(ไฟล์ "เสียงวรสาร" โดย วัดแม่พระกุหลาบทิพย์ กรุงเทพฯ)

D. บทส่งท้ายa

ก. พระเยซูเจ้าทรงสำแดงพระองค์ที่ฝั่งทะเลสาบทิเบเรียส

21 1หลังจากนั้น พระเยซูเจ้าทรงสำแดงพระองค์แก่บรรดาศิษย์อีกครั้งหนึ่งที่ฝั่งทะเลสาบทิเบเรียส เรื่องราวเป็นดังนี้ 2ศิษย์บางคนอยู่พร้อมกันที่นั่น คือซีโมนเปโตร กับโทมัสที่เรียกกันว่า “ฝาแฝด” นาธานาเอล ซึ่งมาจากหมู่บ้านคานาในแคว้นกาลิลี บุตรทั้งสองคนของเศเบดีและศิษย์อีกสองคน 3ซีโมนเปโตรบอกคนอื่นว่า “ข้าพเจ้าจะไปจับปลา” ศิษย์คนอื่นตอบว่า “พวกเราจะไปกับท่านด้วย” เขาทั้งหลายออกไปลงเรือ แต่คืนนั้นทั้งคืนเขาจับปลาไม่ได้เลย

4พอรุ่งสาง พระเยซูเจ้าทรงยืนอยู่บนฝั่ง แต่บรรดาศิษย์ไม่รู้ว่าเป็นพระเยซูเจ้า 5พระเยซูเจ้าทรงร้องถามว่า “ลูกเอ๋ย มีอะไรกินบ้างไหม” เขาตอบว่า “ไม่มี” 6พระองค์จึงตรัสว่า “จงเหวี่ยงแหไปทางกราบเรือด้านขวาซิ แล้วจะได้ปลา” บรรดาศิษย์จึงเหวี่ยงแหออกไป แต่ดึงขึ้นไม่ไหว เพราะได้ปลาเป็นจำนวนมากb 7ศิษย์ที่พระเยซูเจ้าทรงรักกล่าวกับเปโตรว่า “เป็นองค์พระผู้เป็นเจ้านี่” เมื่อซีโมนเปโตรได้ยินว่า “เป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า” เขาก็หยิบเสื้อมาสวม เพราะเขาไม่ได้สวมเสื้ออยู่ แล้วกระโดดลงไปในทะเล 8ศิษย์คนอื่นเข้าฝั่งมากับเรือ ลากแหที่ติดปลาเข้ามาด้วย เพราะอยู่ไม่ห่างจากฝั่งนัก ประมาณหนึ่งร้อยเมตรเท่านั้น

9เมื่อบรรดาศิษย์ขึ้นมาบนฝั่ง ก็เห็นถ่านติดไฟลุกอยู่ มีปลาและขนมปังวางอยู่บนไฟ 10พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาว่า “จงเอาปลาที่เพิ่งจับได้มาบ้างซิ” 11ซีโมนเปโตรจึงลงไปในเรือ แล้วลากแหขึ้นฝั่งc มีปลาตัวใหญ่ติดอยู่เต็ม นับได้หนึ่งร้อยห้าสิบสามตัว แต่ทั้งๆ ที่ติดปลามากเช่นนั้น แหก็ไม่ขาด 12พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาว่า “มากินอาหารกันเถิด” ไม่มีศิษย์คนใดกล้าถามว่า “ท่านเป็นใคร” เพราะรู้ว่าเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า 13พระเยซูเจ้าทรงเข้ามาหยิบขนมปังแจกให้เขา แล้วทรงแจกปลาให้เช่นเดียวกัน 14นี่เป็นครั้งที่สามแล้วที่พระเยซูเจ้าทรงแสดงพระองค์แก่บรรดาศิษย์หลังจากที่ทรงกลับคืนพระชนมชีพจากบรรดาผู้ตาย

15เมื่อบรรดาศิษย์กินเสร็จแล้ว พระเยซูเจ้าตรัสกับซีโมนเปโตรว่า “ซีโมนบุตรของยอห์น ท่านรักเรามากกว่าคนเหล่านี้รักเราไหม” เปโตรทูลตอบว่า “ใช่แล้ว พระเจ้าข้า พระองค์ทรงทราบว่าข้าพเจ้ารักพระองค์” พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาว่า “จงเลี้ยงลูกแกะของเราเถิด” 16พระองค์ตรัสถามเขาอีกเป็นครั้งที่สองว่า “ซีโมนบุตรของยอห์น ท่านรักเราไหม” เขาทูลตอบว่า “ใช่แล้ว พระเจ้าข้า พระองค์ทรงทราบว่าข้าพเจ้ารักพระองค์” พระองค์ตรัสกับเขาว่า “จงดูแลแกะของเราเถิด” 17พระองค์ตรัสถามเป็นครั้งที่สามว่า “ซีโมนบุตรของยอห์น ท่านรักเราไหม” เปโตรรู้สึกเป็นทุกข์ที่พระองค์ตรัสถามตนถึงสามครั้งdว่า “ท่านรักเราไหม”e เขาทูลตอบว่า “พระเจ้าข้า พระองค์ทรงทราบทุกสิ่ง พระองค์ทรงทราบว่าข้าพเจ้ารักพระองค์” พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาว่า “จงเลี้ยงดูแกะของเราเถิดf

18เราบอกความจริงกับท่านว่า

เมื่อท่านยังหนุ่ม

ท่านคาดสะเอวด้วยตนเอง

และเดินไปไหนตามใจชอบ

แต่เมื่อท่านชรา

ท่านจะยื่นมือ

แล้วคนอื่นจะคาดสะเอวให้ท่าน

พาท่านไปในที่ที่ท่านไม่อยากไป”

19พระเยซูเจ้าตรัสเช่นนี้เพื่อแสดงว่า เปโตรจะถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าโดยตายอย่างไรg เมื่อตรัสดังนี้แล้ว ทรงเสริมว่า “จงตามเรามาเถิด”h

20เปโตรเหลียวไปดู ก็เห็นศิษย์ที่พระเยซูเจ้าทรงรักตามมา เป็นคนที่เอนกายชิดพระอุระพระเยซูเจ้าในการเลี้ยงอาหารค่ำ และทูลถามพระองค์ว่า “พระเจ้าข้า ผู้ที่ทรยศพระองค์เป็นใคร” 21เมื่อเปโตรเห็นเขา ก็ทูลถามพระเยซูเจ้าว่า “คนนี้จะเป็นอย่างไร พระเจ้าข้า” 22พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาว่า “ถ้าเราอยากให้เขาอยู่จนกว่าเราจะกลับมาi ก็ธุระอะไรของท่าน ท่านจงตามเรามาเถิด” 23ดังนั้น จึงมีเรื่องที่เล่าลือกันไปทั่วในกลุ่มบรรดาพี่น้องว่าศิษย์คนนี้จะไม่ตาย แต่พระเยซูเจ้ามิได้ตรัสว่า “เขาจะไม่ตาย” แต่ตรัสว่า “ถ้าเราอยากให้เขาอยู่จนกว่าเราจะกลับมาj ก็ธุระอะไรของท่าน”

ข. บทสรุปครั้งที่สอง

24นี่คือศิษย์ที่เป็นพยานถึงเรื่องราวเหล่านี้ และเขียนบันทึกไว้ พวกเราkรู้ว่าคำพยานของเขานั้นเป็นความจริง

25ยังมีเรื่องราวอื่นๆ อีกมากที่พระเยซูเจ้าทรงกระทำ ซึ่งถ้าจะเขียนลงไว้ทีละเรื่องทั้งหมด ข้าพเจ้าคิดว่า โลกทั้งโลกคงไม่พอบรรจุหนังสือที่จะต้องเขียนนั้น

 

เรียนพระคัมภีร์กับคุณพ่อสมเกียรติ ตรีนิกร
พระวรสารนักบุญยอห์น บทที่ 20-21


 

21 a บทส่งท้ายนี้ อาจเป็นข้อเขียนเพิ่มเติมโดยผู้นิพนธ์พระวรสารเองหรือโดยศิษย์คนหนึ่งของเขา

b ปลาที่ติดแหจำนวนมากเช่นนี้ ชวนให้ระลึกถึงเหตุการณ์ที่หมู่บ้านคานา (2:6) การทวีขนมปังอย่างอัศจรรย์ (6:11ฯ) น้ำ (4:14; 7:37ฯ) เป็นชีวิตซึ่งผู้เลี้ยงที่ดีประทานให้ (10:10) และการที่พระเยซูเจ้าทรงได้รับความอุดมของพระจิตเจ้าอย่างสมบูรณ์ (3:34)

c ในพระวรสารสหทรรศน์ การลากแหหรืออวนที่ติดปลาเป็นภาพลักษณ์ของพระอาณาจักรที่กำลังมาถึง (มธ 13:47ฯ) หรือเป็นภาพลักษณ์ของภารกิจของบรรดาอัครสาวก (มธ 4:19//) ในที่นี้ก็เช่นเดียวกัน การลากปลาขึ้นฝั่งเป็นสัญลักษณ์ของภารกิจของบรรดาอัครสาวกโดยมีเปโตรเป็นผู้นำ (เทียบ ยน 21:15-17)

d การที่พระเยซูเจ้าทรงให้เปโตรยืนยันความรักต่อพระองค์ถึงสามครั้ง ก็เพื่อชวนให้เขาระลึกว่าได้เคยปฏิเสธพระองค์ถึงสามครั้งมาแล้ว (13:38; 18:17, 25-27)

e คำว่า รัก ในพระวรสารตอนนี้ใช้กริยาสองคำในภาษากรีก ซึ่งอาจไม่มีความหมายแตกต่างกันมากนัก อาจเป็นเพียงลีลาการเขียนเพื่อหลีกเลี่ยงการใช้คำซ้ำกัน ในทำนองเดียวกัน คำ แกะ และ ลูกแกะ ก็อาจเป็นลีลาการเขียนเช่นเดียวกัน

f เปโตรยืนยันสามครั้งว่ารักพระเยซูเจ้า พระองค์จึงทรงมอบภารกิจให้เปโตรสามครั้งเช่นเดียวกัน ให้เขาปกครองดูแลฝูงแกะแทนพระองค์ (เทียบ มธ 16:18; ลก 22:31ฯ) เป็นไปได้ว่า การย้ำสามครั้งเป็นวิธีทำสัญญาเป็นทางการตามธรรมเนียมของชาวเซมิติก (เทียบ ปฐก 23:7-23)

g เปโตรจะตายเป็นมรณสักขี

h พระวาจานี้ทำให้พระวาจาที่เคยตรัสกับเปโตรใน 13:36 ว่า เปโตรจะตามพระองค์ไปในภายหลังเป็นจริง

i อาจหมายถึงการเสด็จมาอย่างรุ่งเรืองของพระองค์ (เทียบ 1 คร 11:26; 16:22; วว 1:7; 22:7, 12, 17, 20)

j สำเนาโบราณบางฉบับละ ก็จะเป็นธุระอะไรของท่าน”

k พวกเรา อาจหมายถึงบรรดาศิษย์ของยอห์น