“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันพุธที่ 24 ธันวาคม 2014
สมโภชพระคริสตสมภพ (มิสซาค่ำคืนทุกวัดฉลอง)
เมื่อถึงวันสมโภช มิสซาฉลองยามค่ำคืน เราอ่านบทอ่านวันนี้ด้วยกันสามบทเลยดีไหมครับนะครับ เราเตรียมตัวกันมานานแล้ว เรามาพิจารณาพระวาจากันทั้งสามบทที่พิธีกรรมจัดเตรียมไว้เพื่อฉลองพระคริสต สมภพกันครับ.... เพราะพระวจนาตถ์คือพระวาจาของพระเจ้าที่รับเอากายมาบังเกิด ไม่มีอะไรดีไปกว่าพระวาจาของพระเจ้าแล้วครับ พระวาจาได้รับเอากายมาบังเกิดเป็นมนุษย์ครับ....อ่านด้วยกันและสุขสันต์พระค ริสตสมภพนะครับ... พระวาจาสำหรับคืนนี้... แต่ละบทพ่อจะใส่อรรถาธิบายสั้นเพื่อการรำพึงไตร่ตรองในระหว่างบทอ่านแต่ละบท นะครับ


บทอ่านที่ 1
อสย 9:1-6……
1
ประชากรที่เดินในความมืดแลเห็นความสว่างยิ่งใหญ่
บรรดาผู้อาศัยในแผ่นดินมืดมิด ความสว่างส่องแสงมาเหนือเขา
2พระองค์ทรงเพิ่มจำนวนประชากร ทรงเพิ่มความชื่นบานของเขา
เขาทั้งหลายจะยินดีเฉพาะพระพักตร์พระองค์
ดั่งความชื่นบานในฤดูเก็บเกี่ยว
ดั่งความยินดีเมื่อเขาแบ่งของเชลยให้แก่กัน
3เพราะว่าแอกอันเป็นภาระของเขา ท่อนไม้ที่เขาต้องแบก
ไม้ตะพดของผู้กดขี่ พระองค์ทรงหักเสียอย่างที่ทรงเคยทำกับชาวมีเดียน
4รองเท้าทุกคู่ของบรรดาทหารที่เข้าประจัญบาน
เสื้อคลุมทุกตัวที่เปื้อนเลือดจะถูกเผาเป็นเชื้อเพลิงในกองไฟ 
5เพราะกุมารผู้หนึ่งเกิดมาเพื่อเรา
บุตรชายคนหนึ่งเป็นผู้ที่พระเจ้าประทานให้เรา
สัญลักษณ์แห่งการปกครองอยู่บนบ่าของเขา
เขาจะได้รับนามว่า “ที่ปรึกษามหัศจรรย์” “พระเจ้าผู้ทรงอำนาจ”
“พระบิดานิรันดร” “เจ้าแห่งสันติ”
6การปกครองของเขาจะยิ่งใหญ่ สันติภาพจะไม่สิ้นสุด
เหนือพระบัลลังก์ของกษัตริย์ดาวิดและเหนือราชอาณาจักร
ที่เขาจะสถาปนาไว้และเชิดชูด้วยความยุติธรรมและความชอบธรรม
บัดนี้และตลอดไป
พระยาห์เวห์จอมจักรวาลจะทรงกระทำเช่นนี้ด้วยความรักแรงกล้า ของพระองค์


อรรถาธิบายและไตร่ตรอง

• พระเยซูผู้บังเกิดมาตามคำสัญญา คือ แสงสว่าง เพื่อมนุษย์จะได้ไม่เดินในความมืดอีกต่อไป การปกครองของพระองค์คือกษัตริย์แห่งความชอบธรรมและสัตย์จริง “ความชอบธรรมและสัตย์จริง” คือพลังที่เราควรได้รับจากพระองค์ในค่ำคืนวันนี้ ความมืดมนในจิตใจ จิตใจที่มืดทึบหรือยากดึกดื่นของชีวิตควรได้รับแสงอรุณยามเช้าเสียที 

o เพราะพระองค์คือองค์อรุโณทัยแห่งชีวิต พระองค์คือผู้เบิกอรุณแห่งชีวิตทำให้ความมืดแตกกระจายไปด้วยความสว่างที่ โผล่ขึ้นที่ขอบฟ้า เราจึงรองเพลงสำนวนที่ว่า morning has broken 

o พ่อขอภาวนาให้ความทึบมืดบอดของชีวิตของพ่อและของพี่น้องทุกคนได้ แตกสลาย (broken) ด้วยแสงสว่างแห่งการบังเกิดมาของพระเยซูเจ้าจริงๆเสียที ความมืดที่ทำให้อับเฉาเศร้าขุ่นเคืองเปลืองแรงกายแรงใจกันมานานหลายๆ ปี ขอให้ได้รับการปัดสลายไปด้วยแสงสว่างของพระคริสตเจ้าในค่ำคืนวันนี้


• ขอพระเจ้าประทาน “ความชื่นบาน” จริงๆให้ชีวิต ความสุขที่ได้และเห็นแสงสว่าง ความชื่นบานดุจแห่งไฟที่ประดับทั่วไปโอกาสคริสตมาส 

o พ่อเชื่อว่า ความชื่นบานไม่ได้มาจากการประดับภายนอก แต่จากภายใน from inside to outside เท่านั้น คือความชื่นบ้านแท้จริง บางทีเราวิ่งหาความสุข หาความชื่นบานมากมาย เพื่อกลบเกลื่อนและลบเลือนความเศร้าหมองหรือโกรธเคืองเคียดแค้นของชีวิตที่ คุกรุ่นลุกร้อนซ่อนอยู่ ถ้าไม่ใช่คืนนี้แล้วจะเป็นคืนไหนเมื่อไรที่เราจะไปรับศีลอภัยบาป และที่สำคัญกลับใจเปิดอกเปิดหัวใจจากภายในของเราเล่า หรือเราจะเต้นจิงเกิ้ลเบลหน้าระรื่นกลบความระทมตรมเศร้าของหัวใจ ที่เป็นขุมแห่งความโกรธเกลียดหรือแม้แต่อาฆาตมาตแค้นพยาบาทกันต่อไป

o ดังนั้น ถึงเวลาปลดแอกเสียที ปลดตนเองจากบาปและความทุกข์ภายในหัวใจหรือการหลงเดินทางผิดเข้าเทียมแอกโดย สมยอมหรือไม่ขัดขืนก็ตาม ถึงเวลาแห่งความชื่นบานครับ เปิดใจภายในให้พระเจ้า องค์แสงสว่างแห่งชีวิตฉายผ่านลึกเข้าไปถึงภายในจิตใจของเราแล้วครับ....


• กุมารผู้นี้เกิดมาเพื่อเรา พระองค์คือที่ปรึกษามหัศจรรย์และพระราชาแห่งสันติสุขครับ และอย่าลืมว่าพระเจ้าทรงกระทำเช่นนี้ด้วยความรักแรงกล้าของพระองค์ พระเจ้ารักเราขนาดนี้ ถ้าใครสักคนรักเราขนาดนี้แล้วและนี่คือพระเจ้า เราอย่าดื้อ ด้าน เกเร หรือ ทำร้ายตนเองและเพื่อนพี่น้องกันอีกเลย นะครับ Glory to God in the highest and Peace on Earth also Peace in all hearts ครับ

บทอ่านที่ 2 
ทต 2:11-14……

11พระหรรษทานของพระเจ้าปรากฏขึ้นเพื่อช่วยมนุษย์ทุกคนให้รอดพ้น 12สอนเราให้ละทิ้งอธรรมและโลกียตัณหา เพื่อดำเนินชีวิตอย่างมีสติสัมปชัญญะด้วยความชอบธรรมและด้วยความเคารพรัก พระเจ้าในโลกนี้ 13ขณะที่เรากำลังรอคอยการสำแดงพระองค์ในพระสิริรุ่งโรจน์ของพระคริสตเยซู พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่และพระผู้ไถ่ของเรา เป็นความสุขที่เราหวังไว้ 14พระองค์ทรงมอบพระองค์เพื่อเรา เพื่อไถ่กู้เราจากอธรรมทั้งหลาย ชำระประชากรให้บริสุทธิ์เพื่อจะเป็นประชากรของพระองค์ และเป็นผู้ปรารถนาจะทำแต่ความดี


อรรถาธิบายและไตร่ตรอง
• พระเยซูเจ้า “คือพระหรรษทาน” Grace upon Graces พระกุมารผู้บังเกิดมาและพระศาสนจักรรู้จักทางพระวาจาตลอดมานี้คือพระหรรษทาน สูงสุดของพระเจ้าครับ 

o ไม่ต้องสงสัยอีกเลย และพระหรรษทานนี้คือพลังและคำสอนให้เราเดินทางชีวิตออกจาก “ความอธรรมและโลกียตัณหา” กระแสโลกแรงเสมอ กระแสโลกกำลังต่อสู้กับกระแสของพระเจ้า 

o นักบุญเปาโลสอนทิตัสชัดๆว่า “ต้องสู้ครับ” กระแสโลกแรงกรุ่นร้อนร้ายอยู่ในใจ และมนุษย์เป็นทาสของมัน เหมือนแรงเงา เหมือนแรงเงามืดมนที่พยายามให้เหตุผลเพื่อกระทำ เพื่อริษยาและเพื่อแค้นเคือง... กระแสโลกนิยมและนิยมโลก วัตถุนิยมและหลงใหลไปกับวัตถุ จนเลือกตนเองเป็นศูนย์กลางของทุกสิ่ง.... อยากทำดีเพราะเป็นลูกพระเจ้า แต่พลังและแรงเงาของตนก็แรงกว่า พยายามเอาแรงเงาแห่งความเห็นแก่ตัวของตน เพื่อกลบเกลื่อนแรงแสงแห่งมโนธรรมที่พระเจ้าประทานให้ หลอกตัวเองจากแสงด้วยการปิดตาครั้งเดียวก็คิดว่าพ่อ แต่ลืมไปว่า แสงทั้งหมดอาบท่วมท้นล้นทั้งร่างกายเราอยู่...

o พี่น้องครับ... ยอมให้กับพระเจ้า ยอมเปิดตามองดูแสงแห่งธรรมและสันตินิรันดรของพระเจ้าเถอะครับ... เราจะได้มีความสุขกับแสงสว่างของพระองค์ และเลิกยึดถึงแรงเงาของตนเองเสียที... และเราจะกลายเป็นตามที่เปาโลสอนทิตัส คือ เราจะกลายเป็นผู้ที่ปรารถนาจะกระทำแต่ความดี.... Peace be with you ครับ


พระวรสาร
ลก 2:1-14…….
1ครั้งนั้น พระจักรพรรดิออกัสตัส ทรงออกพระราชกฤษฎีกาให้มีการสำรวจสำมะโนประชากรทั่วจักรวรรดิโรมัน 2การสำรวจสำมะโนประชากรครั้งแรกนี้ มีขึ้นเมื่อคีรินีอัสเป็นผู้ว่าราชการแคว้นซีเรีย 3ทุกคนต่างไปลงทะเบียนในเมืองของตน 4โยเซฟออกเดินทางจากเมืองนาซาเร็ธในแคว้นกาลิลีไปยังเมืองของกษัตริย์ดาวิด ชื่อเบธเลเฮมในแคว้นยูเดีย เพราะโยเซฟสืบเชื้อสายมาจากราชวงศ์กษัตริย์ดาวิด 5ท่านไปลงทะเบียนพร้อมกับพระนางมารีย์ ซึ่งกำลังทรงพระครรภ์ 6ขณะที่อยู่ที่นั่น ก็ถึงกำหนดเวลาที่พระนางมารีย์จะมีพระประสูติกาล 7พระนางประสูติพระโอรสองค์แรก ทรงใช้ผ้าพันพระวรกายพระกุมารนั้น แล้วทรงวางไว้ในรางหญ้า เนื่องจากไม่มีที่ในห้องพักแรมเลย 8ในบริเวณนั้นมีคนเลี้ยงแกะกลุ่มหนึ่งอยู่กลางแจ้ง กำลังเฝ้าฝูงแกะในยามกลางคืน 9ทูตสวรรค์องค์หนึ่งของพระเจ้าปรากฏองค์ต่อหน้าเขา และพระสิริของพระเจ้าก็ส่องแสงรอบตัวเขา คนเลี้ยงแกะมีความกลัวอย่างยิ่ง 10แต่ทูตสวรรค์กล่าวแก่เขาว่า “อย่ากลัวเลย เพราะเรานำข่าวดีมาบอกท่านทั้งหลาย เป็นข่าวดีที่จะทำให้ประชาชนทุกคนยินดีอย่างยิ่ง 11วันนี้ ในเมืองของกษัตริย์ดาวิด พระผู้ไถ่ประสูติเพื่อท่านแล้ว พระองค์คือพระคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้า 12ท่านจะรู้จักพระองค์ได้จากเครื่องหมายนี้ ท่านจะพบกุมารคนหนึ่ง มีผ้าพันกายนอนอยู่ในรางหญ้า” 13ทันใดนั้น ทูตสวรรค์อีกจำนวนมากปรากฏมาสมทบกับทูตสวรรค์องค์นั้น ร้องสรรเสริญพระเจ้าว่า
14พระสิริรุ่งโรจน์จงมีแด่พระเจ้าในสวรรค์สูงสุด
และบนแผ่นดิน สันติจงมีแก่มนุษย์ที่พระองค์โปรดปราน
อรรถาธิบายและไตร่ตรอง


• พระวรสารตอนนี้ไม่ต้องอธิบายอะไรมากแล้วครับ นอกจาก “ทรงรักเราถึงเพียงนี้” ยอมเคียงบ่าเคียงไหล่กับเรา ช้อนเราขึ้น ด้วยการโน้มพระองค์ถ่อมพระองค์ลงมาบังเกิดในรางหญ้า เพื่อสอนเราว่า “ทรงรักเราจริงๆครับ”

o คนที่ไม่น่าจะยินดีกลับยินดี คนเลี้ยงแกะ คือพวกแรกที่พวกเขาอาจไม่ใช่คนน่ารักนักในสังคม แต่พวกเขาไม่ได้ตั้งเงื่อนไขอะไรให้กับชีวิตมากนัก ชีวิตของพวกเขาเดินไปตามธรรมชาติของคนยากจนและคนชายขอบ ไม่ได้หนักหน่วงไปด้วยเงื่อนไขรายล้อม ชีวิตที่ไร้แบรนด์เนมห่อหุ้ม ไม่มีสิ่งห่อหุ่มที่ทำให้ราคาสูงแต่ทว่าคุณธรรมไว้คุยกันทีหลัง 

o ชีวิตของคนเลี้ยงแกะไม่มีสิ่งห่อหุ้มจึงได้รับแสงสว่างแห่งสันติสุขสัมผัส กายใจได้ง่ายและเร็วกว่าใคร ไม่ต้องปลดของมีค่ามากมายเพื่ออาบแสงสว่างแห่งการบังเกิดที่แสนอ่อนโยนให้ สัมผัสกายใจ... พวกเขาจึงเป็นพวกแรกที่ได้พบพระคริสตเจ้าองค์ความสว่างนิรันดร พระเจ้าเที่ยงแท้ผู้รับเอากายมายังเกิดเป็นมนุษย์.... เราจึงเห็นว่า “แสงสว่างของพระเจ้าส่องแสงรอบตัวพวกเขา” (ข้อ 9)

o “โอ... กษัตริย์แห่งกษัตริย์ทั้งหลาย เจ้านายแห่งเจ้านายทั้งหลาย (King of kings and Lord of lords) เครื่องหมายบอกการบังเกิดของพระองค์มีเท่านี้เอง คือ “กุมารมีผ้าพันกายนอนอยู่ในรางหญ้า”” แค่นี้ก็พอแล้ว พอที่จะทำให้เห็นว่า พระองค์สอนเราถึงความถ่อมตน และการใช้ชีวิตอยู่กับของจริงชีวิตจริงและความจริงจากภายในที่ไม่ต้องมีสิ่ง ห่อหุ้มเพียงใด เพราะว่า พระองค์ “เป็น” พระเจ้า ทรงบังเกิดมาเพื่อบอกรักเรา เพื่อสอนเรา


• เอาล่ะครับ นั่นคือบทไตร่ตรอง รำพึง จากบทอ่านทั้งสามบทที่จะอ่านในคืนวันนี้ 

o ขอมอบเป็นของขวัญวันพระคริสตสมภพแด่พี่น้องที่รักทุกท่านครับ 

o สิ่งที่พ่อให้กับทุกท่านไม่มีราคาค่างวดใดๆเลยนะครับ แต่หวังว่าจะมีคุณค่าสำหรับทุกท่าน 

o ทั้งหมดคือเวลาตลอดภาคเช้าวันนี้ วันที่ 24 ธันวาคม 2014 จากหลังห้องส่วนตัวของพ่อ จากโต๊ะเล็กๆ บนระเบียงเล็กที่พ่อนั่งทำงานระหว่างหาอากาศเย็นๆ ที่เดิมเดิม ที่พ่อนั่งอ่านพระวาจาของมิสซาค่ำนี้และคิดถึงทุกท่านในหัวใจ 

o คืนนี้มิสซาของพ่อระหว่างฉลองคริสตมาส พ่อตั้งใจไว้แล้วจุดประสงค์เพื่อสุขสำราญสำหรับทุกคนที่มีน้ำใจดีครับ... 

o ดังนั้นพ่อจึงเขียนเพื่อประกาศพระวาจา และเล่าพระวาจาสามบทนี้ที่สัมผัสใจพ่อในปีนี้ครับ... แรงแสงแห่งรักของพระเจ้าต้องเข้ามาอาบและประทานแสงแห่งชีวิตแก่เราจริงๆ 

o ขอสันติสุขของพระเจ้า PEACE and LOVE ประทับในจิตใจทุกท่านครับ... Merry Christmas ครับ...

o คืนนี้พ่อภาวนาขอแสงสว่างแห่งความชอบธรรมแด่พวกเราทุกคนนะครับ....

 

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก