"พระคริสตเจ้าทรงเป็นผู้ใดสำหรับข้าพเจ้า" อธิบายพระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญมาระโก โดย บาทหลวงฟรังซิส ไก้ส์
“จงตามเรามาเถิด”
 
6. พระเยซูเจ้าทรงเรียกศิษย์สี่คนแรก (มก 1:16-20)

           
16ขณะที่ทรงพระดำเนินไปตามชายฝั่งทะเลสาบกาลิลี พระองค์ทอดพระเนตรเห็นซีโมนกับอันดรูว์น้องชายกำลังทอดแห เขาเป็นชาวประมง 17พระเยซูเจ้าตรัสสั่งว่า   “จงตามเรามาเถิดเราจะทำให้ท่านเป็นชาวประมงหามนุษย์” 18ซีโมนกับอันดรูว์ก็ทิ้งแหไว้ แล้วตามพระองค์ไปทันที
               19เมื่อทรงพระดำเนินไปอีกเล็กน้อย พระองค์ทอดพระเนตรเห็นยากอบบุตรของเศเบดี และยอห์นน้องชายกำลังซ่อมแหอยู่ในเรือ 20พระองค์ทรงเรียกเขาทั้งสองคนก็ละทิ้งเศเบดีบิดาของตนไว้ในเรือกับลูกจ้าง แล้วตามพระองค์ไปทันที
a) อธิบายความหมาย
              ข้อความนี้แบ่งอย่างชัดเจนเป็น 2 เหตุการณ์ คือการเรียกพี่น้องสองคู่ เหตุการณ์แรกพระเยซูเจ้าทรงเรียกซีโมนกับอันดรูว์ (ข้อ 16-18) และต่อมาทรงเรียกยากอบกับยอห์น (ข้อ 19-20) เรารู้จากข้อความ 1:14 ว่า “พระเยซูเจ้าเสด็จไปยังแคว้นกาลิลี ทรงประกาศเทศนาข่าวดีของพระเจ้า” คือรู้เพียงสถานที่ซึ่งพระเยซูเจ้าทรงประกอบศาสนบริการ โดยไม่มีการพูดถึงผู้ฟังเลย แต่ในข้อความ 1:16-20   เราพบรายชื่อของบุคคล 4 คน รวมทั้งรายละเอียดเกี่ยวกับครอบครัวและอาชีพของเขา การเอ่ยนามบุคคลเหล่านี้แสดงว่า พระเยซูเจ้าไม่ทรงเชิญชวนผู้ฟังโดยรวมให้มาติดตามพระองค์ แต่ทรงเรียกเขาทีละคนเป็นการส่วนตัว

               การเล่าเหตุการณ์ทั้งสองนี้มีทั้งความเหมือนและความแตกต่าง การเรียกซีโมนกับอันดรูว์บรรยายรายละเอียดมากกว่าการเรียกยากอบกับยอห์น เพราะพูดถึงสถานที่ของเหตุการณ์ซึ่งเกิดขึ้นชายฝั่งทะเลสาบกาลิลี พูดถึงอาชีพของเขาทั้งสองที่เป็นชาวประมง และยังบันทึกพระวาจาของพระเยซูเจ้าผู้ทรงเรียกเขา ส่วนเหตุการณ์ที่สองไม่บรรยายรายละเอียดดังกล่าว แต่เราเข้าใจโดยปริยายว่าเป็นการเรียกในลักษณะเดียวกัน

               รายละเอียดที่เหมือนกันในเหตุการณ์ทั้งสองคือ เริ่มโดยบรรยายอิริยาบถของพระเยซูเจ้าว่า “ทรงพระดำเนิน” แต่การกระทำสำคัญคือ “พระองค์ทอดพระเนตรเห็น” ทรงเห็นบุคคลสองคนซึ่งเป็นพี่น้องกันและกำลังประกอบอาชีพชาวประมง ต่อมาพระเยซูเจ้าทรงเรียกพี่น้องทั้งสองคู่ให้ติดตามพระองค์ แม้นักบุญมาระโกเล่าการเรียกซีโมนกับอันดรูว์โดยอ้างพระวาจาที่ว่า “จงตามเรามาเถิดเราจะทำให้ท่านเป็นชาวประมงหามนุษย์” และเล่าการเรียกยากอบกับยอห์นโดยบันทึกว่า “พระองค์ทรงเรียกเขาทั้งสองคน” กิจการต่อมาคือการตอบสนองของผู้ที่ได้รับการเรียก เขาต้องละทิ้งสภาพการดำเนินชีวิตและการทำงานประจำวันเพื่อเตรียมตัวติดตามพระองค์    ซีโมนกับอันดรูว์“ทิ้งแหไว้” ส่วนยากอบกับยอห์น “ละทิ้งเศเบดีบิดาของตนไว้ในเรือกับลูกจ้าง”
                 เมื่อพระเยซูเจ้าเสด็จมาถึงชายฝั่งทะเลสาบกาลิลีซึ่งเป็นที่ทำงานของชาวประมงเหล่านั้น การเปลี่ยนแปลงทั้งสถานการณ์ของเขาเหล่านั้นและสถานการณ์ของพระเยซูเจ้าก็เกิดขึ้นโดยกระทันหัน พระองค์เสด็จมาเป็นบุคคลเดียวแต่บัดนี้ประทับอยู่กับศิษย์สี่คน ดูเหมือนว่านักบุญมาระโกต้องการเน้นการเปลี่ยนแปลงอย่างความฉับพลัน ข้อความนี้บันทึกคำบอกเล่าเพียงเหตุการณ์ภายนอก หมายถึงสิ่งที่มองเห็นและได้ยิน แต่ไม่บันทึกความรู้สึกนึกคิด แรงบันดาล ไม่มีการอธิบายว่า เหตุใดพระเยซูเจ้าทรงเรียกศิษย์ให้ติดตามพระองค์ ทำไมทรงเรียกศิษย์เพียงสี่คนนี้ ทำไมเขาทั้งสี่จึงตอบสนองการเรียกของพระองค์ เขารู้สึกอย่างไรที่ต้องละทิ้งอาชีพและบิดา

                   น่าสังเกตว่า นักบุญมาระโกให้ความสนใจลักษณะของบุคคล เขาบันทึกชื่อ เน้นความสัมพันธ์ฉันพี่น้อง และความสัมพันธ์ระหว่างบิดากับบุตร การติดตามพระเยซูเจ้าเน้นความสัมพันธ์ระหว่างอาจารย์กับศิษย์ เป็นความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลเช่นกัน ภารกิจในอนาคตของผู้ที่ได้รับเรียกนั้นเน้นความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล เพราะศิษย์ทั้งสี่เคยเป็นชาวประมงหาปลาแต่เวลานี้ต้องเป็นชาวประมงหามนุษย์ ตั้งแต่ต้นของพระวรสารนักบุญมาระโกจึงบอกว่า กิจการของพระเยซูเจ้าแสดงออกถึงพระประสงค์ที่จะสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลต่อบุคคล
เราจะพิจารณาคำสอนของข้อความนี้ใน 4 ประเด็นคือ
ก) กิจการของพระเยซูเจ้า
ข) การตอบสนองของผู้ที่ได้รับเรียก
ค) หมู่คณะของบรรดาศิษย์
ง) ภารกิจของบรรดาศิษย์ในอนาคต