศรัทธาถูกยกไป

ก็ไม่มีใครใส่ใจ

ผู้ชอบธรรมถูกยกไปจากความชั่วร้าย

2เขาจะได้รับสันติภาพa

ผู้ดำเนินบนทางตรงจะพักอยู่บนที่นอนของตน

กล่าวโทษการนับถือรูปเคารพb

          3บัดนี้ ท่านทั้งหลายที่เป็นบุตรของแม่มด

เป็นเชื้อสายของผู้เป็นชู้และหญิงแพศยา

จงเข้ามาใกล้ๆ

4ท่านทั้งหลายเยาะเย้ยผู้ใด

ท่านอ้าปากแลบลิ้นล้อเลียนcผู้ใด

ท่านทั้งหลายเป็นบุตรผู้ล่วงละเมิด

เป็นเชื้อสายที่หลอกลวงมิใช่หรือ

5ท่านร้อนเร่าด้วยราคะในหมู่ต้นโอ๊ก ใต้ต้นไม้เขียวทุกต้น

ท่านฆ่าทารกถวายเป็นบูชาในหุบเขาระหว่างซอกหินผาd

6ส่วนมรดกของท่านอยู่บนก้อนหินเกลี้ยงเกลาของลำห้วย

หินเหล่านี้เป็นส่วนมรดกของท่าน

ท่านได้เทเครื่องดื่มถวายหินเหล่านี้

รวมทั้งถวายธัญบูชาด้วย

เราจะต้องพอใจการกระทำเช่นนี้หรือ

7ท่านตั้งที่นอนไว้บนภูเขาสูงเด่น

ท่านขึ้นไปที่นั่นเพื่อถวายเครื่องบูชาe

8ท่านตั้งรูปเคารพfไว้หลังประตูและหลังเสาประตู

ใช่แล้ว ท่านละทิ้งเรา เปลื้องเสื้อผ้า

ขึ้นไปบนที่นอนกว้างกับชู้รัก

ที่ท่านตกลงจ่ายเงินให้มาหลับนอนกับท่าน

ขณะที่จับตามองดูรูปเคารพ

9ท่านนำน้ำมันมะกอกเทศเดินไปหาพระโมเลคg

นำน้ำหอมมากมายไปถวาย

ท่านส่งทูตไปไกล

ให้ลงไปจนถึงแดนมรณะ

10ท่านเหน็ดเหนื่อยเพราะเดินทางไกล

ไม่เคยพูดว่า “ไร้ประโยชน์”

ท่านพบว่าตนมีกำลังขึ้นใหม่

จึงไม่รู้สึกหมดแรง

11ท่านตกใจและกลัวผู้ใด

จึงทรยศต่อเรา ไม่ระลึกถึงเรา ไม่เอาใจใส่เราเลย

เราเงียบอยู่เป็นเวลานาน

ท่านจึงไม่ยำเกรงเรา

12เราจะประกาศความชอบธรรมและกิจการของท่าน

ซึ่งไม่เป็นประโยชน์แก่ท่านเลย

13เมื่อท่านร้องขอความช่วยเหลือ

ก็ให้รูปเคารพที่ท่านสะสมไว้ช่วยท่านซิ

ลมจะพัดรูปเหล่านี้ไป

เพียงลมเป่าเบาๆ ก็จะหอบออกไป

แต่ผู้เข้ามาพึ่งเราจะได้ครอบครองแผ่นดินเป็นกรรมสิทธิ์

จะได้ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของเราเป็นมรดก

พระเจ้าทรงช่วยผู้อ่อนแอให้รอดพ้นh

          14จะมีเสียงพูดว่า

“จงปรับถนนให้เรียบ จงปรับถนนให้เรียบ จงเตรียมทาง

จงขนย้ายอุปสรรคออกไปจากทางของประชากรของเรา”

15พระองค์ผู้สูงส่งควรเทิดทูน ผู้ทรงดำรงอยู่ตลอดนิรันดร

และทรงพระนามว่า ‘ผู้ศักดิ์สิทธิ์’ ตรัสดังนี้

“เราอยู่ในที่สูงและศักดิ์สิทธิ์

แต่ยังอยู่กับผู้ที่มีจิตสำนึกผิดและต่ำต้อย

เพื่อรื้อฟื้นจิตของผู้ถ่อมตน

และรื้อฟื้นใจของผู้สำนึกผิด

16เราไม่ต้องการกล่าวหาอยู่เสมอ หรือโกรธตลอดไป

มิฉะนั้น จิตและลมปราณที่เราสร้างมา จะล้มเหลวต่อหน้าเรา

17เราโกรธเพราะความผิดที่เขาโลภ

เราเฆี่ยนตีเขา เราซ่อนตัวiและโกรธ

แต่เขายังหันไปเดินทางตามใจชอบของเขา

18เราได้เห็นวิถีทางของเขาแล้ว

เราจะรักษาเขาให้หาย

จะนำเขาและให้ความบรรเทา

ทั้งแก่เขาและแก่ผู้ที่คร่ำครวญถึงเขา

19ใส่คำสรรเสริญไว้ในปากของเขา

พระยาห์เวห์ตรัสว่า “สันติภาพ สันติภาพ

แก่คนอยู่ห่างไกล และแก่คนอยู่ใกล้

เราจะรักษาเขาให้หาย

20แต่คนชั่วร้ายเป็นเหมือนทะเลที่มีคลื่นแรง

ซึ่งจะสงบลงไม่ได้

และน้ำก็กวนโคลนตมขึ้นมา”

21พระเจ้าของข้าพเจ้าตรัสว่า

“ไม่มีสันติสุขแก่คนชั่วร้าย”

 

57 a “เขาจะได้รับสันติภาพ” แปลตามตัวอักษรว่า “เขาจะเข้าไปในสันติภาพ”

b คำประกาศพระวาจาตอนนี้ เหมือนกับข้อความก่อนหน้านี้ อาจเขียนขึ้นตอนปลายสมัยที่ยูดาห์มีกษัตริย์ปกครอง เมื่อประชาชนจำนวนมากกราบไหว้รูปเคารพต่างๆ และการปฏิบัติเช่นนี้ยังคงมีอยู่ต่อไปในแผ่นดินปาเลสไตน์ในช่วงเวลาการเนรเทศ และหลังจากกลับมาจากแดนเนรเทศแล้วด้วย (66:3-4,17) คำประพันธ์บทนี้มีลีลาดุดันของบรรดาประกาศกในศตวรรษที่ 7 และ 6 ก่อน ค.ศ. (ยรม 1:16; 7:8; เทียบ อสย 2:6-8; อสค 8) การกล่าวพาดพิงถึงพิธีนมัสการรูปเคารพบางประการไม่สู้จะชัดเจนนัก

c “อ้าปากแลบลิ้นล้อเลียน” แปลตามตัวอักษรว่า “อ้าปากแลบลิ้น” ซึ่งเป็นท่าทางการเยาะเย้ยล้อเลียน จากความคิดคล้องจองในบรรทัดก่อนนั้น

d ไม่แน่ว่าข้อความนี้หมายถึงการฆ่าทารกถวายเป็นบูชายัญ เหมือนกับการถวายทารกเป็นบูชายัญแด่เทพโมเลค ซึ่งมีกล่าวถึงใน ลนต 18:21 เชิงอรรถ h

e เป็นการกล่าวพาดพิงถึงการร่วมเพศกับศาสนบริกรอย่างที่ปฏิบัติกันตามสักการสถานของชาวคานาอัน (กดว 25) และบางครั้งยังปฏิบัติในหมู่ชาวอิสราเอลด้วย (1 พกษ 14:24; 22:47; 2 พกษ 23:7; ฮชย  4:14 ) แม้จะมีพระบัญญัติ (ฉธบ 23:18-19) ห้ามไว้ก็ตาม อย่างไรก็ดี บรรดาประกาศกใช้ถ้อยคำที่เกี่ยวกับการค้าประเวณีในการกล่าวประณามการนับถือรูปเคารพ เพื่อเป็นสัญลักษณ์หมายถึงความไม่ซื่อสัตย์ของอิสราเอลต่อพระเจ้าของตน และยังเป็นการบรรยายอย่างตรงไปตรงมาถึงการปฏิบัติจริงของศาสนพิธีของชาวคานาอันอีกด้วย

f “รูปเคารพ” แปลโดยคาดคะเน แปลตามตัวอักษรว่า “สิ่งเตือนให้ระลึกถึง” หรือ “อนุสาวรีย์” แต่ความหมายของข้อนี้ดูออกจะคลุมเครือสักหน่อย

g “พระโมเลค” ต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า “กษัตริย์” ซึ่งเป็นสมญาของเทพเจ้าหลายองค์ของชาวเซมิติก จึงยังอาจเข้าใจได้อีกว่าหมายถึงเทพเมลคาร์ทของชาวไทระ ซึ่งเป็นเทพของแดนมรณะ (เทียบ บรรทัดสุดท้ายของข้อนี้)

h เป็นบทประพันธ์สมัยหลังกลับจากการเนรเทศที่กรุงบาบิโลน กล่าวว่าพระยาห์เวห์ทรงเอาพระทัยใส่ผู้ยากจนและผู้ถูกข่มเหง ** เกี่ยวกับเรื่อง “ผู้ยากจนของพระยาห์เวห์” (The Poor of Yahweh) ดู ศฟย 2:3 เชิงอรรถ d

i “เราซ่อนตัว” แปลตามตัวอักษรว่า “เราซ่อนหน้า” เป็นสำนวนที่หมายความว่าพระเจ้าไม่ทรงเห็นชอบด้วย หรือ “ไม่เสด็จเข้ามาช่วยเหลือ”

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก