“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันจันทร์ที่ 7 สิงหาคม 2017
สัปดาห์ที่สิบแปด เทศกาลธรรมดา
มธ 14:13-21…
       13เมื่อพระเยซูเจ้าทรงทราบข่าวนี้ ได้เสด็จออกจากที่นั่น ลงเรือไปยังที่สงัดตามลำพัง เมื่อประชาชนรู้ต่างก็เดินเท้า จากเมืองต่างๆ มาเฝ้าพระองค์ 14เมื่อเสด็จขึ้นจากเรือ ทรงเห็นประชาชนจำนวนมากก็ทรงสงสาร และทรงรักษาผู้เจ็บป่วยให้หายจากโรค


15เมื่อถึงเวลาเย็น บรรดาศิษย์เข้ามาทูลพระองค์ว่า “สถานที่นี้เป็นที่เปลี่ยว และเป็นเวลาเย็นมากแล้ว ขอพระองค์ทรงอนุญาตให้ประชาชนไปตามหมู่บ้านเพื่อซื้ออาหารเถิด” 16พระเยซูเจ้าตรัสว่า “เขาไม่จำเป็นต้องไปจากที่นี่ ท่านทั้งหลายจงหาอาหารให้เขากินเถิด” 17เขาทูลตอบว่า “ที่นี่เรามีขนมปังเพียงห้าก้อนกับปลาสองตัวเท่านั้น” 18พระองค์จึงตรัสว่า “เอามาให้เราที่นี่เถิด” 19พระองค์ทรงสั่งให้ประชาชนนั่งลงบนพื้นหญ้า ทรงรับขนมปังห้าก้อนกับปลาสองตัวขึ้นมา ทรงแหงนพระพักตร์ขึ้นมองท้องฟ้า ทรงกล่าวถวายพระพร ทรงบิขนมปังส่งให้บรรดาศิษย์ไปแจกแก่ประชาชน 20ทุกคนได้กินจนอิ่ม แล้วยังเก็บเศษที่เหลือได้ถึงสิบสองกระบุง 21จำนวนคนที่กินมีผู้ชายประมาณห้าพันคน ไม่นับผู้หญิงและเด็ก

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง
• พี่น้องที่รัก อีกกี่ครั้งในชีวิตที่พ่อและพี่น้องที่รักต้องได้ฟังพระวรสารเรื่องการที่พระเยซูเจ้าทรงทวีขนมปังเลี้ยงประชาชนห้าพันกคน หรือสี่พันคน พระวรสารให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากเหลือเกิน มากจริงๆ พ่อก็อ่านมาหลายๆรอบ ฟังมามากมาย เขียนบทเทศน์ เทศน์ ตีความมาหลายรอบแล้ว... แล้วจะเทศน์อะไรอีกล่ะนี่ เรื่องเดิมเทศน์แบบเดิมๆอีกกระนั้นหรือ... แน่นอน เรื่องนี้ไม่เคยน่าเบื่อหรอกครับ พระวาจาของพระเจ้าก็มีพลังเสมอไม่ได้ลดลงแม้แต่น้อย เรื่องนี้พ่อไม่สงสัยเพราะว่านี่คือพระวาจาของพระเจ้า นี่คือเรื่องเล่าที่ทำให้เราได้เห็นว่า
o พระเยซูเจ้าทรงห่วงประชาชน ทรงสงสารประชาชน
o ทรงเป็นผู้เลี้ยงดูประชาชนผู้ติดตามพระองค์ เหมือนชุมพาบาล ให้แกะนอนลงบนหญ้าและมีความสุขอิ่มสบาย... สะท้อนเพลงสดุดีที่ 23 ที่กล่าวว่า “พระเจ้าทรงเลี้ยงดูข้า” ที่นี่ในพระวรสารพระองค์ก็ทวีขนมปังเลี้ยงเขา ให้เขานั่งบนหญ้า และทรง “เลี้ยงดูทุกคนจนอิ่ม” เช่นกัน และนี่คืออัศจรรย์แห่งความรัก การเลี้ยงดู ให้มีเหลือเฟือ และก็ไม่ได้ให้เสียไปเลย...

• แล้วอย่างไรต่อล่ะ สำหรับการฟังแต่ละครั้ง.. เอาอย่างไรดีครับ ถ้าไม่ให้พระวรสารตอนนี้บรรจุลงในหัวใจของเรา และที่สำคัญ ลงสู่การปฏิบัติของเรา “ลงสู่ภาคปฏิบัติ” (Put in Action) ถ้าไม่ลงสู่ภาคปฏิบัติ เราก็จะไตร่ตรองและล่องลอยกันอยู่เช่นนี้...เสมอๆ กระนั้นหรือ... ไม่ได้ครับต้องลงสู่ภาคปฏิบัติครับ ต้องนำไปปฏิบัติให้เป็นรูปธรรมครับ...

• นี่พ่อนั่งเขียนบทเทศน์นี้ เริ่มเขียนในค่ำวันเสาร์เมื่อพ่อกลับมาจากไปหาพี่น้องและหลานนิดหน่อยครับสิบกว่าคน นี่คือเรื่องจริงๆที่เกิดกับพ่อวันนี้ ประสบการณ์ของพ่อครับ

• พ่อเคยไปรับประทานอาหารกับหลานๆ
o พ่อไปเพื่อไปเจอพี่ๆ ไปเจอหลานๆ ตั้งแต่จาไม่อยู่ เราพบกันบ่อยขึ้นกว่าเดิม หลานๆ กำลังจะเข้าเรียนเปิดเทอมในมหาวิทยาลัย
o วันนี้พ่อน้าหรือพ่อน้องเป็นคนรับผิดชอบขอเป็นผู้เลี้ยงดูและจ่ายเงิน ปกติพี่ๆไม่มีวันยอมครับ พระสงฆ์ต้องไม่ใช่คนจ่ายเงินแน่นอน แต่พ่อเองชอบแบบนี้ วันนั้น และบ่อยครั้งที่เรารวมกันพ่อขอพี่ๆ ให้พ่อได้เป็นผู้พาไปเลี้ยง.. ที่สุดพวกเขายอมครับ ไม่ได้แพงเลย แต่มีความสุขจัง หลานๆ รับประทาน พี่ๆ รับประทานกัน
o “พ่อเกียรติ” ที่ครอบครัวเรียก เป็นคนจ่ายเงิน พ่อพอจ่ายได้ครับ เราไม่ได้ไปร้านหรูหรา แต่มีความสุขที่ได้ร่วมโต๊ะกัน สิบกว่าคน พ่อรู้สึกว่า การที่เราได้เลี้ยงคนอื่น เราได้เตรียมอาหาร เราได้รับผิดชอบเลี้ยงดู “มีความสุขจริงๆนะครับ” พวกเขา เรียกพ่อว่า “พ่อ” หรือ “พ่อเกียรติ” พ่อ (Father) จะไม่เป็นผู้เลี้ยงดูได้อย่างไร.. มีความสุขครับ

• อีกประสบการณ์หนึ่ง
o พ่อเคยไปทานข้าวกับเพื่อน อายุมากกว่าพ่อสักสิบปีนิดๆ เขาชอบเรียนพระคัมภีร์กับพ่อ เขาเชิญพ่อหลายครั้งไปทานข้าวกัน... ที่สุดพ่อไป เราไปทานกันสองคน เขาชอบเรียนพระคัมภีร์เป็นชีวิตใจ เขาหลงไหลและรักพระวาจามาก อยากพาพ่อไปเลี้ยงเหลือเกิน (จริงๆเขาจากไปแล้ว เพราะเขาเป็นโรคมะเร็งหลายปี แต่เข้มแข็งแบบยอดคน) เขาอยากใช้เวลาให้มากที่สุดเพื่อการเรียนพระคัมภีร์...
o วันเป็นครั้งแรกที่เราไปทานอาหารกันสองคน เขาเป็นเหมือนเพื่อน เป็นเหมือนพี่ชายพ่อ และเป็นลูกศิษย์และเป็นลูก... เราไปทานไม่ไกลจากโรงพยาบาลจุฬา เพราะชีวิตเขาเข้าออกที่นั่นตลอด เมื่อรับประทานเราคุยกัน มีแต่เรื่องชีวิตคริสตชน พระวาจา เรารับประทานสิ่งที่เขาอยากเลี้ยงเหลือเกิน อาหารญี่ปุ่นบนโรงแรมแห่งหนึ่ง..
o เมื่อรับประทานเสร็จหลังจากสังสองชั่วโมง จริงๆ เราคุยกันมากกว่ารับประทาน พอมาถึงตอนจ่ายเงิน พ่อก็ขอเป็นผู้รับผิดชอบเลี้ยงเขา นายคนนี้ยากที่สุด ดื้อใช้ได้ และยอมไม่ได้เลย
o เขายืนยัน “พ่อ.. พ่อเป็นพระสงฆ์ พ่อจะเลี้ยงผมได้อย่างไร???” เราเถียงกันเบาๆอยู่นาน “พ่อจ่ายได้ให้พ่อเลี้ยงเถอะ...” เราถกกันอยู่นานทีเดียว เขายืนยัน “พ่อ...ไม่นะ..เป็นไปไม่ได้ สัตบุรุษต้องเลี้ยงพระสงฆ์ครับ”
o ที่สุดพ่อก็ต้องมาถึงไม้ตายที่ต้องบอกเขา พ่อตั้งคำถาม... “เรียกพ่อว่าอะไร เรียกว่าพ่อใช่ไหม... ทำไมพ่อจะไม่เป็นผู้เลี้ยงดูลูก... (เขาเงียบ) พ่อเองก็ไม่มีครอบครัวเหมือนลูก ลูกมีครอบครัว และลูกก็กำลังหนักต้องใช้เงินรักษาตัวมากมายตลอดมา แล้วพ่อจะให้นายเลี้ยงพ่อได้อย่างไร??? พ่อไม่ได้รวย แต่พ่อพอมีที่จะให้ได้ พ่อขอละถ้าเรียกพ่อว่าพ่อให้พ่อจัดการเองนะ”...
o พ่อจำได้ จำได้แม่ยำว่าที่สุดเขายอม ยอมแบบรับยาก ไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น ดูมันผิดธรรมเนียมไปหรือเปล่า... ที่สุด พ่อสั่งเขาว่า “นั่งนิ่งๆพ่อจัดการเองนะลูก” .. พ่อก็จ่ายเงินไปในขณะที่เขาก็ยอมแบบที่เขายังคงดื้อขืนๆ แต่ที่สุด..เขาก็สงบเงียบ
o เมื่อพ่อจ่ายเงินเสร็จ พ่อจำได้แม่ยำกว่าทุกสิ่ง.. เขาน้ำตาคลอ ร้องไห้น้ำตาคลอ ตาแดงเลย (ป่วยอยู่แล้วด้วยตายิ่งแดงใหญ่) เขาปรารภว่า “พ่อ นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตคริสตชนของผมที่ทานข้าวกับพระสงฆ์แล้วคุณพ่อเป็นคนเลี้ยงผม ผมไม่เคยคิดว่าพระสงฆ์จะต้องเป็นคนจ่ายเงินเลี้ยงสัตบุรุษเมื่อไปทานข้าวด้วยกัน” พ่อจำได้ น้ำตาของเขา คือ คำตอบ และคือความจริง ที่พ่อได้คิดว่าพ่อต้องลงมือกระทำเสมอ เพราะเขาเรียกพ่อว่า “พ่อ คุณพ่อ บิดา” และปกิตพ่อ คนที่เป็นพ่อจริงๆเมื่อถูกเรียกและได้รับการเรียกเช่นนั้นต้องทำ และควรที่จะเป็นผู้เลี้ยงดูสัตบุรุษลูกๆของตนเสมอทุกโอกาสที่ทำได้ครับ
o วันนี้แม้เพื่อนแสนดี และลูกศิษย์และลูกที่แสนดีจะจากไปแล้ว แต่ประสบการณ์แสนดีแบบ พระสงฆ์ที่เป็นพ่อและสัตบุรุษที่เป็นลูก ยังคงอยู่ในความทรงจำเสมอ

• พี่น้องที่รัก พ่อเล่าเรื่องสองเรื่อง ประสบการณ์ของพ่อ เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ที่พ่อเขียนบทเทศน์ กับเรื่องในอดีตกับเพื่อนที่เราไปรับประทานอาหารด้วยกัน พ่อยังมั่นใจว่า พระวาจาของพระเยซูเจ้า เรื่องเล่าการทวีขนมปัง ต้องไม่ใช่เรื่องราวเพื่อไตร่ตรองความมหัศจรรย์ของพระเยซูในครั้งกระโน้น แต่จำเป็นครับ จำเป็นมากที่ “เราต้องนำลงสู่ภาคปฏิบัติ” ลงไปสู่การกระทำ การเลี้ยงดู การเห็นใจ การรัก แบ่งปัน และเลี้ยงดูกันมากๆ โดยเฉพาะกับบรรดาผู้ขาดอาหารหรืออยู่อย่างลำบากกว่าเรา ความรักต้องนำลงไปสู่ภาคปฏิบัติ และความรักต้องปรากฎในการเลี้ยงดูกันแลกันเสมออย่างดีๆ ด้วยความใจดีและเชื่อพ่อครับ “มีความสุข”

• พ่อเองเป็นพระสงฆ์ ก็ต้องเลี้ยงดูสัตบุรุษครับ อยู่บ้านเณรอย่างพ่อ ก็ต้องเลี้ยงดูน้องเณร เจ้าหน้าที่พนักงาน ไม่มีเงินกลางให้เบิกนะครับ ต้องให้จากสิ่งที่พ่อมี เท่าที่มี เท่าที่ทำได้ ถ้าพ่อเองเป็นพระสงฆ์แล้วมีแต่ให้ทุกคนที่เรียกพ่อว่าพ่อเป็นผู้เลี้ยงพ่อ จ่ายให้พ่อ ไม่ว่างานไหนโอกาสใด พ่อว่า “นั่นผิดจากธรรมชาติของการเป็น “พ่อ” นะครับ” ถ้าเป็นเช่นนั้น ก็คงเป็นสำหรับพ่อชรามากและพิการเลี้ยงใครไม่ได้อีกแล้วเท่านั้น

• พี่น้องที่รัก พ่ออาจคิดไม่ต่าง บ่อยครั้งพี่น้องคิดว่าต้องเลี้ยงพระสงฆ์ดีๆ ต้องเป็นผู้จ่ายในการรับประทานอาหารด้วยกัน แต่ แต่ แต่ พระเยซูเจ้ามิได้ทำเช่นนั้น พระวรสารเน้นว่าพระองค์ทรงห่วง ทรงสั่งให้บรรดาศิษย์เลี้ยงดู และทรงทำอัศจรรย์เลี้ยงดูเสมอ...

• พ่อสรุปครับ
o ลงสู่ภาคปฏิบัติกันเถอะครับ
o เลี้ยงดูคือเครื่องหมายชัดเจนของความรักครับ... ถ้าพ่อเองโดยธรรมชาติต้องรักลูกแต่ไม่เคยเลี้ยงดูเลย ยากที่จะบอกว่ารัก พ่อไม่อ้างนะครับ ไม่อ้างว่าเลี้ยงดูฝ่ายจิตใจ เพราะนั่นเป็นพันธกิจติดมากับชีวิตสงฆ์หรือเราคริสตชนอยู่แล้ว
o ทำเถอะครับ ให้ แบ่งปัน เมตตาเสมอ ใจดีเสมอ นั่นคือพระพักตร์ของพระเจ้าครับ พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงเน้นสอนว่าพระเยซูเจ้าคือ Misericordiae Vultus “พระพักตร์แห่งความเมตตาขอพระเจ้า” (คำสอนปีศักดิ์สิทธิแห่งเมตตาธรรม)

• พ่อมั่นใจว่า พวกเราทุกคน โดยเฉพาะพระสังฆราช และพระสงฆ์ต้องชัดที่สุดครับ และพี่น้องคริสตชนก็ต้องชัดเจนด้วยกัน พวกเราทุกคนต้อง รัก เมตตา เอาใจใส่ ห่วงใย และเลี้ยงดูกันและกัน โดยเฉพาะผู้อ่อนแอและยากไร้ ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่านครับ

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก