“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันเสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2017
สัปดาห์ที่ 4 เทศกาลธรรมดา
มก 6:30-34…
30บรรดาอัครสาวกกลับมาเฝ้าพระเยซูเจ้าและทูลรายงานให้ทรงทราบถึงทุกสิ่งที่เขาได้ทำและได้สอน 31พระองค์จึงตรัสกับเขาว่า “ท่านทั้งหลายจงมาพักผ่อนกับเราตามลำพังในที่สงัดระยะหนึ่งเถิด” เพราะมีคนไปมาจนเขาไม่มีเวลาแม้กระทั่งจะกินอาหาร 32พระเยซูเจ้าจึงทรงลงเรือไปยังที่สงัดพร้อมกับบรรดาอัครสาวก

33ประชาชนหลายคนเห็นพระเยซูเจ้ากับบรรดาอัครสาวกแล่นเรือออกไป ก็คาดคะเนได้ว่า พระองค์จะทรงไปที่ใด จึงรีบเดินเท้าออกจากเมืองต่าง ๆ ไปที่นั่นและไปถึงก่อน 34เมื่อเสด็จขึ้นจากเรือ ทรงแลเห็นประชาชนมากมายก็ทรงสงสาร เพราะเขาเหล่านั้นเป็นดังฝูงแกะไม่มีคนเลี้ยง พระองค์จึงทรงเริ่มสั่งสอนเขาหลายเรื่อง

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง
• ประการแรกพ่ออ่านพระคัมภีร์วันนี้พ่ออยากให้เราได้เห็นความข้อเท็จจริงๆสองประการ คือ
1. ความอ่อนโยนของพระเยซูเจ้า ทรงเห็นใจบรรดาศิษย์
2. ความอ่อนโยนของพระเยซูเจ้า ทรงเห็นใจประชาชน

• ในประการแรก เราเห็นความอ่อนโยนของพระเยซูเจ้า ทรงเห็นใจบรรดาศิษย์ พระดำรัสที่อ่อนโยนเหลือเกิน พ่ออยากให้เราอ่านซ้ำๆและไตร่ตรองซ้ำๆครับ น่ารักและน่าฟังจริงๆ “ท่านทั้งหลายจงมาพักผ่อนกับเราตามลำพังในที่สงัดระยะหนึ่งเถิด”
o พ่ออยากให้เราได้เป็นเหมือนพระเยซูเจ้าจริงๆ เลียนแบบพระองค์ เลียนแบบความใส่ใจและความแคร์ Care ของพระองค์ พระองค์รู้ว่าบรรดาศิษย์ไม่ได้มีเวลารับประทานอาหาร พวกเขาเหนื่อยเพราะมีประชาชนมากมายจริงๆติดตามพระองค์ พระองค์รับรู้และอาทรต่อบรรดาศิษย์จึงตรัสให้พวกเขาได้พักผ่อนกับเราตามลำพังในที่สงัดระยะหนึ่งเถิด...
o พ่ออยากให้พวกเราเป็นคน “อ่อนโยน” และ “เห็นความเหนื่อยอ่อนของเพื่อนพี่น้องและสังคม” พ่อมั่นใจว่านี่เป็นบุคลิกที่น่าเลียนแบบของพระเยซูเจ้าจริงๆ พวกเราคริสตชนต้องเป็นคนมีหัวใจ เห็นใจ และอ่อนโยนต่อเพื่อนพี่น้อง พี่น้องที่รักครับเคยมีใครว่าหรือตำหนิเราว่าใจดำหรือใจร้ายบ้างไหม?? ไม่ได้เลยนะครับ นั่นผิดธรรมชาติของเรามากๆ เราคริสตชนต้องอ่อนโยนนะครับ... พ่อคิดเหมือนกันว่าพ่อเองเคยโดนตำหนิว่าไม่เห็นใจ ใจร้าย หรือไม่ใส่ใจคนอื่นบ้างไหมหนอ...
o พ่อเองคงต้องไปนั่งพิจารณามโนธรรมของพ่อเองจริงๆว่าเป็นอย่างไรหนอ พี่น้องที่เคยเจอพ่อใจดำ ใจร้าย หรือไร้ความเมตตาและไม่อ่อนโยนช่วยตำหนิพ่อทีนะครับ.. ขอเป็นหลังไมค์ก็ได้นะครับ “อายครับ” อับอายถ้าพ่อเป็นพระสงฆ์แล้วพ่อไร้ความเมตตา หรือไม่อ่อนโยน หรือใช้ความรุนแรงในการดำเนินชีวิตกับเพื่อนพี่น้อง... ขอเป็นหลังไมค์ละกันนะครับ... พ่อเกรงว่าพระอาจารย์เจ้าของเราจะทรงเสื่อเสียเพราะชีวิตของพ่อด้วยครับ...
o ที่พ่อเขียนเช่นนี้พ่อต้องการเชิญชวนเราให้ทบทวนตัวเราจริงๆ ว่าเราได้เป็นเหมือนพระเยซูเจ้าพระอาจารย์ของเราจริงๆไหมครับ เราอ่อนโยนและเห็นใจเพื่อนพี่น้องไหม เรื่องนี้เราต้องฝึกฝนและหล่อหลอมบุคลิกของเราให้น่ารัก ให้อ่อนโยนและเห็นใจเหมือนพระเยซูด้วยกันนะครับ พ่อสรุปในประการแรก เป็นคริสตชนต้องแคร์คนอื่น เราจะไม่แคร์ไม่แยแสไม่ได้นะครับ โดยเฉพาะพี่น้องรอบข้างและออกไปให้ถึงบรรดาผู้ยากไร้จริงๆครับ

• ประการที่สอง ความอ่อนโยนของพระเยซูเจ้าอีก ทรงเห็นใจประชาชน
o พวกเขาติดตามพระองค์ แม้พระองค์อยากจะไปหาที่สงบเพื่อให้บรรดาศิษย์ได้พักผ่อนสักระยะ แต่พวกเขา ออกเดินเท้าตามไป พวกเขารู้ว่าพระองค์จะไปที่ไหน พวกเขาต้องพบพระองค์ต้องการให้พระองค์สอนและเยียวยารักษา
o พระวาจาตอนนี้น่าอัศจรรย์ พ่อไม่ได้พิจารณาพระเยซูเจ้าล่ะครับ พ่อรู้ว่าพระองค์ไม่มีอะไรที่เราต้องสงสัย.. แต่พ่อกลับมาพิจารณาตัวเอง... พ่อเหมือนพระเยซูเจ้าไหม ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อประกาศพระวาจา เพื่อสถาปนาความรักและความเมตตาคือพระอาณาจักรของพระเจ้า
o พ่อกลับมามองตัวพ่อเอง และพ่อขอให้พี่น้องพิจารณาตัวเราด้วย พ่อเองเป็นพระสงฆ์ ประชาสัตบุรุษคิดถึงพ่อไหม อยากเจอพ่อไหม อยากฟังพ่อไหม อยากได้ใกล้ชิดพ่อเพื่อได้รักพระเจ้าไหม??? คำถามเหล่านี้ล้วนเป็นดาบสองคมที่บาดตัวพ่อเองและก็ยังเป็นคำถามสำหรับพี่น้องด้วยเช่นกัน...

• ประชาชนคาดได้ว่าพระองค์จะลงเรือไปที่ใด และออกตามพระองค์ไป เพื่อได้พบพระองค์ พวกเขาอยากอยู่กับพระองค์ อยากเจอพระองค์...
o วันนี้ถามตัวพ่อเองแรงๆ พ่อเป็นพระสงฆ์จริงๆ แต่สัตบุรุษเขารักและอยากเจอเราไหมหนอ... ไม่กล้าตอบครับ บ่อยครั้งคำถามสำคัญกว่าคำตอบ คำถามก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงมากกว่าคำตอบจริงๆ นะครับ
o บางทีเราถามตัวเองกันดีกว่าแล้วคำถามนี้เราพยายามตอบด้วยตนเองว่าเราพยายามเพียงใดที่จะเห็นใจและรักเพื่อนพี่น้องของเรา หรือเราเป็นที่รัก ที่ตามแสวงหา เหมือนพระเยซูเจ้าไหม...
o ที่น่าทึ่งคือพระองค์ไม่ปฏิเสธพวกเขาเลย พวกเขาตามมารอบทะเลสาบมารอพระองค์อยู่ก่อน เมื่อพระองค์เสด็จมาถึง พระองค์ก็เหมือนที่ทรงเป็น ไม่เคยเปลี่ยนจากความดีของพระองค์จริงๆ “เมื่อเสด็จขึ้นจากเรือ ทรงแลเห็นประชาชนมากมายก็ทรงสงสาร เพราะเขาเหล่านั้นเป็นดังฝูงแกะไม่มีคนเลี้ยง พระองค์จึงทรงเริ่มสั่งสอนเขาหลายเรื่อง”

• พี่น้องที่รัก วันนี้ ขอเพียงสองประการนี้ “ความน่ารักอ่อนโยนทั้งสองประการ” คือ
o ขอให้เราอ่อนโยนเหมือนพระเยซูเจ้า
o เห็นใจและสงสารบรรดาศิษย์และทรงสงสารประชาชนที่ติดตามแสวงหาพระองค์
• พ่อคิดว่า พระวาจาวันนี้จะช่วยให้เราได้พิจารณาตัวพ่อเองและพี่น้องเองได้มากจริงๆ ขอให้เราหล่อหลอมบุคลิกของเราให้เหมือนกับพระเยซูเจ้านะครับ... น่ารักกันมากๆ นะครับ
• อ่านพระวาจาวันนี้ในข้อ 31-32 แล้วอยากไปพักผ่อนสักนิดไหมครับ...
o 31พระองค์จึงตรัสกับเขาว่า “ท่านทั้งหลายจงมาพักผ่อนกับเราตามลำพังในที่สงัดระยะหนึ่งเถิด” เพราะมีคนไปมาจนเขาไม่มีเวลาแม้กระทั่งจะกินอาหาร 32พระเยซูเจ้าจึงทรงลงเรือไปยังที่สงัดพร้อมกับบรรดาอัครสาวก
o เหนื่อยนักก็พักสักหน่อย...พักกับพระเจ้า พักใจในพระองค์ พักพิงในพระเจ้านะครับ

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก