III. หนังสือประกาศกอิสยาห์ภาคที่สามa

 

พระสัญญาต่อชนต่างชาติb

56 1พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ว่า

จงรักษาความถูกต้องและปฏิบัติความชอบธรรม

เพราะความรอดพ้นของเราใกล้เข้ามาแล้ว

และความเที่ยงธรรมของเรากำลังจะถูกเปิดเผย

2มนุษย์ผู้ทำเช่นนี้ย่อมเป็นสุข

คือบุตรของมนุษย์ผู้ยึดมั่นสิ่งนี้ไว้

ผู้รักษาวันสับบาโต ไม่ทำให้เป็นมลทิน

และยั้งมือไว้ไม่ทำการชั่วร้ายใดๆ

3อย่าให้ชนต่างชาติที่ยึดมั่นต่อพระยาห์เวห์พูดว่า

“พระยาห์เวห์จะทรงแยกข้าพเจ้าจากประชากรของพระองค์อย่างแน่นอน”

อย่าให้ขันทีพูดว่า

“ดูซิ ข้าพเจ้าเป็นเหมือนต้นไม้แห้ง”

4เพราะพระยาห์เวห์ตรัสดังนี้

“ถ้าขันทีทั้งหลายรักษาวันสับบาโตของเรา

เลือกสิ่งที่เราพอใจ

และยึดมั่นพันธสัญญาของเราไว้

5เราจะให้อนุสาวรีย์และนามแก่เขาเหล่านั้น

ในบ้านและภายในกำแพงของเรา

สิ่งนี้ดีกว่าการมีบุตรชายหญิง

เราจะให้เขาทั้งหลายมีชื่อตลอดไป

ซึ่งจะไม่ถูกลบล้างเลย”c

6บรรดาชนต่างชาติที่ยึดมั่นต่อพระยาห์เวห์

เพื่อรับใช้พระองค์และรักพระนามพระยาห์เวห์

และเป็นผู้รับใช้ของพระองค์

ทุกคนที่รักษาวันสับบาโต มิได้ทำให้เป็นมลทิน

และยึดมั่นพันธสัญญาของเราไว้

7เราจะนำเขาไปยังภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของเรา

จะทำให้เขามีความยินดีอย่างเต็มเปี่ยมในบ้านของเรา

เพื่อการอธิษฐานภาวนา

เครื่องเผาบูชาและสักการบูชาของเขา

จะเป็นที่โปรดปรานบนแท่นบูชาของเรา

เพราะบ้านของเราจะได้ชื่อว่า

“บ้านสำหรับประชากรทั้งหลายเพื่อการอธิษฐานภาวนา”d      

          8พระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้า

ผู้ทรงรวบรวมอิสราเอลที่กระจัดกระจาย ตรัสว่า

“เรายังจะรวบรวมผู้อื่น

นอกจากผู้ที่เราได้รวบรวมไว้แล้วด้วย”e

9สัตว์ทั้งหลายในทุ่งเอ๋ย จงมากินเถิด

สัตว์ทั้งหลายในป่า จงมากินด้วย

กล่าวโทษผู้นำของอิสราเอลf

          10ยามเฝ้าทั้งหลายของอิสราเอลเป็นคนตาบอด ไม่รู้อะไรเลย

เขาเป็นเหมือนสุนัขใบ้ เห่าไม่เป็น

ได้แต่ฝัน ได้แต่นอน

ชอบแต่หลับ

11เขาเป็นสุนัขตะกละ กินไม่รู้จักอิ่ม

เป็นผู้เลี้ยงแกะที่ไม่มีความเข้าใจอะไรเลย

แต่ละคนเดินตามทางของตน

ต่างแสวงหาผลประโยชน์ใส่ตน ไม่เว้นแม้แต่คนเดียว

12เขาทั้งหลายพูดว่า

“มาเถิด ฉันจะนำเหล้าองุ่นมา

เราจงดื่มสุราเมรัยให้เมามาย

พรุ่งนี้ก็จะเป็นเหมือนวันนี้

เพราะยังมีเหล้าองุ่นอีกมาก”

 

56 a ดู “ความรู้เกี่ยวกับหนังสือประกาศก” ข้อ 10

b คำประกาศพระวาจานี้เป็นคำร้อยแก้วที่มีจังหวะ อาจแต่งขึ้นหลังกลับจากแดนเนรเทศแล้ว ผู้แต่งซึ่งยึดมั่นในธรรมประเพณีของประกาศกยิ่งใหญ่หลายท่าน (ดู 45:14 เชิงอรรถ i) กล่าวพยากรณ์ว่าคนต่างด้าวที่เลื่อมใสต่อพระเจ้าจะถูกรับเข้ามาในศาสนายูดาย โดยมีเงื่อนไขว่า เขาจะต้อง “ยึดมั่นในพันธสัญญา” (ข้อ 4, 6) ซึ่งจำเป็นต้องรวมถึงการเข้าสุหนัต เครื่องหมายของพันธสัญญาที่พระเจ้าทรงทำไว้กับอับราฮัม ข้อจำกัดที่กำหนดไว้ใน ฉธบ 23:2-9 จะถูกยกเลิก โดยเฉพาะข้อจำกัดเกี่ยวกับ “ขันที”  (ดู อสย 56:3-4)

c “เราจะให้เขาทั้งหลาย” ตามสำเนาโบราณซึ่งพบที่กุมราน 1QIsa ต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า “เราจะให้เขา” (เอกพจน์)

d ข้อความในข้อนี้กล่าวถึงความคิดใหม่สองข้อ คือ (1) คำอธิษฐานภาวนาสำคัญกว่าการถวายเครื่องบูชา แม้ในพระวิหาร และ (2) ชนทุกชาติได้รับเชิญให้มาร่วมการอธิษฐานภาวนาเช่นนี้ด้วย

e คำประกาศพระวาจาสั้นๆ ในข้อนี้เป็นการย้ำข้อความที่เพิ่งกล่าวมาในข้อก่อน “ผู้อื่น” คือผู้เลื่อมใสต่อพระยาห์เวห์และบรรดาขันที มากกว่าจะหมายถึง “ผู้ถูกเนรเทศ” ในต่างแดน ที่ไม่ใช่กรุงบาบิโลน

f ดูเหมือนว่าประกาศกแยกแยะ “ผู้นำประชากร(อิสราเอล)” โดยกล่าวว่าเขาเป็น “ผู้เลี้ยงแกะ” ที่เป็นสุนัขเกียจคร้าน ส่วนผู้อยู่ใต้บังคับของเขา (“สุนัข” ที่เป็นเหมือน “ผู้เลี้ยงแกะ” จริงๆ นั้น) โลภและเห็นแก่ตัว (“ตะกละ กินไม่รู้จักอิ่ม”) คำประกาศพระวาจานี้อาจเขียนก่อนสมัยเนรเทศก็เป็นได้ ขยายความคิดที่ประกาศกเยเรมีย์ชอบใช้ (2:8, 26-27; 5:4-5, 31; 10:21; 13:1-2, 11ฯ) และเป็นความคิดของประกาศกเอเสเคียลด้วย (8:11ฯ; บทที่ 34) นั่นคือหมายถึงความไม่เหมาะสมของผู้นำอาณาจักรยูดาห์ในช่วงเวลาก่อนที่กรุงเยรูซาเล็มจะถูกทำลาย และประชากรจะถูกจับเป็นเชลยไปในแดนเนรเทศ