“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

การรื้อฟื้นพิธีกรรมถวายบูชา

3         1เมื่อถึงเดือนที่เจ็ด ชาวอิสราเอลก็ตั้งหลักแหล่งอยู่ตามหัวเมืองแล้ว ประชากรมาชุมนุมพร้อมหน้ากันที่กรุงเยรูซาเล็มa 2แล้วเยชูอาบุตรโยซาดักพร้อมกับพี่น้องสมณะ เศรุบบาเบลบุตรเชอัลทิเอลพร้อมกับพี่น้องของเขาb เริ่มสร้างพระแท่นบูชาขึ้นถวายพระเจ้าแห่งอิสราเอล เพื่อถวายเครื่องเผาบูชาบนพระแท่นนั้น ตามที่มีเขียนไว้ในธรรมบัญญัติของโมเสสคนของพระเจ้า 3เขาได้สร้างพระแท่นบูชาขึ้นใหม่ในสถานที่เดิมc แม้เขาจะกลัวชนท้องถิ่นd เขาถวายเครื่องเผาบูชาแด่พระยาห์เวห์บนพระแท่นนั้น เป็นเครื่องเผาบูชาเวลาเช้าและเวลาเย็น 4เขาฉลองเทศกาลอยู่เพิงตามที่มีเขียนไว้ และถวายเครื่องเผาบูชาประจำวันตามจำนวนที่กำหนดไว้ในระเบียบที่ต้องปฏิบัติเป็นประจำทุกวัน 5นอกจากนั้น เขายังถวายเครื่องเผาบูชาเป็นประจำe เครื่องบูชาในวันต้นเดือนและตามเทศกาลฉลองของพระยาห์เวห์ รวมทั้งเครื่องบูชาที่แต่ละคนถวายตามใจสมัครแด่พระยาห์เวห์f 6เขาเริ่มถวายเครื่องเผาบูชาแด่พระยาห์เวห์ตั้งแต่วันที่หนึ่งของเดือนที่เจ็ด แต่ยังมิได้วางรากฐานพระวิหารของพระยาห์เวห์g

7เขายังให้เงินแก่ช่างสกัดหินและช่างไม้ ให้อาหาร เครื่องดื่มและน้ำมันมะกอกเทศแก่ชาวไซดอนและชาวไทระ เพื่อให้นำซุงไม้สนสีดาร์จากภูเขาเลบานอนมาทางทะเลถึงเมืองยัฟฟา ตามที่ได้รับพระราชานุญาตจากกษัตริย์ไซรัสแห่งเปอร์เซียh 8เดือนที่สองของปีต่อมาi หลังจากที่ผู้กลับจากถิ่นเนรเทศมาถึงพระวิหารของพระเจ้าที่กรุงเยรูซาเล็ม เศรุบบาเบลบุตรเชอัลทิเอล และเยชูอาบุตรโยซาดัก ชนเลวีและทุกคนที่กลับจากถิ่นเนรเทศมาถึงกรุงเยรูซาเล็มก็เริ่มงานก่อสร้าง ชนเลวีที่มีอายุตั้งแต่ยี่สิบปีขึ้นไปได้รับมอบหมายให้ดูแลงานก่อสร้างพระวิหารของพระยาห์เวห์j 9เยชูอากับบรรดาบุตรและญาติพี่น้อง ขัดมีเอลกับบรรดาบุตร ลูกหลานของโฮดาวิยาห์k ร่วมมือกันคุมคนงานในการก่อสร้างพระวิหารของพระเจ้า บุตรหลานของเคนาดัดกับบุตรและญาติพี่น้องซึ่งเป็นชนเลวี ก็ร่วมคุมคนงานด้วยl 10เมื่อช่างก่อสร้างวางรากฐานพระวิหารของพระยาห์เวห์แล้ว บรรดาสมณะแต่งตัวเต็มยศ ถือแตรออกมายืนพร้อมกับชนเลวี ลูกหลานของอาสาฟถือฉาบออกมายืนด้วย เพื่อสรรเสริญพระยาห์เวห์ตามพระราชกำหนดของกษัตริย์ดาวิดแห่งอิสราเอล 11เขาขับร้องโต้ตอบกัน สรรเสริญและขอบพระคุณพระยาห์เวห์ “เพราะพระองค์พระทัยดี และความรักมั่นคงของพระองค์ต่ออิสราเอลดำรงอยู่เป็นนิตย์” ประชากรทั้งปวงก็โห่ร้องสรรเสริญพระยาห์เวห์สุดเสียง เพราะเขาได้วางรากฐานพระวิหารของพระยาห์เวห์แล้ว 12บรรดาสมณะ ชนเลวี และหัวหน้าครอบครัวหลายคนที่ชราแล้วและเคยเห็นพระวิหารหลังเดิม เมื่อเห็นรากฐานของพระวิหารหลังใหม่นี้ถูกวาง ต่างก็ร้องไห้เสียงดัง แต่คนส่วนใหญ่ยังโห่ร้องเสียงดังด้วยความยินดี 13จึงไม่มีประชาชนคนใดบอกได้ว่าเป็นเสียงโห่ร้องด้วยความยินดี หรือเป็นเสียงร้องไห้ เพราะทุกคนส่งเสียงโห่ร้องดังมาก จนได้ยินไปไกล

 

3 a “ประชากรมาชุมนุมพร้อมหน้ากันที่กรุงเยรูซาเล็ม” ประโยคนี้จะพบได้อีกใน นหม 7:72ข–8:1 ที่กล่าวถึงการชุมนุมของประชากร โดยแก้ไขบ้างเล็กน้อยเมื่อกล่าวถึงการชุมนุมของประชากรในสมัยของเอสรา

b การกล่าวพาดพิงถึงเศรุบบาเบลและเยชูอาว่าเป็นผู้เริ่มงานก่อสร้างพระวิหาร เป็นข้อความที่ผู้เรียบเรียงหนังสือเอสรานำมาใส่ไว้ในภายหลังที่นี่และในข้อ 8 โดยแท้จริงแล้ว เชชบัสซาร์เป็นผู้ได้รับมอบหมายจากกษัตริย์ไซรัสให้เป็นผู้ก่อสร้างพระวิหารขึ้นใหม่ (5:13-16; 6:3-5)

c “ในสถานที่เดิม” แปลตามต้นฉบับภาษากรีก และสำนวนแปลโบราณภาษาซีเรียค (ดู 2:28) ต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า “รากฐานเดิม”

d “ชนท้องถิ่น” แปลตามตัวอักษรว่า “ประชาชนของแผ่นดิน” โดยทั่วไปวลีนี้หมายถึงพลเมืองอิสระที่มีสิทธิสมบูรณ์ในดินแดนที่ตนพำนักอยู่ แต่ในพระคัมภีร์พันธสัญญาเดิม สำนวนนี้เปลี่ยนความหมายไปตามสถานการณ์ต่างๆ เช่นใน 2 พกษ 11:18 “ชนท้องถิ่น” หมายถึงพลเมืองในชนบท ตรงข้ามกับชาวกรุงเยรูซาเล็ม ในสมัยหลังกลับจากถิ่นเนรเทศ (ดู 4:4; 9:1-2; 10:2, 11; นหม 10:29) “ชนท้องถิ่น” มักจะหมายถึงชาวสะมาเรีย ชาวอัมโมน ชาวโมอับ และชนชาติอื่นๆ ที่เข้ามายึดครองแผ่นดินแทนชาวยิวเจ้าของเดิมที่ถูกเนรเทศไปกรุงบาบิโลน ชนต่างชาติเหล่านี้จึงกลายเป็นเจ้าของที่ดิน อาศัย “การครอบครองปรปักษ์” และกลายเป็น “ชนท้องถิ่น” ไปโดยปริยาย เพื่อแยกให้แตกต่างจากชาวยิวที่กลับมาจากถิ่นเนรเทศซึ่งได้ชื่อว่า “ชนยูดาห์” ต่อมาในสมัยพันธสัญญาใหม่ บรรดาธรรมาจารย์มักจะใช้วลีนี้เพื่อดูถูกชาวยิวที่ไม่รู้จัก ไม่ปฏิบัติตามธรรมบัญญัติและตามกฎเกณฑ์ที่พวกเขากำหนดขึ้น

e 1 เอสดราส 5:51 และ 2 พศด 2:3 เสริมว่า “ในวันสับบาโต”

f “เครื่องบูชาที่แต่ละคนถวายตามใจสมัคร” ต่างจากเครื่องบูชาที่ธรรมบัญญัติกำหนดไว้ให้ต้องถวาย หรือต่างจากเครื่องบูชาที่ต้องถวายเพราะตนได้บนบานไว้ (ดู ลนต 7:11 เชิงอรรถ a)

g สำหรับผู้เขียน การวางรากฐานพระวิหารนับเป็นการรื้อฟื้นระบบคารวกิจทั้งหมดตามที่ธรรมบัญญัติกำหนดไว้ใน “ตำนานสงฆ์” (Priestly Code)

h การเตรียมงานก่อสร้างพระวิหารหลังใหม่นี้เทียบได้กับการเตรียมงานก่อสร้างพระวิหารหลังแรกในรัชสมัยกษัตริย์ซาโลมอน

i ตาม ฮกก 1:4; 2:10ฯ และ ศคย 4:9 งานก่อสร้างพระวิหารเริ่มขึ้นในปีที่ 2 รัชกาลของกษัตริย์ดาริอัสที่ 2 แต่อันที่จริง งานนี้เริ่มตั้งแต่รัชกาลของกษัตริย์ไซรัส (อสร 5:16) แต่งานก่อสร้างดำเนินไปได้เพียงเล็กน้อยก็ต้องหยุดชะงัก (ดู อสร 4:24)

j เป็นลักษณะเฉพาะของผู้เขียนพงศาวดาร (The Chroniclers) ที่จะเน้นบทบาทของชนเลวีเกี่ยวกับพระวิหาร

k “โฮดาวิยาห์” แปลโดยคาดคะเนตาม อสร 2:40 ต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า “ยูดาห์”

l “บุตรหลานของเคนาดัด...คุมคนงานด้วย” บางคนคิดว่าเป็นข้อความที่ผู้คัดลอกยกมาจาก นหม 3:18, 24; 10:10

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก