“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันจันทร์ที่ 11 กันยายน 2017
สัปดาห์ที่ 23 เทศกาลธรรมดา
ลก 6:6-11…
         6วันสับบาโตอีกวันหนึ่ง พระเยซูเจ้าเสด็จเข้าไปในศาลาธรรมและทรงสั่งสอนที่นั่น มีชายคนหนึ่งมือขวาลีบ 7บรรดาธรรมาจารย์และชาวฟาริสีคอยจ้องดูว่าพระองค์จะทรงรักษาชายมือลีบในวันสับบาโตหรือไม่เพื่อจะหาเหตุกล่าวโทษพระองค์ 8แต่พระองค์ทรงทราบความคิดของเขาจึงตรัสกับชายมือลีบว่า “ลุกขึ้น มายืนตรงกลางนี่ซิ” เขาก็ลุกขึ้นยืน

9พระเยซูเจ้าตรัสกับคนทั้งหลายว่า “เราถามท่านว่า ในวันสับบาโต ควรทำความดี หรือทำความชั่ว ควรช่วยชีวิตหรือทำลายชีวิต” 10แล้วพระองค์ทอดพระเนตรเขาทุกคนและตรัสกับชายมือลีบว่า “จงเหยียดมือออกซิ” เขาก็ทำตามและมือของเขาก็หายเป็นปกติ 11บรรดาธรรมาจารย์และชาวฟาริสีรู้สึกโกรธแค้นมาก จึงปรึกษากันว่าจะทำอย่างไรกับพระเยซูเจ้า

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง
• “สายตาที่จ้องจับผิด” มีความสุขไหม? วันสับบาโต พ่ออธิบายมาหลายครั้งหลายรอบแล้ว และชี้ให้เห็นว่า สับบาโตคือวันแห่งการเป็นอิสระ ไม่ทำงาน เป็นกฎหมายทางศาสนาสำคัญมาก และพระเยซูเจ้าได้ทรงกระทำสิ่งที่ในสายตาของชาวยิว ฟาริสี ธรรมาจารย์นั้น ถือว่าขัดใจมาก เพราะพวกเกรงจะผิดกฎ และจ้องจับผิดคนที่ผิดกฎหมายทางศาสนาเพื่อจะได้หาโอกาสตำหนิ หรือแม้แต่ลงโทษทางศาสนาด้วย

• พระวรสารโดยนักบุญลูกาบันทึกโดยเจตนา... “วันสับบาโตอีกวันหนึ่ง พระเยซูเจ้าเสด็จเข้าไปในศาลาธรรมและทรงสั่งสอนที่นั่น มีชายคนหนึ่งมือขวาลีบ บรรดาธรรมาจารย์และชาวฟาริสีคอยจ้องดูว่าพระองค์จะทรงรักษาชายมือลีบในวันสับบาโตหรือไม่เพื่อจะหาเหตุกล่าวโทษพระองค์”
o ลูกาเน้นให้เห็นเลยว่า วันสับบาโตอีก
o และเรื่องราวนี้ไม่ได้เกิดในที่สาธารณะ แต่ “ในศาลธรรม” คือสถานที่ศาสนา สถานที่ประกาศความเชื่อ “เรียกว่าวัดสำหรับเราคริสตชนก็ว่าได้”
o และฟาริสีธรรมาจารย์ได้เห็นคนมือลีบ... แน่นอน ลูกาเน้นคนด้อยโอกาส และคนเหล่านี้ในสายตาของฟาริสี คือ “คนบาป” แน่ๆ ชาวฟาริสีมองว่าพวกตนเป็นคนดี คนชอบธรรม และถูกต้อง ไม่มีความบกพร่อง นิสัยไม่ดีจริงๆ ของฟาริสีคือการจ้องจับผิด จ้องหาเหตุทางศาสนาเพื่อลงโทษคนอื่นๆ ยิ่งประนามยิ่งลงโทษคนอื่น ดูเหมือนว่าพวกตนเองเป็นคนชอบธรรมกว่าใครๆ
o วันนั้น ในศาลาธรรม ใน(วัด)สถานที่ศาสนาแท้ พวกเขาก็จ้องจับผิด...พระเยซู

• วันพ่ออยากชี้ประเด็นตรงนี้จริงๆ พ่อก็เคยดูละครอยู่บ้าง และละครไทยก็มักจะมีมุมของศาสนา ภาพในวัด ในโบสถ์หรือศาลาศพ มีบ่อยๆ บ่อยมากๆ ขณะที่พระสวดไป บรรดาตัวแสดงก็มักจะมีอาการนั่งพนมือดูศรัทธาแต่สายตาเชือดเฉือน ปากวิจารณ์นินทา และทำร้ายกันด้วยสายตา เอ พี่น้องเคยดูละครไทยเห็นฉากแบบนี้บ้างใช่ไหมครับ...พ่อว่าธรรมดามาก บ่อยครั้งมือพนมฟังพระสวด พระท่านก็ทำหน้าที่ของท่านอย่างดี แต่ในภาพคือคนที่นั่งแถวหน้า ใส่สูท แต่งตัวดี ต่างก็ใช้สายตาเย่อหยิ่ง ข่มขู่ และเชือกัน วิจารณ์กันขณะพระสวดนั่นแหละ... ภาพนี้ธรรมดาจริงๆ

• ในวัดของเราคาทอลิกเป็นเช่นนี้ไหมหนอ...
o บ่อยครั้งในวัด ในบ้านพระเจ้าแท้ๆ เราอาจมีการแบ่งพรรคแบ่งพวก แบ่งที่นั่ง กันที่นั่ง ไม่ต้องรับ ไม่มีที่สำสำหรับคนยากจน คนที่ด้อยโอกาส หรือคนที่ไม่เป็นที่ต้องการของสังคม
o หรือนั่งมองกันวิจารณ์กัน วิภากษณ์การแต่งกาย ความหรูหรา หรือตำหนิกันในรูปแบบต่างๆ มีไหมเอ่ย บางทีอาจเป็นกลุ่ม ชมรม สภาอภิบาล หรือตระกูลที่ไม่ชอบกัน ไม่พอใจกัน เกลียดชังกัน เข้ามาวัดด้วยกันแท้ๆ แต่จิตใจเชือดเฉือนกันเอง ไม่ดีเลยนะครับ
o นี่พ่อยังไม่ได้ถามถึงความสัมพันธ์ของนักบวช พระสงฆ์ สัตบุรุษในวัด บางทีอาจเป็นเหมือนกัน ในวัดแท้ๆ เราก็มองกันด้วยสายตาไม่เป็นมิตร... ทั้งที่ตอนมอบสันติสุข ภาษาเดิม “แสดงความเป็นมิตรต่อกัน” ไม่เป็นไร แสดงได้สบายมาก ไม่ได้จากใจจริง ไหว้ไปอย่างนั้น ...
o มีไหมเอ่ย... ฟังเทศน์ไปก็ตำหนิทุกคน หรือหนิผู้เทศน์ด้วย หรือผู้เทศน์ก็ไม่ถูกใจกับผู้ฟังบางคนด้วย... อาการมนุษย์แบบนี้ก็น่าจะมีอยู่เนืองๆ

• ฟาริสี ธรรมาจารย์ ในศาลาธรรมวันนี้เป็นบทสอนเราได้ดีมากๆ กับการใช้ศาลาธรรม ใช้วัดเพื่อการสรรเสริญพระเจ้า เพื่อการกระทำความดีอย่างที่สุด เวลาศาสนกิจน่าจะเป็นเวลาที่ดีที่สุด เวลาแห่งความดี เวลาแห่งความรักเมตตามากที่สุด ไม่ใช่สถานที่ ไม่ใช่เวลาที่เราจะมาใช้เพื่อตัดสินกัน เพื่อวิภากษณ์วิจารณ์กัน หรือแบ่งพรรคแบ่งพวกัน จนกระทั่ง...เหมือนฟาริสีที่ไม่ได้คิดถึงคนมือลีบคนนั้นที่เขามือลีบและเข้ามาศาลาธรรม เขาก็คงอยากจะหายจากอาการมือลีบดังกล่าวที่เป็นมา แต่กลับถูกตัดสินเช่นนั้น... ไม่เหมาะสมใดๆเลยโดยเด็ดขาด...

• วันนั้น ที่ศาลาธรรม พ่อเห็นอาการลีบสองประเภท...
1. ชายมือลีบ เขากระทำอะไรด้วยมือไม่ได้เพราะมือเขาลีบ เขายื่นมือออกไปไม่ได้ ไม่สามารถยื่นมือออกได้...
2. ฟาริสีธรรมาจารย์ใจลีบ “อาการใจลีบ ใจปิดสนิท ลีบสนิท ไม่สามารถเปิดใสจ ยื่นใจออกไปได้เลย” พ่อว่า อาการใจลีบใจปิดของธรรมาจารย์และฟาริสีนี่มีอาการหนักมาก... ร่างกายดีทุกประการ และอยู่นำแหน่งผู้นำทางศาสนาด้วย แต่เขาไม่มีใจเลย ใจลีบปิดสนิท และถามยังพยายามจะจ้องจับผิดปิดใจคนอื่นไปด้วย พวกเขาไม้ต้องการให้พระเยซูเจ้ารักษา จ้องจับผิดการทำผิดทางกฎหมายของศาสนา... เขาจึงพยายามมากที่จะจับผิดพระเยซูว่าพระองค์จะทำผิดกฎไหม ความคิดของพ่อคิดแล้วขำ และขำแบบลึกๆบาดเจ็บหน่อยครับ... คือ ฟาริสีธรรมจารย์จ้องจำผิดพระเยซูเจ้าว่า “จำทำความดีหรือไม่” น่าคิดนะครับ

• พระเยซูเจ้าจึงถามขึ้นมาว่า “เราถามท่านว่า ในวันสับบาโต ควรทำความดี หรือทำความชั่ว ควรช่วยชีวิตหรือทำลายชีวิต”
o แน่นอนคำถามนี้ไม่มีใครตอบ และถ้ามี คำตอบก็ต้องออกมาว่า วันสับบาโตมีไว้เพื่อกระทำความดีแน่นอนง.. ต้องช่วยชีวิต ไม่ใช่ทำลายชีวิต
o พ่อมั่นใจจากคำถามของพระเยซูเจ้า และอยากให้เราได้ใช้ความหมายนี้กับวันพระเจ้าของเรา กับชีวิตคริสตชนของเรา กับกฎเกณฑ์ต่างๆของเราให้ชัดเจนให้มากที่สุด... พ่ออยากให้เราเห็นคุณค่าของวันพระเจ้าให้มากที่สุด เพื่อความดี ชีวิตศาสนาก็เพื่อความดีและเพื่อชีวิตของทุกคนเสมอ

• พระองค์ในที่สุดสั่งคนมือลีบ “จงเหยียดมือออกซิ”
o เขาสามารถยืดมือออกได้ สามารถหลุดพ้นจากความลีบของมือที่ทำให้ไม่สามารถกระทำความดีด้วยมือของตนเอง
o พ่ออยากขอเชิญชวนให้เราได้ฟังคำสั่ง ฟังพระวาจาของพระเจ้า อ่านบทเทศน์อ่านพระวาจาแล้ว ขอให้เราไม่มือลีบ ไม่เท้าลีบ ไม่สมองลีบ และที่สำคัญ “ไม่ใจลีบ” แต่เราต้องยื่นมือ เปิดใจ และก้าวออกไปหาเพื่อนพี่น้องของเราทุกคนได้อย่างแท้จริง
o อย่าให้ใจของเราลีบปิดเลยนะครับ เปิดใจ เผยใจของเรา ต้อนรับเพื่อนพี่น้องของเรารอบข้าง... เราสามารถ และต้องสามารถถือศาสนา ถือวันพระเจ้า และทุกวัน ให้เป็นโอกาสให้เราสามารถเปิดใจของเราไปหาทุกคน ยื่นมือของเราไปช่วยเหลือทุกคนรอบข้างให้ได้

• พี่น้องที่รักครับ... ขอให้เราได้หายขาดจากความลีบทั้งใจและกายและจิตวิญญาณ เพื่อเราจะสามารถยื่นมือ เปิดใจของเราออกไปเพื่อช่วยเหลือทุกคนรอบข้างได้อย่างแท้จริง ขอให้เราไม่ต่อต้านความดีต่อเพื่อนพี่น้อง ใช่ครับ ฟาริสี ธรรมาจารย์โกรธมาก และพยายามทำร้ายพระเยซู ไม่ยอมเพราะใจปิดและใจลีบของพวกเขาจริงๆ

• พี่น้องที่รัก... ขอให้เราเหยืยดมือเปิดใจไปหาเพื่อนพี่น้องเขาที่ด้อยโอกาสเป็นพิเศษนะครับ... โดยเฉพาะในเขตวัดของเรา(ศาลาธรรม) ไปเพื่อทุกคนได้รับความรักจากพระเจ้าครับ.. ขอพระเจ้าอวยพรครับ

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก