ไตร่ตรองพระวาจา  โดย..คุณพ่อชวลิต  กิจเจริญวันจันทร์ที่ 9 ตุลาคม 2017
สัปดาห์ที่ 27 เทศกาลธรรมดา
บทอ่าน ยนา 1:1-2:1 / ลก 10:25-37
       “ท่านจะต้องรักองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านสุดจิตใจ สุดวิญญาณ สุดกำลัง และสุดสติปัญญาของท่าน ท่านจะต้องรัก”เพื่อนมนุษย์”เหมือนรักตนเอง” (ลก10:27) นักกฎหมายคนหนึ่งได้มาหาพระเยซูเจ้า และได้ถามพระองค์ว่า “พระอาจารย์ ข้าพเจ้าจะต้องทำสิ่งใด เพื่อจะได้ชีวิตนิรันดร?” พระเยซูเจ้าจึงได้ถามเขาว่า มีเขียนไว้ในบทบัญญัติอย่างไร นักกฎหมายคนนั้นได้ตอบอย่างถูกต้องว่า เขาต้องรักพระเป็นเจ้า และ”เพื่อนมนุษย์”เหมือนรักตนเอง

เขาหวังที่จะทดสอบพระเยซูเจ้า จึงถามว่าใครคือ”เพื่อนมนุษย์”ของเขา?ในนิทานเปรียบเทียบเรื่องชาวซามาริตันผู้อารี พระเยซูเจ้าทรงต้องการที่จะโต้ตอบ ความคิดแคบๆเรื่อง”เพื่อนมนุษย์”ของนักกฎหมายคนนั้น ซึ่งจำกัดคำว่า”เพื่อนมนุษย์” เฉพาะกับเพื่อนประชากรอิสราเอลเท่านั้น แต่พระเยซูเจ้าทรงแสดงให้เห็นความคิดแตกต่าง ของบุคคลสามคน ที่มีต่อเหยื่อที่ถูกทำร้ายเกือบสิ้นชีวิต ขณะที่สมณะและเลวี ได้เดินผ่านคนที่ถูกทำร้าย โดยไม่ได้หยุดเพื่อให้ความช่วยเหลือ เพราะพวกเขากำลังมุ่งหน้าไปยังกรุงเยรูซาเล็ม เพื่อจะเลี่ยงมิให้ถูกกล่าวว่า ตนเองไม่บริสุทธิ์ จนไม่สามารถจะเข้าร่วมพิธีกรรม ขณะที่ชาวซามาริตันกลับช่วยเหลือคนที่ถูกทำร้าย ในเวลาเดียวกัน เพราะมีความเป็นศัตรูอันลึกซึ้ง ระหว่างชาวยิวและชาวซามาริตัน จนทำให้นักกฎหมายคนนั้น ไม่ยอมรับคำว่า ”เพื่อนมนุษย์” ที่รวมถึงชาวซามาริตันด้วย แต่พระเยซูเจ้าทรงต้องการที่จะให้เขายอมรับว่า คำว่า”เพื่อนมนุษย์” หมายถึงชาวซามาริตันด้วย จึงถามว่า “ใครเป็น”เพื่อนมนุษย์”ของคนที่ถูกโจรปล้น?”เขาได้ตอบว่า “คนที่แสดงความเมตตาต่อเขา”พระองค์ทรงตอบว่า”ท่านจงไป และทำเช่นเดียวกันเถิด”

        “คำถามแรก ทีสมณะและเลวีถามคือ:ถ้าฉันช่วยเหลือคนที่ถูกทำร้าย อะไรจะเกิดขึ้นกับตัวฉัน แต่...ชาวซามาริตันกลับตั้งคำถามตรงกันข้ามว่า:ถ้าฉันไม่ช่วยคนที่ถูกทำร้าย อะไรจะเกิดขึ้นกับคนเจ็บคนนั้น” (มาร์ติน ลูเธอร์คิง เจอาร์)...ข้าแต่พระเยซูเจ้า โปรดให้ลูกมองเห็นพระองค์ ในบุคคลที่มีความทุกข์ ที่ลูกพบเป็นประจำ ในชิวิตเถิด อาแมน.