“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันพุธที่  22 มิถุนายน 2016

สัปดาห์ที่ 12 เทศกาลธรรมดา

2พกษ 22:8-13 และ 23:1-3…

8มหาสมณะฮิลคียาห์บอกชาฟาน ราชเลขาว่า “ข้าพเจ้าพบหนังสือธรรมบัญญัติ อยู่ในพระวิหารของพระยาห์เวห์” ฮิลคียาห์มอบหนังสือนั้นแก่ชาฟาน ซึ่งนำมาอ่าน 9ชาฟาน ราชเลขา จึงไปทูลกษัตริย์ว่า “บรรดาผู้รับใช้ของพระองค์นำเงินซึ่งอยู่ในพระวิหารส่งมอบแก่ผู้ดูแลงานซ่อมแซมพระวิหารของพระยาห์เวห์แล้ว” 10ชาฟาน ราชเลขา ทูลเสริมอีกว่า “สมณะฮิลคียาห์ให้หนังสือเล่มหนึ่งแก่ข้าพเจ้า” แล้วชาฟานก็อ่านถวายกษัตริย์

11เมื่อกษัตริย์ทรงได้ยินถ้อยคำจากหนังสือธรรมบัญญัติ พระองค์ทรงฉีกฉลองพระองค์ด้วยความทุกข์ 12ทรงสั่งสมณะฮิลคียาห์ อาหิคัมบุตรของชาฟาน อัคโบร์บุตรของมีคายาห์ ชาฟานราชเลขา และอาสายาห์ข้าราชบริพารของกษัตริย์ ว่า 13”จงไปทูลถามพระยาห์เวห์ให้เรา และให้ประชาชนชาวยูดาห์ทั้งหลาย เรื่องถ้อยคำในหนังสือที่พบนี้ พระยาห์เวห์ทรงพระพิโรธพวกเราอย่างยิ่ง เพราะบรรพบุรุษของเราไม่เชื่อฟังถ้อยคำในหนังสือนี้ และไม่ปฏิบัติตามที่มีเขียนไว้สำหรับเรา”

1กษัตริย์โยสิยาห์ทรงเรียกประชุมบรรดาผู้อาวุโสแห่งอาณาจักรยูดาห์และกรุงเยรูซาเล็ม 2พระองค์เสด็จขึ้นไปยังพระวิหารของพระยาห์เวห์ พร้อมกับชาวยูดาห์และผู้อาศัยที่กรุงเยรูซาเล็มทุกคน บรรดาสมณะ ประกาศกและประชากรทั้งปวง ทั้งชนชั้นสูงและคนธรรมดา พระองค์ทรงอ่านถ้อยคำทั้งหมดของหนังสือพันธสัญญา ที่พบในพระวิหารของพระยาห์เวห์ให้ทุกคนได้ยิน 3กษัตริย์ทรงยืนข้างเสา ทรงกระทำพันธสัญญาเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์ว่าจะดำเนินตามพระยาห์เวห์ จะรักษาบทบัญญัติ กฤษฎีกาและข้อกำหนดของพระองค์สุดจิตใจ สุดวิญญาณ จะปฏิบัติตามถ้อยคำของพันธสัญญาที่เขียนไว้ในหนังสือเล่มนี้ ประชาชนทุกคนปฏิญาณจะทำตามพันธสัญญา

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง

• “เวลาเปลี่ยนคนก็เปลี่ยน” สมัยเป็นพ่อเป็นสามเณรใหญ่ พ่อได้เรียนพระคัมภีร์บ้าง แม้ไม่ได้มากมายเพียงพอกับการดำเนินชีวิตเพื่อเป็นพระสงฆ์มากนัก เพราะอันที่จริง เป็นพระสงฆ์ต้องเป็นคนที่มีความสามารถด้านพระคัมภีร์หรือด้านการเทศน์สอนให้มากที่สุด

• แต่พ่อเองสมัยเป็นเณรใหญ่นั้น พ่อได้เรียนและได้อ่านพระคัมภีร์มากเท่าที่จะเป็นไปได้ แม้ยากที่จะเรียนให้ดีที่สุดเพราะความจำกัดของปัญญา และพ่อก็ชอบเรื่องราวในพระคัมภีร์มากๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องราวในหนังสือพงศ์กษัตริย์

• หนังสือพงศ์กษัตริย์มีหลายต่อหลายตอนที่เหมือนๆกัน คือบรรดากษัตริย์หรือผู้นำสูงสุดของอิสเราเอลประชากรของพระเจ้า เรื่องราวมักจะเหมือนๆกัน เดินไปในทางเดียวกัน คือมักจะเริ่มยุคการปกครองด้วยดีมีสำนึก น่ารักเสมอในตอนต้นๆ

• กษัตริย์แห่งอิสราเอลมักจะดีในตอนต้นมากๆ แต่ แต่ แต่ ส่วนใหญ่ ส่วนใหญ่จริงๆ ไม่ค่อยจะดีในตอนปลาย
o เวลาขึ้นต้นก็เริ่มดีเสมอๆ น่ารัก น่าทึ่งและถ่อมตนต่อพระยาห์เวห์ และเป็นกษัตริย์ที่เริ่มต้นด้วยความภักดีต่อพระเจ้าแต่ก็นะ
o “เวลาเปลี่ยนคนก็เปลี่ยน” ผู้นำของอิสราเอลส่วนใหญ่จะเปลี่ยนไปเร็วมากๆ แค่เวลาสั้นๆ ผู้นำนั้นๆเมื่อได้อำนาจ ได้ลาภยศสรรเสริญ อำนาจเข้ามา สายตาก็สั้นลงเสมอ เคยเห็นไกลๆ เห็นพระเจ้า เห็นประชาชน ก็เริ่มเห็นแต่ตัวเองและพวกพ้องแทบทั้งสิ้น
o ผู้นำก็มักหลงใหลตนเอง และเหลิงเจ้งไปกับอำนาจ จนลืม และบอดมืดตาใสและใจไม่ซื่อ คือ มองไม่เห็นประชาชนอยู่ในสายตา และที่แย่มากๆ นานไป มีอำนาจนานไปก็มักจะไม่ค่อยเห็นพระเจ้าอยู่ในสายตาด้วย ไม่เห็นความสำคัญของพระวิหารของพระเจ้า
o มักจะละทิ้งพระเจ้า ทิ้งพระวิหาร ทิ้งพระบัญญัติ ทิ้งพระวาจาของพระเจ้า ลืมตัวและที่สุดก็เดินไปตามทางความเห็นแต่ตัวของตน หรือหลงไปกับคนใกล้ตัว จนกู่ไม่กลับ.....

• สมัยเป็นเณร เวลาอ่านหนังสือพงศ์กษัตริย์ก็เป็นแบบนี้ทุกทีไป แต่อันที่จริงในสมัยเป็นเณรเวลาเรียนพระคัมภีร์ ก็มีตอนนี้ ตอนที่เราอ่านในมิสซาวันนี้ เรื่องราวของกษัตริย์โยสิยาห์ที่เราได้อ่านวันนี้...

• ตอนนี้คือตอนหนึ่งแหละที่พ่อเองได้ประทับใจมากๆ สมัยกษัตริย์โยสิยาห์
o โยสิยาห์ เมื่อได้ยินพระบัญญัติของพระเจ้า กษัตริย์เอง ได้เสียใจ และได้เรียกร้องให้มี “การปฏิรูปฟื้นฟูศาสนาและชนชาติ ได้เรียกร้องให้มีการปฏิรูป มีการชำระพระวิหาร และชำระชนชาติให้บริสุทธิ์”
o น่าประทับใจจริงๆนะครับ อันที่จริงก็เป็นธรรมดาที่บ่อยครั้ง ความดั้งเดิม หรือพันธกิจและเหตุผลแท้ๆจะถูกทอดทิ้ง ถูกลืม ถูกทอดทิ้ง
o อ่านเรื่องราวพระคัมภีร์วันนี้ เราจะเห็นภาพน่ารัก งดงามของกษัตริย์โยสิยาห์ ที่ได้พบหนังสือธรรมบัญญัติ ได้รับฟัง และได้กลับใจ ถ่อมพระองค์ลงมากๆ ถ่อมพระองค์ให้กับพระเจ้าพระยาห์เวห์ และที่น่ารักและพ่อเองก็จดจำมากคือ โยสิยาห์เป็นกษัตริย์อย่างที่ดีมากในการเรียกร้องให้มีการ “ปฏิรูปฟื้นฟู” พระศาสนา พระวิหาร และชนชาติอิสราเอล

• พี่น้องที่รัก เทียบกับประสบการณ์ในยุคของเรา พ่อเองได้เห็นจากประสบการณ์ปัจจุบันของเราก็เช่นกัน พบได้ว่า มีหลายอย่าง หลายกิจการ หลายบริษัทห้างร้าน หลังจากได้เปิดมานานๆ เมื่อพัฒนาไป เมื่อเวลาเปลี่ยน หลายๆอย่างก็เปลี่ยน... ก็เป็นเรื่องธรรมดา ตัวอย่างในปัจจุบันของเรา
o พ่อขอเริ่มที่ “โรงพยาบาล” ซึ่งเป็นงานเมตตาแท้ๆ กิจการเกิดขึ้นเพื่ออะไร เป้าหมายของหมอ ของพยาบาล เป้าหมายใหญ่สุดก็เพราะรักประชาชน รักเห็นใจคนเจ็บไข้ได้ป่วย จิตตารมณ์หรือจิตอาสาของหมอแท้จริงคืออะไร จรรยาบรรณของเขาแท้จริงคืออะไร เป้าหมายแท้จริงคืออะไร มิใช่เพื่อคนเจ็บผู้น่าสงสาร เพื่อช่วยชีวิตให้รอดไม่ใช่หรือ....
o แต่ที่สุดก็มีเงินเข้ามา ธุรกิจเข้ามา ธุรกิจการค้าพาณิชทางยาและการรักษาพยาบาล.. แล้วที่สุด เป้าหมายดีๆ ก็ทุกอย่างก็เพื่อธุรกิจจริงๆ
o เมื่อผู้ป่วย ฉุกเฉิน ไปโรงพยาบาล ถ้าไม่มีเงิน ก็ต้องสิ้นหวังครับ ต้องไปที่ๆแต่โบราณเขาเรียกว่า “อนาถา” ในโรงพยาบาลรัฐฯก็มีชัดเจนครับ ห้องหรูสุดกับห้องรวมและระเบียง ที่สมัยพ่อเป็นเด็ก เขาเรียกว่า “อนาถา” มีตึกใหม่ๆสูงๆเกิดขึ้นเยอะครับ แต่ไม่ใช่สำหรับคนอนาถาที่มีศักดิ์ศรีเท่าคนอื่นแต่ไม่มีเงิน หรือเส้นเท่าคนอื่นก็เท่านั้น เวลาเปลี่ยนอะไรๆก็เปลี่ยนไปเยอะครับ

• แล้วเมื่อไรจะมีโอกาสที่สังคมเราจะได้รับการปฏิรูปฟื้นฟู การหันกลับไปสำนึกถึงความจริงที่เราเป็น ไปสำนึกถึงพระบัญญัติและกฎสูงสุดที่ถูกละเลยไป คือ “กฎแห่งความรักและความเมตตา” การระลึกถึงเพื่อนพี่น้องผู้ยากไร้ ผู้ถูกทอดทิ้งจริงๆ ของสังคมในทุกๆรูปแบบจริงๆ ครับ เราอยากเห็นจริงๆ การปฏิรูปฟื้นฟูทุกมิติ ดังเช่นความสำนึก เสียใจ และเรียกร้องสุดกำลังให้มีการฟื้นฟูปฏิรูป และให้มีการกลับไปหาความจริงของตนเองดังเช่นสมัยกษัตริย์โยสิยาห์ เช่นกันครับ สังคมปัจจุบันของเรา ประเทศไทยของเรา เราต้องต้องการของจริง ต้องการการปฏิรูปฟื้นฟูจิรงๆ สังคมไทยต้องการการฟื้นฟูหลายรูปแบบครับ เช่น
1. เราอยากได้รัฐบาลที่แสนดี รัฐบาลแท้จริงสักที... รัฐบาลที่ไม่โลภ ไม่หลง แต่รักประชาชนทำทุกอย่างด้วยความรักต่อชาติบ้านเมืองจริงๆ เก่ง มีคุณธรรมสูง และเที่ยงตรง
2. เราอยากได้นักการเมืองแท้ คือคนที่ดีที่สุดในสังคมเท่านั้นที่ถูกเลือกตั้ง โดยไร้อำนาจเถื่อน อำนาจเงินซื้อมาก และนักลงทุนคู่ขนาน นายงานและนายเงินของนักการเมือง....
3. เราอยากได้ทหารแท้ รั้วของชาติ เพื่อชาติ ศาสน์กษัตริย์ และประชาชน
4. เราอยากได้ตำรวจแท้ ผู้บำบัดทุกข์บำรุงสุขของประชาชน มีพวกเขา เราปลอดภัยแน่ เพราะพวกเขาดีจริงๆ เขารักประชาชน และไม่ยอมให้ใครมาลังแก ไม่ให้ใครมาเก็บส่วย หรือใช้อำนาจเบียดเบียนและเอาเปรียบ เราอยากได้ตำรวจจริง
5. เราอยากได้ผู้นำชุมชนที่แท้จริง ดีจริงๆ ชอบธรรมจริงๆ ทั้งพวก อบต อบจ ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน สจ สข และ พวก “ส” อีกทั้งหลายนั่นแหละ
6. เราอยากเห็นโรงเรียน สถานศึกษาแท้ ครูแท้จริง เก่งที่สุด และดีที่สุดเพื่อสอนศิษย์ให้เก่งที่สุดและดีที่สุด เพื่ออนาคตที่ดีที่สุด
7. เราอยากได้ข้าราชการ ผู้รักประชาชนที่สุด ทำงานเพื่อพระราชา เพื่อทำให้อำนาจแห่งความรักของพระราชา ความอ่อนโยนของพระราชาของเราไปถึงทุกคน เราไม่อยากเห็นเพียงเจ้าหน้าที่ของรัฐ เพราะรัฐบาลเราที่ผ่านมายาวนาน ยอมรับจริงๆว่าเอาอะไรแน่ไม่ได้เท่าไรเลย เพราะลงเอยก็ผลประโยชน์ พรรค พวกพ้อง และลืมประชาชนเจ้าของชาติบ้านเมืองแท้จริง
8. เราอยากเห็น นักธุรกิจแท้ พ่อค้าแท้ ให้สิ่งดีที่สุดแก่สังคม เอากำไรได้ตามหลักของความยุติธรรมและความรัก และต้องไม่ลืมความดีส่วนรวมเด็ดขาด
9. เราอยากเห็นพ่อแม่ ครอบครัวแท้... ไม่แตกแตก ไม่นอกใจ และเป็น “พ่อ” เป็น “แม่” เป็น “ลูก” แท้จริงเท่านั้น แต่งปีละสามแสนกว่าคู่ หย่าปีละแสนกว่าคู่ เราไม่อยากเห็นเลยจริงๆ
10. เราอยากได้ คนไทยที่มีวินัยจริงๆ รักสิทธิและศักดิ์ศรี และพร้อมจะรักให้เกียรติ และเคาพรศักดิ์ศรีของคนอื่นๆ อยากเห็นคนไทยเรามีการศึกษาพอ และที่สำคัญมีวุฒิภาวะ เรื่องนี้เรื่องใหญ่สุด เพราะชาติถ้าคนของเรามีคุณภาพ มีการศึกษา มีคุณธรรม มีศาสนาจริงๆละก็แนนอนชาติของเราจะเป็นชาติที่มีความสุขแท้จริง และมีอนาคต

• พอก่อนดีกว่า ครับขืนเขียนต่อไปก็คงต้องปฏิรูปกันทั้งระบบจริงๆ ปัจจุบันก็กำลังปฏิรูปกันมาก ตั้งแต่ ตลาดร้านค้า รถสาธารณะทุกประเภทที่หละหลวมกันมานาน การเงิน การคลัง พลังงาน ทุกอย่างดูจะต้องเขียนอีกนานก็คงไม่จบไม่สิ้น

• สรุป คือ พ่ออ่านการปฏิรูปฟื้นฟูของกษัตริย์โยสิยาห์สำหรับประชากรของพระเจ้าแล้ว พ่อไตร่ตรองชีวิตจริงๆของเราในปัจจุบัน บ้านเองของเรา โลกของเราในปัจจุบันแล้ว... พ่อได้รับพลังและแรงขับ ให้พ่อตระหนักและอยากให้มีการฟื้นฟูครั้งใหญ่ในสำนึกของคนไทย การปฏิรูปสำหรับโลกของเรา

• พ่อจึงอยากเห็นการฟื้นฟูชีวิตและพันธกิจของสังคมให้เป็นของแท้ อยากเห็นการปฏิรูปสังคม ปฏิรูปจิตใจ และพลิกโฉมจริงๆ นั่นหมายความว่า เราอยากได้ การฟื้นฟู “แก่น” แม่ใช่เพียงแต่ “เปลือก”

• พี่น้องที่รักครับ... เราได้อ่านพระคัมภีร์ คือเราได้อ่านความร้อนรนของกษัตริย์โยสิยาห์วันนี้แล้ว... พ่อคิดว่าพวกเราอย่าได้ปล่อยให้เวลาเปลี่ยนและอะไรๆก็เปลี่ยนไปทางลบจนหมด ถึงเวลาครับที่...
o เราต้องเริ่มหันกลับไปหาของแท้ กลับไปหาพระเจ้า กลับไปหาความจริง และ
o เราต้องฟื้นฟูบัญญัติของพระเจ้า โดยเฉพาะบัญญัติแห่งความรักและความจริง และ
o เริ่มปฏิรูปทันทีจากภายในจิตใจของเราก่อนอื่นใด เริ่มที่ตัวเราทุกคนให้ได้นะครับ ปฏิรูปชีวิตของเรา พระสันตะปาปาฟรังซิสในคำสอนเตือนใจ Evangelii Gaudium ทรงเรียกร้องเราคริสตชนให้ “ปฏิรูปความอ่อนโยน” ในชีวิตของเราคริสตชนและพระศาสนจักรทั้งมวลร่วมกัน
o ขอพระเจ้าอวยพรให้ชีวิตของเราทุกคนฟื้นฟูขึ้นในความดีของพระองค์ครับ....

 

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก