“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

II. คำประกาศพระวาจากล่าวโทษนานาชาติa

กล่าวโทษชาวอัมโมนb

      25. 1พระยาห์เวห์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า 2“บุตรแห่งมนุษย์เอ๋ย จงหันหน้าไปหาชาวอัมโมน และจงประกาศพระวาจากล่าวโทษเขา 3จงพูดกับชาวอัมโมนว่า ‘ท่านทั้งหลายจงฟังพระวาจาของพระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้าเถิด พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้

          “ท่านทั้งหลายcดีใจที่สักการสถานของเราเป็นมลทิน ดีใจที่แผ่นดินอิสราเอลถูกทำลายล้าง และดีใจที่พงศ์พันธุ์ยูดาห์ถูกกวาดต้อนไปเป็นเชลย 4เพราะเหตุนี้ ดูซิ เราจะมอบท่านทั้งหลายไว้ในมือของชาวตะวันออกd เขาจะตั้งค่ายในหมู่ท่าน และจะตั้งกระโจมในหมู่ท่าน เขาจะกินผลไม้ของท่าน และจะดื่มน้ำนมของท่าน 5เราจะทำให้เมืองรับบาห์เป็นที่พักอูฐ ทำให้แผ่นดินeของชาวอัมโมนเป็นคอกฝูงแพะแกะ แล้วท่านทั้งหลายจะรู้ว่าเราเป็นพระยาห์เวห์”

          6“พระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ ‘ท่านทั้งหลายได้ปรบมือและกระทืบเท้า มีความยินดีสะใจในหายนะของแผ่นดินอิสราเอล 7ดังนั้น เราจึงจะยื่นมือออกต่อสู้ท่าน จะมอบท่านไว้ให้นานาชาติปล้นสะดม และจะกำจัดท่านออกไปจากชนชาติต่างๆ จะลบล้างท่านให้สูญสิ้นไปจากแผ่นดิน เราจะทำลายล้างท่าน แล้วท่านจะรู้ว่าเราเป็นพระยาห์เวห์’”

กล่าวโทษชาวโมอับ

            8พระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้

          “โมอับและเสอีร์fพูดว่า ‘ดูซิ พงศ์พันธุ์ยูดาห์เป็นเหมือนชนชาติอื่นๆทั้งหลาย ดีละ เราจะเปิดที่ราบสูงของโมอับให้ศัตรูโจมตีจนไม่มีเมืองใดเหลืออีกg เมืองซึ่งเป็นความภาคภูมิใจของแผ่นดินนั้น คือเมืองเบธเยชิโมท เมืองบาอัลเมโอน และเมืองคีริยาธาอิม 10เราจะมอบเมืองเหล่านี้ให้แก่ชาวตะวันออก เหมือนกับที่เราเคยมอบชาวอัมโมน เพื่อจะไม่มีผู้ใดระลึกถึงเขาอีกในหมู่นานาชาติ 11เราจะพิพากษาลงโทษโมอับ แล้วเขาทั้งหลายจะรู้ว่าเราเป็นพระยาห์เวห์’”

กล่าวโทษชาวเอโดม

            12พระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้

          “เอโดมได้แก้แค้นพงศ์พันธุ์ยูดาห์อย่างสะใจ และได้ทำผิดอย่างมหันต์ที่ได้แก้แค้นเช่นนี้ 13พระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้าจึงตรัสดังนี้ ‘เราจะยื่นมือออกต่อสู้กับเอโดม จะทำลายล้างทั้งคนและสัตว์จากที่นั่น จะทำให้แผ่นดินนั้นเป็นที่ร้าง เขาทั้งหลายจะถูกฆ่าด้วยดาบตั้งแต่เมืองเทมานจนถึงเมืองเดดานh 14เราจะใช้อิสราเอลประชากรของเราแก้แค้นเอโดม อิสราเอลจะทำกับเอโดมตามความโกรธและความเกรี้ยวกราดของเรา แล้วดังนี้เขาทั้งหลายจะรู้จักการแก้แค้นของเรา’ – พระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัส”

กล่าวโทษชาวฟีลิสเตีย

            15พระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้

          “ชาวฟีลิสเตียได้แก้แค้นอย่างสะใจ ด้วยจิตคิดร้ายหมายทำลายอิสราเอล เพราะความเกลียดชังที่เคยมีมานานแล้ว 16พระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้าจึงตรัสดังนี้ ‘ดูซิ เราจะยื่นมือออกต่อสู้กับชาวฟีลิสเตีย และเราจะทำลายล้างชาวเคเรธีi และทำลายคนรอดชีวิตที่อยู่ตามชายทะเล 17เราจะแก้แค้นเขาอย่างเหี้ยมโหด จะลงโทษเขาด้วยความโกรธ แล้วเขาจะรู้ว่าเราเป็นพระยาห์เวห์ เมื่อเราได้แก้แค้นเขาแล้ว’”

25 a เช่นเดียวกับใน อสย บทที่ 13-23; ยรม บทที่ 47-51; อมส บทที่ 1-2 ถ้อยคำที่ประกาศกเอเสเคียลกล่าวกล่าวโทษนานาชาติถูกนำมารวมเข้าไว้ด้วยกันในบทที่ 25-32 – บทที่ 25-28 เกี่ยวกับชนชาติที่อยู่ใกล้ชิดกับอิสราเอล คือชาวอัมโมน โมอับ เอโดม และฟีลิสเตีย ในบทที่ 25; ชาวเมืองไทระและไซดอนในบทที่ 26-28 - แล้วเกี่ยวกับชาวอียิปต์ในบทที่ 29-32 – วันเดือนปีที่ให้ไว้ใน 26:1; 29:1; 30:20; 31:1; 32:1,17 กล่าวถึงเหตุการณ์ในช่วงเวลาตั้งแต่ปี 587-585 ก.ค.ศ. ระหว่างที่กรุงเยรูซาเล็มถูกล้อมและหลังจากนั้น – ภูมิหลังทางประวัติศาสตร์เดียวกันที่พบได้อีกในบทที่ 24 และ 33 ยังเป็นภูมิหลังของคำประกาศพระวาจาเหล่านี้ด้วย – คำกล่าวกล่าวโทษเมืองไทระสั้นๆใน 29:17-21 – ซึ่งเขียนขึ้นในปี 571 ก.ค.ศ. เป็นข้อความที่เพิ่มเข้ามาในภายหลัง

b ชาวอัมโมน (ฉธบ 2:19 เชิงอรรถ e) ได้เคยมีส่วนร่วมกับอาณาจักรยูดาห์ในการเป็นกบฏต่อกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์หลายครั้ง แต่ต่อมาได้เลิกเป็นพันธมิตรกับยูดาห์ และฉวยโอกาสแสวงหาผลประโยชน์สำหรับตนจากการที่กรุงเยรูซาเล็มถูกทำลาย

c “ท่านทั้งหลาย” – ที่นี่เป็นการพูดกับชาวอัมโมนเหมือนกับว่าเป็นคนคนเดียว - สรรพนามที่ใช้ในต้นฉบับภาษาฮีบรูจึงอยู่ในรูปเอกพจน์

d “ชาวตะวันออก” หมายถึงชาวอาหรับที่เร่ร่อนในทะเลทราย – เทียบ กดว 24:21 เชิงอรรถ k; อสย 11:14; ยรม 49:28.

e “แผ่นดิน” – แปลโดยคาดคะเน – บางคนแปลว่า “เมืองต่างๆ” – ต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า “บรรดาบุตร”

f “เสอีร์” เป็นชื่อเรียกที่ราบสูงเต็มด้วยภูเขาทางตะวันออกเฉียงใต้ของทะเลตายในดินแดนของเอโดม (แต่ ดู ฉธบ 2:1) ชื่อ “เสอีร์” นี้ยังใช้เรียกเอโดมด้วย (35:2; ปฐก 32:4; กดว 24:18; วนฉ 5:4) – น่าแปลกที่เราพบชื่อ “เสอีร์” ที่ตรงนี้ ทั้งๆที่ข้อความตอนต่อไปจะกล่าวถึงเอโดมโดยตรง – คำนี้จึงไม่พบในต้นฉบับภาษากรีกตรงนี้ และอาจเป็นคำที่ผู้คัดลอกเสริมเข้ามา

g “จนไม่มีเมืองใดเหลืออีก” – แปลโดยคาดคะเน - ตัวบทของข้อนี้ไม่ชัดเจน

h “เทมาน” เป็นชื่อดินแดนทางภาคใต้ของแคว้นเอโดม – ชื่อ “เทมาน” และ “เอโดม” จึงใช้แทนกันอยู่บ่อยๆ (ดู ยรม 49:20) – ส่วน “เดดาน” คือโอเอซิส El-Ela ในปัจจุบัน เป็นดินแดนของชาวอาหรับทางตะวันออกเฉียงใต้ของแคว้นเอโดม (เทียบ อสย 21:13; ยรม 49:8)

i “ชาวเคเรธี” เป็นเพื่อนบ้าน (ดู ยชว 13:2 เชิงอรรถ b) และเป็นญาติกับชาวฟีลิสเตีย (ดู 2 ซมอ 18:8 เชิงอรรถ l) - ที่นี่ชื่อทั้งสองดูเหมือนจะมีความหมายเหมือนกัน

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก