“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันเสาร์ที่ 30 สิงหาคม 2014
สัปดาห์ที่ 21 เทศกาลธรรมดา

1คร 1:26-31…………
 26พี่น้องทั้งหลาย จงพิจารณาดูเถิด เมื่อพระเจ้าทรงเรียกท่านนั้น มีน้อยคนที่ฉลาดตามมาตรฐานของมนุษย์ น้อยคนที่มีอิทธิพล น้อยคนที่มีตระกูลสูง 27แต่พระเจ้าทรงเลือกสรรคนโง่เขลาในสายตาของโลกเพื่อทำให้คนฉลาดต้องอับอาย พระเจ้าทรงเลือกสรรคนที่โลกถือว่าอ่อนแอเพื่อทำให้ผู้แข็งแรงต้องอับอาย 28และพระเจ้าทรงเลือกสรรสิ่งต่ำช้าน่าดูหมิ่นไร้คุณค่าในสายตาของชาวโลกเพื่อทำลายสิ่งที่โลกเห็นว่าสำคัญ 29ทั้งนี้ เพื่อมิให้มนุษย์โอ้อวดเฉพาะพระพักตร์ของพระเจ้าได้ 30เดชะพระองค์ ท่านจึงมีความเป็นอยู่ในพระคริสตเยซูผู้ที่พระเจ้าทรงตั้งให้เป็นปรีชาญาณสำหรับเรา ทั้งยังทรงเป็นผู้บันดาลความชอบธรรม ความศักดิ์สิทธิ์และการไถ่กู้อีกด้วย 31เพื่อให้เป็นไปตามที่เขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า “ผู้ใดจะโอ้อวด ก็ให้ผู้นั้นโอ้อวดในองค์พระผู้เป็นเจ้าเถิด”


 
อรรถาธิบายและไตร่ตรอง
 
• นักบุญเปาโลย้ำเตือนว่า “ผู้ใดจะโอ้อวด ก็ให้ผู้นั้นโอ้อวดในองค์พระผู้เป็นเจ้าเถิด”

• พี่น้องครับ วันนี้พ่อเอง “อยากโอ้อวดเหมือนกัน อยากอวดเหมือนกันครับ....” แล้วจะอวดอะไร อวดตนเองหรอ มีอะไรให้อวดไหมเนี่ย... มาดูกันหน่อยครับ

• อวดว่าเป็นพระสงฆ์หรอ... ดีไปกว่าบรรดาคริสตชนทั่วไปตรงไหนเล่า มีอะไรให้อวดบ้างไหม... อ้อ คงต้องจาระไนออกมาให้ดูหน่อยว่า มีดีหรือไม่มีหนอ.... พ่อบอกตรงๆนะเวลาไปถวายมิสซาที่ไหน ไปทำอะไรที่ใครๆ เขาคิดว่าดี เก่ง มีหลายอย่างอยู่ครับ
-ไปทำมิสซาใหญ่ๆก็เคย... ไปสอนพระคัมภีร์คนเป็นร้อยๆ นับครั้งไม่ถ้วนก็เคย...
-ไปเทศน์เข้าเงียบให้พระสงฆ์ก็เกือบทุกมิสซังแล้วครับ....(เจ๊งไหมครับ)...
-ไปเทศน์เข้าเงียบประจำปีทีละเป็นอาทิตย์ให้นักบวชหญิงชายเกือบทุกคณะแล้ว และบางคณะก็หลายปีติดต่อกันแล้วครับ...(เยี่ยมไหมครับ)
-ไปเทศน์แบบโกอินเตอร์ก็ทำมาแล้วครับ... บรรยายโอกาสพิเศษต่างๆ ก็มากมายก่ายกองนับไม่ถ้วนจนใครๆเขาว่าพ่องานเยอะ (เขาว่ากันนะ) เขาว่า “พ่อเก่ง” (อันนี้ก็ได้ยินหนาหูอยู่นา...)
-ไปบรรยายให้กับบรรดาพระสังฆราชทั้งหมดฟังก็เคยบ่อยเหมือนกัน (อันนี้เรียกว่า เล่นของสูง... อันที่จริงพวกท่านก็ให้เกียรติเรียกพ่อว่าอาจารย์)
-เป็นที่ปรึกษาหลายๆเรื่องราวก็มาก เป็นอาจารย์ตัวยงสอนมาเกือบยี่สิบปีไม่มีหยุด... เรียกว่าเขากล่าวกันว่าพ่อเนี่ย เป็นเบอร์ต้นๆ เลยนะ เขาว่านะ เขาว่ากัน... ปัจจุบันก็สอน สอน และก็อยู่แสงธรรมประจำอยู่นี่แหละครับ... เข้าว่าเจ๊งนะ... แต่ แต่ แต่ จริงหรือ???
 
• คิดจริงๆ แล้วตัวพ่อเองเป็นใครกันครับ ตัวจริงเป็นใคร เจ้าสมเกียรติคนนี้เป็นใคร มาจากไหน มีอะไรหรือ มีอะไรให้อวดได้หรือ มาดูกันครับ...
-เด็กบ้านนอกของแท้แน่นอน โตมาในหมู่บ้านที่ไม่มีถนนไปถึงไม่มีรถไปถึงในสมัยพ่อเป็นเด็ก มีแต่เรือเท่านั้นที่สัญจรไปมา
-รองเท้าไม่เคยใส่เลยตอนเด็กๆ เพราะไม่มีความจำเป็น รองเท้าหนังแท้ติดกายแต่เกิดคู่เดียวก็เกินพอ (เท้าเปล่าตลอดกาล) หนังแท้สุดทน ซ่อมได้ ฉิกขาดก็ประสานต่อเติมเนื้องอกหนังเติมเต็มขึ้นใหม่ก็ได้ ถ้าขาดหรือเลือดไหลบ้าง ถลอกบ้าง ไม่เกี่ยง
-เกิดมาในครอบครัวพี่น้อง 15 คน และเป็นน้องคนที่ 14 ที่มีชีวิตอยู่ด้วยกัน จริงๆมีมากกว่านี้
-วัดเจ้าเจ็ด ชุมชนที่เวลานั้นเป็นชุมชนบ้านนอกจริงๆครับ เข้ากรุงเทพฯก็ต้องใช้เวลานั่งเรือเป็นวันๆ หรือทั้งคืน ไม่ใช่ของง่าย
-ตกลง ตัวพ่อเอง ตัวเราเองนี่มีอะไร...... ไม่มีครับ ไม่มีเลย
-ความพร้อมทางครอบครัวหรอ จนครับ การศึกษาก็โรงเรียนของวัดครับ วัดนักบุญยวงบัปติสตา โรงเรียนประสาทศิลป์ชื่อเดิม ชื่อใหม่เขาเรียกว่าเซนต์จอห์นบัปติส
-ตัวย่อเดิม “ป.ศ.” เชื่อใหม่ ณ ปัจจุบันตัวย่อ “ซ.จ.บ.” (เคยถามเจ้ามาร์คหลานชายที่เคยเรียนที่เดียวกันว่า “ซ.จ.บ.” เนี่ยย่อมาจากอะไรแปลว่าอะไร เจ้ามาร์คหลานชายตอบทันที “ซึมมาจากบ้าน” ว่าไปนั้น)
-ชื่อโรงเรียนนี้สมัยพ่อเรียนตอนเป็นเด็กคือโรงเรียน “ประสาทศิลป์” เวลานั้นที่ถือว่าสุดยอดในบริเวณรอบๆนั้น (อย่าไปไกลกว่านั้น ถ้าไปบ้านแพนเขาก็มี โรงเรียนราษฎร์บำรุงศิลป์ “ร.บ.” ซึ่งก็ดีดังกว่าและเจริญกว่ามากแล้ว)
-โรงเรียนพ่อไม่มีอะไร แต่มีวัดนักบุญยอห์นบัปติสตา มีชุมชน มีความเชื่อ อยู่กันด้วยวัด ด้วยความเชื่อ พ่อเจ้าวัดคือคนสำคัญ ศูนย์กลางและเราเชื่อ เรารัก และเราศรัทธา เราอยากเป็นคนดีกันหมดทุกคน
-เรามีพระเจ้า อนาคตไม่ต้องคิดมาก ความรู้สูงระดับมหาวิทยาลัยหรือการศึกษาสูงๆต้องไปกรุงเทพฯเมืองฟ้า...เท่านั้น ความรู้สูงไม่สู้ใกล้ตัวเลย การศึกษาก็ภูมิปัญญาชาวบ้านพ่อ อยู่ได้ ไม่จนตาย ไม่มีอะไรมากเลยจริงๆ... เรียบง่าย อยู่กันไปตามประสาคนบ้านนอก ตกปลา เลี้ยงหมูแมวไก่หมา กินปลาหมูไก่ (แมวไม่กิน หมาไม่แน่...) ชีวิตชาวบ้านสุดๆ...
 
• แต่ที่สุด พ่อในวันอายุ 12 ขวบ อยู่ที่วัด.. ก็รู้สึกอยากเป็นพระสงฆ์ เหมือนพ่อเจ้าวัด อยากเป็นเณรเหมือนพวกบราเดอร์

• เห็นพระสงฆ์แล้วอยากเป็น ไม่รู้ทำไม อยากทำมิสซา อยากเทศน์ อยากเป็น “คุณพ่อ” เคยช่วยมิสซา แย่งชิงเสื้อมิสซากันแบบแทบจะฆ่ากันตายเพื่อให้ได้ช่วยมิสซา อยากสั่นกระดิ่ง อยากเทน้ำล้างมือให้พระสงฆ์ อยากเป็นพระสงฆ์.... ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น...

• เห็นสามเณรใหญ่มาช่วยงานที่วัดแต่ละคน “หล่อ หน้าตาดี (ตามอัตภาพ) นิสัยดีมาก ศรัทธา มีปลอกคอด้วยอยากใส่ปลอกคอบ้าง”เขาเล่นออร์แกนเก่ง สอนคำสอน นำเกมเก่ง เก่งไปหมด ดีไปหมด อยากเป็นบ้าง

• เจ้าวัดเวลานั้น ก็ดุมาก ดุจนพวกเราเด็กๆหัวหด แต่หดหัวแล้วก็ต้องออกมาเจอให้อีกเพราะอดไม่ได้ที่อยากเจอพ่อ อยากเจอบราเดอร์ เพราะอันที่จริงพวกท่านก็ดีเหลือเกิน อยากเป็นเหมือนท่าน....ครับ มันก็เป็นแบบนี้...

• ขอเข้าบ้านเณร... แต่ขอบอกความจริง คะแนนการเรียนหรือเกรดไม่ถึงเกณฑ์ครับ หรือกล่าวเป็นภาษาง่ายๆคือ “ฉลาดไม่พอ หรือโง่ไปหน่อย” นั่นเอง แต่อยากเป็น อยากเป็นพระสงฆ์... อยากทำมิสซา เคยเอาผ้าขาวม้าของจา (บิดา) มาพับสองแล้วกรรไกรตัดกลางเป็นวงกลมให้เป็นเหมือนเสื้อพระสงฆ์เป็นที่สวมแบบเสื้อกาซูลา (โดนตีซะไม่มี) ก็เคยมาแล้ว อ้าวจาครับ...กาซูลาลายผ้าขาวม้าผิดด้วยหรอ... แหะๆ ผิดตรงที่เป็นผ้าขาวม้าของจานี่แหละที่เราเอาไปตัด ก็อยากทำมิสซานี่ แล้วผ้าขาวม้าจาก็พับสองเลาะตัดกลางสวมคอได้พอดี...

 • ที่สุดก็ได้ไปบ้านเณร พ่อเจ้าวัดบอกว่า ไปได้ เขาหลอกเราว่า ต้องได้ 70 เปอร์เซ็นต์ แต่อันที่จริงทางบ้านเณรเรียกร้องแค่ 60 เท่านั้น หลอกเพื่อท้าทายให้เราขยัน แต่ขยันแล้วได้แค่ 63 เท่านั้น จำได้ไม่เคยลืมเลือน...

• ไปอยู่บ้านเณรที่อยากไปจริงๆ แต่...สามคืนแรกร้องไห้ ก็อยากมานะ แต่ไม่เคยจากบ้านแบบนี้ ลำบากเหมือนกัน นอนเตียงก็ไม่เคย แต่ต้องนอนกเตียงปูด้วยเสื่อครั้งแรกในชีวิต... ความจริงก็ตกเตียงหลายรอบ (ไม่เคยนอนเตียงมาก่อน มันเจ็บนะครับ) โหต้องปรับตัวมาก

• การเรียนก็สุดๆ ฉลาดน้อยแต่ร่างใหญ่ ค่อยๆ ผ่านไป ผ่านไป เจ็ดปีที่บ้านเณรเล็ก หนึ่งปีที่โคราชบ้านเณรกลาง อีกเจ็ดปีที่บ้านเณรใหญ่ รวม 15 ปี... ที่สุด พระเจ้าก็พามา จูงมาก ลากมาก ประคองมา ช่วยมา ให้ปัญญา ให้ทุกอย่างที่พระองค์ต้องการใช้เพื่องานของพระองค์ เพื่อเป็นพระสงฆ์ของพระองค์ทำงานให้พระองค์....

• ในที่สุด 1993 ก็ได้บวชครับ จนได้ เหลือคนเดียวจาก 14 คนตั้งเข้าบ้านเณรชั้นมัธยมหนึ่ง

• แต่ก็เจ้าเด็กคนนี้แหละครับ คนนี้จริงๆครับ เด็กบ้านนอกคนนี้แหละครับ.... ปี ค.ศ. 1995 เดือนพฤษภาคม พระคุณเจ้าพระคาร์ดินัลได้ส่งไปเรียนต่อที่โรมในวิชาพระคัมภีร์ ที่ Biblicum สถาบันแสนหินของแท้ของพระศาสนจักร

• เจ้าเด็กบ้านนอกโกอินเตอร์อีกแล้ว... ไปได้งัยเนี่ย ได้นั่งเรือบินครั้งแรกก็ไปโรมนี่แหละ ตื่นเต้นสุดๆ ไปเรียนก็แสนโหดร้าย ซุ่มสุดๆ หนักสุดๆ เรียนภาษาเยอะแยะมากมายก่ายกอง 8 ภาษาเต็มๆ บ้าหรือเปล่านี่...ฮีบรูก็เรียนสุด กรีกก็เรียนสุดๆ อิตาเลียนพูดใช้ทุกวัน ลาตินก็เรียน ซีเรียคก็เรียนเขียนอ่าน อารามายอิก ฝรั่งเศส ส่วนอังกฤษน่ะใช้เขียนอ่านตำราตลอด.. มากไปเปล่าเนี่ย... รอดมาได้อย่างไรนี่... สรุป 1998 สามปีเท่านั้น จบได้อย่างไรหนอ และ 1999 ทำงาน มากมายอย่างที่คุยๆไว้ตอนต้นนั่นแหลครับ...มีอีกเยอะเลยที่ไม่ได้ใส่ไว้ครับ...

• สรุปกันหน่อยว่า “ใคร ใคร ใคร” ใครจะทำให้มาถึงยามนี้ได้ ใครนำมา ใครช่วยเหลือ ใครให้โอกาส ใครให้พร ใครประคับประคอง ใครเรียกมาจากบ้านนอกไกลปืนเที่ยง...ใครเล่าจะทำได้ “ถ้าไม่ใช่พระเจ้า”

• สรุปว่า พ่อโอ้อวดตนเองได้หรือ??? ไม่ได้เลยครับ... ตนเองจะอวดอะไร ผู้เดียวที่ขอโอ้อวด อวดใคร อวดใครได้ จะอวดใครได้ ถ้าไม่ใช่โอ้อวด “พระเจ้า” ผู้เดียว.....
 
• อ่านจดหมายนักบุญเปาโลวันนี้ ทำให้พ่อหันมาอ่านชีวิตของตนเอง และเล่าให้ฟัง หันไปดูสิครับ แท้จริงคือทุกอย่างนั้น...
-เป็นพระเจ้าจริงๆ ไม่ใช่เราเลย
-เราจะมีอะไรโอ้อวดครับ ถ้าไม่มีพระองค์
-ถ้าไม่มีพระศาสนจักรและพี่น้องคริสตชนรอบข้าง คนอย่างเราคนนี้จะเหลืออะไร...จริงๆ นะครับ...
-พ่อเองไม่มีอะไรจริงๆ แต่โชคดีที่สุดที่เรามีใครสักคนที่ทำได้ทุกอย่าง พาเรามาไกลเพียงนี้ ใครผู้นั้นคือ “พระเจ้าครับ”
-กล่าวถึงทั้งหมดเกี่ยวกับตัวพ่อในกระแสเรียกในทุกสิ่งที่ได้ทำ ที่ทำได้ และได้ทำต่อไป ไม่ว่าอะไร “พระเจ้ายิ่งใหญ่ผู้เดียว” Ad Maiorem Dei Gloriam (อัด มายอแรม เดอี กลอรีอัม) เพื่อพระเกียรติมงคลของพระเจ้าผู้เดียวจริงๆ ครับ
-ยิ่งมองทุกอย่างที่เราได้เป็น ได้ทำ ที่มี ที่สามารถ ถ้าไม่มีพระองค์ เราจะมีอะไรหนอ
-ถ้าพระองค์ไม่เรียกเรา ไม่พาเรา ไม่ประคับประคองช่วยเหลือมาเพื่อพระองค์ในงานนี้ ป่านนี้คงยังอยู่ที่เจ้าเจ็ด คงแก่หง่อมหน่อยแล้ว คงจะมีเป็ดหรือหมูสักเล้า ภรรยาน่าจะหนึ่งคน และลูกๆก็ไม่ทราบตามพระพรมั้ง...
-แต่ที่เราเป็นเช่นนี้ได้.... พระองค์ผู้เดียวเลย ขออวดถึงพระเจ้าของเราจริงๆ พระเจ้าจริงๆ พระองค์ต้องการแบบนี้ ทั้งหมดมาจากพระองค์ เพื่อพระองค์
-วันนี้ขอโออวดถึงพระเจ้าหน่อยนะครับ ถ้าเราทำอะไรได้ ทำอะไรดี ทำอะไรเก่ง ยกให้พระองค์หมดเลยจริงครับ ไม่มีพระองค์เราก็ไม่มีอะไรจะอวดครับ ขอพ่ออวดพระเจ้านะครับ พระองค์สุดยอดยิ่งใหญ่ตลอดไป....
 
• อ่านพระคัมภีร์นะครับ นักบุญเปาโลสอนเราด้วยประสบการณ์ของท่านจริงๆ ประสบการณ์ของท่านและของเราทุกคนมีค่าเพราะมีพระเจ้า...

• จากพระคัมภีร์ เปาโลเน้นให้เราได้เห็นประสบการณ์ตนเองว่า พระเจ้าอยู่เสมอกับเราจริงๆ... พระเจ้าอวยพรครับ.... ถ้ามีอะไรสักนิดที่จะชมชื่นพ่อ...อย่าชมพ่อเลย ชื่นชมสรรเสริญพระเจ้าเถอะ...

• อวดโอ้คุยถึงพระองค์ได้เลยครับ...จริงๆ... พระเจ้าอวยพรครับ... เราทุกคนอวดได้เลยครับ ว่า “เราเป็นลูกพระเจ้าครับ” ไม่ว่าจะเป็นพระสงฆ์ นักบวช หรือคริสตชนฆราวาส เราเหมือนกันครับ อวดได้เลยครับ พระเจ้าเป็น “พระบิดาของเรา”

• เจอใครต่อใครนะ ถามเลยว่า “นี่...รู้ไหมว่าฉันลูกใคร????” “ฉันลูกของพระเจ้านะครับ” คุยได้เลยครับ ..... อ้อและอย่าลืมมุ่งมั่นทำตนประพฤติตนให้สมกับเป็นลูกพระด้วยนะครับสำคัญที่สุด

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก