“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันศุกร์ที่ 2 ธันวาคม 2016
สัปดาห์ที่ 1 เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า
มธ: 9:27-31…
27ขณะที่พระเยซูเจ้ากำลังเสด็จออกจากที่นั่น คนตาบอดสองคนตามพระองค์ไป ร้องตะโกนว่า “โอรสของกษัตริย์ดาวิด โปรดเมตตาเราเถิด” 28เมื่อเสด็จมาถึงบ้าน คนตาบอดเข้ามาเฝ้าพระองค์ พระเยซูเจ้าจึงตรัสถามว่า “ท่านเชื่อว่าเราทำเช่นนั้นได้หรือ” เขาทั้งสองตอบว่า “เชื่อ พระเจ้าข้า”

29พระองค์จึงทรงสัมผัสตาของเขา ตรัสว่า “จงเป็นไปตามที่ท่านเชื่อเถิด” 30แล้วตาของเขาทั้งสองคนก็เริ่มมองเห็น พระเยซูเจ้าทรงกำชับเขาอย่างเข้มงวดว่า “ระวัง อย่าบอกให้ใครรู้เรื่องนี้” 31แต่เมื่อทั้งสองคนออกไปก็ประกาศเรื่องของพระองค์ทั่วแคว้นนั้น

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง

• “โชคดีของคนตาบอดสองคนที่เขาทั้งสอง ไม่หนวกและไม่ใบ้” พ่ออ่านพระวรสารตอนนี้และเช่นกันในมาระโกบทที่ 10:46-52 คนตาบอดที่เยรีโค คนนั้น ที่ต้องถือว่าเป็นพระวรสารตอนเดีวยกันนี้ แต่ที่นี่ในมัทธิวนำเสนอ เป็น “คนตาบอดสองคน” ประเด็นสำคัญคือ ความบอดของดวงตาไม่ได้จำกัด “การได้ฟัง ได้ยิน และการร้องตะโกนของพวกเขา”

• พ่อประทับใจครับ ที่ได้อ่านพระวรสารวันนี้และได้เห็นเสียงร้องตะโกนของคนตาบอดสองคน ในภาษาของพระคัมภีร์ ภาษาเทววิทยาที่เราได้ยินนี้ที่ออกมาจากปากของคนตาบอดสองคนนี้ เขาร้องตะโกนในภาษาที่สำคัญมากๆ เรียกว่า เป็น “การประกาศความเชื่อในพระแมสซียาห์ หรือการประกาศความเชื่อ หรือภาษาเทววิทยาใช้คำว่า “Confession” แปลว่า “คำสารภาพ” สารภาพว่าคนตาบอดสองคนนี้แม้บอด แต่ไม่หนวก และไม่ใบ้ แต่ตะโกนร้องเสียงดัง เป็นคำสารภาพความเชื่อเด็ดขาด... ด้วยคำว่า “โอรสของกษัตริย์ดาวิด โปรดเมตตาเราเถิด” ในคำสารภาพนี้มีใจความสำคัญ 2 ประเด็น
o “โอรสดาวิด” คำนี้ เป็น คำจำกัดความหรือ “ไตเติ้ล” สำคัญ ที่มีความหมายถึง “พระแมสซียาห์หรือพระคริสตเจ้า” ใครก็ตามที่ได้รับการเรียกขานเช่นนี้ เขาคนนั้นคือพระแมสซียาห์แน่นอน... ดังนั้น คนตาบอดสองคนนี้ร้องตะโกนประกาศ “ความเชื่อของตนเองในพระคริสตเจ้า” คือ ความเชื่อเด็ดขาดว่า “พระเยซู คือ พระคริสตเจ้า พระผู้ช่วยให้รอด” คนตาบอดสองคนเชื่อเด็ดขาด ร้องตะโกนประกาศความเชื่อในพระองค์ “โอรสของกษัตริย์ดาวิด” เป็นชื่อเรียกพระเมสสิยาห์ (2 ซมอ 7:1; เทียบ ลก 1:32; กจ 2:30; รม 1:3 เป็นชื่อที่ชาวยิวคุ้นหูดี มก 12:35; ยน 7:42) มัทธิวใช้ชื่อนี้กับพระเยซูเจ้าบ่อยกว่าผู้อื่น (มธ 1:1;12:23; 15:22; 20:30//; 21:9,15) แต่พระเยซูเจ้าทรงลังเลในการใช้ชื่อนี้ เพราะเป็นชื่อที่กล่าวถึงพระเมสสิยาห์ในฐานะที่เป็นมนุษย์เท่านั้น

o “โปรดเมตตาเราเถิด” คนตาบอดทั้งสองมิใช่เพียงร้องเรียก แต่ร้องขอความเมตตาจากพระองค์ “ความเมตตา” คือลักษณะของพระเจ้าจริงๆ ดังนั้นในการสารภาพนี้ คนตาบอดได้มั่นใจว่าพระเยซูสามารถที่จะเมตตาได้จริงๆอย่างไม่ต้องสงสัย ในการร้องหาพระเจ้า เขาสองคนเป็นตัวอย่างให้แก่เราได้เลย

• ““ท่านเชื่อว่าเราทำเช่นนั้นได้หรือ” เขาทั้งสองตอบว่า “เชื่อ พระเจ้าข้า”” คำถามของพระคริสตเจ้าต่อคนตาบอดสองคน...
o คำถามนี้พ่ออยากถามตนเองจริงๆ ถามพี่น้องคริสตชนผู้อ่านพระวรสารวันนี้จริงๆ...
o “พี่น้องที่รัก พี่น้องเชื่อว่าพระเยซูเจ้าทำได้ทุกสิ่ง (คือทรงเป็นพระเจ้าผู้ทรงสรรภานุภาพสำหรับชีวิตของเราทุกคน) จริงหรือ” เราได้เชื่อเช่นนี้จริงๆหรือ
o คงเป็นโอกาสดีที่เราจะสารภาพด้วยวาจาและเสียงร้องของเรา ด้วยว่าเราจะต้องไม่บอด ไม่หนวก ไม่ใบ้ ต่อพระเยซูเจ้าโดยเด็ดขาด เช่นเดียกับคนตาบอดสองคนนี้สารภาพ ว่า “เชื่อพระเจ้าข้า” พี่น้องที่รัก พ่อถามใจพ่อเอง เพื่อถามพี่น้องเช่นกัน เราเชื่อ “เราได้มีความเชื่อศรัทธาในพระเจ้าเป็นอย่างไร คือมี คุณภาพของความเชื่อที่ปรากฎเป็นชีวิตที่มีคุณธรรมมากเพียงใดจริงๆหนอ”
o คำสารภาพ ประกาศอย่างสง่าของคนตาบอดสองคนนี้ น่าจะทำให้เราได้สามารถในโอกาสเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้าปีนี้ได้ปราศความเชื่อในพระคริสตเจ้าอย่างสง่าเช่นเดียวกัน

• คนตาบอดได้รับฟังพระวาจาอีกครั้ง “จงเป็นไปตามที่ท่านเชื่อเถิด” พ่ออ่านข้อความนี้แล้วพ่ออยากให้เรา “เชื่อมั่น” ว่า “ความเชื่อช่วยเราให้รอดได้จริงๆ คือความเชื่อ (ใน) พระเยซู (to believe in Jesus Christ)” และเขาสองคนออกไป เขาหายจริงๆ เขาแลเห็นจริงๆ เรียกว่า ครบครัน คือ ได้ยิน ได้ฟัง ได้ร้องตะโกน และได้และเห็น การเห็นครั้งนี้เป็นเพราะ “ความเชื่อ” จริงๆ
• พ่ออยากย้ำว่า “ความเชื่อทำให้พวกเขาไม่บอด ความเชื่อทำให้แลเห็นได้แน่นอน พ่อมีข้อคิดข้อไตร่ตรองพิจารณาดังนี้ครับ
o พี่น้องที่รักครับ พระคริสตเจ้าที่จะบังเกิดมาที่เราจะฉลองและเตรียมรับเสด็จกันอยู่
o พี่น้องเชื่อในพระองค์ไหมครับ เชื่อไหมครับ เชื่อจริงๆ ไหมครับ... พ่ออยากย้ำว่า ถ้าเชื่อจริงๆ นะครับ ผลตามมาที่พ่ออยากเห็นได้ชัดเช่นคนตาบอดสองคนนี้ครับ คือ
 ขอให้เราแลเห็นได้เลย ตาหายบอดเลยจริงๆ พ่อขอให้เราหายบอดนะครับ หายจากบอดจากการไม่เห็น ไม่มองดู ไม่ตั้งใจมองดู เพื่อนพี่น้องของเรา โดยเฉพาะบรรดาผู้ยากไร้ครับ
 อย่าบอดเลยนะครับ อย่าบอดมืดมัวมึนเมาจนมองไม่เห็นกันและกันในครอบครัว ในสังคม กับคนใกล้ตัว ไกลตัว โดยเฉพาะบรรดาคนยากไร้ บ่อยครั้ง คนเราอยู่ด้วยกันแท้ๆ บ้านเดียวกัน สามีภรรยากันที่เคยรักเชื่อในกัน แต่อาจจะมืดบอด ใบ้ หนวกต่อกันมาแสนนานแล้ว บางทีอีกฝ่ายอาจร้องขอความรัก ร้องขอการคืนดี การให้อภัย ร้องขอให้เปลี่ยนแปลงอะไรๆที่ไม่ดี ร้องกู่ให้กลับบ้านจากการหลงทางเหลิงไป ไปกับคนอื่น ที่ไม่ใช่คู่ชีวิต ทิ้งไปหาคนอื่น และบอดมืดมัวกับคู่ชีวิตตนเอง...
 เชื่อในพระเยซูไหมครับ ถ้าเชื่อ หายบอดเถอะครับ กลับบ้านให้ถูกหลัง กลับใจให้ได้จริงๆ กลับมายังครอบครัวของตน ลูกๆ และสังคมของตน...
 ขอให้เราเลิกใจบอดมืดจืดสนิทต่อกันและกันเถอะนะครับ ถ้ามีความเชื่อจริงๆ ชีวิต ครอบครัว ชีวิตคริสตชน ชีวิตคู่ ชีวิตนักบวช พระสงฆ์ ครอบครัวสงฆ์ พระสังฆราชด้วย และเห็นกันเถอะครับอย่าบอดต่อกันเลย อย่าหนวกต่อเสียงเรียกร้องขอความรัก ความยุติธรรม และสันติสุขเลยนะครับ อย่าได้ใบที่จะพูดปลอบใจกันและกัน แต่ถ้าที่ผ่านมากตะโกนกร่นด่าทำร้ายกันด้วยคำพูด ก็ลดละเลิกและกลับใจกันเถอะครับ “ถ้ามีความเชื่อในพระเยซู”
• คนตาบอดสองคน อดไม่ได้เลยที่จะออกไปประกาศ โถๆๆๆ ก็ได้เชื่อ ได้แลเห็นพระเยซู จะเก็บไว้ได้อย่างไร... ครับ ดังนั้น พ่อขอศอกกลับความคิดสักนิดนะครับ เพราะที่ผ่านๆมาใครๆ ก็พูดกันว่า “พวกเราคริสตชนคาทอลิกไม่ค่อยประกาศอะไรกันเลย เงียบงันกันจัง ไม่กล้าประกาศพระคริสตเจ้ากันเลย” นี่จะมีความหมายที่บอกอะไรแก่เราได้ไหมว่าเช่น
o พวกเรายังอ่อนในเรื่องความเชื่อในพระเยซูกันจริงๆในพระเยซูไหม
o พวกเราคริสตชนยังบอดๆกันไปสักหน่อย
o พวกเรายังหนวกๆกันในการฟังพระวาจา อ่านพระวาจาไปหน่อยไหม
• พี่น้องที่รัก พ่อสรุปนะครับ... ให้เราได้เชื่อในพระเยซูเจ้ามากขึ้น และให้เราได้หายจากความบอดในการแลเห็นกันและกันนะครับ...

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก