“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันอังคารที่ 23 ธันวาคม 2014
สัปดาห์ที่ 4 เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า
ลก 1:57-66…
57เมื่อครบกำหนดคลอด นางเอลีซาเบธให้กำเนิดบุตรชายคนหนึ่ง 58เพื่อนบ้านและบรรดาญาติรู้ว่าพระเจ้าทรงแสดงพระกรุณายิ่งใหญ่ต่อนาง จึงมาร่วมยินดีกับนาง
59เมื่อเด็กเกิดได้แปดวัน เพื่อนบ้านและญาติพี่น้องมาทำพิธีสุหนัตให้ เขาต้องการเรียก เด็กว่าเศคาริยาห์ตามชื่อบิดา 60แต่มารดาของเด็กค้านว่า “ไม่ได้ เขาจะต้องชื่อยอห์น” 61คนเหล่านั้นจึงพูดกับนางว่า “ท่านไม่มีญาติคนใดมีชื่อนี้” 62เขาเหล่านั้นจึงส่งสัญญาณถามบิดาของเด็กว่าต้องการให้บุตรชื่ออะไร

63เศคาริยาห์ขอกระดานแผ่นหนึ่งแล้วเขียนว่า “เขาชื่อยอห์น” ทุกคนต่างประหลาดใจ 64ทันใดนั้น เศคาริยาห์ก็กลับพูดได้อีก เขาจึงกล่าวถวายพระพรพระเจ้า 65เพื่อนบ้านทุกคนต่างรู้สึกกลัว และเรื่องทั้งหมดนี้ได้เล่าลือกันไปทั่วแถบภูเขาของแคว้นยูเดีย 66ทุกคนที่ได้ยินเรื่องนี้ต่างก็แปลกใจและถามกันว่า “แล้วเด็กคนนี้จะเป็นอะไร” เพราะพระหัตถ์ของพระเจ้าอยู่กับเขา


อรรถาธิบายและไตร่ตรอง

• เศคาริยาห์บิดาของยอห์นบัปติส... เป็นใบ้ไป 9 เดือนเต็มๆ จนเอลีซาเบธ ได้ให้กำเนิดท่านนักบุญยอห์นบัปติส 


• ชื่อยอห์น แปลว่า “พระยาห์เวห์ทรงพระกรุณา” พ่อเคยอธิบายชื่อนี้หลายครั้ง แต่วันนี้ ก่อนะที่เราจะก้าวไปสู่วันสมโภช คือ ค่ำคืนวันที่ 24 ธันวาคม ซึ่งเป็นการสมโภชการบังเกิดของพระเยซูคริสตเจ้า เราได้อ่านพระวาจาวันนี้ ชื่อของยอห์น ได้เกิดขึ้นจริง เศคาริยาห์ได้ผู้เป็นใบ้ได้ขอกระดานมาเขียนชื่อของบุตรชายว่า “เขาชื่อยอห์น” ชื่อของเขาคือพระยาห์เวห์ทรงพระกรุณา...


• พี่น้องที่รักครับ... สังเกตประโยคแรกของพระคัมภีร์ดีๆ สิครับ “นางเอลีซาเบธให้กำเนิดบุตรชายคนหนึ่ง เพื่อนบ้านและบรรดาญาติรู้ว่าพระเจ้าทรงแสดงพระกรุณายิ่งใหญ่ต่อนาง จึงมาร่วมยินดีกับนาง” เพื่อนบ้านรู้ว่า “พระเจ้าทรงแสดงพระกรุณายิ่งใหญ่ต่อนาง” นั่นคือความหมายของชื่อของบุตรชายของนางอยู่แล้ว ที่ชื่อว่า “ยอห์น”


• เศคาริยาห์หายเป็นใบ้ เพราะท่านได้ทำตามพระบัญชาของพระเจ้าที่ได้แจ้งแก่ท่าน
• ขอคิดไตร่ตรองของพ่อสำหรับพระวรสารวันนี้ “ใบ้” คนเราเป็นใบ้โดยปกติ คนเราไม่สามารถพูดได้ เพราะความไม่สามารถในการ “ฟัง” ถ้าหูไม่ได้ยิน โดยเฉพาะแต่กำเนิด คนเราก็พูดไม่ได้ ได้แต่ร้องเสียงอ้อแอ้ๆ ไปตลอดชีวิต นั่นคืออาการของ “คนใบ้” วันนี้พ่อนั่งไตร่ตรองจริงๆว่าความใบ้ ความเงียบทางภายภาพของร่างกายนั้น พ่อคงไม่อธิบายเพราะพ่อไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ แต่เท่าที่พ่อทราบคือคนใบ้นั้นเพราะหูของเขาตึงหรือไม่สามารถที่จะรับ ฟัง...ซึ่งน่าจะเป็นความจริง


• พ่อเศคาริยาห์ ถูกทูตสวรรค์กาเบรียลกำหนดให้ท่านเป็นใบ้... เพราะท่านสงสัย ไม่เชื่อ หรือ “ไม่เชื่อฟัง” ว่าสิ่งที่พระเจ้าตรัสนั้นจะเป็นไปได้ ท่านเป็นถึงสมณะรับใช้อยู่เคียงข้าง “หีบพระบัญญัติ” ซึ่งหมายถึงบัญญัติสูงสุดที่มนุษย์ต้องเชื่อฟังพระเจ้าพระยาห์เวห์ผู้เดียว ตลอดไป แต่วันนั้น ท่านได้มีโอกาสจริงๆ ที่จะเข้าไปพระวิหารชั้นสำคัญสูงสุดที่ตั้งหีบพระบัญญัติ... ทูตสวรรค์ได้ “กล่าวกับท่าน” แต่ท่านพะวงสงสัย หรือกล่าวได้ว่าพระคัมภีร์ใช้ท่านเศคาริยาห์ให้เป็นเครื่องหมายของการไม่ สามารถ “ฟัง” ท่านจึงถูกกำหนดให้เป็น “ใบ้” ตลอดเวลา 9 เดือน จนท่านได้ทำตาม “คือฟังพระบัญชาและปฏิบัติตาม” ที่พระเจ้าสั่งไว้ ทันทีท่านก็พูดได้... พระวรสารใช้เรื่องนี้เพื่อสอนพลังของการพ้นจากความใบ้ติดขัดคือการได้ฟังพระ วาจาของพระเจ้า


• พี่น้องที่รัก... พ่อไตร่ตรองต่อไปว่า...บางที ความใบ้ทางจิตใจอาจควรที่เราจะให้ความใส่ใจกว่าที่ผ่านๆมา เสียงร้องเพื่อขอความยุติธรรม ความรัก ความเมตตา อาจจะค่อยๆ จางหายไป เพราะคนเราปัจจุบันหูตึงต่อกันมากขึ้น... คนเราไม่สู้จะยอมฟังเสียงของกันและกัน รับฟังกันแทบไม่ได้อีกแล้วในปัจจุบัน พี่น้องว่าจริงไหมครับ...

o คนเราปัจจุบันไม่ยอมฟังกันจริงๆ พ่อยกตัวอย่าง ไม่น่าเชื่อเลยว่า รถยนต์ทุกคันนั้นมีเสียงแตร เป็นอุปกรณ์มาตรฐานจริงๆ เพื่อความปลอดภัย เพื่อเตือนกันให้ได้ฟังเสียงรถที่วิ่งผ่านไปมา เพื่อบอกกัน ขอทางกัน แตรมีประโยชน์มากจริงๆ ในอดีต เมื่อรถมามีคนเดินต้องระวังกัน คนขับก็สามารถกดแตรเตือนกัน บอกกัน เพื่อความปลอดภัย...

o แต่ ปัจจุบัน... สังเกต ไหมว่า รถยนต์ขับกันเงียบกริบ เป็นรถใบ้กันไปหมด กล่าวกันว่า “การบีบแตรสัญญาณของอุปกรณ์ที่แสนดีมีค่านั้น กลายเป็นว่าการบีแตรนั้นอันตรายมาก”... “จริงไหมครับ” คนขับรถในกรุงเทพฯ หรือต่างจังหวัด ไม่ระวัง “บีบแตรเกะกะอาจได้เสียงปืนและลูกปื้นย้อนกลับมา”... พ่อได้ยินคนเขากล่าวกันเช่นนั้น... และขับรถกัน ถ้ามีการบีบแตร (ใส่กัน) คนขับรถที่ได้ฟังได้ยินนั้นจะโกรธทันทีว่ากดแตรทำไม และก็เริ่มออกอาการโกรธ ขับรถกระชากหรือปาดหน้ามองหน้าหาเรื่องราวกันทันที...

o พ่อได้รับคำเตือนจริงๆ และได้ยินจริงๆ และก็ขอเตือนจริงๆ ในสภาพนี้ คน ไม่พร้อมจะฟังเสียงแตรรถที่เป็นอุปกรณ์มาตรฐานแสนดีเพื่อความปลอดภัย แต่มันกลับกลายเป็นอุปกรณ์ที่ต้องระวังเด็ดขาดถ้าจะใช้กดแต่ละครั้ง.. เพราะคนปัจจุบันไม่พร้อมจะฟังจริงๆ การเตือน ส่งเสียงเตือนเพื่อความปลอดภัย การเตือน ตักเตือน เพื่อความดี กลับกลายเป็นอันตรายถึงชีวิตได้... 

o สำหรับพ่อ นี่เป็นสัญญาณให้รู้ว่า คนปัจจุบัน ไม่พร้อมจะฟัง... ทำ ไม่สามารถทนฟัง ทำให้คนเราเป็นใบ้ต่อกัน คุยกันยาก พูดกันยาก พูดได้ก็อาจจะไม่ได้พูดอีกเลยตลอดกาล หรือบางกรณีถ้าพูด พูดความจริง เพื่อความดี เพื่อปกป้อง... และผลตามมาคือตายแบบประกาศกในพระคัมภีร์... ดังนั้น คนเราปัจจุบัน...จึงเป็นใบ้ต่อกันมากขึ้นทุกที...จริงๆครับ ขนาดเรื่องหนักๆทางการเมืองที่ผ่านๆมา คนกลุ่มใหญ่สุดๆ คือ ที่เขาเรียกว่า “พลังเงียบ” ที่จริงอีกแบบก็คือ “ใบ้” นั่นเอง


• พี่น้องที่รัก พระวาจาวันนี้ พ่อมีคำสอนใจพ่อเองจริงๆ พ่อคิดว่า เราจะหายใบ้ต่อกันได้ง่ายมากขึ้น ถ้าเพียงเราพร้อมจะ “ฟัง” กันมากขึ้น ฟังพระวาจาของพระเจ้าและยอมปฏิบัติตามด้วยความรักมากขึ้น... 

o พี่น้องเคยประชุม เข้าร่วมประชุมไหม... บ่อยครั้ง เราตกเป็น “ผู้ฟังฝ่ายเดียว” จริง เมื่อผู้นำ ผู้ใหญ่ผูกขาดการพูดอยู่ตลอดการประชุม พูด พูด และก็พูด จนลืมที่จะ “ฟัง” อันนี้หนักกว่า และหนักมาก...

o ปกติคนเราพูดไม่ได้ เพราะไม่สามารถฟัง...ใช่ไหมครับ

o แต่สังคมที่หลายคนไม่เคยพร้อมจะฟัง... ได้ยินนะครับ ได้ยินชัดด้วย แต่ไม่ได้ฟัง ไม่เคยคิดจะฟังจริงๆ ย้ำ เพียงแต่ได้ยิน เรียกว่า หูไม่ได้หนวก แต่หัวใจปิด...ดังนั้น การพูดฝ่ายเดียวโดยไม่เคยฟังแม้ได้ยินเสียงบ่นพึมพรำ...ที่สุดก็ใบ้ครับใบ้ กันหมด... ไม่ใช่คนที่พูดนั้นใบ้นะครับ.. ไม่ได้สูญเสียการได้ยิน..เพียงเสียโอกาสที่จะฟัง... ดังนั้น คนรอบข้าง ทั้งห้องประชุม ทั้งสังคม ชุมชน ครอบครัว ชุมชนวัด ทุกคนรอบข้างจึงตัดสินใจใบ้กันหมด เงียบดีกว่า... อันนี้อาการใบ้หนักกว่าทุกอาการ


• พ่อสรุปครับ

o การสูญเสียการได้ยิน คนเราคนนั้นคนเดียวที่หูตึงก็เป็นใบ้แน่นอน

o แต่การเสียโอกาสที่จะฟัง ทั้งๆที่ได้ยินของเราคนเดียว... อาจทำให้คนรอบข้างต้องใบ้กันทั้งหมดเลยครับ...

o พี่น้องอยากให้เราพากันสรรเสริญขอบพระคุณพระเจ้าร่วมกันไหมครับ... ฟังพระวาจาของพระเจ้า ฟังกันมากๆ นะครับ... อย่าได้สูญเสียโอกาสที่จะได้ฟังต่อกันเลยนะครับ พร้อมที่จะรับฟังกัน 

o ฉลาดที่จะได้ฟังในเสียงที่ได้ยินนั่นสุดยอดครับ... พระวาจาของพระเจ้า พระสุรเสียงของพระเจ้าผ่านทางเพื่อนพี่น้องโดยเน้นผู้ยากไร้ เป็นโอกาสให้เราได้ฟังกันและกัน และจะได้ไม่เป็นใบ้บอดมืดต่อกันและกันครับ... ขอพระเจ้าอวยพรให้เราเป็นคนน่ารัก เหมือนเด็กเล็กๆที่นั่งตั้งใจฟังเรื่องเล่าตาแป๊วและมีความสุขทั้งจินตนาการ และส่งผลไปสู่การดำเนินชีวิตไปตลอดชีวิตเลยนะครับ.... 

o คริสต์มาสทุกปี เราร้อง เราปลื้มกับเสียงเพลง...ที่ร้องว่า “จงฟังเพลงแห่งทูตสวรรค์ ว่าทรงธรรมกษัตริย์เกิดใหม่” เราไหลตามเนื้อเพลงเลยครับ... ครับ กลับไปบ้าน และ “จงฟังเสียงของกันและกัน เสียงของคนรอบข้าง ครอบครัว พี่น้อง ให้มากๆ เราจะได้ไม่เป็นใบ้ หนวก บอด ต่อกันและกันครับ... 

o ขอพระเจ้าอวยพรให้เรา “พูดได้ สรรเสริญพระเจ้าได้” เหมือนท่านเศคาริยาห์ครับ บทอ่านวันพรุ่งนี้เราจะได้อ่านเสริญเพลงสรรเสริญถวายพระพรพระเจ้า Benedictus ของเศคาริยาห์ครับ.. หายใบ้ปั๊บสรรเสริญพระเจ้าทันที...

 

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก