“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

"พระคริสตเจ้าทรงเป็นผู้ใดสำหรับข้าพเจ้า" อธิบายพระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญมาระโก โดย บาทหลวงฟรังซิส ไก้ส์
“ความเชื่อของท่านช่วยท่านให้รอดพ้นแล้ว”

24. พระเยซูเจ้าทรงรักษาหญิงตกเลือด ทรงปลุกบุตรหญิงของไยรัสให้คืนชีพ (4 )
-เด็กนั้นอายุสิบสองขวบแล้ว  น่าสังเกต หญิงตกเลือดก็ป่วยนาน 12 ปีด้วย เรื่องทั้งสองจำง่ายโดยคิดถึงเลข 12 ที่เชื่อมโยงกัน  

- คนทั้งหลายต่างประหลาดใจอย่างยิ่ง ทั้งบิดามารดาและศิษย์ทั้งสามคนมีความยินดีและประหลาดใจในพระอานุภาพของพระเยซูเจ้า จนลืมไปว่าเด็กยังต้องการรับประทานอาหาร



-พระองค์ทรงกำชับอย่างแข็งขันมิให้แพร่งพรายเรื่องนี้แก่ผู้ใด เหตุการณ์นี้สอดคล้องกับโครงสร้างของพระวรสารที่นักบุญมาระโกต้องการรักษาความลับเกี่ยวกับพระเมสสิยาห์ คือไม่อยากให้ผู้คนและปีศาจเรียกพระเยซูเจ้าว่า “พระเมสสิยาห์” (เทียบ มก  1:34; 9:9) เพราะการพูดเช่นนี้จะสร้างความเข้าใจผิด คนทั่วไปรอคอยพระเมสสิยาห์ในด้านการเมืองและพระองค์ไม่ทรงต้องการให้เขาคิดเช่นนี้ ผู้อ่านพระวรสารจะค้นพบความหมายแท้จริงของพระเมสสิยาห์อย่างค่อยเป็นค่อยไป เพราะจะเข้าใจความหมายสมบูรณ์เมื่อพระเยซูเจ้าสิ้นพระชนม์และทรงกลับคืนพระชนมชีพ

-และทรงสั่งให้เขานำอาหารมาให้เด็กนั้นกิน เป็นรายละเอียดที่แสดงความรักเอ็นดูและความเอาพระทัยใส่ของพระเยซูเจ้าต่อเด็ก  

b. ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน
1.    หญิงตกเลือดได้สัมผัสพระเยซูเจ้า การสัมผัสหมายถึงการพยายามรู้จักและเข้าใกล้ผู้ที่เราสัมผัส การสัมผัสพระเยซูเจ้าเรียกร้องการฟังและความไว้วางใจเหมือนหญิงคนนั้นที่สัมผัสพระองค์จากด้านหลัง แล้วต่อมาจึงเป็นการสนทนากับพระองค์แบบหน้าต่อหน้า การสัมผัสเป็นการกระทำของทั้งสองฝ่าย พระเยซูเจ้าทรงสัมผัสหญิงด้วยเพราะทรงให้การรักษาเขา

2.    หญิงคนนั้นเมื่อหายจากโรคแล้ว เขาก็กล้าสารภาพความจริงกับพระเยซูเจ้า สิ่งสำคัญคือเราต้องรู้จักสารภาพความอ่อนแอเปิดเผยตนเองดังที่เป็น บางครั้งการกระทำเช่นนี้ทำได้ยาก เพราะรู้สึกว่าต้องถ่อมตัว มีความอับอายเหมือนหญิงคนนั้น แต่เมื่อเราสารภาพความจริงกับพระเยซูเจ้าแล้วก็จะไม่มีกลัวอีกต่อไป เราจะรู้สึกสบายใจ โดยแท้จริงแล้ว ไม่ยากที่เราจะยอมรับความอ่อนแอของตนและสารภาพบาป ถ้าเรารู้ว่าพระเยซูเจ้าทรงรู้จักและทรงรักเราดังที่เราเป็น

3.     พระวาจาของพระเยซูเจ้าที่ตรัสกับไยรัสว่า “อย่ากลัวเลย จงมีความเชื่อไว้เถิด” ไม่เป็นการตำหนิเหมือนกับว่าไยรัสไม่มีความเชื่อ แต่เป็นการให้กำลังใจเพื่อเขาจะมีความเชื่อมากขึ้น เขาไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำของคนที่มาจากบ้าน ซึ่งพูดว่าอย่าไปรบกวนพระเยซูเจ้า น่าสังเกตลักษณะความเชื่อของไยรัสที่ชนะความกลัว ความเชื่อเป็นพลังยิ่งใหญ่กว่าความกลัวใด ๆ เพราะความเชื่อรวมความไว้วางใจในพระเยซูเจ้าและในพระวาจา รวมทั้งความไม่กลัวตายอีกด้วย

4.    ไยรัสไม่ขอสิ่งใดสำหรับตนเอง แต่ทูลพระเยซูเจ้าให้มารักษาบุตรสาวของตน เพราะเขารักบุตรสาวมาก  ถ้าเรารักเพื่อนบ้านและโลกที่อยู่รอบ ๆ อย่างแท้จริง เราจะอธิษฐานภาวนาเพื่อเขาทั้งหลาย มนุษย์อาจจัดการเรื่องที่จำเป็นสำหรับชีวิตผู้อื่น แต่ไม่สามารถให้ชีวิตหรือความรอดพ้นได้ เพียงพระเยซูเจ้าเท่านั้นทรงนำสิ่งเหล่านี้มาให้

5.    พระบิดาทรงรักเรา เพราะเมื่อเรารับศีลล้างบาปเรากลายเป็นบุตรบุญธรรมของพระองค์ พระบิดาทรงเอาพระทัยใส่และทอดพระเนตรเราด้วยความรักมากกว่าไยรัสรักและมองบุตรสาวของตน พระองค์ทรงรักเรามากกว่ากษัตริย์ดาวิดทรงรักอับซาโลมพระโอรสผู้เป็นกบฏต่อพระราชบิดา แต่พระบิดาของเราทรงมีความเพียรทน ทรงเอาพระทัยใส่และทรงดูแลเราอยู่เสมอ

6.    พระเยซูเจ้าทรงนำศิษย์สามคนไปด้วยกัน เมื่อเราเผชิญสถานการณ์ที่มีความทุกข์ ยากลำบาก ไม่ว่าจะเป็นความทุกข์ของเราหรือของผู้อื่น และดูเหมือนว่าไม่มีทางออก ไม่มีความหวัง เราปฏิบัติตนอย่างไร เราปิดหูปิดตาเพราะเห็นว่ามนุษย์มีขีดจำกัด ไม่สามารถทำได้ บางครั้งเราอาจคาดว่าทำได้ แต่แล้วก็ทำไม่สำเร็จหรือผิดหวังที่จะทำได้ ในสถานการณ์เช่นนี้ เราแสดงความเชื่อในพระเจ้าอย่างไร

เราน่าจะถามตนเองว่า มีความสัมพันธ์ใดระหว่างพระเยซูเจ้ากับความตาย สำหรับมนุษย์ทั่วไป เมื่อคนหนึ่งตาย แม้นายแพทย์ที่เก่งที่สุดก็ทำอะไรกับเขาไม่ได้ เราทุกคนรู้สึกไม่มีอำนาจเหนือผู้ตายอีกแล้ว วิธีการช่วยเหลือเขาทุกอย่างก็หมดสิ้น แม้ความรักยิ่งใหญ่ก็ไม่ทำให้ผู้ตายกลับคืนชีพได้ สิ่งเดียวที่ยังทำได้คือการร้องไห้และฝังศพเขา แต่สำหรับพระเยซูเจ้าไม่เป็นเช่นนี้เลย พระองค์ทรงสอนเราให้มีความเชื่อ มีความไว้วางใจในพระอานุภาพของพระองค์เหนือความตาย

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก