“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันจันทร์ที่ 19 มิถุนายน 2017
สัปดาห์ที่สิบเอ็ด เทศกาลธรรมดา
มธ 5:38-42…
38“ท่านเคยได้ยินเขากล่าวว่า ‘ตาต่อตา ฟันต่อฟัน’ 39แต่เรากล่าวแก่ท่านทั้งหลายว่า อย่าโต้ตอบคนชั่ว ผู้ใดตบแก้มขวาของท่าน จงหันแก้มซ้ายให้เขาด้วย 40ผู้ใดอยากฟ้องท่านที่ศาลเพื่อจะได้เสื้อยาวของท่าน ก็จงแถมเสื้อคลุมให้เขาด้วย 41ผู้ใดจะเกณฑ์ให้ท่านเดินไปกับเขาหนึ่งหลัก จงไปกับเขาสองหลักเถิด 42ผู้ใดขออะไรจากท่าน ก็จงให้ อย่าหันหลังให้ผู้ที่มาขอยืมสิ่งใดจากท่าน

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง
• กฎแห่งการแก้แค้น “ตาต่อตา ฟันต่อฟัน” เป็นกฎเกณฑ์แห่งการแก้แค้นที่ยุติธรรมและดีมาก ถ้าต้องการจะแก้แค้น ทั้งนี้เพราะว่า ถ้าเขาทำตาเราบอดข้างหนึ่ง... ย้ำถ้าจะแก้แค้นต้องแก้แค้นไม่เกินจากที่เขาทำกับเรา คือ ทำตาเขาบอดคืนได้ข้างหนึ่ง หรือถ้าเขาทำฟันเราหักซี่หนึ่ง เราก็ย้ำว่าถ้าต้องการแก้แค้น ก็มีสิทธิ์แก้แค้นทำฟันเขาหักได้ซี่หนึ่ง เท่านั้น ย้ำเท่านั้น ไม่มากไปกว่านั้น ดังนั้น สำหรับชาวยิว คำโบราณจึงใช้คำว่า “ตาต่อตาฟันต่อฟัน”

• สำหรับบัญญัติของโมเสส เรื่องนี้ถือว่าสำคัญและเป็นกฎแห่งความรอบคอบที่จำเป็น... เพราะอะไร คำตอบคือ เพราะว่า “การแก้แค้นนั้นมักจะเกินกว่าเหตุเสมอ” เช่นถ้าคนหนึ่งมาทำตาเราบอด บางทีเราอาจจะไปทำร้ายแก้แค้นฆ่าเขาทิ้งเลย หรืออาจจะมากกว่านั้น... คำตอบคือ “การแก้แค้น ไม่ดี และมักจะเกินกว่าเหตุเสมอจริงๆ” ดังนั้น บัญญัติต้องกำหนดไว้เช่นนี้เพื่อความปลอดภัย และรักษาความยุติธรรมในการแก้แค้นต่อกันอย่างเด็ดขาด เพื่อไม่ให้เกิดความเลวร้ายที่ร้ายกว่าต่อกัน (พี่น้องว่าจริงไหม)

• พระเยซูเจ้าสอนประชาชนว่า พวกท่านได้ยินคำ “กล่าวแต่โบราณ” ซึ่งหมายถึงบัญญัติของโมเสส บัญญัติเดิมที่ถือกันมาเป็นพันปี และถือว่านี่คือความยุติธรรมในการแก้แค้น.. (ถ้าจะแก้แค้น) ประเด็นสำคัญที่เราต้องดูดีในพระวาจาของพระเยซูเจ้า คือ
o “แต่เรากล่าวแก่ท่านทั้งหลายว่า อย่าโต้ตอบคนชั่ว” นั่นหมายความว่า บัญญัติใหม่ของพระเยซูเจ้านั้น เน้น มาตรฐานที่สูงกว่า มาตรฐานใหม่ เพราะการโต้ตอบคนชั่ว ไม่ใช่สิ่งที่ควรกระทำ พระองค์จึงย้ำว่าการกระทำความเสียหายให้คนอื่นเป็น “ความชั่ว คนชั่ว” พระองค์จึงย้ำว่า “อย่าตอบโต้คนชั่วเลย” เพราะการแก้แค้นต่อการถูกกระทำของคนชั่ว ไม่ใช่สิ่งที่เราควรจะไปโต้ตอบ
o และสิ่งสำคัญมาก...พระเยซูเจ้าเน้นไม่ให้มีการตอบโต้หรอแก้แค้นเด็ดขาด เพราะถ้าเริ่มต้อบโตกัน ก็มีแต่จะแรงกับรงขึ้น และแรงขึ้นไม่รู้จบเลย... ดังนั้น พระองค์สอนด้วยภาษาที่เรียกร้องมาก เป็นภาษาแบบใช้สำนวนเกินความจริง (Hyperbole) พูดเกินความจริงเพื่อให้เห็นว่า ไม่ควรแก้แค้นตอบโต้เลย....
o นั่นคือ “ผู้ใดตบแก้มขวาของท่าน จงหันแก้มซ้ายให้เขาด้วย
o ผู้ใดอยากฟ้องท่านที่ศาลเพื่อจะได้เสื้อยาวของท่าน ก็จงแถมเสื้อคลุมให้เขาด้วย
o ผู้ใดจะเกณฑ์ให้ท่านเดินไปกับเขาหนึ่งหลัก จงไปกับเขาสองหลักเถิด
o ผู้ใดขออะไรจากท่าน ก็จงให้ อย่าหันหลังให้ผู้ที่มาขอยืมสิ่งใดจากท่าน”

• พ่อยอมรับว่ามาตรฐานของพระเยซูเจ้านั้น เรียกร้องให้ปฏิเสธการแก้แค้นโดยเด็ดขาด ศิษย์พระเยซูเจ้าต้องอยู่กับพระบัญญัติใหม่อย่างแท้จริง กล่าวคือ
o การตอบโต้คนชั่วหรือการกระทำที่ชั่วร้าย เป็นสิ่งที่ไม่ดีเลย พระเยซูเจ้าได้ยกมาตรฐานคำสอนให้สูงขึ้น จำคำสอนของชาวยิว บัญญัติของโมเสส ทรงยกขึ้นมาเป็นคำสอนสำหรับคริสตชนจริงๆ นั่นคือบัญญัติแห่งความรักและการให้อภัย ไม่โต้ตอบความชั่วร้ายหรือความเลวร้ายใดๆ
o คริสตชน ต้องไม่ติดบ่วงความชั่วร้ายรุนแรงของการแก้แค้นโดยเด็ดขาด จะมีประโยชน์อะไรถ้าเราแก้แค้น... จะมีประโยชน์อะไรถ้าเราเอาคืนรุนแรง และการแก้แค้นคือความโกรธที่สะสมในใจเราจนกลายเป็นความเกลียดชัง... ไม่เอา ไม่มีประโยชน์ และไร้ค่า สรุปว่า ถ้าเราแก้แค้น เราก็แย่พอกับเขาหรือร้ายกาจพอกัน....
o คริสตชน ก็แน่นอนที่เราเป็นมนุษย์ เราย่อมมีความแค้นโกรธเคืองขุ่นมัวหมองหม่นอยู่บ้าง... แต่พวกเขาจะต้องสามารถก้าวข้ามจุดแค้นนั้นไปให้จงได้ และต้องเลือกที่จะไม่แก้แค้นและเลือกใหม่ สำคัญมาก คือ “เลือกที่จะให้อภัยความผิด”
o เราคงต้องพิจารณาดูพระเยซูเจ้าเป็นตัวอย่างสำคัญและพลังของเราตลอดกาล... พลังแห่งความรักและการให้อภัย... “พระบิดาเจ้าข้า โปรดยกโทษแก่เขาเถิด เพราะเขาไม่รู้ว่าเขาทำอะไรลงไป” นอกนั้น พระองค์ยังตรัสกับโจรบนกางเขนว่า “วันนี้เจ้าจะอยู่กับเราในพระอาณาจักรสวรรค์”
• พ่อจึงสรุปว่า คริสตชน ต้องไม่แค้น ไม่แก้แค้น... พ่อเคยพบสัตบุรุษที่น่ารักมากๆ มาจริง แต่เขาพูดกับพ่อเสมอว่า “พ่อมันมีความแค้นอยู่ ให้อภัยยากจริงๆ แค้นน่ะ...” พ่อก็ฟังเยอะ คุยบ้าง เสนอให้เขาให้อภัยเถิด... แต่คำตอบก็คือ “แค้นอยู่” คนเรานะครับ แค้นแล้วสบายใจไหมหนอ... จะมีประโยชน์ไหมหนอ....
• พ่อขอบอกตรงๆ บ่อยครั้ง ก็เป็นความเกียจเคียดแค้นกันเอง ในครอบครัวตนเอง กับพ่อแม่ตนเอง กับสามีกับภรรยาตนเอง... (ส่วนใหญ่จะเป็นแค้นสามีเสียเยอะหน่อย เพราะผู้ชายหลายคนก็เหลวไหลไร้รับผิดชอบจัง...) พ่อได้ยินได้ฟังมาเยอะ พ่อรู้ครับว่ายากนะครับ... แต่ แต่ แต่ แค้นแล้วสนุกหรอ แบกไว้แล้วสบายหรือ ถ้าพระเยซูต้องแบกกางเขนไปตลอดการไม่เฆี่ยนจนหมดกำลัง ไม่ถูกตรึงและไม่สิ้นพระชนม์... อันไหนทรมานกว่ากัน ความตายน่ากลัวมาก แต่ผ่านแล้วก็ไม่ทรมานอีกแล้ว คนตายไร้รอยแค้น สีหน้ายิ้มแย้มทุกคนจริงๆนะครับ
o ประสบการณ์ตรงเมื่อจาของพ่อจากไปจากชีวิตเมื่อสองปีเศษ พ่อเห็นจาค่อยๆผ่านความเจ็บปวด ความทรมานใจ (กายก็ทุกคนแหละ) ในความเจ็บป่วยที่สุด ธรรมชาติชีวิตก็ค่อยเยียวยาให้รับได้แม้ต้องยอมรับและจำนน... แต่ความเชื่อก็เสริมอย่างน่าอัศจรรย์ จนวาระสุดท้าย
o พ่อถามตนเองว่า ถ้าพ่อสามารถขอพรได้ และขอให้จาฟื้นขึ้นมาจากความตายได้ มีชีวิตต่อไประยะหนึ่ง เท่าไรก็ตามตามใจ แต่ไม่นิรันดร์นะ ที่สุดต้องตายอีก ต้องผ่านความตายของร่างกายแบบนี้อีกครั้ง... พ่อจะเสกให้จาฟื้นไหม... พ่อตอบเลยว่า “ไม่” เพราะพ่อเห็นความทรมานการก้าวผ่านความตายของจา และของคนมากมาย แม้แต่พระเยซูเจ้า... พ่อดีใจที่คนเราไม่ต้องตายครั้งที่สอง แต่ได้กลับคืนชีพ.. ในพระคัมภีร์วิวรณ์ยืนยันว่าคนเลวเคียดแค้นโกรธและทำร้ายจะต้องตายครั้งที่สอง คือ อยู่ในไฟนิรันดร พระวาจายืนยันทำให้พ่อต้องร้องว่า...ไม่เอา ไม่เอาจริงๆ
o พี่น้องที่รัก... ความแค้น โกรธ อาฆาต คือการกระทำให้ตายซ้ำตายซาก คือ ตนเองที่เชือดเฉือนตนเองด้วยความที่เรียกว่า “สะใจ” ดีหรอ มีความสุขหรืออย่างไร ไม่หรอก สู้กลั้นใจแรงๆและให้อภัย ยกโทษ เราจะเหมือนคนที่ผ่านความตายได้อย่างสงบ “ตายต่อตนเอง ตายต่อความโกรธเกลียดอาฆาตพยาบาท” ไม่ดีกว่าหรือ...
o สงบ สุข สันติ จิตใจเบา หายแค้น หน้าไม่ย่น ตีนกาจางหาย คิ้วไร้ขมวด หน้าตึงเปล่งปลั่งไม่ต้องฉีดโบท๊อกซ์ ดีกว่าไหม...
o นี่อะไรกัน จะแค้นฝังหุ่น แบบเอาหน้าโกรธเกลียดสตั๊ฟแบบแช่ฟอร์มาลีนกันเลยหรืออย่างไร... แช่ความโกรธไว้ให้กันแบบผ่านพันธุกรรมถึงชั้นลูกชั้นหลานเลยละหรือ... จนบ้านรกร้างไร้คนอยู่เหลียวแลเพราะวางแผนแย่งชิงกัน เกลียดกัน แล้วเราก็จะเป็นอีกยุคหนึ่งที่ผ่านไป เหมือนร่างกายไร้วิญญาณแช่ฟอร์มาลีนความแค้นกันไป... เฮ้อ เคยดูละครสุดแค้นแสนรัก “ดูอีแย้มสิ...สุดแค้นแสนรักน่ะ” ดูแล้วเหนื่อยจริงๆเลย... เหนื่อยกับใบหน้าอีแย้มแห่งสุดแค้นแสนรัก พร้อมกับลูกชายที่สุดโง่และแสนเขลา...เฮ้อ เหนื่อยจริงๆ... ไปศาลาวัดทำบุญเจอกันบนศาลาต่อหน้าพระท่าน... ยั่งนั่งทับที่กัน แกล้งแย่งที่นั่งกันให้มันสะใจ... เหนื่อยนะ “ความแค้น”...

• พี่น้องที่รัก ฟังพระเยซูเจ้าสอนดีกว่านะครับ.. เชื่อในคำสอนของพระองค์ดีกว่าจริงๆ“แต่เรากล่าวแก่ท่านทั้งหลายว่า.....
o อย่าโต้ตอบคนชั่ว (ถ้าโต้ตอบเราก็ชั่วไปด้วยสิ)
o ผู้ใดตบแก้มขวาของท่าน จงหันแก้มซ้ายให้เขาด้วย (ถ้าตบกลับแบบละครไทย เราก็เลวพอกัน)
o ผู้ใดอยากฟ้องท่านที่ศาลเพื่อจะได้เสื้อยาวของท่าน ก็จงแถมเสื้อคลุมให้เขาด้วย (อยากได้มากใช่ไหม... ใจดีไปเลย ให้เพิ่มไปเลย)
o ผู้ใดจะเกณฑ์ให้ท่านเดินไปกับเขาหนึ่งหลัก จงไปกับเขาสองหลักเถิด (เดินเป็นเพื่อนเดินกันไปเลย... เขาคงกลัวที่จะเดินคนเดียว)
o ผู้ใดขออะไรจากท่าน ก็จงให้ อย่าหันหลังให้ผู้ที่มาขอยืมสิ่งใดจากท่าน” (เมตตา รัก แบ่งปัน ใจมีความสุข และเราก็ต้องเป็นคนดีจริงๆเราจึงทำเช่นนี้ได้...)
• ขอให้ชีวิตเรายอดเยี่ยมในความรักและความดีนะครับ... ขอพระเจ้าอวยพรครับ

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก