“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

ดาวิดไว้ชีวิตกษัตริย์ซาอูลอีกครั้งหนึ่งa

26 1มีคนจากถิ่นทุรกันดารศิฟเข้าเฝ้ากษัตริย์ซาอูลที่เมืองกิเบอาห์ ทูลว่า “ดาวิดกำลังซ่อนตัวอยู่ที่ภูเขาฮาคีลาห์ ชายถิ่นทุรกันดาร” 2กษัตริย์ซาอูลจึงทรงนำทหารฝีมือดีสามพันคนเดินทางไปยังถิ่นทุรกันดารศิฟทันที เพื่อค้นหาดาวิดในถิ่นทุรกันดารศิฟ 3กษัตริย์ซาอูลทรงตั้งค่ายอยู่ที่ภูเขาฮาคีลาห์ ริมถนนชายถิ่นทุรกันดาร ส่วนดาวิดยังอยู่ในถิ่นทุรกันดาร เมื่อรู้ว่ากษัตริย์ซาอูลเสด็จมาค้นหาตนในถิ่นทุรกันดาร 4ดาวิดจึงส่งคนออกไปสอดแนม และรู้แน่ว่ากษัตริย์ซาอูลเสด็จมาถึงที่นั่นจริง 5ดาวิดไปยังสถานที่ที่ซาอูลตั้งค่ายอยู่ สังเกตเห็นสถานที่บรรทมของกษัตริย์ซาอูล และที่นอนของอับเนอร์บุตรของเนอร์ผู้บัญชาการกองทัพ กษัตริย์ซาอูลบรรทมหลับอยู่ในค่าย บรรดาทหารตั้งกระโจมอยู่โดยรอบ

6ดาวิดถามอาคิเมเลคชาวฮิตไทต์ และอาบีชัยน้องชายของโยอาบบุตรของนางเศรุยาห์ว่า “ใครจะไปที่ค่ายของซาอูลกับฉันบ้าง” อาบีชัยตอบว่า “ข้าพเจ้าจะลงไปกับท่าน” 7คืนนั้น ดาวิดกับอาบีชัยลอบเข้าไปในค่าย พบว่า กษัตริย์ซาอูลกำลังบรรทมหลับอยู่ในค่าย มีหอกปักอยู่กับพื้นดินใกล้พระเศียร ส่วนอับเนอร์กับบรรดาทหารนอนหลับอยู่โดยรอบ

8อาบีชัยกล่าวกับดาวิดว่า “วันนี้พระเจ้าทรงมอบศัตรูของท่านไว้ในมือของท่านแล้ว ขอให้ข้าพเจ้าเอาหอกแทงเขาปักติดดินเถิด ครั้งเดียวก็พอแล้ว ไม่จำเป็นต้องแทงซ้ำอีก” 9แต่ดาวิดห้ามอาบีชัยว่า “อย่าฆ่าเขาเลย เพราะใครที่ทำร้ายผู้รับเจิมของพระยาห์เวห์แล้วจะไม่มีผิด” 10ดาวิดกล่าวต่อไปว่า “ฉันแน่ใจว่าพระยาห์เวห์จะทรงฆ่าเขา ไม่ว่าเมื่อเวลาที่เขาจะต้องตายมาถึง หรือเมื่อเขาจะออกไปทำสงครามแล้วถูกฆ่า 11พระยาห์เวห์ทรงห้ามฉันไม่ให้ทำร้ายผู้รับเจิมของพระยาห์เวห์ บัดนี้ เอาหอกที่หัวนอนของเขากับเหยือกน้ำ แล้วให้เราออกไปเถิด”

12ดาวิดจึงเอาหอกกับเหยือกน้ำที่อยู่ใกล้พระเศียรของกษัตริย์ซาอูล และออกไปพร้อมกับอาบีชัย ไม่มีผู้ใดเห็นหรือรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่มีผู้ใดตื่นขึ้นเลย ทุกคนหลับเพราะพระยาห์เวห์ทรงบันดาลให้เขาหลับสนิท

13ดาวิดข้ามไปอีกฟากหนึ่งbของหุบเขา ไปยืนบนยอดเนินห่างไกลพอสมควรจากค่ายของกษัตริย์ซาอูล 14ดาวิดตะโกนถามบรรดาทหารและอับเนอร์บุตรของเนอร์ว่า “อับเนอร์ได้ยินเสียงฉันไหม” อับเนอร์ตอบว่า “นั่นใครที่ตะโกนรบกวนกษัตริย์”c 15ดาวิดตอบอับเนอร์ว่า “ท่านเป็นชายชาตรีมิใช่หรือ ไม่มีใครเหมือนท่านในอิสราเอลมิใช่หรือ ทำไมท่านจึงไม่ปกป้องกษัตริย์เจ้านายของท่าน เมื่อกี้นี้มีคนหนึ่งเข้าไปในค่ายเพื่อฆ่ากษัตริย์เจ้านายของท่าน 16ท่านทำเช่นนี้ใช้ไม่ได้ ฉันขอสาบานต่อพระยาห์เวห์ผู้ทรงพระชนม์อยู่ว่า ท่านทั้งหลายสมควรจะตายเพราะไม่ได้ปกป้องเจ้านายของท่าน ผู้รับเจิมของพระยาห์เวห์ จงดูซิว่า หอกของกษัตริย์และเหยือกน้ำที่เบื้องพระเศียรอยู่ที่ไหน”

17กษัตริย์ซาอูลทรงจำเสียงของดาวิดได้ จึงทรงตะโกนถามว่า “ดาวิด ลูกเอ๋ย นั่นเป็นเสียงของลูกหรือ” ดาวิดทูลตอบว่า “ใช่แล้ว พระเจ้าข้า” 18แล้วเสริมว่า “ทำไมเจ้านายของข้าพเจ้าจึงทรงตามล่าผู้รับใช้ของพระองค์ ข้าพเจ้าทำอะไร ข้าพเจ้าทำผิดอะไรหรือ 19บัดนี้ ขอให้กษัตริย์เจ้านายของข้าพเจ้าทรงฟังคำพูดของข้าพเจ้าผู้รับใช้ของพระองค์เถิด ถ้าพระยาห์เวห์ทรงบันดาลให้เจ้านายเป็นศัตรูกับข้าพเจ้า ก็ขอให้เจ้านายถวายเครื่องบูชาแด่พระยาห์เวห์ให้พอพระทัยเถิด แต่ถ้ามนุษย์เป็นผู้กระทำ ขอให้เขาเหล่านั้นถูกสาปแช่งเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์เถิด เพราะในวันนี้เขาขับไล่ข้าพเจ้าออกจากแผ่นดินที่พระยาห์เวห์ประทานให้เป็นมรดกคล้ายกับจะกล่าวว่า ‘จงไปรับใช้พระเจ้าของชนชาติอื่นเถิด’d 20อย่าให้ข้าพเจ้าถูกฆ่าในแผ่นดินที่อยู่ห่างไกลจากพระยาห์เวห์เลยe เพราะเหตุใดกษัตริย์แห่งอิสราเอลจึงออกตามล่าข้าพเจ้าf ซึ่งเป็นเหมือนตัวหมัดเล็กๆ ทำไมพระองค์จึงทรงตามล่าข้าพเจ้าเหมือนไล่ล่านกกระทาตามภูเขา”

21กษัตริย์ซาอูลทรงตอบว่า “เราทำผิดไปแล้ว ดาวิดลูกเอ๋ย จงกลับมาเถิด เราจะไม่ทำร้ายเจ้าอีกเพราะวันนี้เจ้าไว้ชีวิตของเรา เราได้ทำเหมือนคนโง่ เราได้ทำผิดอย่างมาก” 22ดาวิดทูลตอบว่า “ข้าแต่กษัตริย์ หอกของพระองค์อยู่ที่นี่ ให้คนหนึ่งข้ามมารับเอาคืนไปเถิด 23ขอให้พระยาห์เวห์ทรงตอบแทนแต่ละคนตามความชอบธรรมและความซื่อสัตย์ของเขา วันนี้ พระยาห์เวห์ทรงมอบเจ้านายไว้ในมือของข้าพเจ้า แต่ข้าพเจ้าไม่ต้องการทำร้ายผู้รับเจิมของพระยาห์เวห์ 24ในวันนี้ข้าพเจ้าไว้ชีวิตเจ้านายฉันใด ขอพระยาห์เวห์ทรงไว้ชีวิตข้าพเจ้า และทรงช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากความทุกข์ยากทั้งปวงฉันนั้นด้วยเถิด”

25กษัตริย์ซาอูลตรัสตอบดาวิดว่า “ดาวิดลูกเอ๋ย ขอพระยาห์เวห์ทรงอวยพรเจ้าเถิด เจ้าจะทำสิ่งใด ก็จะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน” แล้วดาวิดก็ไปตามทางของตน ส่วนกษัตริย์ซาอูลเสด็จกลับไปยังที่พำนัก

 

26 a เรื่องในบทที่ 26 คล้ายคลึงกับเรื่องในบทที่ 24 มาก เรื่องทั้งสองนี้อาจเล่าเหตุการณ์คล้ายกับที่เกิดขึ้นสองครั้งและเล่าต่อๆ กันมา เมื่อธรรมประเพณีดังกล่าวเขียนเป็นลายลักษณ์อักษรจึงมีรายละเอียดคล้ายกันมาก หรือดีกว่านั้น อาจจะเป็นการเล่าเหตุการณ์เดียวกันสองแบบ เรื่องทั้งสองต้องการเน้นความใจกว้างของดาวิด ที่เคารพกษัตริย์ว่าเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ในฐานะเป็น “ผู้รับเจิมของพระยาห์เวห์” (ดู 9:26 เชิงอรรถ n)

b แปลตามตัวอักษรว่า “อีกฟากหนึ่ง”

c แปลตามตัวอักษรว่า “ใครเรียกกษัตริย์” ต้นฉบับภาษากรีกว่า “ใครเรียกฉัน”

d ชาวอิสราเอลคิดว่าพระยาห์เวห์และ “มรดกของพระองค์” (คือแผ่นดินคานาอัน) มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นมากจนเป็นไปไม่ได้ที่จะนมัสการพระยาห์เวห์ในแผ่นดินอื่นที่มีเทพเจ้าของตนคุ้มครองอยู่ (สดด 137:4) ดังนั้น เราจึงเข้าใจได้ว่านาอามานเอาดินจากอิสราเอลไปที่เมืองดามัสกัส (2 พกษ 5:17) ก็เพื่อจะสามารถนมัสการพระยาห์เวห์แห่งอิสราเอลที่นั่นได้ด้วย

e การขับไล่ดาวิดออกจากแผ่นดินคานาอันไปอยู่ต่างแดน ก็เท่ากับว่าบังคับเขาให้ละทิ้งพระยาห์เวห์ “ห่างจากพระยาห์เวห์” เมื่ออยู่ในถิ่นทุรกันดารซึ่งเป็นเขตปกครองของจิตชั่ว (ลนต 16:10; อสย 13:21; 34:13-14) ดาวิดรู้สึกว่าตนอยู่ห่างไกลจากการปกป้องของพระยาห์เวห์มากพออยู่แล้ว

f “ข้าพเจ้าซึ่งเป็นเหมือนตัวหมัดเล็กๆ” แปลตามตัวอักษรว่า “ตัวหมัด” (ดู 24:15) ต้นฉบับภาษากรีกว่า “ชีวิตของข้าพเจ้า”

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก