“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

"พระคริสตเจ้าทรงเป็นผู้ใดสำหรับข้าพเจ้า" อธิบายพระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญมาระโก โดย บาทหลวงฟรังซิส ไก้ส์
“จงระวังเชื้อแป้งของชาวฟาริสี และเชื้อแป้งของกษัตริย์เฮโรด ”

38. เชื้อแป้งของชาวฟาริสีและของกษัตริย์เฮโรด (มก 8:14-21)

       814บรรดาศิษย์ลืมนำขนมปังไปด้วย และในเรือของเขามีขนมปังเหลือเพียงก้อนเดียว     15พระองค์ทรงกำชับเขาว่า “จงระวังให้ดี จงระวังเชื้อแป้งของชาวฟาริสี และเชื้อแป้งของกษัตริย์เฮโรด” 16บรรดาศิษย์จึงพูดกันว่า “นี่เป็นเพราะเราไม่มีขนมปัง” 17พระเยซูเจ้าทรงทราบ จึงตรัสว่า “ทำไมท่านจึงถกเถียงกันเรื่องไม่มีขนมปัง ท่านยังไม่รู้ไม่เข้าใจอีกหรือ ท่านยังมีใจแข็งกระด้างกันอยู่อีกหรือ 18มีตา แต่ไม่เห็น มีหู แต่ไม่ได้ยินหรือ ท่านจำไม่ได้หรือว่า 19เมื่อเราบิขนมปังห้าก้อนเลี้ยงคนห้าพันคน ท่านเก็บเศษที่เหลือได้เต็มกี่กระบุง” เขาตอบว่า “สิบสองกระบุง” 20”เมื่อเราบิขนมปังเจ็ดก้อนเลี้ยงคนสี่พันคน ท่านเก็บเศษที่เหลือได้เต็มกี่ตะกร้า” เขาทูลตอบว่า “เจ็ดตะกร้า” 21แล้วพระองค์ตรัสถามเขาว่า “ท่านยังไม่เข้าใจอีกหรือ”


a)    อธิบายความหมาย
ข้อความนี้เข้ากันได้ดีกับบริบทเรื่องพระเยซูเจ้าทรงทำอัศจรรย์ทวีขนมปัง (เทียบ 8:1-10) และทรงโต้เถียงกับชาวฟาริสีผู้ไม่มีความเชื่อและเรียกร้องเครื่องหมายจากสวรรค์ (เทียบ 8:11-13) เพราะมีการอ้างถึงเหตุการณ์ทั้งสองกรณี แม้ในที่นี้ พระองค์ตรัสกับบรรดาศิษย์เท่านั้นและทรงตำหนิเขา “เพราะยังไม่เข้าใจเรื่องขนมปัง ใจของเขายังแข็งกระด้างอยู่” (6:52) อีกครั้งหนึ่ง

- บรรดาศิษย์ลืมนำขนมปังไปด้วย บรรดาศิษย์มีหน้าที่จัดเตรียมทุกอย่างที่จำเป็นสำหรับกลุ่มผู้ติดตามพระคริสตเจ้า (เทียบ 6:35) น่าสังเกตว่า นักบุญมาระโกกำลังเน้นหัวข้อเรื่องขนมปัง ซึ่งเป็นคำที่เราพบถึง  5 ครั้งในข้อความนี้ และ 12 ครั้ง ถ้านับตั้งแต่ข้อ 6:35

- และในเรือของเขามีขนมปังเหลือเพียงก้อนเดียว แม้ความหมายแรกของคำว่า “ขนมปัง” คืออาหารหลักของชาวยิว แต่สำหรับผู้มีความเชื่อ “อาหารก้อนเดียวนั้น” หมายถึงพระเยซูเจ้าในศีลมหาสนิท

- พระองค์ทรงกำชับเขาว่า “จงระวังให้ดี จงระวังเชื้อแป้งของชาวฟาริสี และเชื้อแป้งของกษัตริย์เฮโรด” น่าสังเกตว่า พระเยซูเจ้าไม่ทรงใช้คำว่า “ขนมปัง” แต่ทรงอ้างถึง “เชื้อแป้ง” ซึ่งชาวยิวคิดว่าเป็นต้นเหตุของความเน่าเปื่อยและความสกปรก ดังที่นักบุญเปาโลเคยเตือนชาวโครินธ์ว่า “ท่านไม่รู้หรือว่า เชื้อแป้งเพียงเล็กน้อย ก็ทำให้แป้งดิบทั้งก้อนฟูขึ้นได้ จงชำระเชื้อแป้งเก่าเสียเพื่อท่านจะเป็นแป้งดิบก้อนใหม่ ดังที่ท่านก็เป็นแป้งไร้เชื้ออยู่แล้ว เพราะพระคริสตเจ้าองค์ปัสกาของเราถูกฆ่าบูชาแล้ว เราจงฉลองกันเถิด มิใช่ด้วยเชื้อแป้งเก่าคือความชั่วร้ายเลวทราม แต่ด้วยแป้งไร้เชื้อคือความจริงใจและสัจจะ” (1 คร 5:6-8) ในที่นี้ นักบุญมาระโกคงหมายถึง ทัศคติของชาวฟาริสีที่ไม่มีความเชื่อและโต้เถียงกับพระเยซูเจ้า (เทียบ มก 2:1-3:6; 7:1-13; 8:11-13)  ส่วนวลีที่ว่า “เชื้อแป้งของกษัตริย์เฮโรด” คงจะหมายถึงทัศคติของผู้ลังเลใจที่จะยอมรับความจริงอย่างสมบูรณ์และนำไปปฏิบัติตาม (เทียบ 6:14-29) พระเยซูเจ้าจึงทรงเชิญชวนบรรดาศิษย์ให้ตัดสินใจติดตามพระองค์ ไม่ปล่อยตัวตามแบบอย่างหรือคำสอนของผู้ปฏิเสธไม่ยอมเชื่อในพระองค์ เพราะความเห็นแก่ตัวและมีใจหยาบแข็งกระด้าง  

- บรรดาศิษย์จึงพูดกันว่า “นี่เป็นเพราะเราไม่มีขนมปัง” แม้พระเยซูเจ้าทรงใช้คำว่า “เชื้อแป้ง” ในความหมายดังกล่าวข้างต้น แต่บรรดาศิษย์เข้าใจในความหมายทั่ว ๆ ไปคือขนมปังสำหรับเลี้ยงชีพ เพราะเขาสาละวนเฉพาะในเรื่องความเป็นอยู่ในชีวิตประจำวัน และไม่ตั้งใจฟังคำตักเตือนของพระเยซูเจ้า  

- พระเยซูเจ้าทรงทราบ จึงตรัสว่า “ทำไมท่านจึงถกเถียงกันเรื่องไม่มีขนมปัง ท่านยังไม่รู้ไม่เข้าใจอีกหรือ นักบุญมาระโกได้บรรยาย 3 ครั้งแล้วว่า บรรดาศิษย์ไม่เข้าใจคำสอนของพระเยซูเจ้า (เทียบ 4:13; 6:52; 7:18) และจะย้ำอีกต่อไป (เทียบ 8:33; 9:10, 32) แต่ในที่นี้ คำตำหนิของพระเยซูเจ้ารุนแรงมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา แสดงว่าพระองค์ทรงโศกเศร้าและผิดหวังในบรรดาศิษย์ เป็นการสะท้อนถึงความคร่ำครวญของพระเจ้าต่อประชากรของพระองค์ในพันธสัญญาเดิม

- ท่านยังมีใจแข็งกระด้างกันอยู่อีกหรือ ใจของบรรดาศิษย์ปิดสนิท ไม่ยอมเปิดรับแผนการของพระเจ้าเช่นเดียวกับชาวฟาริสี พระเยซูเจ้าทรงใช้พระวาจาค่อนข้างรุนแรงเช่นนี้ เพื่อนำบรรดาศิษย์กลับไปสู่หนทางแห่งความเชื่อ ซึ่งเป็นสิ่งเดียวที่จะทำให้เขาสามารถติดตามพระอาจารย์ได้ด้วยใจสงบ ไม่ต้องกังวลใจเกี่ยวกับปัญหาต่าง ๆ ของโลก

- มีตา แต่ไม่เห็น มีหู แต่ไม่ได้ยินหรือ พระวาจานี้สะท้อนข้อความหลายตอนในพันธสัญญาเดิม เช่น อสย 6:9-10 ที่พระเยซูเจ้าทรงอ้างแล้วเพื่อบรรยายสภาพของ “คนที่อยู่ภายนอก” คือผู้ที่ไม่อยู่ในกลุ่มบรรดาศิษย์และไม่เข้าใจความหมายของกิจการน่าอัศจรรย์ที่พระเยซูเจ้าทรงกระทำ (เทียบ 4:11-12) หรือ ข้อความที่ประกาศกเยเรมีห์ตำหนิประชากรว่า “ประชากรที่โง่เขลาและไร้ความคิด ประชากรที่มีดวงตา แต่มองไม่เห็น มีหู แต่ฟังไม่ได้ยิน” (ยรม 5:21) ประกาศกเอเสเคียลพูดถึงบุคคล “ในหมู่พงศ์พันธุ์กบฏ เขามีตาเพื่อเห็น แต่ไม่มองดู มีหูเพื่อฟัง แต่ไม่ยอมฟัง”(อสค12:2) ในอดีต บรรดาประกาศกต้องปฏิบัติภารกิจในหมู่ประชาชนที่โง่เขลาและเป็นกบฏฉันใด บรรดาศิษย์ของพระเยซูเจ้าก็ล้อมรอบไปด้วยบุคคลที่ไม่มีความเข้าใจและไม่มีความเชื่อ จึงอยู่ในอันตรายที่จะปฏิบัติตามบุคคลดังกล่าวโดยรอบฉันนั้น

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก