“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันอังคารที่ 12 กรกฎาคม 2016

สัปดาห์ที่ 15 เทศกาลธรรมดา

อสย 7:1-9…

1ในรัชสมัยของกษัตริย์อาหัส โอรสของกษัตริย์โยธาม โอรสของกษัตริย์อุสซียาห์แห่งยูดาห์ กษัตริย์เรซีน แห่งซีเรียและกษัตริย์เปคาห์แห่งอิสราเอล โอรสของเรมาลิยาห์ ยกทัพขึ้นมายังกรุงเยรูซาเล็มเพื่อทำสงครามกับเมืองแต่เอาชนะไม่ได้ 2เมื่อมีผู้มาส่งข่าวแก่ราชวงศ์ของกษัตริย์ดาวิดว่า “ชาวซีเรียมาตั้งค่ายอยู่ในเขตแดนเอฟราอิมแล้ว” พระทัยของกษัตริย์และจิตใจของประชาชนก็สั่นเหมือนต้นไม้ในป่าสั่นเมื่อถูกลมพัด


3พระยาห์เวห์ตรัสกับอิสยาห์ว่า “ท่านและเชอาร์ยาชูบบุตรชาย จงออกไปพบกษัตริย์อาหัสที่ปลายท่อน้ำของสระข้างบนที่ถนนลานช่างซักฟอก 4ทูลกษัตริย์ว่า “ขอพระองค์โปรดฟัง สงบพระทัย อย่าทรงกลัว อย่าให้พระทัยหวั่นไหวเพราะความกริ้วรุนแรงของกษัตริย์เรซีนแห่งซีเรีย และโอรสของเรมาลิยาห์ซึ่งเป็นเหมือนฟืนสองดุ้นที่จวนจะมอดอยู่แล้ว มีแต่ควัน 5ซีเรียพร้อมกับเอฟราอิมและโอรสของเรมาลิยาห์ได้คิดการชั่วร้ายต่อพระองค์ พูดว่า 6‘เราจงขึ้นไปโจมตียูดาห์ ทำให้ประชาชนมีความกลัว เราจะได้ยึดเมืองและแต่งตั้งบุตรของทาเบเอล ให้เป็นกษัตริย์ที่นั่น’”
7พระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ว่า
“สิ่งนี้จะไม่เป็นไป จะไม่เกิดขึ้นเลย
8กรุงดามัสกัสเป็นเมืองหลวงของซีเรีย
และกษัตริย์เรซีนเป็นหัวของกรุงดามัสกัส
อีกหกสิบห้าปี เอฟราอิมจะไม่เป็นประชากรอีกต่อไป
9กรุงสะมาเรียเป็นเมืองหลวงของเอฟราอิม
และโอรสของเรมาลิยาห์เป็นหัวของกรุงสะมาเรีย
ถ้าพระองค์ไม่ทรงเชื่อมั่น
พระองค์จะทรงตั้งมั่นอยู่ไม่ได้”

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง

• “สำหรับคนที่มีความเชื่อ ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้” “วางใจพระเจ้า ไม่ขาดสิ่งใดเลย”
o เราจะไปทางไหนกันต่อ ประเทศไทยของเราจะไปอย่างไรต่อไป
o การเข้าสู่สมาคมอาเซียน พูดถึงเศรษฐกิจ สังคม การเมืองระหว่างประเทศ ภาษา การขยายตัวทางธุรกิจ การได้เปรียบกันในมิติต่าง ความพร้อมของประชาชนในประเทศไทยที่จะเข้าสู่สมาคมอาเซียน...

• ประสบการณ์ของพ่อ
o พ่อเคยรู้สึกตื่นเต้นมากๆ เวลาที่พ่อเรียนอยู่ที่อิตาลี ประมาณก่อนปี 1997 พ่อจำได้ว่า ประเทศไทยของเราโดดเด่นมากๆ พ่อภูมิใจมากที่เป็นคนไทย เพราะประเทศของเรา คนไทยของเราเป็นที่รู้จักทั่วยุโรป โดยเฉพาะในร้านของสินค้าแบรนด์เนมต่างๆ ไม่ต้องเอ่ยชื่อเลยครับ ทุกยี่ห้อที่ดังระเบิด
o พ่อจำได้ หน้าประตูร้านหรูๆที่ยุโรป คนเข้าแถวเข้าไปในร้านเพื่อซื้อของแพง กระเป๋า เสื้อผ้า ราคาแพงๆ ใบละเป็นหมื่น เป็นแสน หลายแสน หรือแม้แต่เป็นล้าน หรือบางทีกระเป๋าถือผู้หญิงบางใบที่เขาว่ากันราคาหลายล้าน...มีคนไทยเข้าคิวเสมอ พ่อเวลาที่เรียนอยู่คิดถึงบ้าน อยากได้ยินภาษาไทยไปเดินแถวร้านหรูๆ ก็จะเจอคนไทยในคิวแถวเสมอ
o คนไทยเป็นที่ยอมรับ เป็นที่รู้จักกันเหลือเกินจริงๆ เวลาเข้าไปในร้านหรูๆ ก็มีคนไทยต้อนรับอีกต่างหาก จำได้ว่าที่ฝรั่งเศสมีร้านน้ำหอม ร้านขายของหรูหลายยี่ห้องดังๆร้านหนึ่ง มีคนไทยในร้านที่คอยให้บริการขายของให้คนไทยโดยเฉพาะ เข้าร้านก็มีป้ายเขียนภาษาไทย (ในฝรั่งเศสนะ) เขียนว่า “คนไทยเชิญชั้นสอง” ที่นั่นมีคนไทยเป็นลูกจ้างของร้านที่คอยขายของให้คนไทยด้วยกันหลายคน สะดวกครับ และที่สำคัญคนไทยก็เต็มร้านๆ เลยครับ

• เวลาพ่อพาคนไทยที่อยากไปช้อปปิ้ง
o เขาขอพ่อให้พาไป ไปกันหลายๆคน เมื่อไปซื้อกันแบบโกยลงเข่งลงตะกร้า ผลตามมาเมื่อซื้อกันกระหน่ำเสร็จ นั่นแน่ะพ่อก็พลอยได้รับของแจกจากทางร้านด้วยเสมอนิดๆหน่อยก็ดีใสจแล้ว แม้พ่อไม่มีตังค์ไปซื้อแต่ก็ได้ของแถมมาทุกทีไปพลอยฟ้าพลอยฝน....

• ครับ และแล้วเวลานั้น...ปี 1997 ก็มาถึง แล้วก็ถึงกาลอวสานของกระดานหุ้น สิ่งที่คนกำลังคลั่งวางใจไว้ใจที่เรียกว่า “Trust” นับครึ่งร้อยล้มครืนลงกันหมด เกิดภาวะฟองสบู่แตก....
o ใครจะเชื่อ ประเทศของเราแทบล้มละลาย
o เงินบาทลอยตัวฟ่องไร้ทิศทาง เอาไม่อยู่ บทเรียนนี้ไม่เคยลืม
o หลายคนที่เคยฝากเงินไว้หลายล้านหวังกินดอกไปตลอดกาลเพราะดอกเบี้ยเคยสูง แต่แล้วดอกเบี้ยก็ไม่พอกิน ดอกเบี้ยตกกระจาย แทบจะต้องจ่ายเงินให้ธนาคารถ้าเอาเงินไปฝาก.... คนเล่นหุ้นร่ำรวยเสียหายกันหมดเนื้อหมดตัว ธุรกิจพัง ต้อไปขายของกินหาเลี้ยงชีพกันไป
o นี่อย่างไรครับประสบการณ์ที่เราเคยมั่นคงมั่งคั่งและวางใจ Trusts ที่เราวางใจพากันล้มกว่าครึ่งร้อยทรัสต์จนล้มไม่เป็นท่าเลย...
o คนมากมายต้องล้มละลายทั้งบนฟูกหรือบนกอหนามเจ็บปวดไปตามๆกัน ทั้งหมดทั้งหลายทั้งปวงนั้นเบื้องหลังและเบื้องหน้าคือความโลภ ความอยากได้ ความหลงวางใจไว้ในทรัพย์สินเงินทองทั้งสิ้น

• หลังจากนั้นไม่นาน ยุโรปที่เคยแยกประเทศ ไปแต่ละประเทศก็ต้องขอวีซ่าทั่วไปหมด แลกเงินสกุลต่างๆกันไม่หวัดไม่ไหว... ณ เวลานั้น ยุโรปเริ่มเปิดชายแดนต่อกัน ที่เรียกว่ารัฐเช็งเก็น คือแม้แต่ต่างประเทศกันแต่ก็ใช้วีซ่าร่วมกัน สะดวกมากครับสำหรับการเดินทางของพ่อเอง ไม่ต้องขอวีซ่าทุกประเทศเหมือนปีแรกๆ ที่พ่อไปเรียนที่ยุโรป....

• และต่อมา ก็....ในที่สุด สกุลเงินเดียวกันครับ จากเงินต่างกันที่ต้องแลกไปทั่วเมื่อเดินทางก็เข้าสู่ยุค Unita Moneta เงินสกุลเดียวกันทั้งหมด
o สะดวกมาก ประเทศต่างๆรวมกันเป็น “สหภาพยุโรป” หรือ Euro Zone
o พ่อเห็นความสะดวก และความเติบโตมากของยุโรปครับ คนต่างภูมิใจในยูโรโซนนี้ และเห็นว่านี่คือความก้าวหน้า ความเติบโตและความร่ำรวย
o แต่พ่อก็อดเห็นอะไรๆ ลางๆ ล่วงหน้าก่อนแล้วครับ พ่อนึกแล้วว่าสิ่งต่างๆ จะต้องไม่สวยงามอย่างที่คิด เพราะพ่อกลับไปอิตาลีหลายครั้งหลังจากเข้ายูโรโซนแล้ว พ่อเห็นว่าหลายอย่างเปลี่ยนไป คนเริ่มทำงานหนัก คนอาวุโสรับบำนาญแล้วก็เริ่มออกมาทำมาหากินกันอีก เพราะค่าครองชีพสูงขึ้นๆ ไม่มีหยุด

• ประสบการณ์ต่อ...
o พ่อนั่งแท็กซี่พบหญิงชราที่ต้องมาทำอาชีพอีก หันกลับมาขับแท็กซี่เลี้ยงชีพเสียแล้วครับ... เงินไม่พอใช้ ต้องหันกลับมาทำงานเพื่อยังชีพ...ไม่นานจากนั้น ก็เริ่มส่งกลิ่นอายของความล้มเหลวทางเศรษฐกิจอีกแล้ว....
o ประเทศยุโรปเริ่มแตกคอกัน เริ่มพยุงกันไม่ไหว บางประเทศเริ่มไปไม่รอดเสียแล้ว... จนเวลานี้ Brexit อังกฤษก็ขอลาจากกลุ่มอียูจนได้ เพราะไปไม่ไหว อุ้มกันไม่ไหว หนักเกินไปที่จะอุ้มเศรษฐกิจกันต่อไป... อาการหนักๆๆ
o อเมริกาที่ว่าแน่ๆกลวงในเองก็เจอปัญหาถดถอย บริษัทยักษ์ใหญ่ที่แสนทระนงก็เริ่มส่อแววล่มสลาย ล้มละลายจนได้... ไปกันใหญ่ครับ... วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ ซับพราม และอะไรต่อมีอะไรตามมากอีกมากมาย...

• ทั้งหมดนี้คือประสบการณ์ที่เราต้องจดจำครับ ความมั่งคั่งไม่ใช่ความมั่นคงเสมอไป และในความมั่งคั่งสุดๆ ก็ใช่ว่าจะล้มไม่เป็น

• และอันที่จริงยุโรปปัจจุบันกำลังวิกฤต อเมริกากำลังถดถอย... กลุ่มสหภาพยุโรปกำลังแตกและเข้าข่ายจะล่มสลายได้ง่ายๆ แม่ไม่ใช่เรื่องการเมืองเป็นแต่เพียงเรื่องเศรษฐกิจก็แย่เต็มทน....

• วิกฤตเหล่านี้ทำให้เราต้องฉุกคิดและอ่านประวัติศาสตร์แห่งความเชื่อและความวางใจ
o เราเคยวางใจในระบบเศรษฐกิจและเงินตรา
o แต่ทว่า... ดูว่าจะไปไม่รอดกันทั่วหน้า ระบบการเงิน การลงทุนบนกระดานหุ้นก็ต้องเฝ้าดูกันแบบวันต่อวัน
o คนที่เคยมีเป็นสิบเป็นร้อยล้าน อาจหมดตัวได้ในเสี้ยววินาทีเช่นกัน... เพราะเราและสังคมวางความเชื่อถือไว้กับความไม่จีรังเหล่านี้จริงๆ

• อาเซียนกำลังจะรวมเป็นหนึ่งเช่นกันแต่ใกล้วันเข้าก็ดูแผ่วๆ ผู้นำประเทศอาเซียนก็เริ่มเปิดเห็นแววโกงกินกันจนค่อยๆ เห็นว่าจะเอาไม่อยู่ จะไปไม่รอด...
o เดินตามยุโรปเช่นกัน แม้มีความแตกต่างกันมากเหลือเกิน
o แต่เราก็อยากเป็น เราก็อยากได้ และเราอยากให้เกิดการรวมเป็นหนึ่งของอาเซียน

• พ่อเองก็ไม่ทราบว่าจะเป็นอย่างไร
o ยุโรปเขาคุณภาพชีวิตสูง การศึกษาสูงมาก คุณธรรมจริยธรรมก็ดีกว่าเรามากมายนักเมื่อหลอมรวมกันอย่างสวยงามก็ยังมาถึงจุดของความล้มเหลวจนได้เลย
o แล้วเราอาเซียนจะเป็นอย่างไรต่อไปหนอ พ่อไม่กล้าทำนายแต่ก็รู้อยู่ในใจลึกๆ เห็นอนาคตชัดอยู่แล้วจากประสบการณ์ของยูโรโซน แต่ก็นะไม่กล้าลบหลู่ครับเพราะไม่ใช่นักเศรษฐศาสตร์... แต่ประวัติศาสตร์มันมักจะซ้ำรอยแปลกๆ

• ส่วนตัวของพ่อ พ่อไม่มีความรู้อะไรมาก
o เพียงแต่คิดถึงความเชื่อมั่นคงและความจริงของคำสอนที่งดงามของคำว่า “ความพอเพียง” น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดก็เป็นได้
o ถ้าอยู่อย่างพอเพียง บ้านเรามีทุกอย่างเพียงพอแน่ๆ

• พ่อเขียนเช่นนี้ พ่อต้องการสะท้อนพระคัมภีร์จากประกาศกอิสยาห์ สะท้อนเรื่องราวสงครามที่เบียดเบียนเยรูซาเล็มสมัยอิสยาห์ ไม่ต่างกันเลยกับสงครามสมัยอิสยาห์
o สงครามซีโรเอฟราอิมที่ว่าน่าตระหนัก แต่ปัจจุบันสงครามที่ร้ายกว่าสงครามแบบที่เคยๆด้วยการใช้กำลังและอาวุธ แต่ปัจจุบันคือสงครามเศรษฐกิจ ที่ใช้อาวุธสำคัญคือการตลาด การค้า และการเอากำไรอย่างไม่รู้จักเพียงพอ
o และถ้ารวมกับความโลภและความอยากได้ อีกทั้งบาปของการคอรัปชั่นแล้ว พ่อเชื่อว่า สงครามเศรษฐกิจปัจจุบันนั้นน่ากลัวมากมายกว่านัก
o พ่อเชื่อว่า เราต้องอ่านอิสยาห์ประกาศกวันนี้อย่างดีๆ เพราะพระคัมภีร์จะสอนให้เรารู้ชัดว่า....
o เราต้อง “วางใจ” ไม่ใช่ในเงินตรา หรือเศรษฐกิจ แต่ “วางใจในพระเจ้า” ครับ พระองค์คือความจริง พระองค์คือความยุติธรรม และไม่มีเล่ห์กลใดในการเอาเปรียบ ในพระองค์ก็มีแต่ความจริง ความรัก และความเมตตาเท่านั้น..

• พ่อเชื่อว่า เราต้องอ่าน และต้องมาให้ถึงเป้าหมายปลายทางของ “ความเชื่อและความวางใจ”
o ไม่ใช่การวางใจในเงินทองหรืออำนาจทางเศรษฐกิจ
o แต่ความวางใจแท้จริงในความรัก ในความดี ในความจริง ในความยุติธรรม
o หรือกล่าวโดยสรุปว่าเราต้อง “เชื่อศรัทธาในพระเจ้าเท่านั้นครับ” และเราจะสามารถทำให้การเงิน เศรษฐกิจมีความมั่นคงถูกต้องเที่ยงตรงอย่างแท้จริงครับ....

• พ่อชอบประโยคสุดท้ายของพระวาจาวันนี้ที่ประกาศได้กล่าวกับกษัตริย์แห่งอิสราแอลว่า
o “ถ้าพระองค์ไม่ทรงเชื่อมั่น พระองค์จะทรงตั้งมั่นอยู่ไม่ได้”
o นั่นหมายความว่า ความเชื่อในพระเจ้าเท่านั้นที่จะทำให้เราตั้งมั่นอยู่ได้ครับ เพราะไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้สำหรับพระเจ้า วางใจในพระองค์นะครับ...

• ให้เราอ่านพระวาจานะครับ
o ดูเหมือนเยรูซาเล็มจะถูกขู่อย่างหนักจนทำให้ต้องอกสั่นขวัญแขวนแต่ความเชื่อมั่นและวางใจในพระเจ้าจะทำให้ตั้งมั่นคงอยู่ได้อย่างแน่นอน....

• อ่านพระวาจาแล้วจะมีความสุขใจครับ “จงอย่ากังวลใจ จงอย่าได้กลัวเลย ผู้วางใจพระเจ้าไม่ขาดสิ่งใดเลย...จงอย่ากังวลใจ จงอย่าได้กลัวเลย เพียงพระเจ้า เพียงพอ....”

• อ่านอิสยาห์วันนี้แล้วจะทำให้เรารู้ว่าเราจะวางใจไว้ที่ไหนดี จะ Trust ใจของเราไว้ที่ไหนดี และพ่ออยากเสนอประกาศกเยเรมีย์บทที่ 17:5-8 มาสรุปให้อีกนิดหนึ่งครับ เพื่อสอนเราให้ “วางใจ” ให้ถูกที่ถูกทางในเศรษฐกิจการเงินหรือในพระเจ้าครับ “พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้
o คนที่วางใจในมนุษย์ย่อมถูกสาปแช่ง เขาพึ่งพลังของมนุษย์ ใจของเขาหันออกจากพระยาห์เวห์ ขาเป็นเหมือนพุ่มไม้ในถิ่นทุรกันดาร ไม่เห็น ความดีใดๆที่มาถึง เขาจะอาศัยอยู่ในที่แห้งแล้งในถิ่นทุรกันดาร ในแผ่นดินเค็มที่ไม่มีผู้คนอาศัย
o คนที่วางใจในพระยาห์เวห์ย่อมได้รับพระพร พระยาห์เวห์ทรงเป็นความหวังของเขา เขาจะเป็นเหมือนต้นไม้ที่ปลูกไว้ริมน้ำซึ่งหยั่งรากออกไปที่ลำน้ำ เมื่อความร้อนมาถึง เขาก็ไม่กลัว ใบของเขาคงเขียวอยู่เสมอ เขาจะไม่กังวลใจในปีที่แห้งแล้ง จะไม่หยุดออกผล

 

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก