“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

กษัตริย์ไซรัส เครื่องมือของพระยาห์เวห์a

41 1ชายทะเลและเกาะทั้งหลายเอ๋ย

จงสงบเงียบฟังเราเถิด

          ประชาชนทั้งหลาย จงฟื้นคืนกำลัง

จงเข้ามาใกล้แล้วพูด

เราจงมาชุมนุมพร้อมกันเพื่อตัดสินคดี

                2ผู้ใดปลุกเร้าผู้มีชัยชนะbคนหนึ่งจากทิศตะวันออก

เรียกเขามาติดตามพระองค์

มอบนานาชาติแก่เขา

ให้เขาเหยียบบรรดากษัตริย์

ดาบของเขาทำให้กษัตริย์เหล่านั้นเป็นฝุ่นดิน

คันธนูทำให้กระจัดกระจาย เหมือนฟางข้าวที่ถูกลมพัดไป

                3เขาไล่ตามศัตรูและผ่านไปอย่างปลอดภัย

เท้าของเขาเกือบไม่สัมผัสทางเดินc

4ผู้ใดทำเช่นนี้จนสำเร็จ

เรียกมนุษย์ทุกชั่วอายุตั้งแต่แรกเริ่ม

ผู้นั้นคือ เรา พระยาห์เวห์

เราเป็นเบื้องต้น และจะอยู่กับคนสุดท้ายd 

                5ชนชาติบนเกาะห่างไกลเห็นแล้วก็กลัว

สุดปลายแผ่นดินกลัวจนตัวสั่น

เขาทั้งหลายเข้ามารวมกันอยู่ใกล้แล้ว

                6เขาช่วยเหลือกันe

                    กล่าวแก่กันว่า “ทำใจดีๆ ไว้”

                7ช่างไม้ให้กำลังใจช่างโลหะ

                    ผู้ใช้ค้อนตีโลหะให้เรียบให้กำลังใจผู้ตีทั่ง

          พูดกับช่างเชื่อมว่า “ทำได้ดีมาก”

                    แล้วจึงใช้ตะปูตรึงรูปเคารพไว้ไม่ให้เคลื่อนที่

อิสราเอลคือประชากรที่พระยาห์เวห์ทรงเลือกสรรและปกป้อง

            8อิสราเอลเอ๋ย ท่านเป็นผู้รับใช้fของเรา

                    ยาโคบเอ๋ย ท่านคือผู้ที่เราเลือกสรรไว้

          เป็นลูกหลานของอับราฮัมสหายของเรา

                9ท่านคือผู้ที่เรานำมาจากสุดปลายแผ่นดิน

                    เรียกมาจากดินแดนไกลโพ้น

          เราบอกท่านว่า “ท่านเป็นผู้รับใช้ของเรา

                    เราเลือกท่าน และไม่ทอดทิ้งท่าน”

                10อย่ากลัวเลย เพราะเราอยู่กับท่าน

                    อย่ากังวลใจ เพราะเราเป็นพระเจ้าของท่าน

          เราจะทำให้ท่านมีกำลังเข้มแข็ง

และจะมาช่วยเหลือท่านด้วย

          จริงซิ เราจะยึดท่านไว้ด้วยมือขวาให้ท่านมีชัยชนะ

                11ดูซิ ทุกคนที่โกรธเคืองท่านจะต้องอับอายและอดสู

                    ทุกคนที่ต่อต้านท่านจะสูญหายและพินาศ

                12ท่านจะแสวงหาผู้ที่ต่อสู้กับท่าน แต่จะไม่พบ

                    ผู้ที่ทำสงครามกับท่านจะสูญหาย ไม่เหลืออยู่เลย

                13เพราะเราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน

                    เราจับมือขวาของท่านไว้ให้มั่นคง

          บอกท่านว่า “อย่ากลัวเลย เราจะช่วยท่าน”

                14พระยาห์เวห์ตรัสว่า “ยาโคบที่เป็นเหมือนหนอนเอ๋ย

                    อย่ากลัวเลย

          อิสราเอลซึ่งเป็นเหมือนดักแด้เอ๋ย

เราจะช่วยท่าน

          เรา ผู้ไถ่กู้gท่าน คือพระผู้ศักดิ์สิทธิ์แห่งอิสราเอล

                15ดูซิ เราจะทำให้ท่านเป็นเหมือนเลื่อนนวดข้าวใหม่และมีฟันคม

                    ท่านจะนวดและบดภูเขา

          จะทำให้เนินเขาเป็นเหมือนแกลบ

                16ท่านจะฝัดภูเขาและเนินเขาเหล่านั้น และลมจะพัดไป

                    ลมพายุจะทำให้กระจัดกระจาย

          แต่ท่านจะชื่นชมในพระยาห์เวห์

ท่านจะภูมิใจในพระผู้ศักดิ์สิทธิ์แห่งอิสราเอล

                17คนยากจนและผู้ขัดสนแสวงหาน้ำ แต่ไม่มีน้ำ

                    ลิ้นของเขาแห้งผากเพราะความกระหาย

          เราคือพระยาห์เวห์จะตอบสนองเขา

                    เรา พระเจ้าแห่งอิสราเอล จะไม่ทอดทิ้งเขา

                18เราจะบันดาลให้มีแม่น้ำไหลบนภูเขาโล่งเตียนh

                    มีพุน้ำไหลในหุบเขา

          เราจะทำถิ่นทุรกันดารให้เป็นสระน้ำ

                    ทำให้พื้นดินแห้งกลายเป็นพุน้ำ

                19เราจะปลูกต้นสนสีดาร์ในถิ่นทุรกันดาร

                    ปลูกต้นกระถินเทศ ต้นเสม็ด และมะกอกเทศ

          เราจะปลูกต้นสนไซเปรสไว้ในที่แห้งแล้ง

                    ปลูกต้นยางและต้นสนไว้ด้วยกัน

                20เพื่อทุกคนจะได้เห็นและรู้

                    จะได้พิจารณาและเข้าใจพร้อมกัน

          ว่าพระหัตถ์พระยาห์เวห์ได้ทำเช่นนี้

                    พระผู้ศักดิ์สิทธิ์แห่งอิสราเอลทรงสร้างสิ่งนี้”

 

รูปเคารพเป็นเรื่องงมงายi

            21พระยาห์เวห์ตรัสว่า “จงนำคดีของท่านเข้ามาเถิด”

                    กษัตริย์ของยาโคบตรัสว่า “จงนำข้อพิสูจน์ของท่านเข้ามา

                22เขาจงนำมาและแจ้งแก่เราว่าจะเกิดอะไรขึ้น

                    จงบอกสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตให้เรารู้

          เราจะได้พิจารณา

                    จงเล่าให้เราฟังถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

          เพื่อเราจะได้รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

                23จงเล่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตให้เรารู้

                    เราจะได้รู้ว่าท่านทั้งหลายเป็นพระเจ้า

          ใช่แล้ว จงทำอะไรสักอย่างหนึ่ง จะดีหรือร้ายก็ได้

                    เพื่อเราจะได้ตกใจและกลัว

                24ดูซิ ท่านทั้งหลายไม่เป็นสิ่งใดเลย

                    งานของท่านไร้ค่าj

          ผู้ที่เลือกท่านก็เป็นที่น่ารังเกียจ

                25เราได้ปลุกผู้หนึ่งจากทิศเหนือ และเขาก็มาแล้ว

                    เราเรียกชื่อเขาkจากทิศตะวันออก

          เขาจะเหยียบผู้มีอำนาจปกครองเหมือนเหยียบlปูนสอ

                    เหมือนช่างปั้นหม้อย่ำดินเหนียว

                26ใครบอกล่วงหน้าไว้ตั้งแต่แรกเริ่มให้เรารู้

                    ใครบอกไว้ตั้งแต่อดีต เพื่อเราจะพูดว่า “ถูกแล้ว”

          ใช่แล้ว ไม่มีผู้ใดได้บอกล่วงหน้า

                    ไม่มีผู้ใดเล่าให้เราฟัง

          ไม่มีผู้ใดได้ยินถ้อยคำของท่าน

                27เราเป็นคนแรกที่แจ้งแก่ศิโยนว่า

                    “ดูซิ ดูเขาทั้งหลาย”

          เราได้ส่งผู้นำข่าวดีแก่กรุงเยรูซาเล็มm

                28แต่เมื่อเรามองก็ไม่เห็นมีใคร

                    ในหมู่เขาไม่มีผู้ใดให้คำปรึกษา

          ไม่มีผู้ใดให้คำตอบเมื่อเราถาม

                29ดูซิ รูปเคารพทั้งหมดนี้ไม่เป็นสิ่งใดเลยn

                    ทำอะไรก็ไม่ได้

          รูปปั้นของเทพเจ้าเหล่านี้เป็นเพียงลมและความว่างเปล่า”

 

41 a เพื่อตอบความสงสัยของประชาชน (ดู 40:27) บทประพันธ์สำคัญบทนี้จึงกล่าวทำนายถึงผู้ช่วยให้รอดพ้นที่กำลังจะมา “ผู้ช่วยให้รอดพ้น” ผู้นี้คือกษัตริย์ไซรัส ซึ่งไม่ถูกกล่าวพระนามจนกระทั่ง 44:28 แต่ประชาชนร่วมสมัยกับอิสยาห์ที่สองย่อมเข้าใจได้ทันที (เทียบ ข้อ 2-3 และ 25) บทประพันธ์บทนี้แต่งขึ้นขณะที่กษัตริย์ไซรัสทรงกำลังยกทัพมาแบบสายฟ้าแลบ และมาจบลงด้วยการยึดกรุงบาบิโลน พระยาห์เวห์ทรงยกย่องกษัตริย์ไซรัส ไม่ใช่เพื่อจะทรงลงโทษในเวลาต่อมาเหมือนที่ได้ทรงทำกับกษัตริย์เซนนาเคริบหรือเนบูคัดเนสซาร์ ซึ่งเป็นศัตรูของชาวอิสราเอล แต่เพื่อมาช่วยชาวอิสราเอลให้เป็นอิสระ

b “ผู้มีชัยชนะ” แปลตามตัวอักษรว่า “ความยุติธรรม” ซึ่งหมายความว่าพระยาห์เวห์ทรงพระประสงค์จะจัดให้มีระเบียบเรียบร้อยขึ้นมาอีก (ดู ข้อ 10 และ 54:17 ด้วย)

c “เกือบไม่สัมผัสทางเดิน” แปลตามตัวอักษรว่า “โดยทางที่เท้าของเขามิได้มา” ภาพพจน์นี้แสดงถึงความรวดเร็วที่กษัตริย์ไซรัสทรงยกทัพมายึดกรุงบาบิโลน

d “เบื้องต้น...คนสุดท้าย” สำนวนนี้หมายความว่าพระยาห์เวห์ทรงดำรงอยู่ตลอดนิรันดร (ดู วว 1:8,17; 21:6; 22:13)

e ข้อ 6-7 เป็นข้อความเพิ่มเติมจาก 40:19-20 (ดู 40:18 เชิงอรรถ l)

f ความคิดเรื่อง “ผู้รับใช้” ปรากฏตัวเป็นครั้งแรกที่ตรงนี้ ความคิดเรื่องนี้จะเป็นคำสอนเด่นชัดเป็นพิเศษในการเทศน์สอนของประกาศกอิสยาห์ที่สอง ความคิดนี้มีความสัมพันธ์กับความคิดเรื่องการที่พระยาห์เวห์ทรงเลือกสรร (ดู 43:10-20; 44:1-2; 45:4) และเรื่องการเลือกสรรนี้ย้อนเวลากลับไปถึงการที่ทรงเรียกอับราฮัม อิสราเอล ยาโคบ ในฐานะที่เป็น “ลูกหลานของอับราฮัม” ได้รับเลือกให้เป็นพยานของพระยาห์เวห์ (43:10) แม้ว่าชนชาติอิสราเอลจะไม่ซื่อสัตย์ (42:19) พระเจ้าก็จะทรงให้อภัยและช่วยให้รอดพ้น (44:1-5; 48:20) ความคิดเรื่อง “ผู้รับใช้” นี้มิได้หมายถึงความสัมพันธ์ระหว่าง “นายกับทาส” แต่หมายถึงความสัมพันธ์ที่ประกอบด้วยความเชื่อใจและความรัก *** เรื่อง “เพลงของผู้รับใช้” ดู “ความรู้เกี่ยวกับหนังสือประกาศก” ข้อ 9

g “ผู้ไถ่กู้” (ฮบ = go’el) ในความหมายแรกหมายถึงญาติผู้ชายที่ใกล้ชิดที่สุดซึ่งจะต้องชดใช้แทนญาติผู้ล่วงลับ (กดว 35:19 เชิงอรรถ c) โดยใช้หนี้แทน และ/หรือ ช่วยให้ญาติผู้เป็นหนี้พ้นจากการถูกจองจำ (ถ้าเขายังมีชีวิตอยู่) และยังต้องดูแลภรรยาม่ายของญาติผู้นี้ด้วย (นรธ 2:20 เชิงอรรถ i) ดังนั้น คำนี้จึงถูกนำมาใช้กับพระเจ้าในฐานะที่ทรงปกป้องผู้ถูกกดขี่ และทรงเป็นผู้ช่วยประชากรของพระองค์ให้เป็นอิสระ เราพบความหมายนี้บ่อยๆ ในเพลงสดุดี (เช่น สดด 19:14 เชิงอรรถ g) และในภาคที่สองของหนังสือประกาศกอิสยาห์ (43:14; 44:6, 24; 47:4; 48:17; 59:20; ดู ยรม 50:34) ต่อมา พันธสัญญาใหม่และเทววิทยาของคริสตชนจะนำความคิดนี้มาใช้กับพระเยซูเจ้า พระองค์ทรงเป็น “พระผู้ไถ่กู้” ด้วย

h “ภูเขาโล่งเตียน” ในอดีต โมเสสเคยทำให้มีน้ำไหลออกมาจากก้อนหินเพื่อระงับความกระหายของประชากร (อพย 17:1-7) ดังนั้น ในการเดินทางกลับจากการเนรเทศที่กรุงบาบิโลน จะมีน้ำไหลลงมาจากภูเขา(โล่งเตียน)และทำให้ทะเลทรายกลายเป็นที่ราบอุดมสมบูรณ์ อาศัยอัศจรรย์ที่ควบคู่กับการกลับจากการเนรเทศ ประกาศกมองเห็นล่วงหน้าไปถึงลักษณะของยุคพระเมสสิยาห์ในอนาคต (ดู 11:6; อสค 47:1-12)

i เช่นเดียวกับที่พระยาห์เวห์ทรงเรียกประชากรให้มาสู้คดีกับพระองค์ (ข้อ 1) บัดนี้พระองค์จึงทรงเรียกบรรดาพระเท็จเทียมให้มาปรากฏตัวเฉพาะพระพักตร์ บรรดาเทพเจ้าเหล่านี้ไม่อาจทำนายอนาคตและทำอะไรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโลกนี้ได้ จึงเป็นข้อพิสูจน์ว่าเทพเจ้าเหล่านี้ไม่เป็นอะไรเลย หนังสือประกาศกอิสยาห์ที่สองกล่าวอย่างชัดเจนเป็นครั้งแรกเรื่อง “ลัทธิเอกเทวนิยมอย่างเด็ดขาด” (Absolute Monotheism ซึ่งสอนว่ามีพระเจ้าแท้เพียงพระองค์เดียวเท่านั้น ไม่มีเทพเจ้าอื่นใดอีก) (ดู 43:8-13; 44:6-8; 45:5) ในทางปฏิบัติ การนับถือพระยาห์เวห์พระเจ้าของอิสราเอลเพียงพระองค์เดียวเท่านั้น เป็นการเตรียมทางมาถึง “ลัทธิเอกเทวนิยมอย่างเด็ดขาด” นี้ (ดู 42:8 เชิงอรรถ e และ p) (ดู “ความรู้เกี่ยวกับหนังสือประกาศก” ข้อ 9 ด้วย) *** เรื่องการกล่าวประณามบรรดารูปเคารพ ดู 40:18 เชิงอรรถ l

j “ไร้ค่า” แปลโดยคาดคะเน ต้นฉบับภาษาฮีบรูเข้าใจไม่ได้

k “เราเรียกชื่อเขา” แปลโดยคาดคะเน (เทียบ 45:3) ต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า “เขาเรียกขานนามของเรา” สำนวน “เรียกชื่อเขา” หมายถึงการเลือกสรรผู้ใดผู้หนึ่งให้มาทำหน้าที่พิเศษ (อพบ 31:2; กดว 1:17) และในขณะเดียวกันก็หมายถึงความสัมพันธ์พิเศษระหว่างพระยาห์เวห์กับผู้ที่ทรงเรียกนั้นด้วย (ดู 43:1; 45:3-4)

l “เหยียบ” แปลโดยคาดคะเน ต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า “เดิน”

m “ผู้นำข่าวดีแก่กรุงเยรูซาเล็ม” เป็นการแปลตามตัวอักษรของข้อความที่อาจไม่สมบูรณ์ ข้อความนี้อาจเป็นการกล่าวพาดพิงเหมือนในข้อ 25 ถึงการที่พระยาห์เวห์ทรงกล่าวล่วงหน้าว่า กษัตริย์ไซรัสจะมาช่วยให้รอดพ้น ขณะที่บรรดารูปเคารพหรือพระเท็จเทียมเป็นใบ้อยู่เฉยๆ (ข้อ 28)

n “ไม่เป็นสิ่งใดเลย” แปลตามสำเนาโบราณซึ่งพบที่กุมราน 1QIsa และสำนวนแปลโบราณภาษาอาราเมอิก (Targum) ต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า “เหตุร้าย, ภัยพิบัติ” (’aven)

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก