“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

"พระคริสตเจ้าทรงเป็นผู้ใดสำหรับข้าพเจ้า" อธิบายพระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญมาระโก โดย บาทหลวงฟรังซิส ไก้ส์
“เมื่อนั้นประชาชนทั้งหลายจะเห็นบุตรแห่งมนุษย์เสด็จมาในก้อนเมฆ”

69. การเสด็จมาของบุตรแห่งมนุษย์ (มก 13:24-27)
       
13 24“ในวันเหล่านั้นเมื่อทุกขเวทนาผ่านไปแล้ว ดวงอาทิตย์จะมืดไป ดวงจันทร์จะไม่ทอแสง 25ดวงดาวจะตกจากท้องฟ้า และอานุภาพบนท้องฟ้าจะสั่นสะเทือน 26เมื่อนั้นประชาชนทั้งหลายจะเห็นบุตรแห่งมนุษย์เสด็จมาในก้อนเมฆ ทรงพระอานุภาพและพระสิริรุ่งโรจน์ยิ่งใหญ่ 27เมื่อนั้น พระองค์จะทรงใช้ทูตสวรรค์ไปรวบรวมผู้ที่ทรงเลือกสรรจากทั้งสี่ทิศ จากปลายแผ่นดินจนสุดขอบฟ้า


อธิบายความหมาย
           การประกาศว่าบุตรแห่งมนุษย์จะเสด็จมาอย่างรุ่งโรจน์เพื่อช่วยมนุษย์ทุกคนให้รอดพ้น เป็นประเด็นสำคัญที่สุดของคำปราศรัยเรื่องอันตวิทยาของพระเยซูเจ้า ซึ่งเริ่มต้นในบทที่ 13 ข้อ 5 และเป็นคำตอบที่พระเยซูเจ้าประทานแก่ศิษย์สี่คนที่เคยถามว่า “จะมีเครื่องหมายใดบอกว่าเหตุการณ์ทั้งหมดเหล่านี้กำลังจะเกิดขึ้น” (เทียบ 13:4) แม้คริสตชนจะต้องผ่านการทดลองมากมายอันน่าสะพรึงกลัว รวมทั้งความทุกข์เวทนาอย่างใหญ่หลวง (เทียบ 13:14-20) แต่เหตุการณ์เหล่านี้มุ่งไปสู่การเสด็จมาอย่างรุ่งโรจน์ของพระคริสตเจ้า ผู้ทรงไถ่กู้มนุษยชาติและนำความชื่นชมยินดีแก่ทุกคน อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีคำตอบสำหรับคำถามที่ว่า “เหตุการณ์เหล่านี้จะเกิดขึ้นเมื่อใด” (เทียบ 13:4) เราจะพบคำตอบในบทสรุปของคำปราศรัย (เทียบ 13:28-37)

- ในวันเหล่านั้นเมื่อทุกขเวทนาผ่านไปแล้ว บางคนคิดว่าจนถึงตรงนี้ พระเยซูเจ้าตรัสถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในเขตแดนจำกัดของแคว้นยูเดีย เช่น การที่กรุงเยรูซาเล็มถูกทำลาย แต่ในการปราศรัยต่อไป พระองค์ตรัสถึงเหตุการณ์ในวาระสุดท้ายของโลก เมื่อพระอาณาจักรของพระเจ้าจะสำเร็จอย่างสมบูรณ์ คือเมื่อทุกสิ่งทั้งที่มองเห็นได้และมองไม่เห็น จะรวมเป็นหนึ่งเดียวรอบ ๆ บุตรแห่งมนุษย์

- ดวงอาทิตย์จะมืดไป ดวงจันทร์จะไม่ทอแสง ดวงดาวจะตกจากท้องฟ้า และอานุภาพบนท้องฟ้าจะ สั่นสะเทือน ประโยคดังกล่าวนี้ล้วนคัดมาจากหนังสือของบรรดาประกาศก เช่น “ดวงดาวในท้องฟ้าและดาวไถจะไม่ส่องแสงอีก ดวงอาทิตย์ก็จะมืดเมื่อขึ้น ดวงจันทร์จะไม่ทอแสง” (อสย 13:10) “ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์และดวงดาวจะสลายไป ท้องฟ้าจะม้วนเหมือนม้วนหนังสือ ดวงดาวจะร่วงหล่น เหมือนใบไม้ร่วมจากเถาองุ่น เหมือนใบไม้หล่นจากต้นมะเดื่อเทศ” (อสย 34:4; เทียบ ยรม 4:23-24; อสค 32:7-8) “แผ่นดินสั่นไหว ท้องฟ้าสั่นสะเทือน ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์มืดไป ดวงดาวก็อับแสง” (ยอล 2:10; เทียบ 3:4; 4:15; อมส 8:9; วว 6:12-14; 8:12)

- เมื่อนั้นประชาชนทั้งหลายจะเห็นบุตรแห่งมนุษย์เสด็จมาในก้อนเมฆ ข้อความนี้มาจากหนังสือดาเนียล 7:13-14 ซึ่งชวนให้คิดถึงการกระทำของพระเจ้า ผู้เสด็จมาช่วยประชากรของพระองค์ให้พ้นจากอำนาจการเมืองที่ใช้ความรุนแรง พระเยซูเจ้าจะทรงใช้ข้อความนี้เพื่อตอบคำถามของมหาสมณะ ซึ่งจะเป็นเหตุผลที่พระองค์ทรงถูกลงโทษประหารชีวิต (เทียบ 14:62)

- บุตรแห่งมนุษย์ เราพบวลีภาษาเซเมติกนี้เพียงในพระวาจาที่พระเยซูเจ้าตรัส (เทียบ 2:10, 28; 8:31,38; 9:9, 12, 31; 10:33, 45; 14:21, 41, 62) วลีนี้ยังชวนเราให้คิดถึงคำบรรยายเรื่องผู้รับใช้ที่รับทรมาน (เทียบ อสย 52:13-53; มธ 17:9, 22; 20:18; 26:2, 24, 45)

- ในก้อนเมฆ เป็นสถานที่แห่งการเปิดเผยของพระเจ้า พระองค์ทรงส่องแสงเจิดจ้า จนกระทั่งสายตามนุษย์ไม่สามารถมองเห็นได้ จึงทรงสำแดงพระองค์ในก้อนเมฆซึ่งเป็นเหมือนผ้าม่านกำบังแสง นอกจากนั้น ตามความคิดของพระคัมภีร์ ก้อนเมฆเปรียบได้กับขบวนนำเสด็จพระเจ้า (เทียบ อพย 16:10; 19:9; 24:15; 34:5; ลนต 16:2; กดว 11:25; ฯลฯ) วลีนี้จึงแสดงว่าบุตรแห่งมนุษย์มีลักษณะของพระเจ้า และความคิดนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากถ้อยคำที่ว่า ทรงพระอานุภาพและพระสิริรุ่งโรจน์ยิ่งใหญ่ (เทียบ 8:39; 14:62; มธ 26:64)

- เมื่อนั้น พระองค์จะทรงใช้ทูตสวรรค์ ต่างจากข้อความอื่น ๆ ที่กล่าวถึงวาระสุดท้ายของโลก ในที่นี้ ไม่ได้พูดถึงการทำลายซาตานและผู้ต่อต้านพระคริสตเจ้า (เทียบ วว 20:10; 2 ธส 2:8) และไม่พูดถึงการพิพากษาประมวลพร้อม (เทียบ มธ 13:36-43; 25:31-46) แต่กล่าวถึงเพียงภารกิจของทูตสวรรค์

- ไปรวบรวมผู้ที่ทรงเลือกสรร พระเจ้าทรงรวบรวมประชากรของพระองค์ที่กระจัดกระจาย (เทียบ ฉธบ 30:4; อสย 11:11, 16; 27:12-13; 43:5; อสค 39:25-29; ศคย2:10) ไม่กล่าวถึงการพิพากษาหรือการตัดสินลงโทษ ผู้เลือกสรรหมายถึงผู้ที่มั่นคงในความเชื่อจนถึงที่สุด และพระเจ้าทรงให้วันของความทุกข์ทรมานสั้นลง เพราะความรักที่ทรงมีต่อเขา (เทียบ 13:20) เมื่อพระเยซูเจ้าทรงใช้ข้อความนี้ที่คัดมาจากพันธสัญญาเดิมก็ทรงเปลี่ยนความหมายด้วย เพราะพระเจ้าไม่ทรงรวบรวมเพียงประชากรอิสราเอลเท่านั้น แต่ทรงรวบรวมมนุษย์ทุกคนที่ได้รับเลือกสรร คือผู้มีความเชื่อเดียวกันในพระคริสตเจ้า น่าสังเกตว่า ตามความคิดของนักบุญยอห์น (เทียบ ยน 11:52) และนักบุญเปาโล (เทียบ รม 15:16) การรวบรวมให้เป็นหนึ่งเดียวนี้เกิดขึ้นแล้วบ้าง เมื่อบรรดาอัครสาวกออกไปเทศน์สอนและชนทุกชาติได้รับการประกาศข่าวดี

- จากทั้งสี่ทิศ จากปลายแผ่นดินจนสุดขอบฟ้า น่าสังเกตว่า วลี “จากทั้งสี่ทิศ” ไม่เพียงพอเพื่อบรรยายการรวบรวมผู้ที่พระเจ้าทรงเลือกสรร แต่ยังเพิ่มเติมว่า “จากปลายแผ่นดินจนสุดขอบฟ้า” เพื่อสอนเราให้มั่นใจว่า พระเจ้าจะไม่ทรงลืมมนุษย์ผู้ใดเลย

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก