“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

กษัตริย์เฮเซคียาห์ทรงปรึกษาประกาศกอิสยาห์

19 1เมื่อกษัตริย์เฮเซคียาห์ทรงได้ยินเรื่องนี้ ก็ทรงฉีกฉลองพระองค์แสดงความเศร้าโศก ทรงสวมเสื้อผ้ากระสอบ แล้วเสด็จขึ้นไปยังพระวิหารของพระยาห์เวห์ 2ทรงส่งเอลียาคิมผู้ดูแลพระราชวัง เชบนาห์ราชเลขา และสมณะผู้อาวุโสไปพบประกาศกอิสยาห์บุตรของอามอสa คนเหล่านี้สวมเสื้อผ้ากระสอบเช่นเดียวกับกษัตริย์ 3เขาบอกประกาศกว่า “กษัตริย์เฮเซคียาห์ตรัสว่า ‘วันนี้เป็นวันที่เราต้องทนทุกข์ ถูกลงโทษและต้องอับอาย เป็นเหมือนเด็กที่จะต้องเกิด แต่แม่ไม่มีลมเบ่งb กษัตริย์แห่งอัสซีเรียเจ้านายของรองผู้บัญชาการพระราชวังทรงส่งเขามาพูดดูหมิ่นพระเจ้าผู้ทรงชีวิต ขอให้พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงได้ยินถ้อยคำเหล่านี้ และทรงลงโทษเขาเพราะถ้อยคำที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงได้ยิน ขอท่านโปรดอธิษฐานภาวนาสำหรับผู้ที่ยังมีชีวิตรอดอยู่cด้วยเถิด’”

5ข้าราชบริพารของกษัตริย์เฮเซคียาห์มาพบประกาศกอิสยาห์ 6ประกาศกพูดกับเขาว่า “จงไปบอกเจ้านายของท่านว่า ‘พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ อย่ากลัวเพราะถ้อยคำที่ท่านได้ยิน และถ้อยคำที่ข้าราชบริพารของกษัตริย์แห่งอัสซีเรียได้พูดดูหมิ่นเรา 7บัดนี้ เราจะบันดาลให้dกษัตริย์แห่งอัสซีเรียได้ยินข่าวที่จะทำให้เขาต้องกลับไปยังแผ่นดินของตน เราจะทำให้เขาถูกฆ่าที่นั่น’”

 

กษัตริย์เซนนาเคริบทรงข่มขู่กษัตริย์เฮเซคียาห์อีกครั้งหนึ่ง

8รองผู้บัญชาการพระราชวังได้ยินว่า กษัตริย์แห่งอัสซีเรียเสด็จจากเมืองลาคีชไปโจมตีเมืองลิบนาห์ จึงกลับไปเฝ้าพระองค์ที่นั่น

9เมื่อกษัตริย์เซนนาเคริบทรงทราบว่ากษัตริย์ทีรหะคาห์ชาวคูชe กำลังยกทัพอียิปต์มาโจมตีพระองค์

 

กษัตริย์เซนนาเคริบทรงส่งสารมาถึงเฮเซคียาห์

กษัตริย์เซนนาเคริบจึงทรงส่งผู้นำสารมาเฝ้ากษัตริย์เฮเซคียาห์ ทรงสั่งว่า 10“ท่านทั้งหลายจงบอกเฮเซคียาห์กษัตริย์แห่งยูดาห์ว่า ‘อย่าให้พระเจ้าซึ่งท่านวางใจนั้นลวงท่านได้โดยสัญญาว่ากรุงเยรูซาเล็มจะไม่ตกอยู่ในมือของกษัตริย์แห่งอัสซีเรีย 11บัดนี้ ท่านก็รู้แล้วว่า บรรดากษัตริย์แห่งอัสซีเรียทรงทำสิ่งใดกับแผ่นดินทั้งหลายที่ทรงทำลายล้าง แล้วท่านจะรอดพ้นหรือ 12บรรดาเทพเจ้าของชนชาติต่างๆ ซึ่งบรรพบุรุษของเราทำลายล้างนั้นเคยช่วยเหลือชาวเมืองโกซาน ฮาราน เรเซฟ และชาวเอเดน ซึ่งอยู่ในแคว้นเทลบาซาร์fให้รอดพ้นหรือ 13กษัตริย์แห่งเมืองคามัท เมืองอารปัด เมืองลาอีร์g เมืองเสฟารวาอิม เมืองเคนา เมืองอัฟวา อยู่ที่ใดเล่า’”

14กษัตริย์เฮเซคียาห์ทรงอ่านพระราชสาสน์hจากผู้นำสาร แล้วเสด็จขึ้นไปยังพระวิหารของพระยาห์เวห์ ทรงกางพระราชสาสน์นั้นเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์ 15แล้วทรงอธิษฐานว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล พระองค์ประทับอยู่เหนือเครูบ พระองค์ผู้เดียวทรงเป็นพระเจ้าปกครองทุกอาณาจักรบนแผ่นดิน พระองค์ทรงสร้างท้องฟ้าและแผ่นดิน 16ข้าแต่พระยาห์เวห์ โปรดเงี่ยพระกรรณและทรงฟัง ข้าแต่พระยาห์เวห์ โปรดทอดพระเนตรและมองดู โปรดทรงฟังถ้อยคำที่เซนนาเคริบส่งมาพูดดูหมิ่นพระเจ้าผู้ทรงชีวิต 17ข้าแต่พระยาห์เวห์ เป็นความจริงที่กษัตริย์แห่งอัสซีเรียทรงทำลายล้างชนชาติต่างๆ และแผ่นดินของเขาiแล้ว 18ทรงทิ้งเทพเจ้าของชนชาติเหล่านั้นลงในไฟ เทพเจ้าทั้งหลายไม่ใช่พระเจ้า แต่เป็นเพียงผลงานจากมือมนุษย์ เป็นเพียงไม้และหิน ชาวอัสซีเรียจึงทำลายได้ 19บัดนี้ ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพเจ้าทั้งหลาย โปรดทรงช่วยข้าพเจ้าทั้งหลายให้รอดพ้นจากมือของเขา แล้วทุกอาณาจักรบนแผ่นดินจะรู้ว่าพระองค์ ข้าแต่พระยาห์เวห์ ทรงเป็นพระเจ้าเพียงพระองค์เดียว”

 

คำแนะนำของประกาศกอิสยาห์

20อิสยาห์บุตรของอามอสจึงส่งคนไปทูลกษัตริย์เฮเซคียาห์ว่า “พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสว่า ‘เราได้ยินคำอธิษฐานภาวนาของท่านเรื่องกษัตริย์เซนนาเคริบแห่งอัสซีเรียแล้ว’” 21พระยาห์เวห์ตรัสพระวาจานี้กล่าวโทษเขาว่าj

 “ศิโยนซึ่งเป็นเสมือนหญิงสาวพรหมจารีสบประมาทท่าน ดูถูกท่าน

กรุงเยรูซาเล็มสั่นศีรษะเย้ยหยันท่าน

22ท่านเยาะเย้ยและกล่าวร้ายใครกัน

ท่านพูดจาโอหัง ทอดสายตาดูหมิ่นใครเล่า

ท่านลบหลู่พระผู้ศักดิ์สิทธิ์แห่งอิสราเอล

23ท่านส่งผู้ถือสารมาสบประมาทพระยาห์เวห์ พูดว่า

ข้ามีรถศึกมากมาย

ข้าได้ขึ้นไปบนภูเขาสูง

ไปถึงยอดภูเขาเลบานอน

ข้าได้โค่นkต้นสนสีดาร์สูงสุด

โค่นต้นสนงามที่สุด

ข้าไปถึงแดนไกล

เข้าไปในป่าลึกที่สุด

24ข้าได้ขุดบ่อและดื่มน้ำในต่างแดน

เท้าของข้าย่ำลำน้ำทุกสายของอียิปต์จนแห้ง”l

25“ท่านไม่เคยได้ยินหรือว่าเรามีแผนจะทำเช่นนี้นานมาแล้ว

เราคิดเช่นนี้ในอดีต

บัดนี้ เราจะทำให้แผนนี้เป็นจริง

เราให้ท่านมีอำนาจทำลายเมืองป้อมปราการ

พังทลายลงเป็นกองหิน

26ผู้อาศัยในเมืองเหล่านั้นหมดอำนาจ

ต่างหวาดกลัวและอับอาย

เป็นเสมือนหญ้าในทุ่งนา

หรือหญ้าอ่อนบนหลังคา

ที่แห้งไปเมื่อลมร้อนจากทิศตะวันออกพัดมาm

27ท่านจะนั่งหรือจะยืนn

ท่านจะออกหรือจะเข้า เราก็รู้เรื่องของท่านทุกอย่าง

28ท่านโกรธเรา

คำสบประมาทของท่านขึ้นมาถึงหูของเรา

เราจะใช้เบ็ดเกี่ยวจมูกของท่าน

เอาบังเหียนใส่ปากของท่าน

ทำให้ท่านต้องถอยกลับ

ไปตามทางที่ท่านมา”

 

เครื่องหมายจากพระเจ้า

29ประกาศกอิสยาห์ทูลกษัตริย์เฮเซคียาห์ว่า

“นี่จะเป็นเครื่องหมายoบอกเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น

ปีนี้ทุกคนจะกินข้าวที่งอกจากเมล็ดที่ตกค้างอยู่

ปีหน้าเขาจะกินข้าวที่งอกขึ้นเอง

แต่ปีที่สาม เขาจะหว่านและเก็บเกี่ยว

จะปลูกสวนองุ่นและกินผลจากสวน

30ผู้ที่เหลือรอดชีวิตของอาณาจักรยูดาห์

จะเป็นเหมือนต้นไม้ที่หยั่งรากลงลึก และออกผลมากมายอีก

31ชนส่วนที่เหลือจะออกมาจากกรุงเยรูซาเล็ม

ผู้รอดชีวิตจะออกมาจากภูเขาศิโยน

พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งสากลโลกจะทรงกระทำเช่นนี้ เพราะความรักเปี่ยมล้นของพระองค์”

32พระยาห์เวห์ตรัสถึงกษัตริย์แห่งอัสซีเรียว่า

          “เขาจะไม่เข้าเมืองนี้

จะไม่ยิงธนูใส่เมืองนี้

จะไม่มีทหารถือโล่เข้ามาใกล้

จะไม่สร้างเนินดินเพื่อปีนกำแพงเมือง

33เขาจะต้องกลับไปตามทางที่เขามา

เขาจะไม่เข้าเมืองนี้ พระยาห์เวห์ตรัส

34เราจะป้องกันและช่วยเมืองนี้ให้รอดพ้น

เพราะเห็นแก่เรา และเห็นแก่ดาวิดผู้รับใช้ของเรา”

 

กษัตริย์เซนนาเคริบทรงรับโทษ

35คืนนั้น ทูตสวรรค์ของพระยาห์เวห์ไปที่ค่ายของชาวอัสซีเรียและฆ่าทหารหนึ่งแสนแปดหมื่นห้าพันคน เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น เมื่อทหารที่เหลือตื่นขึ้น ก็เห็นซากศพเหล่านั้นp

36กษัตริย์เซนนาเคริบแห่งอัสซีเรียทรงยกทัพกลับไปอยู่ที่กรุงนีนะเวห์ 37วันหนึ่ง เมื่อพระองค์กำลังทรงนมัสการอยู่ในวิหารของเทพเจ้านิสโรกq พระโอรสสององค์[1] คืออัดรัมเมเลคและชาเรเซอร์ทรงปลงพระชนม์กษัตริย์ด้วยดาบ แล้วทรงหลบหนีไปยังแผ่นดินอารารัท เอสารฮัดโดนพระโอรสอีกองค์หนึ่งทรงครองราชย์สืบต่อมา

 

19 a กษัตริย์เฮเซคียาห์ทรงปรึกษาประกาศกอิสยาห์เช่นเดียวกับที่กษัตริย์แห่งอิสราเอลและยูดาห์เคยทรงปรึกษาประกาศกเอลียาห์และเอลีชาในเรื่องการทำสงคราม (ดู 2:9ฯ; 3:11ฯ; 6:8ฯ; 1 พกษ 22:8ฯ)

b “เหมือนเด็ก...ลมเบ่ง” คงเป็นคำพังเพยหมายถึงสถานการณ์คับขันที่หมดหวังจะหาใครมาช่วยได้

c ความคิดที่ว่าประชากรอิสราเอลจะยังมีชนกลุ่มหนึ่งรอดชีวิตอยู่ไม่ถูกทำลายล้าง (“ประชาชนที่ยังมีชีวิตรอด”) เป็นความคิดสำคัญข้อหนึ่งในคำเทศน์สอนของประกาศกอิสยาห์ (ดู อสย 4:3 เชิงอรรถ c และในบทนี้ข้อ 30-31)

d “บันดาลให้...” แปลตามตัวอักษรว่า “ส่งจิตใน...”

e “ทีรหะคาห์ชาวคูช” กษัตริย์ฟาโรห์พระองค์นี้อยู่ในราชวงศ์ที่ยี่สิบห้า มีชาติกำเนิดเป็นชาวเอธิโอเปีย (ชาวคูช) ทรงครองราชย์ตั้งแต่ปี 690 ถึง 664 ก่อน ค.ศ. พระองค์ไม่น่าจะทรงสมภพก่อนปี 715 ก่อน ค.ศ. จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะทรงยกทัพมาต่อสู้กับชาวอัสซีเรียในปี 701 ก่อน ค.ศ. อาจเป็นไปได้ว่าพระคัมภีร์นำเรื่องสงครามสองเรื่องของกษัตริย์เซนนาเคริบมารวมไว้ด้วยกัน สงครามครั้งแรกเกิดขึ้นในปี 701 และมีบันทึกไว้ในพงศาวดารของชาวอัสซีเรีย สงครามครั้งที่สองเกิดขึ้นในปี 689-688 ก่อน ค.ศ. แต่ไม่มีบันทึกไว้ในพงศาวดารของชาวอัสซีเรีย กษัตริย์ฟาโรห์ทีรหะคาห์คงทรงยกทัพมาช่วยกษัตริย์เฮเซคียาห์ในสงครามครั้งที่สองนี้ (689-688)

f “แคว้นเทลบาซาร์” แปลโดยคาดคะเน ต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า “เทลอัสสาร์”

g “ลาอีร์” สำเนาโบราณภาษาฮีบรูบางฉบับไม่มีคำ “ลาอีร์” ซึ่งพบใน อสย 37:13

h “พระราชสาสน์” แปลตามต้นฉบับภาษากรีกฉบับคัดลอกของลูเซียน ต้นฉบับภาษาฮีบรูเป็นพหูพจน์

i ต้นฉบับภาษากรีกละ “และแผ่นดินของเขา”

j บทประพันธ์บทนี้มีลีลาการเขียนตามแบบของประกาศกอิสยาห์ แต่คงถูกขัดเกลาโดยศิษย์คนหนึ่งของประกาศก บทประพันธ์บทนี้กล่าวทำนายถึงสามเหตุการณ์ มีแต่เรื่องที่ตอนที่สาม (ข้อ 32-34) เท่านั้นที่กล่าวถึงเหตุการณ์ที่กรุงเยรูซาเล็มรอดพ้นจากการล้อมของกษัตริย์เซนนาเคริบในปี 701 ก่อน ค.ศ.

k คำกริยาในข้อ 23-25 ต้นฉบับภาษากรีกอยู่ในอดีตกาล แต่ในต้นฉบับภาษาฮีบรูอยู่ในอนาคตกาล

l กษัตริย์อัสซีเรียองค์แรกที่รุกรานอียิปต์คือกษัตริย์เอสารฮัดโดน พระโอรสของเซนนาเคริบ

m “ที่แห้งไป...พัดมา” แปลโดยคาดคะเน และตามสำเนาโบราณภาษาฮีบรูบางฉบับ

n “หรือจะยืน” ต้นฉบับภาษาฮีบรูละคำนี้ ซึ่งน่าจะมีเมื่อเทียบกับ สดด 139:2

o “เครื่องหมาย” ที่ประกาศกอิสยาห์ให้ไว้นี้ไม่น่าจะเป็นไปได้ถ้าเข้าใจตามตัวอักษร ซึ่งหมายความว่าชาวยูดาห์จะหว่านพืชผลไม่ได้ถึงสองปี เพราะกษัตริย์เซนนาเคริบไม่ประทับอยู่ในปาเลสไตน์นานถึงสองปี แต่ทรงยกทัพกลับไปทันที (ข้อ 35) คำอธิบายอาจเป็นว่าคำพยากรณ์นี้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่ต่างจากการล้อมกรุงเยรูซาเล็มคราวนี้ หรือมิฉะนั้นอาจมีความหมายแบบกว้างๆ ว่า หลังจากความยากลำบาก กรุงเยรูซาเล็มจะได้รับการปลดปล่อย

p การที่ทูตสวรรค์ฆ่าฟันทหารอัสซีเรียจำนวนมากเช่นนี้อาจหมายความว่า กองทัพอัสซีเรียถูกโรคระบาดทำให้ทหารต้องเสียชีวิตจำนวนมาก (ดู 2 ซมอ 24:15ฯ; สดด 91)

q ชื่อ “นิสโรก” ไม่เป็นที่รู้จัก อาจเพี้ยนมาจากคำว่า “นีนูรตา” หรือ “นุสคู” ซึ่งเป็นเทพเจ้าของอัสซีเรีย

[1] “พระโอรสสององค์” ไม่มีในต้นฉบับภาษาฮีบรู แปลตามสำนวนแปลโบราณ และตาม อสย 37:38 ตามความเป็นจริง กษัตริย์เซนนาเคริบถูกปลงพระชนม์มิใช่ในปี 701 ก่อน ค.ศ. แต่ในปี 681 ก่อน ค.ศ.

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก