“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

ข. สงครามกับชาวโมอับ

 

รัชสมัยกษัตริย์เยโฮรัมแห่งอิสราเอล (852-841 ก่อน ค.ศ.)

3 1ปีที่สิบแปดของรัชกาลกษัตริย์เยโฮชาฟัทแห่งยูดาห์ เยโฮรัมพระโอรสของกษัตริย์อาคับทรงเป็นกษัตริย์ปกครองอิสราเอลที่กรุงสะมาเรีย ทรงครองราชย์อยู่สิบสองปีa 2พระองค์ทรงกระทำความชั่วเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์ แต่ไม่เท่ากับพระบิดาและพระมารดา พระองค์ทรงทำลายเสาศักดิ์สิทธิ์ของพระบาอัลที่พระบิดาทรงสร้างไว้ 3แต่พระองค์ยังทรงติดอยู่กับบาปของเยโรโบอัมบุตรของเนบัท ที่ทรงนำอิสราเอลให้ทำบาป พระองค์ไม่ทรงเลิกกระทำเช่นนี้

 

อิสราเอลและยูดาห์รวมกำลังพลเข้าโจมตีโมอับ

4กษัตริย์เมชาแห่งโมอับbทรงเลี้ยงแกะ ต้องทรงส่งลูกแกะหนึ่งแสนตัวและขนแกะเพศผู้หนึ่งแสนตัวมาถวายเป็นบรรณาการแด่กษัตริย์แห่งอิสราเอล 5เมื่อกษัตริย์อาคับสิ้นพระชนม์ กษัตริย์แห่งโมอับเป็นกบฏต่อกษัตริย์แห่งอิสราเอล

6กษัตริย์เยโฮรัมทรงระดมพลอิสราเอลทั้งหมด ยกออกไปจากกรุงสะมาเรียทันที 7แล้วทรงส่งสารไปถึงกษัตริย์เยโฮชาฟัทcแห่งยูดาห์ว่า “กษัตริย์แห่งโมอับเป็นกบฏต่อข้าพเจ้า พระองค์จะทรงยกทัพมาช่วยข้าพเจ้าทำสงครามกับโมอับหรือไม่” กษัตริย์แห่งยูดาห์ทรงตอบว่า “ข้าพเจ้าจะไป ถ้าพระองค์ทรงพร้อม ข้าพเจ้าก็พร้อม กองทัพของข้าพเจ้าก็พร้อม กองทัพม้าของข้าพเจ้าก็พร้อมด้วย” 8กษัตริย์เยโฮชาฟัททรงถามว่า “เราจะใช้เส้นทางไหนเข้าโจมตี” กษัตริย์แห่งอิสราเอลตรัสตอบว่า “ทางถิ่นทุรกันดารเอโดม”

9กษัตริย์แห่งอิสราเอล กษัตริย์แห่งยูดาห์ และกษัตริย์แห่งเอโดมdทรงออกเดินทาง เดินอ้อมเป็นเวลาเจ็ดวัน ไม่มีน้ำเหลือให้กองทัพหรือสัตว์บรรทุกสัมภาระกิน 10กษัตริย์แห่งอิสราเอลทรงร้องว่า “หมดหนทางแล้วหรือ พระยาห์เวห์ทรงเรียกพวกเราทั้งสามคนมาเพื่อมอบไว้ในมือของโมอับ” 11กษัตริย์เยโฮชาฟัทตรัสถามว่า “ที่นี่ไม่มีประกาศกของพระยาห์เวห์ที่เราจะปรึกษาพระยาห์เวห์ได้หรือ” ข้าราชบริพารคนหนึ่งของกษัตริย์แห่งอิสราเอลทูลตอบว่า “เอลีชาบุตรของชาฟัทอยู่ที่นี่ เขาเคยเป็นผู้ช่วยประกาศกเอลียาห์”* 12กษัตริย์เยโฮชาฟัทตรัสว่า “เขาเป็นผู้ประกาศพระวาจาของพระยาห์เวห์อย่างแท้จริง” กษัตริย์แห่งอิสราเอล กษัตริย์เยโฮชาฟัทและกษัตริย์แห่งเอโดมจึงเสด็จไปพบเขา 13เอลีชาทูลถามกษัตริย์แห่งอิสราเอลว่า “พระองค์เสด็จมาพบข้าพเจ้าทำไม จงเสด็จไปถามบรรดาประกาศกของพระบิดา และบรรดาประกาศกของพระมารดาของพระองค์เถิด” กษัตริย์แห่งอิสราเอลตรัสตอบว่า “ไม่ได้ เพราะพระยาห์เวห์ทรงเรียกเราทั้งสามคน เพื่อทรงมอบเราให้ตกอยู่ในมือของโมอับ” 14เอลีชาทูลตอบว่า “พระยาห์เวห์จอมจักรวาลซึ่งข้าพเจ้ารับใช้ ทรงพระชนม์อยู่ฉันใด ข้าพเจ้าคงจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับพระองค์ และไม่มองพระองค์เลยฉันนั้น ถ้าข้าพเจ้าไม่เคารพนับถือกษัตริย์เยโฮชาฟัทแห่งยูดาห์ 15บัดนี้ ขอทรงนำนักดีดพิณมาให้ข้าพเจ้าเถิด”e ขณะที่นักดนตรีกำลังดีดพิณ พระอานุภาพของพระยาห์เวห์ก็มาอยู่เหนือเอลีชา 16เขาประกาศว่า “พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ ‘จงขุดคูหลายๆ แห่งในหุบเขานี้’ 17เพราะพระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ว่า ‘แม้ท่านทั้งหลายจะไม่เห็นลมพัด ไม่เห็นฝน หุบเขาแห่งนี้ก็จะมีน้ำเต็ม แล้วท่าน กองทัพf และสัตว์บรรทุกสัมภาระจะมีน้ำดื่ม 18พระยาห์เวห์จะทรงกระทำการยิ่งใหญ่กว่านี้อีก พระองค์จะทรงมอบโมอับให้อยู่ในมือของท่าน 19ท่านจะบุกเข้าโจมตีเมืองป้อมปราการและเมืองสำคัญgทุกเมือง จะโค่นไม้ผลทุกต้น จะกลบพุน้ำทั้งหลาย และจะเอาหินถมทำลายไร่นาที่อุดมสมบูรณ์ทั้งหมด’” 20เช้าวันรุ่งขึ้น เวลาถวายเครื่องบูชา ก็มีน้ำไหลมาจากทางเมืองเอโดมจนมีน้ำท่วมเต็มแผ่นดินนั้น

21เมื่อชาวโมอับได้ยินว่ากษัตริย์สามพระองค์ทรงยกมาโจมตี เขาจึงระดมพลชายทุกคนที่มีอายุพอจะใช้อาวุธได้ให้มาประจำอยู่ที่ชายแดน 22เมื่อเขาทั้งหลายลุกขึ้นตอนเช้า ดวงอาทิตย์ส่องแสงเหนือน้ำ ชาวโมอับเห็นแต่ไกลว่าน้ำมีสีแดงเหมือนเลือดh 23จึงพูดกันว่า “นั่นเป็นเลือด กษัตริย์ทั้งสามพระองค์คงต่อสู้กันเองและฆ่ากันตาย ชาวโมอับทั้งหลาย จงเข้าไปปล้นค่ายกันเถิด” 24เมื่อเขาไปถึงค่ายของอิสราเอล ชาวอิสราเอลก็ลุกขึ้นเข้าโจมตีไล่ชาวโมอับให้หนีกลับไปต่อหน้าเขา แล้วรุกเข้าไปในดินแดนi ไล่ฆ่าฟันชาวโมอับ 25ทำลายเมืองต่างๆ แต่ละคนโยนก้อนหินลงไปในไร่นาที่อุดมสมบูรณ์จนเต็ม เขากลบพุน้ำทุกแห่ง โค่นไม้ผลทุกต้น เหลืออยู่แต่เมืองคีร์หะเรเชทj ซึ่งนักยิงก้อนหินเข้าล้อมและเริ่มยิงก้อนหินเข้าใส่ 26เมื่อกษัตริย์แห่งโมอับทรงเห็นว่ากำลังแพ้ จึงทรงนำทหารดาบเจ็ดร้อยคนตีฝ่าวงล้อมของศัตรู หนีไปทางด้านกษัตริย์แห่งเอโดมk แต่ไม่สำเร็จ 27พระองค์จึงทรงนำพระโอรสองค์แรกซึ่งจะต้องขึ้นเป็นกษัตริย์สืบต่อจากพระองค์มาถวายเป็นเครื่องเผาบชาบนกำแพงเมือง ชาวอิสราเอลตกใจมากl จึงถอยทัพกลับดินแดนของตน

 

3 a เลข 12 นี้คงได้คำนวณโดยใช้ข้อมูลจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือนัก ตามการคำนวณโดยทั่วไป กษัตริย์เยโฮรัมแห่งอิสราเอลครองราชย์อยู่นานเพียงแปดปีเท่านั้น

b ศิลาจารึกของกษัตริย์เมชา ซึ่งพบที่เมืองดีโบนกล่าวว่าแคว้นโมอับเป็นประเทศราชของอิสราเอลในรัชกาลกษัตริย์อมรีและอาคับ และยังกล่าวถึงสงครามกู้อิสรภาพ แต่ไม่กล่าวถึงความพ่ายแพ้ดังที่มีเล่าไว้ที่นี่

c ที่นี่ และข้อ 11, 12, 14 ต้นฉบับภาษาฮีบรูบอกว่าเยโฮชาฟัทเป็นกษัตริย์ของยูดาห์ในขณะนั้น แต่ตามลำดับเหตุการณ์ สงครามนี้น่าจะเกิดขึ้นในรัชสมัยของเยโฮรัมพระโอรสของเยโฮชาฟัท การที่ต้นฉบับภาษาฮีบรูกล่าวถึงกษัตริย์เยโฮชาฟัทที่นี่ น่าจะเป็นเพราะความจงรักภักดีที่กษัตริย์พระองค์นี้ทรงมีต่อพระยาห์เวห์ ดังที่เราพบใน 1 พกษ 22

d กษัตริย์แห่งอิสราเอลทรงขอความร่วมมือจากกษัตริย์แห่งยูดาห์และความช่วยเหลือจากเอโดม ซึ่งเป็นประเทศราชของกษัตริย์แห่งยูดาห์ เพื่อเข้าโจมตีโมอับจากทิศใต้ โดยอ้อมผ่านทะเลตายทางแผ่นดินเอโดม

* “ผู้ช่วยประกาศกเอลียาห์” แปลตามตัวอักษรว่า “ผู้เทน้ำลงในมือของเอลียาห์”

e ดนตรีช่วยประกาศกให้เข้าภวังค์ติดต่อกับพระเจ้าได้ง่ายขึ้น

f “กองทัพ” แปลตามต้นฉบับภาษากรีก ต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า “ฝูงแกะ”

g “เมืองสำคัญ” ต้นฉบับภาษากรีกละคำนี้

h สีแดงในน้ำอาจเป็นเพราะแสงสะท้อนของดวงอาทิตย์และจากสีแดงของทรายในลำห้วยเอลเฮสา ในที่นี้มีการเล่นคำภาษาฮีบรูระหว่าง ’adom (สีแดง) และคำว่า dam (เลือด) และชื่อ “เอโดม”

i “รุกเข้าไปในดินแดน” แปลโดยคาดคะเนตามต้นฉบับภาษากรีก ต้นฉบับภาษาฮีบรูไม่ชัดเจน

j “เหลืออยู่แต่เมืองคีร์หะเรเชท” แปลโดยคาดคะเน ต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า “ก้อนหินของเมืองที่คีร์หะเรเชท” คีร์หะเรเชทเป็นราชธานีของโมอับ (อสย 16:7; ยรม 48:31, 36) ตั้งอยู่บริเวณเมืองเครักในปัจจุบัน

k “เอโดม” บางคนสันนิษฐานว่า กษัตริย์แห่งโมอับน่าจะหนีไปขอความช่วยเหลือจากอารัม (ซีเรีย) มากกว่าจาก “เอโดม” ซึ่งเป็นศัตรูและเป็นพันธมิตรของอิสราเอลและยูดาห์ แต่ที่นี่อาจเป็น “เอโดม” ก็ได้ เพราะเอโดมเป็นพันธมิตรที่ไม่ค่อยจะซื่อสัตย์ต่ออิสราเอลหรือยูดาห์ (เทียบ 8:20)

l “ชาวอิสราเอลตกใจมาก” แปลโดยคาดคะเน แปลตามตัวอักษรว่า “โกรธ” กษัตริย์โมอับถวายพระโอรสองค์แรกเป็นเครื่องบูชาแด่เทพเจ้าเคโมช เพื่อขอความช่วยเหลือจากเทพเจ้าในสถานการณ์สิ้นหวังเช่นนี้ พิธีกระทำบนกำแพงเมืองให้ทุกคนแลเห็น เพื่อกองทัพชาวโมอับจะมีกำลังใจขึ้น ในขณะที่ชาวอิสราเอลที่ล้อมเมืองจะต้องตกใจกลัวและคิดว่าเทพเจ้าเคโมชจะต้องเข้าช่วยเหลือชาวโมอับอย่างแน่นอน

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก