“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)


(ไฟล์ "เสียงวรสาร" โดย วัดแม่พระกุหลาบทิพย์ กรุงเทพฯ)

พระเมสสิยาห์เสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็ม

          21 1เมื่อพระเยซูเจ้าเสด็จพร้อมกับบรรดาศิษย์เข้ามาใกล้กรุงเยรูซาเล็ม และเสด็จมาที่หมู่บ้านเบทฟายีบนภูเขามะกอกเทศ พระองค์ทรงใช้ศิษย์สองคน 2ตรัสสั่งว่า “จงไปที่หมู่บ้านข้างหน้า แล้วท่านจะพบแม่ลาตัวหนึ่งผูกอยู่ มีลูกอยู่ด้วย จงแก้เชือกและจูงมาให้เราเถิด 3ถ้ามีใครถาม จงตอบว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงต้องการใช้มัน และจะส่งกลับคืนให้ทันทีเมื่อใช้เสร็จ’” 4เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพื่อพระดำรัสที่ตรัสทางประกาศกจะได้เป็นความจริงว่า

            5จงบอกธิดาแห่งศิโยนว่า

                        ดูซิ กษัตริย์ของท่านเสด็จมาพบท่าน

            มีพระทัยอ่อนโยน ประทับบนแม่ลา

                        บนลูกลา สัตว์ใช้งานa

 

          6ศิษย์ทั้งสองคนไปทำตามที่พระเยซูเจ้าทรงสั่ง 7เขาจูงแม่ลาและลูกลามาถวายพระองค์ ปูเสื้อคลุมของตนบนหลังลา พระองค์ประทับบนหลังลา 8ประชาชนจำนวนมากปูเสื้อคลุมของตนบนทางเดิน บางคนตัดกิ่งไม้มาวางตามทางเดิน 9ประชาชนทั้งที่เดินไปข้างหน้าและที่ตามมาข้างหลัง ต่างโห่ร้องว่า

            โฮซานนาbแด่โอรสของกษัตริย์ดาวิด

                        ขอถวายพระพรแด่ผู้มาในพระนามองค์พระผู้เป็นเจ้า

            โฮซานนา ณ สวรรค์สูงสุด

 

          10เมื่อพระองค์เสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็มแล้ว ประชาชนทั่วทั้งเมืองต่างแตกตื่นถามว่า “ผู้นี้เป็นใครหนอ” 11ประชาชนที่ติดตามพระเยซูเจ้าก็ตอบว่า “ผู้นี้คือพระเยซู ประกาศกจากนาซาเร็ธ แคว้นกาลิลี”

พระเยซูเจ้าทรงขับไล่บรรดาพ่อค้าออกจากพระวิหาร

          12พระเยซูเจ้าเสด็จเข้าสู่พระวิหาร ทรงขับไล่บรรดาคนซื้อขายในพระวิหาร ทรงคว่ำโต๊ะของคนแลกเงินและม้านั่งของคนขายนกพิราบc 13ตรัสกับพวกเขาว่า “มีเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า บ้านของเราจะได้ชื่อว่าบ้านแห่งการอธิษฐานภาวนา แต่ท่านทั้งหลายกลับมาทำให้เป็นซ่องโจร

          14คนตาบอดและคนง่อยเข้ามาเฝ้าพระองค์ในพระวิหาร และพระองค์ทรงรักษาเขาให้หายจากโรค 15เมื่อบรรดาหัวหน้าสมณะและธรรมาจารย์เห็นอัศจรรย์ที่ทรงกระทำ และได้ยินพวกเด็กๆ ร้องในพระวิหารว่า “โฮซานนาแด่โอรสของกษัตริย์ดาวิด” ก็โกรธถามพระองค์ว่า
16
“ท่านได้ยินหรือไม่ว่าพวกเขาร้องว่าอะไร” พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “ได้ยิน ท่านไม่ได้อ่านในพระคัมภีร์หรือว่า

            ท่านได้เตรียมคำสรรเสริญไว้

                        จากปากของเด็กและทารก”

           17แล้วพระองค์ทรงจากพวกเขา เสด็จออกจากเมืองไปยังหมู่บ้านเบธานีและทรงพักแรมที่นั่น

ต้นมะเดื่อเทศไร้ผล ความเชื่อและการอธิษฐานภาวนา

          18เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่พระเยซูเจ้าเสด็จเข้าเมือง พระองค์ทรงรู้สึกหิว 19เมื่อทอดพระเนตรเห็นมะเดื่อเทศต้นหนึ่งอยู่ริมทาง จึงเสด็จเข้าไปใกล้ แต่ไม่ทรงพบผลมะเดื่อ ทรงพบแต่ใบเท่านั้น จึงตรัสกับมะเดื่อเทศต้นนั้นว่า “ตั้งแต่นี้ไป เจ้าอย่ามีผลอีกเลย” ทันใดนั้น มะเดื่อเทศก็เหี่ยวแห้งไปd 20บรรดาศิษย์เห็นดังนั้นต่างประหลาดใจ กล่าวว่า “ต้นมะเดื่อเทศเหี่ยวไปทันทีได้อย่างไร” 21พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ถ้าท่านมีความเชื่อและไม่สงสัย ท่านจะทำได้ทุกสิ่ง ไม่เพียงแต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับต้นมะเดื่อเทศต้นนี้เท่านั้น ถ้าท่านบอกภูเขาลูกนี้ว่า ‘จงยกตัวขึ้น และทิ้งตัวลงไปในทะเลเถิด’ ก็จะเป็นเช่นนั้น 22และทุกสิ่งที่ท่านจะอธิษฐานภาวนาวอนขอด้วยความเชื่อ ท่านก็จะได้รับ”

พระเยซูเจ้าทรงรับอำนาจจากผู้ใด

          23พระองค์เสด็จเข้าไปในพระวิหาร ขณะที่ทรงสั่งสอนประชาชนอยู่นั้น บรรดาหัวหน้าสมณะและผู้อาวุโสของประชาชนเข้ามาพบพระองค์ แล้วทูลถามว่า “ท่านมีอำนาจใดจึงทำเช่นนี้eใครมอบอำนาจนี้ให้ท่าน”

          24พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “เราขอถามท่านอย่างหนึ่งด้วยเช่นเดียวกัน ถ้าท่านตอบ เราก็จะบอกท่านว่า เราทำเช่นนี้ด้วยอำนาจใด 25พิธีล้างของยอห์นมาจากไหน จากสวรรค์หรือจากมนุษย์” บรรดาสมณะและผู้อาวุโสของประชาชนจึงปรึกษากันว่า “ถ้าเราตอบว่ามาจากสวรรค์ เขาก็จะถามว่า ‘แล้วทำไมท่านจึงไม่เชื่อยอห์นเล่า’ 26ถ้าเราตอบว่ามาจากมนุษย์ เราก็เกรงกลัวประชาชน เพราะทุกคนคิดว่ายอห์นเป็นประกาศก”

          27เขาจึงทูลตอบพระเยซูเจ้าว่า “เราไม่รู้” พระองค์จึงตรัสว่า “เราก็ไม่บอกท่านเช่นเดียวกันว่า เราทำการเหล่านี้โดยอำนาจใด”

อุปมาเรื่องบุตรสองคน

          28“ท่านทั้งหลายคิดเห็นอย่างไร ชายคนหนึ่งมีบุตรสองคน เขาไปพบบุตรคนแรกพูดว่า ‘ลูกเอ๋ย วันนี้ จงไปทำงานในสวนองุ่นเถิด’ 29บุตรตอบว่า ‘ลูกไม่อยากไป’ แต่ต่อมาก็เปลี่ยนใจและไปทำงาน 30พ่อจึงไปพบบุตรคนที่สอง พูดอย่างเดียวกัน บุตรคนที่สองตอบว่า ‘ครับพ่อ’ แต่แล้วก็ไม่ได้ไป 31สองคนนี้ใครทำตามใจพ่อ” พวกเขาตอบว่า “คนแรก” พระเยซูเจ้าจึงตรัสว่า “เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า คนเก็บภาษีและหญิงโสเภณีจะเข้าสู่พระอาณาจักรของพระเจ้าก่อนท่าน

          32เพราะยอห์นได้มาพบท่าน ชี้หนทางแห่งความชอบธรรมf ท่านก็ไม่เชื่อยอห์น ส่วนคนเก็บภาษีและหญิงโสเภณีเชื่อ แต่ท่านทั้งหลายเห็นดังนี้แล้ว ก็ยังคงไม่เปลี่ยนใจมาเชื่อยอห์น”

อุปมาเรื่องคนเช่าสวนชั่วร้ายg

          33“ท่านทั้งหลาย จงฟังอุปมาอีกเรื่องหนึ่งเถิด คหบดีผู้หนึ่งปลูกองุ่นไว้สวนหนึ่ง ทำรั้วล้อม ขุดบ่อย่ำองุ่น สร้างหอเฝ้า ให้ชาวสวนเช่า แล้วก็ออกเดินทางไปต่างเมือง 34เมื่อใกล้ถึงฤดูเก็บผล เจ้าของสวนจึงให้ผู้รับใช้ไปพบคนเช่าสวนเพื่อรับส่วนแบ่งจากผลผลิต 35แต่คนเช่าสวนได้จับคนใช้ ทุบตีคนหนึ่ง ฆ่าอีกคนหนึ่ง เอาหินทุ่มอีกคนหนึ่ง 36เจ้าของสวนจึงส่งผู้รับใช้จำนวนมากกว่าพวกแรกไปอีก คนเช่าสวนก็ทำกับพวกนี้เช่นเดียวกัน 37ในที่สุด เจ้าของสวนได้ส่งบุตรชายของตนไปพบคนเช่าสวน คิดว่า ‘คนเช่าสวนคงจะเกรงใจลูกของเราบ้าง’ 38แต่เมื่อคนเช่าสวนเห็นบุตรเจ้าของสวนมา ก็พูดกันว่า ‘คนนี้เป็นทายาท เราจงฆ่าเขาเถิด เราจะได้มรดกของเขา’

          39เขาจึงจับบุตรเจ้าของสวน นำตัวออกไปนอกสวนแล้วฆ่าเสีย 40ดังนี้ เมื่อเจ้าของสวนมา เขาจะทำอย่างไรกับคนเช่าสวนพวกนั้น” 41บรรดาผู้ฟังตอบว่า “เจ้าของสวนจะกำจัดพวกใจอำมหิตนี้อย่างโหดเหี้ยม และจะยกสวนให้คนอื่นเช่า ซึ่งจะแบ่งผลคืนให้เขาตามกำหนดเวลา” 42พระเยซูเจ้าจึงตรัสว่า “ท่านมิได้อ่านในพระคัมภีร์หรือว่า

            หินที่ช่างก่อสร้างทิ้งเสียนั้น

                        ได้กลายเป็นศิลาหัวมุม

            องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงกระทำเช่นนั้น

                        เป็นที่น่าอัศจรรย์แก่เรายิ่งนัก”

43“ดังนั้น เราบอกท่านว่า พระอาณาจักรของพระเจ้าจะถูกยกจากท่านทั้งหลาย ไปมอบให้แก่ชนชาติอื่นที่จะทำให้บังเกิดผล”(44)h

45เมื่อบรรดาหัวหน้าสมณะและชาวฟาริสีได้ยินอุปมาเหล่านี้ก็เข้าใจว่า พระองค์ตรัสถึงพวกเขา 46จึงพยายามจับกุมพระองค์ แต่ยังเกรงประชาชน เพราะประชาชนนับถือพระองค์เป็นประกาศก

 

21 a ลาเป็นสัตว์ที่ใช้ในยามสงบ ส่วนม้าใช้ในยามสงคราม ตามความคิดของประกาศกเศคาริยาห์ พระเมสสิยาห์ทรงลา แสดงว่าทรงเป็นผู้ปกครองที่อ่อนโยน ไม่ใช่นักรบ เมื่อพระเยซูเจ้าทรงลาเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็ม จึงทรงทำให้ถ้อยคำของประกาศกเป็นความจริงทั้งตามตัวอักษรและตามความหมายที่ลึกซึ้งกว่าด้วย

b “โฮซานนา” เป็นคำภาษาฮีบรู ความหมายแรกคือ “โปรดช่วยให้รอดพ้น” ต่อมา กลายเป็นเพียงคำอุทาน ชโย โห่ร้องต้อนรับ

c คนแลกเงินและพ่อค้าในพระวิหารบริการผู้แสวงบุญในการแลกเปลี่ยนเงินตราที่ใช้กันตามปกติ เป็นเหรียญของพระวิหาร และจัดหาสัตว์ที่ใช้บูชายัญ บริการเช่นนี้เป็นสิ่งถูกต้องก็จริง แต่อาจกลายเป็นการผูกขาดเอาเปรียบผู้อื่นได้ การขับไล่พ่อค้าออกจากพระวิหารยังอาจมองได้ว่าเป็นการกระทำของพระเมสสิยาห์ เพื่อชำระพระวิหารให้บริสุทธิ์ และเน้นการแสดงคารวกิจแบบดั้งเดิมที่ยังไม่มีการค้าขายเข้ามาเกี่ยวข้องให้เป็นมลทิน

d มก อธิบายเหตุผลว่า “เพราะมิใช่ฤดูมะเดื่อเทศ” แต่พระเยซูเจ้าทรงทำกิจการนี้เป็นสัญลักษณ์ (ดู ยรม 18:1 เชิงอรรถ a) ต้นมะเดื่อเทศเป็นสัญลักษณ์หมายถึงอิสราเอลที่ถูกลงโทษเพราะไม่มีความเชื่อ

e “เช่นนี้” หมายถึงเหตุการณ์พิเศษที่พระเยซูเจ้าทรงอนุญาตให้เกิดขึ้นภายในบริเวณพระวิหาร ได้แก่ การโห่ร้องต้อนรับพระเมสสิยาห์ การขับไล่พ่อค้า และการรักษาโรคอย่างอัศจรรย์

f เป็นสำนวนในพันธสัญญาเดิม ยอห์นปฏิบัติตามที่ท่านสอนว่า มนุษย์เป็นผู้ชอบธรรมได้ก็ต่อเมื่อปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระเจ้า

g เรื่องนี้เป็น “อุปมานิทัศน์” หรืออุปมาในรายละเอียด เพราะรายละเอียดทุกอย่างในเรื่องมีความหมาย เจ้าของสวนคือพระเจ้า สวนองุ่นคืออิสราเอล ประชากรที่พระเจ้าทรงเลือกสรร (ดู อสย 5:1 เชิงอรรถ a) ผู้รับใช้คือบรรดาประกาศก ลูกชายคือพระเยซูเจ้าซึ่งถูกประหารชีวิตนอกกำแพงกรุงเยรูซาเล็ม ชาวสวนฆาตกรคือ ชาวยิวที่ไร้ความเชื่อ ชาติที่ได้เช่าสวนองุ่นต่อไปคือคนต่างศาสนา มก มิได้รักษารายละเอียดทุกอย่างไว้ในพระวรสาร (เช่น ศพของลูกชายถูกทิ้งข้างนอกหลังจากถูกประหารชีวิตแล้ว) แต่ มธ ต้องการอธิบายความหมายของรายละเอียดทุกอย่าง

h สำเนาโบราณบางฉบับเพิ่มข้อ 44 ว่า “ผู้ใดตกบนศิลานี้ ผู้นั้นจะแหลกเป็นชิ้นๆ ถ้าหากศิลานั้นตกทับผู้ใด ผู้นั้นจะถูกบดขยี้” อาจเป็นคำอธิบายที่ผู้คัดลอกยกมาจาก ลก 20:18

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก