“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)


(ไฟล์ "เสียงวรสาร" โดย วัดแม่พระกุหลาบทิพย์ กรุงเทพฯ)

16 1เราบอกเรื่องเหล่านี้แก่ท่านทั้งหลาย

เพื่อท่านจะไม่แคลงใจa

2เขาจะขับไล่ท่านออกจากศาลาธรรม

เวลานั้นกำลังมาถึง

เมื่อผู้ที่ฆ่าท่านจะคิดว่าตนกำลังถวายคารวกิจแด่พระเจ้า

3เขาจะทำเช่นนี้

เพราะเขาไม่รู้จักทั้งพระบิดาและเรา

4แต่เราบอกเรื่องนี้กับท่าน

เพื่อว่าเมื่อเวลานั้นมาถึง

ท่านจะระลึกได้ว่าเราบอกท่านแล้ว”

การเสด็จมาของพระผู้ช่วยเหลือ

“เราไม่ได้บอกเรื่องเหล่านี้กับท่านตั้งแต่ต้น

เพราะเรายังอยู่กับท่าน

5แต่บัดนี้เรากำลังไปเฝ้าพระองค์ผู้ทรงส่งเรามา

ไม่มีผู้ใดถามเราว่า ‘พระองค์จะเสด็จไปไหน’

6แต่เพราะเราได้บอกเรื่องเหล่านี้กับท่าน

ใจของท่านจึงมีแต่ความทุกข์

7เราบอกความจริงกับท่านทั้งหลายว่า

ที่เราไปนั้นก็เป็นประโยชน์กับท่าน

เพราะถ้าเราไม่ไป

พระผู้ช่วยเหลือก็จะไม่เสด็จมาหาท่าน

แต่ถ้าเราไป

เราจะส่งพระองค์มาหาท่าน

8เมื่อพระองค์เสด็จมา

พระองค์จะทรงแสดงให้โลกเห็นความหมายbของบาป

ของความถูกต้อง

และของการตัดสิน

9บาปของโลกคือ

เขาไม่ได้เชื่อในเราc

10ความถูกต้องคือ

เรากำลังไปเฝ้าพระบิดา

และท่านจะไม่เห็นเราอีกd

11การตัดสินคือ

ซาตานเจ้านายแห่งโลกนี้ถูกตัดสินลงโทษแล้วe

12เรายังมีอีกหลายเรื่องที่จะบอกท่าน

แต่บัดนี้ท่านยังรับไว้ไม่ได้

13เมื่อพระจิตแห่งความจริงเสด็จมา

พระองค์จะทรงนำท่านไปสู่ความจริงทั้งมวล

พระองค์จะไม่ตรัสโดยพระองค์เอง

แต่จะตรัสทุกสิ่งที่ทรงได้ฟังมา

และจะทรงแจ้งให้ท่านรู้เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นf

14พระองค์จะทรงให้เราได้รับพระสิริรุ่งโรจน์

เพราะพระองค์จะทรงแจ้งให้ท่านรู้คำสอนที่ทรงได้รับจากเรา

15ทุกสิ่งที่พระบิดาทรงมีนั้นก็เป็นของเราด้วย

ดังนั้น เราจึงบอกว่า

พระจิตเจ้าจะทรงแจ้งให้ท่านรู้คำสอนที่ทรงรับจากเรา”g

พระเยซูเจ้าจะเสด็จกลับมา

16“อีกไม่นาน ท่านทั้งหลายจะไม่เห็นเรา

และต่อไปไม่นาน ท่านจะเห็นเราอีก”h

17ศิษย์บางคนจึงถามกันว่า “ที่พระองค์ตรัสกับเราว่า ‘อีกไม่นาน ท่านจะไม่เห็นเรา แล้วต่อไปไม่นาน ท่านจะเห็นเราอีก’ หมายความว่าอย่างไร และที่พระองค์ตรัสว่า ‘เรากำลังไปเฝ้าพระบิดา’ หมายความว่าอย่างไร” 18เขาพูดกันอีกว่า “ที่พระองค์ตรัสว่า ‘อีกไม่นาน’ นั้นหมายความว่าอย่างไรi เราไม่เข้าใจว่าพระองค์กำลังตรัสอะไร” 19พระเยซูเจ้าทรงทราบว่าบรรดาศิษย์ต้องการทูลถามพระองค์ จึงตรัสว่า “ท่านกำลังถามกันใช่ไหมถึงเรื่องที่เราบอกว่า อีกไม่นานท่านจะไม่เห็นเรา แล้วต่อไปไม่นานท่านจะเห็นเราอีก”

20“เราบอกความจริงกับท่านทั้งหลายว่า

ท่านจะร้องไห้ คร่ำครวญ

แต่โลกจะยินดี

ท่านจะเศร้าโศก

แต่ความเศร้าโศกของท่านจะเปลี่ยนเป็นความยินดีj

21หญิงที่กำลังจะคลอดบุตรย่อมมีความทุกข์

เพราะถึงเวลาของนางแล้วk

แต่เมื่อคลอดบุตรแล้ว นางก็จำความทุกข์ไม่ได้อีกต่อไป

เพราะความยินดีที่มนุษย์คนหนึ่งเกิดมาในโลก

22ท่านทั้งหลายก็เช่นเดียวกัน

บัดนี้ท่านมีความทุกข์

แต่เราจะเห็นท่านอีก และใจของท่านจะยินดี

ไม่มีใครนำความยินดีไปจากท่านได้

23วันนั้น

ท่านทั้งหลายจะไม่ถามอะไรจากเราอีก

เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า

ท่านจะขอสิ่งใดจากพระบิดา

พระองค์จะประทานให้ท่านในนามของเรา

24จนถึงบัดนี้ ท่านยังไม่ได้ขอสิ่งใดในนามของเราเลยl

จงขอเถิด แล้วท่านจะได้รับ

เพื่อความยินดีของท่านจะสมบูรณ์

25เราใช้อุปมาบอกเรื่องเหล่านี้กับท่าน

จะถึงเวลา

ที่เราจะไม่ใช้อุปมาพูดกับท่านอีก

แต่จะบอกถึงพระบิดาของเราให้ท่านรู้อย่างชัดแจ้งm

26วันนั้น

ท่านจะขอในนามของเรา

เราไม่บอกท่านว่า เราจะขอพระบิดาnเพื่อท่าน

27พระบิดาทรงรักท่าน

เพราะท่านรักเรา และเชื่อว่าเรามาจากพระเจ้า

28เรามาจากพระบิดา เข้ามาในโลกนี้

บัดนี้ เรากำลังจะละโลกนี้กลับไปเฝ้าพระบิดาอีก”

29บรรดาศิษย์ทูลว่า “ใช่แล้ว บัดนี้พระองค์ตรัสอย่างชัดแจ้ง มิได้ใช้อุปมาใดๆ 30บัดนี้พวกเรารู้ว่าพระองค์ทรงทราบทุกสิ่ง และไม่จำเป็นที่ใครจะทูลถามพระองค์อีก ดังนั้น เราจึงเชื่อว่าพระองค์ทรงมาจากพระเจ้า” 31พระเยซูเจ้าตรัสว่า

32“บัดนี้ ท่านทั้งหลายเชื่อแล้วหรือ

จะถึงเวลา และเวลานั้นก็มาถึงแล้ว

ที่ท่านทั้งหลายจะกระจัดกระจายไปคนละทิศคนละทาง

และจะทิ้งเราไว้คนเดียว

แต่เราไม่อยู่คนเดียว

เพราะพระบิดาทรงอยู่กับเรา

33เราบอกเรื่องเหล่านี้กับท่านแล้ว

เพื่อท่านจะได้มีสันติสุขในเรา

ในโลกนี้ ท่านจะมีความทุกข์ยาก

แต่อย่าท้อแท้

เราชนะโลกแล้ว”

 

เรียนพระคัมภีร์กับคุณพ่อสมเกียรติ ตรีนิกร
พระวรสารนักบุญยอห์น บทที่ 16-17


 

16 a พระเยซูเจ้าทรงบอกล่วงหน้ากับบรรดาอัครสาวกถึงความยากลำบากที่กำลังจะมาถึง เพื่อความเชื่อของเขาจะไม่คลอนแคลน (เทียบ 13:19)

b พระจิตเจ้าที่พระเยซูเจ้าทรงส่งมาจะยืนยันการเป็นพยานของพระเยซูเจ้า (3:11 เชิงอรรถ e) เพื่อว่าผู้มีความเชื่อจะเข้าใจชัดเจนยิ่งขึ้นว่า ภารกิจของพระผู้ไถ่นั้นมาจากพระเจ้าจริงๆ

c บาปของโลกคือ การขาดความเชื่อในพระเยซูเจ้า (8:21, 24, 46; 15:22) พระจิตเจ้าจะเปิดเผยบาปนี้ให้ปรากฏ

d พระจิตเจ้าจะพิสูจน์ถึงสิทธิของพระเยซูเจ้าที่จะได้รับพระนาม พระบุตรของพระเจ้า (เทียบ 10:33; 19:7) การที่พระเยซูเจ้าจะทรง ผ่าน จากโลกนี้ไปเฝ้าพระบิดาจะพิสูจน์ว่า พระองค์เป็นพระบุตรของพระเจ้า (13:1; 20:17) เพราะเป็นการแสดงว่าสวรรค์เป็นบ้านแท้ของพระองค์ (6:62)

e พระจิตเจ้าจะทรงเปิดเผยความหมายของการสิ้นพระชนม์ของพระเยซูเจ้าว่า เป็นคำตัดสินลงโทษเจ้านายของโลกนี้อย่างเด็ดขาด

f หมายถึง ความสัมพันธ์ใหม่ระหว่างมนุษย์กับพระเจ้า ซึ่งเป็นผลจากการสิ้นพระชนม์ และการกลับคืนพระชนมชีพของพระเยซูเจ้า

g พระจิตเจ้าทรงเปิดเผยพระสิริรุ่งโรจน์ซึ่งเป็นธรรมล้ำลึกของพระเยซูเจ้าที่ไม่มีใครรู้ให้เป็นที่รู้จัก พระเยซูเจ้าเองก็ทรงเปิดเผยพระสิริรุ่งโรจน์ของพระบิดาให้เป็นที่รู้จักเช่นกัน (17:4ฯ) พระบิดาทรงเป็นที่มาของทุกสิ่งที่พระเยซูเจ้าทรงมี (3:35; 5:22, 26; 13:3; 17:2)

h อีกไม่นานบรรดาศิษย์จะไม่เห็นพระเยซูเจ้าเพราะพระองค์จะสิ้นพระชนม์ แล้วอีกไม่นานจะเห็นพระองค์อีก เพราะพระองค์จะทรงกลับคืนพระชนมชีพ *สำเนาโบราณบางฉบับเสริมว่า เพราะเรากำลังไปหาพระบิดา

 

i สำเนาโบราณบางฉบับละคำว่า ที่พระองค์ตรัสว่า

j ความยินดีหมายถึง ความสุขของบรรดาศิษย์ที่เห็นพระคริสตเจ้าทรงกลับคืนพระชนมชีพ หลังจากที่เขามีความทุกข์ในวันที่พระองค์ทรงรับทรมานและสิ้นพระชนม์ (เทียบ 20:20)

k ความทุกข์ของหญิงที่กำลังคลอดบุตรเป็นภาพเปรียบเทียบที่พระคัมภีร์ใช้บ่อยๆ หมายถึง ความทุกข์ที่เกิดขึ้นก่อนยุคของพระเมสสิยาห์ (ดู มธ 24:8 เชิงอรรถ f)

l เพราะพระเยซูเจ้ายังไม่ได้รับพระสิริรุ่งโรจน์ (เทียบ 14:13ฯ)

m การกลับคืนพระชนมชีพ และการเสด็จมาของพระจิตเจ้าเปิดยุคใหม่ที่มนุษย์รับคำสั่งสอนที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ความรู้ถึงพระเจ้านี้จะสมบูรณ์เมื่อเราจะเห็นพระองค์ ดังที่ทรงเป็นอยู่ (1 ยน 3:2)

n พระเยซูเจ้ายังทรงเป็นคนกลางเพียงคนเดียวระหว่างพระเจ้ากับมนุษย์ (เทียบ 10:9; 14:6; 15:5; ฮบ 8:6) แต่ความเชื่อและความรักของบรรดาศิษย์ ทำให้เขาเป็นหนึ่งกับพระองค์ ดังนั้น เขาจึงเป็นที่รักของพระบิดา โดยไม่ต้องมีใครมาคั่นกลางอีก

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก