“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

กษัตริย์เยโฮชาฟัททรงทำสนธิสัญญากับกษัตริย์อาคับแห่งอิสราเอลa

18 1กษัตริย์เยโฮชาฟัททรงมั่งคั่งและทรงเกียรติใหญ่ยิ่ง พระองค์ทรงจัดให้พระโอรสอภิเษกสมรสกับพระธิดาของกษัตริย์อาคับb 2หลายปีต่อมา พระองค์เสด็จไปเฝ้ากษัตริย์อาคับที่กรุงสะมาเรีย กษัตริย์อาคับทรงสั่งให้ฆ่าแกะและโคจำนวนมากเลี้ยงฉลองเป็นเกียรติแด่พระองค์และข้าราชบริพารที่ตามเสด็จมาด้วย ทรงชักชวนกษัตริย์เยโฮชาฟัทให้รวมกำลังพลยกไปโจมตีเมืองราโมทกิเลอาดc 3กษัตริย์อาคับแห่งอิสราเอลตรัสถามกษัตริย์เยโฮชาฟัทแห่งยูดาห์ว่า “พระองค์จะเสด็จไปโจมตีเมืองราโมทกิเลอาดกับข้าพเจ้าไหม” กษัตริย์เยโฮชาฟัททูลตอบว่า “ถ้าพระองค์ทรงพร้อม ข้าพเจ้าก็พร้อม กองทัพของข้าพเจ้าก็พร้อมเหมือนกองทัพของพระองค์ พร้อมจะออกไปกับพระองค์เพื่อทำสงคราม”

 

ประกาศกเทียมทำนายถึงชัยชนะ

            4กษัตริย์เยโฮชาฟัทตรัสกับกษัตริย์แห่งอิสราเอลว่า “จงทูลถามความเห็นจากพระยาห์เวห์ก่อนเถิด” 5กษัตริย์แห่งอิสราเอลทรงเรียกบรรดาประกาศกจำนวนสี่ร้อยคนมาประชุมกัน แล้วทรงถามว่า “เราควรจะเข้าโจมตีเมืองราโมทกิเลอาดหรือไม่” เขาทั้งหลายตอบว่า “จงเข้าโจมตีเถิด พระเจ้าทรงมอบเมืองนั้นไว้ในอำนาจของกษัตริย์” 6แต่กษัตริย์เยโฮชาฟัทตรัสถามว่า “ที่นี่ไม่มีประกาศกของพระยาห์เวห์ที่เราจะทูลถามพระยาห์เวห์ได้อีกหรือ” 7กษัตริย์แห่งอิสราเอลตรัสตอบกษัตริย์เยโฮชาฟัทว่า “ยังมีอีกคนหนึ่งซึ่งเราจะทูลถามพระยาห์เวห์ได้ แต่ข้าพเจ้าเกลียดเขา เพราะเขาไม่เคยทำนายเรื่องดีๆ ให้ข้าพเจ้าเลย มีแต่จะทำนายเรื่องร้ายๆเท่านั้น เขาชื่อมีคายาห์บุตรของอิมลาห์” กษัตริย์เยโฮชาฟัทตรัสตอบว่า “พระองค์ไม่ควรตรัสเช่นนั้น” 8กษัตริย์แห่งอิสราเอลจึงทรงเรียกข้าราชสำนักคนหนึ่งเข้ามา รับสั่งให้ไปนำมีคายาห์บุตรของอิมลาห์เข้ามาเฝ้าทันที

          9กษัตริย์แห่งอิสราเอลและกษัตริย์เยโฮชาฟัทแห่งยูดาห์ทรงเครื่องทรงกษัตริย์ ประทับบนบัลลังก์ที่ลานนวดข้าวตรงประตูกรุงสะมาเรีย บรรดาประกาศกทั้งหลายกล่าวคำทำนายเฉพาะพระพักตร์ทั้งสองพระองค์ 10เศเดคียาห์บุตรของเคนาอะนาห์เอาเหล็กมาทำเป็นรูปเขาสัตว์ แล้วทูลว่า “พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ ‘ท่านจะใช้เขาสัตว์ทำด้วยเหล็กเหล่านี้ขวิดชาวอารัม จนทำลายให้หมดสิ้น’” 11ประกาศกทุกคนกล่าวทำนายเช่นเดียวกันให้เข้าโจมตีเมืองราโมทกิเลอาดแล้วจะประสบชัยชนะ พระยาห์เวห์จะทรงมอบเมืองนั้นไว้ในอำนาจของกษัตริย์

 

ประกาศกมีคายาห์ทำนายถึงความพ่ายแพ้

            12ข้าราชสำนักที่ไปเรียกมีคายาห์บอกเขาว่า “บรรดาประกาศกทำนายเป็นเสียงเดียวกันว่ากษัตริย์จะประสบความสำเร็จ ขอให้คำทำนายของท่านเป็นเหมือนคำทำนายของเขา จงทำนายแต่ความสำเร็จเถิด” 13มีคายาห์ตอบว่า “พระยาห์เวห์ทรงพระชนม์อยู่ฉันใด ข้าพเจ้าจะกล่าวตามที่พระเจ้าของข้าพเจ้าทรงสั่งฉันนั้น” 14เมื่อเขามาเฝ้ากษัตริย์ กษัตริย์ตรัสถามเขาว่า “มีคายาห์ เราควรยกทัพไปโจมตีเมืองราโมทกิเลอาดหรือไม่” มีคายาห์ทูลตอบว่า “จงเข้าโจมตีเถิด แล้วจะทรงประสบชัยชนะ เพราะเมืองนั้นถูกมอบไว้ในอำนาจของกษัตริย์แล้ว” 15กษัตริย์ตรัสว่า “เราบอกท่านกี่ครั้งแล้วว่าให้ท่านพูดแต่ความจริงแก่เราในพระนามพระยาห์เวห์” 16มีคายาห์จึงกล่าวว่า

          “ข้าพเจ้าเห็นชาวอิสราเอลทั้งหลายกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณภูเขา

                    เหมือนแกะที่ไม่มีผู้เลี้ยง

          พระยาห์เวห์ตรัสว่า “คนเหล่านี้ไม่มีเจ้านาย”

                    แต่ละคนจงกลับบ้านโดยสันติเถิด”

          17กษัตริย์แห่งอิสราเอลตรัสกับกษัตริย์เยโฮชาฟัทว่า “ข้าพเจ้าบอกท่านแล้วไม่ใช่หรือว่า เขาไม่เคยทำนายเรื่องดีๆ ให้ข้าพเจ้าเลย มีแต่จะทำนายเรื่องร้ายๆ เท่านั้น” 18มีคายาห์ทูลว่า “เพราะเหตุนี้ จงฟังพระวาจาของพระยาห์เวห์เถิด ข้าพเจ้าเห็นพระยาห์เวห์ประทับอยู่บนพระที่นั่ง กองทัพสวรรค์ยืนข้างพระองค์ทั้งทางขวาและทางซ้าย” 19พระยาห์เวห์ตรัสถามว่า “ใครจะลวงกษัตริย์อาคับแห่งอิสราเอลให้ยกทัพเข้าโจมตีเมืองราโมทกิเลอาด แล้วตายที่นั่น” จิตบางตนตอบอย่างนี้ บางตนตอบอย่างนั้น 20แล้วจิตตนหนึ่งออกมาข้างหน้า ยืนอยู่เฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์ ทูลว่า “ข้าพเจ้าจะลวงเขาเอง” พระยาห์เวห์ตรัสถามว่า “ท่านจะทำอย่างไร” 21จิตตนนั้นทูลตอบว่า “ข้าพเจ้าจะไปทำให้ประกาศกทุกคนของเขาพูดเท็จ” พระยาห์เวห์ตรัสว่า “ท่านจะลวงเขาได้สำเร็จ จงไปและทำตามนั้น” 22บัดนี้ พระองค์ทรงเห็นแล้วว่าพระยาห์เวห์ทรงบันดาลให้ประกาศกทุกคนของพระองค์พูดเท็จ โดยแท้จริงแล้ว พระยาห์เวห์ทรงกำหนดหายนะให้พระองค์

          23เศเดคียาห์บุตรของเคนาอะนาห์เข้าไปตบหน้ามีคายาห์ พูดว่า “พระจิตของพระยาห์เวห์ออกจากข้าพเจ้าไปพูดกับท่านกระนั้นหรือ” 24มีคายาห์ตอบว่า “ท่านจะเห็นเองในวันนั้นที่ท่านจะต้องหนีไปซ่อนจากห้องนี้ไปห้องโน้น” 25กษัตริย์แห่งอิสราเอลรับสั่งว่า “จงจับมีคายาห์ไว้ และนำตัวไปมอบให้แก่อาโมนเจ้าเมือง และแก่โยอาชพระโอรส 26จงบอกเขาว่า ‘กษัตริย์ทรงสั่งให้นำตัวมีคายาห์ขังคุก ให้กินแต่ขนมปังกับน้ำกันตายเท่านั้น จนกว่าพระองค์จะเสด็จกลับมาอย่างปลอดภัย’” 27มีคายาห์ทูลว่า “ถ้าพระองค์เสด็จกลับมาอย่างปลอดภัย พระยาห์เวห์ก็ไม่ได้ตรัสผ่านทางข้าพเจ้า” เขายังเสริมว่า “ประชากรทั้งหลาย จงฟังเถิด”d

 

กษัตริย์อาคับสิ้นพระชนม์ในการรบ

            28กษัตริย์แห่งอิสราเอลทรงยกทัพเข้าโจมตีเมืองราโมทกิเลอาด พร้อมกับกษัตริย์เยโฮชาฟัทแห่งยูดาห์ 29กษัตริย์แห่งอิสราเอลตรัสแก่กษัตริย์เยโฮชาฟัทว่า “ข้าพเจ้าจะปลอมตัวeเข้าสงคราม ส่วนพระองค์จงทรงเครื่องทรงกษัตริย์เถิด” กษัตริย์แห่งอิสราเอลทรงปลอมพระองค์เข้าทำสงคราม 30กษัตริย์แห่งอารัมทรงสั่งนายทหารรถศึกทั้งหลายว่า “อย่ารบกับผู้ใด นอกจากกับกษัตริย์แห่งอิสราเอลเท่านั้น” 31เมื่อนายทหารรถศึกเห็นกษัตริย์เยโฮชาฟัท ก็คิดว่าเป็นกษัตริย์แห่งอิสราเอลอย่างแน่นอน จึงหันไปสู้รบกับพระองค์ แต่เมื่อกษัตริย์เยโฮชาฟัททรงร้องขึ้น พระยาห์เวห์ทรงช่วยเหลือพระองค์ ทรงบันดาลให้เขาเหล่านั้นเลิกไล่ตาม 32เมื่อนายทหารรถศึกรู้ว่าพระองค์ไม่ใช่กษัตริย์แห่งอิสราเอล ก็เลิกไล่ตาม

33แต่บังเอิญทหารคนหนึ่งยิงธนูมาถูกกษัตริย์แห่งอิสราเอลเข้าระหว่างเกล็ดเสื้อเกราะ กษัตริย์จึงบอกสารถีของพระองค์ว่า “จงขับรถนำเราออกไปจากสนามรบfเถิด เพราะเราบาดเจ็บ” 34การสู้รบดำเนินไปอย่างดุเดือดตลอดวัน กษัตริย์แห่งอิสราเอลทรงยืนบนรถศึกเข้าประจันหน้ากับชาวอารัมจนถึงเวลาเย็น เมื่อดวงอาทิตย์ตก พระองค์ก็สิ้นพระชนม์g

 

18 a ผู้เขียนพงศาวดารไม่สนใจเกี่ยวกับอาณาจักรเหนือ จึงละเว้นไม่กล่าวอะไรถึงประกาศกเอลียาห์ (1 พกษ 17-18) และเอลีชา (2 พกษ 2-8) แต่กล่าวถึงเรื่องนี้เพราะเกี่ยวข้องกับกษัตริย์เยโฮชาฟัทซึ่งเป็นพระเอก และกล่าวถึงคำพยากรณ์ของมีคายาห์ ซึ่งเป็นประกาศกแท้ ตรงข้ามกับบรรดาประกาศกเทียมของกษัตริย์อาคับ

b เยโฮรัมพระโอรสทรงอภิเษกสมรสกับพระนางอาธาลิยาห์พระธิดา (หรือพระขนิษฐาภคินี) ของกษัตริย์อาคับ (ดู 2 พกษ 8:18 เชิงอรรถ j)

c การเลี้ยงฉลองนี้เป็นการเลี้ยงในพิธีศานติบูชา ซึ่งผู้เขียนพงศาวดารคิดว่าไม่ถูกต้อง เพราะไม่ได้ทำที่กรุงเยรูซาเล็ม แต่ไม่มีกล่าวถึงเรื่องนี้ใน 1 พกษ 22

d เขายังเสริมว่า “ประชากรทั้งหลาย จงฟังเถิด” เป็นประโยคแรกในหนังสือประกาศกมีคาห์ (มคา 1:2) ที่ผู้คัดลอกอาจนำมาเขียนไว้ใน 1 พกษ 22:18

e “ข้าพเจ้าจะปลอมตัว” แปลตามต้นฉบับภาษากรีกให้สอดคล้องกับประโยคต่อไป ต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า “จงปลอมตัว”

f “จากสนามรบ” แปลตามต้นฉบับภาษากรีก ต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า “จากค่าย”

g ผู้เขียนพงศาวดารสนใจแต่เรื่องของกษัตริย์เยโฮชาฟัทและอาณาจักรยูดาห์ จึงละเว้นไม่กล่าวถึงรายละเอียดใน 1 พกษ 22:35ข-28 เรื่องการสิ้นพระชนม์ของกษัตริย์อาคับ

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก