“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันจันทร์ที่ 1 สิงหาคม 2016

สัปดาห์ที่ 18 เทศกาลธรรมดา

1 สิงหาคม ระลึกถึงนักบุญอัลฟอนโซ มารีย์ พระสังฆราชและนักปราชญ์ของพระศาสนจักร ท่านเป็นนักเทศน์ ผู้ตั้งคณะพระมหาไถ่ และท่านเป็นผู้เทศน์สอนและมีวาจาประกาศพระวาจาของพระเจ้าอย่างเฉียบคม วันนี้ เราร่วมฉลองกับคณะสงฆ์พระมหาไถ่ทั่วโลกด้วยครับ

ยรม 28:1-17…ประกาศกเยเรมีย์โต้เถียงกับฮานันยาห์
1ปีเดียวกันนั้น เมื่อเริ่มรัชกาลของกษัตริย์เศเดคียาห์แห่งยูดาห์ ในเดือนที่ห้า ปีที่สี่ ประกาศกฮานันยาห์ บุตรของอัสซูร์จากเมืองกิเบโอน พูดกับข้าพเจ้า ในพระวิหารของพระยาห์เวห์ต่อหน้าบรรดาสมณะและประชากรทั้งปวงว่า 2“พระยาห์เวห์จอมจักรวาล พระเจ้าแห่งอิสราเอล ตรัสดังนี้ ‘เราได้หักแอกของกษัตริย์แห่งบาบิโลนแล้ว 3ภายในสองปี เราจะนำเครื่องใช้ทั้งสิ้นของพระวิหารของพระยาห์เวห์ ซึ่งกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลนริบจากที่นี่ขนไปยังกรุงบาบิโลน กลับมาที่นี่อีก 4เราจะนำเยโคนิยาห์ พระโอรสของกษัตริย์เยโฮยาคิมแห่งยูดาห์ และบรรดาผู้ถูกกวาดต้อนจากยูดาห์ไปยังกรุงบาบิโลนกลับมา – พระยาห์เวห์ตรัส - เพราะเราจะหักแอกของกษัตริย์แห่งบาบิโลน’”

5ประกาศกเยเรมีย์จึงตอบประกาศกฮานันยาห์ ต่อหน้าบรรดาสมณะและประชากรทั้งปวงซึ่งอยู่ในพระวิหารของพระยาห์เวห์ 6ประกาศกเยเรมีย์พูดว่า “สาธุ ขอพระยาห์เวห์ทรงทำเช่นนี้เถิด ขอพระยาห์เวห์ทรงทำให้ถ้อยคำที่ท่านได้ประกาศนั้นเป็นจริง ทรงนำเครื่องใช้ทั้งหมดของพระวิหารของพระยาห์เวห์ และผู้ถูกกวาดต้อนทุกคนกลับจากกรุงบาบิโลนมายังสถานที่นี้เถิด 7ถึงกระนั้น จงฟังถ้อยคำนี้ซึ่งข้าพเจ้ากำลังจะพูดให้ท่านและประชากรทั้งปวงได้ยิน 8บรรดาประกาศกซึ่งอยู่ก่อนข้าพเจ้าและก่อนท่านนานมาแล้ว ได้ประกาศพระวาจาเรื่องสงคราม การขาดแคลนอาหารและโรคระบาด ว่าจะเกิดขึ้นแก่หลายแผ่นดินและอาณาจักรยิ่งใหญ่ 9ส่วนประกาศกผู้ประกาศว่าจะมีสันติภาพ ถ้าถ้อยคำของประกาศกผู้นั้นเป็นความจริง ก็จะรู้กันว่าเขาเป็นประกาศกที่พระยาห์เวห์ทรงส่งมาอย่างแท้จริง”

10ประกาศกฮานันยาห์จึงกระชากแอกออกจากบ่าของประกาศกเยเรมีย์และหักแอกนั้น 11แล้วฮานันยาห์ก็พูดต่อหน้าประชากรทั้งปวงว่า “พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ เราจะหักแอกของกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลนออกจากบ่าของชนชาติทั้งหลายเช่นนี้ภายในสองปี” เมื่อได้ยินดังนี้ ประกาศกเยเรมีย์ก็เดินจากไป

12เมื่อประกาศกฮานันยาห์ได้หักแอกจากบ่าของประกาศกเยเรมีย์แล้ว พระยาห์เวห์ตรัสกับประกาศกเยเรมีย์ว่า 13“จงไปบอกฮานันยาห์ว่า พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ ‘ท่านได้หักแอกไม้ แต่เราจะทำแอกเหล็กมาวางไว้แทน 14เพราะพระยาห์เวห์จอมจักรวาล พระเจ้าแห่งอิสราเอล ตรัสดังนี้ เราได้วางแอกเหล็กไว้บนบ่าของชนชาติทั้งหมดนี้ให้เป็นทาสรับใช้กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลน เขาทั้งหลายจะรับใช้พระองค์ เรายังได้มอบสัตว์ป่าต่างๆแก่พระองค์ด้วย’”

15ประกาศกเยเรมีย์พูดกับประกาศกฮานันยาห์ว่า “ฮานันยาห์เอ๋ย จงฟังเถิด พระยาห์เวห์ไม่ทรงส่งท่านมา แต่ท่านได้ทำให้ประชากรนี้วางใจในความเท็จ 16ดังนั้น พระยาห์เวห์จึงตรัสดังนี้ ‘ดูซิ เรากำลังจะส่งท่านออกไปจากพื้นแผ่นดิน ในปีนี้เอง ท่านจะต้องตาย เพราะท่านได้ชักชวนประชากรให้เป็นกบฏต่อพระยาห์เวห์’”
17ในปีนั้น เดือนที่เจ็ด ประกาศกฮานันยาห์ก็ตาย

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง
• คำพูดดี คำพูดหวานหู ฟังแล้วมีแต่ดีกับดีใครๆก็ชอบนะครับ จริงไม่จริงว่ากันอีกที

• วันนี้เราได้ยินประกาศก เถียงกับประกาศ เยเรมีย์กับฮานันยาห์...
o พระคัมภีร์วันนี้ยาวหน่อย 17 ข้อ ครับ
o แต่ไม่ต้องตีความมาก เพราะอ่านง่าย พ่อเท้าความให้หน่อยก็แล้วกัน และเสริมประสบการณ์นิดหน่อย

• ในบรรยากาศของการรุกคืบของเนบูคัสเสซาร์แห่งบาบิโลน ชาวยิวแห่งอาณาจักรยูดาห์กำลังตระหนก เพราะสงคราม และการยึดครองแผ่นดิน ของมีค่าทั้งหลายถูกกวาดเรียบ
o ที่เจ็บปวดมาก คือ เครื่องใช้ทองคำ ของมีค่าที่เคยใช้เพื่อเรื่องพระวิหาร เพื่อพระเจ้า แน่นอนมีค่าที่สุด ถูกกวาดเก็บไปบาบิโลนหมด...
o ชาวยิวอกสั่งขวัญแขวน และไม่น่าเชื่อว่า จะถึงแก่ความย่ำแย่ขนาดนี้ เครื่องใช้ศักดิ์สิทธิ์ล้ำค่าโดนยึดหมด
o ที่เจ็บปวดมาก คือ ประชาชนเริ่มถูกกวาดต้อนไปเป็นเชลย ขบวนประชาชนคนชั้นสูงเริ่มต้อง “อพยพไปแบบที่เรียกว่า “เนรเทศ” ไปบาบิโลน”
o คงเริ่มถูกคัดกรองกวาดต้อนไปที่ละเล็กที่ละน้อย... และขณะเนรเทศไป ก็คงถ้าไม่ล่ามโซ่ ก็ตีตรวน หรือสมัยนั้น ต้องบอกว่า ถูกกระทำแบบสัตว์ใช้แรงงาน คือ “ใส่แอก” เครื่องหมายของการ “เป็นทาสเป็นเชลยศึก
o ที่เจ็บปวดมาก คือ การเนรเทศต้องเดินทางจากยูดาห์ ไปเป็นเชลย ไปเป็นทาสเขา
o เรียกว่า จากนี้ไปต้อง “เทียมแอก” ไร้อิสรภาพ ชาติ ศาสนา พระวิหาร ความเชื่อ สมณะ ระเบียบจารีตงดงามมากมาย ธรรมประเพณี ถูกกระทำให้พังหมดเลย... หมดกัน

• ชาวยิวแห่งอาณาจักรยูดาห์เวลานั้นถูกเนรเทศ เยรูซาเล็มถูกทำลาย พระวิหารถูกทำลายราบเป็นหน้ากลอง เพราะได้ละทิ้งพระเจ้า พระยาห์เวห์ ได้ละเมิดพันธสัญญาและต้องตกเป็นเชลย ต้องเทียมแอก...

• ประกาศกเยเรมีย์ได้รับบัญชาของพระเจ้าให้ประกาศ “แอก” หรือ “ภาระแห่งความเป็นทาส” ดังนี้
o “พระยาห์เวห์ตรัสกับข้าพเจ้าดังนี้ “จงทำสายรัดและแอกจำนวนหนึ่ง นำมาวางบนบ่าของท่าน” (ยรม 27:2)
o พระเจ้าสั่งเยเรมีย์ให้ใส่แอกบนบ่าของเยเรมีย์และเดินไปหาทุกคน แถมยังให้ส่งไปยังกษัตริย์ต่างๆ ว่าต้องเป็น “ทาส” ของบาบิโลน เป็นทาสของเนบูคัสเนสซาร์เจ็ดสิบปี...
o เยเรมีย์ทำแบบนี้เพื่อเป็นเครื่องหมาย “คำเตือนของพระยาห์เวห์” สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นจริงๆ
o แล้วใครจะชอบเยเรมีย์ล่ะครับ... แต่นี่คือพระบัญชาและความจริง

• ประกาศกอีกคน “ฮานันยาห์” จึงประกาศให้กำลังใจ ประกาศเรื่องดีๆ (แบบที่ตนคิดว่าจะปลอบใจคน และไม่พูดความจริง แต่พูดเอาใจ)
o ฮานันยาห์ประกาศว่า อีกสองปีเศษ ทุกอย่างจะกลับมาเหมือนเดิม สิ่งที่ถูกยึดไปจะกลับมา...
o พูดเอาใจ แถมยังไปกระชากแอกจากคอเยเรมีย์ แอกที่เป็นไม้นั้น มากหักให้ดูต่อหน้า
o เรียกว่า “ปลดแอก ทำลายแอก” ให้เห็น ประชาชนจะได้สบายใจ ดีใจ...

• พระเจ้า ตรัสย้ำเลยว่า “หักแอกไม้หรอ... เดี๋ยวจะใส่แอกเหล็กให้” นั่นหมายความว่า พระเจ้าจะลงโทษความไม่ซื่อสัตย์ โดยให้เนบูคัสเนสซาร์เข้ายึดครอง จนกว่าจะถึงเวลาที่พระยาห์เวห์จะประทานอิสรภาพเอง

• วันนี้เราได้เห็นภาพ สองภาพของประกาศกสองคน แท้กับเทียม
o เยเรมีย์ พูดความจริง ประกาศจริง และที่สำคัญ “ไม่เอาใจประชาชน” ไม่พูดเพื่อความสบายใจ แต่พูดให้กลับใจ เรียกร้องให้ต้องยอมรับแอกแห่งความยุติธรรมที่เหมาะแก่การลงโทษที่ประชาชนได้หันหลังให้กับพระยาห์เวห์
o ฮานันยาห์ พูดเอาใจ ทำเครื่องหมายเพื่อเอาใจประชาชน “หักแอก ปลดแอก” แหกตาประชาชน ว่าจะพ้นจากการเป็นทาสเร็ว เดี๋ยวก็จบ... ประชาชนคงอยากฟังเรื่องแบบฮานันยาห์

วันนี้พ่ออ่านพระคัมภีร์แล้ว มาถึงประเด็นจำเป็นเพียงสั้นๆ เราคงต้องเลือกจริงๆจะเป็นเหมือนฮานันยาห์หรือเยเรมีย์ ทั้งสองเป็นประกาศก แต่

• ประกาศกแบบเยเรมีย์ เป็นประกาศกที่ประกาศความจริง ให้กลับใจ ให้ใช้โทษบาป และยอมรับความจริง ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตนเองอย่างจริงจังจะได้หลุดพ้นจากการเป็นทาสเขา เรียกว่า ต้องเผชิญความจริงเพื่อการเปลี่ยนแปลง

• ประกาศกฮานันยาห์ เป็นประกาศกที่เอาใจประชาชน ประชานิยมที่รู้แก่ใจว่าไม่มีโอกาสเป็นเช่นนั้นแต่เพื่อปลอบใจและหลอนใจกันไปวันๆ
--------------------------

• พี่น้องที่รัก พ่อเองที่เป็นผู้เทศน์ประกาศข่าวดี เป็นพระสงฆ์ ทำหน้าที่ประกาศก และพี่น้องเองด้วย เราทุกคนต่างเป็นประกาศกสำหรับโลกและสังคม... เราจะประกาศยืนยันความจริง ย้ำสอนเตือนความบกพร่องอย่างจริงจัง หรือเราจะเพียงแต่เอาใจประชาชน ให้คำหวานๆ ให้ความหวังที่เราเองก็รู้ว่าไม่ใช่ หรือเราจะชี้แสดงความจริงต่อโลกและต่อพี้นองประชาชนของเรา ข้อคิดที่พ่อไตร่ตรองได้คือ
1. เราต้องกล้าที่จะเดินในความจริง ประกาศความจริง แม้ไม่ถูกใจประชาชนแต่ถูกต้อง เราต้องไม่มุ่งประชานิยม แต่เราต้องนิยมประชาชนให้เป็นประชาชนที่มีคุณภาพ เป็นพลเมืองดีของชาติ และคริสตชนที่ดีจริงๆ
2. เราต้องกล้าเทศน์สอนความจริง กล้าเป็นมโนธรรมแท้ของสังคม เตือนสังคมให้เดินในหนทางที่ถูกต้องเสมอไป เราต้องไม่ยอมให้กับความเท็จเทียมโดยเด็จขาด
3. เราต้องไม่เอาใจกันจนไม่คำนึงถึงผลเสีย... สำคัญมากๆ Caritas in Veritate “รักในความจริงและจริงในความรัก” นี่คือสิ่งที่พ่อเน้นหนักเสมอมา
4. คำพูดของเราต้องดี หวานหูแต่เต็มด้วยความจริงและไม่หลอกลวง... ให้หลงไปคำหวานที่ขาดความจริงเพียงเพื่อเอาใจและประชานิยมไปเท่านั้น...

• สุดท้าย พ่อขอสรุปคำสอนของพระสันตะปาปาเรื่องการเทศน์ของพระสงฆ์ให้พี่น้องได้อ่านอีกครั้ง จะได้เป็นการเตือนพระสงฆ์ พระสังฆราช ด้วยคำเตือนของพระสันตะปาปาในเรื่องการเทศน์อย่างดี และเพื่อพี่น้องจะได้รู้ว่า พี่น้องมีสิทธิ์เต็มที่ที่จะได้รับการเทศน์ในมิสซาประจำวัน โดยเฉพาะวันอาทิตย์นั้นอย่างไรครับ Evangelii Gaudium ข้อ 135ff

• พระสันตะปาปาฟรังซิสชี้ทางให้อย่างพิถีพิถันมากๆในเรื่อง “การเทศน์” เพราะว่านี่เป็นเรื่องสำคัญมากและต้องไม่หลีกเลี่ยงเด็ดขาด (135)
o บทเทศน์จะต้องสั้นกระชับและหลีกเลี่ยงการทำแบบให้บรรยายหรือการสอนเรียน (138)
o ต้องเป็นการพูดสื่อสารกันแบบใจถึงใจ
o หลีกเลี่ยงการสอนแต่ศีลธรรมหรือการประกาศข้อความเชื่อเท่านั้น (142)

• พระสงฆ์จะต้องเตรียมเทศน์
o ผู้เทศน์ที่ไม่เตรียมก็เป็นคนที่ขาดชีวิตจิต
o เป็นคนไม่ซื่อสัตย์และไร้ความรับผิดชอบจริงๆ (145)

• การเทศน์ต้องเน้นการพูดด้านบวกเสมอเพื่อจะได้เป็นการให้ความหวัง โดยไม่ทำให้ผู้ฟังติดบ่วงด้านลบกลับไป (159)
o การเทศน์จะต้องเน้น “การประกาศพระวรสาร”
o ซึ่งต้องมีลักษณะเป็นด้านบวกเสมอ หมายความว่า
o ผู้ฟังสามารถเข้าถึงได้ง่าย
o เป็นการโอกาสที่พร้อมจะให้เกิดการเสวนาต่อไป
o ก่อให้เกิดความมานะพากเพียร
o มีการต้อนรับที่อบอุ่นในการเทศน์
o และไม่เน้นการตัดสินแบบผู้พิพากษา (165)

 

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก