การต่อสู้กับอันตรายจากครูที่สอนผิด
14จงเตือนพวกเขาเรื่องนี้และจงกำชับพวกเขาเฉพาะพระพักตร์ของพระเจ้าd อย่าโต้เถียงกันเรื่องถ้อยคำ เพราะไม่มีประโยชน์ใดนอกจากความพินาศของผู้ฟัง 15ท่านจงขวนขวายที่จะแสดงตนว่าพระเจ้าทรงรับรองท่านแล้ว เป็นคนงานที่ไม่ต้องอายใคร เป็นผู้สั่งสอนพระวาจาแห่งความจริงอย่างถูกต้อง 16จงหลีกเลี่ยงคำพูดเพ้อเจ้อไร้สาระ เพราะมีแต่จะทำให้ห่างพระเจ้ามากขึ้น 17และคำพูดของบุคคลเหล่านี้จะแพร่ออกไปเหมือนกับเนื้อร้าย เช่นเดียวกับฮีเมเนอัสและฟิเลทัส 18เขาทั้งสองคนหลงผิดจากความจริงโดยพูดว่าการกลับคืนชีพเกิดขึ้นแล้วe จึงทำให้ความเชื่อของคนบางคนสับสน
19แต่รากฐานของพระเจ้าก็ตั้งอยู่อย่างมั่นคง และมีตราประทับเป็นข้อความว่า "องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงรู้จักผู้ที่เป็นของพระองค์" และอีกตอนหนึ่งว่า "ให้ทุกคนที่เรียกขานพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้า หลีกเลี่ยงความชั่ว"f
20ในบ้านหลังใหญ่ มิใช่มีเฉพาะภาชนะทองและภาชนะเงินเท่านั้น แต่ยังมีภาชนะไม้และภาชนะดินเผาด้วย บางชิ้นใช้ในกิจกรรมที่มีเกียรติ บางชิ้นใช้ใน กิจกรรมที่ไร้เกียรติ 21ผู้ที่ชำระตนจากกิจกรรมที่ไร้เกียรติก็จะเป็นภาชนะที่ใช้ใน กิจกรรมที่มีเกียรติ ได้รับความศักดิ์สิทธิ์ มีประโยชน์สำหรับเจ้านาย เตรียมพร้อมไว้เพื่อกิจการดีทุกอย่าง
22จงหลีกหนีอารมณ์และความรู้สึกของคนหนุ่ม แต่จงมุ่งหาความชอบธรรม ความเชื่อ ความรักและสันติพร้อมกับทุกคนที่เรียกขานองค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยใจบริสุทธิ์ 23จงหลีกเลี่ยงการโต้เถียงอย่างโง่เขลา โดยรู้ว่า สิ่งเหล่านั้นทำให้เกิดการวิวาท 24ผู้รับใช้ขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะต้องไม่วิวาทกัน แต่จะต้องอ่อนโยนต่อทุกคน รู้จักสอนและอดทน 25เขาจะต้องอบรมสั่งสอนผู้ที่ขัดแย้งด้วยความอ่อนหวาน โดยหวังว่า พระเจ้าจะทรงดลให้ผู้ขัดแย้งนั้นกลับใจรับรู้ความจริง 26และมีสติที่จะหลบหลีกจากบ่วงแร้วของปีศาจซึ่งยึดเขาไว้ให้ทำตามความต้องการของมันg
d สำเนาโบราณบางฉบับว่า "ขององค์พระผู้เป็นเจ้า" (Kyrios)
e ในความคิดแบบกรีก การกลับคืนชีพเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ยาก (กจ 17:32; 1 คร 15:12;) ฮีเมเนอัสและ ฟีเลทัสอาจตีความไว้ให้หมายถึงชีวิตฝ่ายจิต คือ การกลับคืนชีพฝ่ายจิตที่เกิดขึ้นในศีลล้างบาป (รม 6:4; อฟ 2:6 เชิงอรรถ e;) หรือในแง่ของการเข้าฌานร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้า เปาโลได้เตือนชาวโครินธ์ให้ระวังอย่าคิดว่า ผู้กลับคืนชีพจะมีร่างกายในสภาพเดียวกับร่างกายในโลกนี้ (1 คร 15:35-53 และเชิงอรรถ)
f ในสมัยโบราณ เขาจะจารึกรายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับการสร้างอาคารไว้บนศิลารากฐาน เนื่องจากว่าในที่นี้อาคารนั้นคือพระศาสนจักร ศิลารากฐานจึงเป็นพระคริสตเจ้าเอง (1 คร 3:11;) หรืออัครสาวก (อฟ 2:20; เทียบ วว 21:14;) หรือความเชื่อในพระสัญญาของพระเจ้าที่พระองค์ไม่มีวันจะยกเลิก (เทียบ 2:13)
g พระคัมภีร์ตอนที่นำมาอ้างต่างเสริมกันและกันให้สมบูรณ์ พระเจ้าทรงดูแลผู้ที่พระองค์ทรงรัก (กดว 16:5;) และบุคคลเหล่านี้จะต้องดำเนินชีวิตในความชอบธรรม (กดว 16:26; สดด 6:8; อสย 26:13; 52:11)